การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ win-win ก็แน่นอนครับ lose-lose

ที่ผมกำลังจะพูด ไม่ได้หมายความในเชิงทฤษฎีที่ว่าด้วยการ วิน-วิน ทั้งสองผ่าย แต่ผมกำลัง
พูดถึงการ วิน-วิน หรือ ลูส-ลูส ฝ่ายเดียว

ถ้าการเลือกตั้งเที่ยวนี้ พรรคประชาธิปัตย์ สามารถใช้ความสามารถ ไม่ว่าจะชูนโยบาย หรือ
กระหน่ำคู่แข่งให้ตายไปข้างเดียว แล้วสามารถชนะการเลือกตั้งได้ คนที่ วิน-วิน คือ

นายอภิสิทธิ์ วิน มรว. สุขุมพันธุ์ วิน เพราะ นายอภิสิทธิ์ สามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ในพรรคได้ต่อ
เนื่องจากสามารถ ฝ่าด่าน พท. จนทะลุเข้ามารักษาเมืองกรุงเทพฯไว้ได้ อนาคตการที่จะรักษา
ตำแหน่งหัวหน้าพรรคจนครบวาระมีแน่นอน ขณะเดียวกัน มรว. สุขุมพันธุ์ ก็ยังสามารถลอย
หน้าลอยตาอยู่ใน ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ที่ซึ่งตัวเองมีลูกน้องที่ตัวเองแต่งตั้งไว้ก่อน
ครบกำหนดวาระอีกเพียบ ทั้งสองคนต่าง วินหัวหน้าพรรค และ วินผู้ว่าฯ ครับ

ในทางกลับกัน ถ้า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถชนะใจคน กทม. แล้วต้องเสียตำแหน่งให้
กับพรรคคู่แข่ง แน่นอนครับ ลูส-ลูส ทั้งนายอภิสิทธิ์ และ มรว. สุขุมพันธุ์ เพราะ ถ้าเสียคะแนน
คน กทม. ให้ พท. เมื่อไหร่ เก้าอี้ หัวหน้าพรรค ของ นายอภิสิทธิ์สั่นคลอนแน่นอน เพราะ เป็น
หัวหน้าพรรค แต่แพ้ทั้งสนามใหญ่ และ สนามเล็ก คณะกรรมการบริหารพรรค คงต้องมีการทบทวน
การทำหน้าที่ของนายอภิสิทธิ์ แน่นอน ส่วน มรว. สุขุมพันธุ์ ที่ ดื้อรั้นที่จะขอกลับเข้ามาทำงานใน
ตำแหน่งเดิม ทั้ง ๆ ที่ ผลงานไม่เข้าตา อีกทั้ง ข้อครหามีมากมาย แทนที่จะยอมลงไปนั่งเป็น
กรรมการบริหาร หรือ นั่งกินตำแหน่งในพรรค ปล่อยให้คนรุ่นใหม่ อย่างนาย กรณ์ จาติกวาณิช
เข้ามาแข่งกับ พล.ต.อ. พงศพัศ ที่ดูแล้ว สูสี เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นนักประชาสัมพันธ์ ทั้งคู่ แต่
หม่อมฯ กลับไม่ยอม

ถ้าหม่อมฯ ไม่สามารถก้าวขาเข้าไปไปในศาลาว่าการกรุงเทพมหานครได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้
หม่อมคงไม่สามารถหาตำแหน่งในพรรคได้ นอกจากจะใช้เวลาทั้งหมด กลับไปนั่งเลี้ยงหลาน
แบบเต็มตัว

lose-lose ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่