เห็นคู่กรรมไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ต่อ เราได้ดูจากในละครแล้วจึงไปหาข้อมูลต่อ เกิดเพื่อนๆคนไหนอยากรู้เพิ่มเติม เลยจะเล่าให้ฟังค่ะ
วันที่ 18 ส.ค.2485 ที่วัดดอนตูม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ค่ายทหารญี่ปุ่น สามเณรเพิ่ม สิริพิบูล อายุ 37 ปี เดินสูบบุหรี่ ฝรั่งเชลยศึกเดินมาขอบุหรี่ สามเณรเพิ่มก็ยื่นให้ ทหารญี่ปุ่นก็เข้ามาดึงออกแล้วตบไป 3 ทีจนล้มคว่ำ พอบอกล่ามไปฟ้องผู้บังคับบัญชา ทหารญี่ปุ่นก็ไม่ยอม เอาปืนมายิงขู่ คนไทยก็รวมตัวกันเอาจอมเสียมสู้ จนนายอำเภอและนายทหารญี่ปุ่นออกมาห้าม ก็เลยสงบไปรอบหนึ่ง
พอตอนเที่ยงคืนทหารญี่ปุ่น 5 คันรถจากเมืองกาญจน์ มาถึงบ้านโป่ง 1 คันแรก คุมเชิงด้านริมแม่น้ำ 2 คันมาที่วัดดอนตูม จับคนไทยไปสอบสวน 31 คน อีก 2 คันหลังไปสถานีตำรวจ ก็เกิดเกิดยิงสู้กันปึงปังอยู่ 3 นาที นายทหารญี่ปุ่นตายไป 1 พลทหารญี่ปุ่นตายไป 4
ญี่ปุ่นเลยจับพระครูปัญญาธิการ เจ้าอาวาสวัดดอนตูม ไปนั่งตากแดด โทษฐานไม่ดูแลลูกวัด
ทหารช่างระดับเจ้ากรม และรองเจ้ากรม ทนญี่ปุ่นรังแกไทยไม่ไหว ยกกำลังมาตั้งฐานอยู่ริมทางรถไฟ ตั้งปืนกลหนัก เตรียมถล่มค่ายทหารญี่ปุ่น
เรื่องถึงรัฐบาล นายพลทหารญี่ปุ่น จึงเดินทางมาค่ายวัดดอนตูม เรียกแถวทหาร เจอคนที่ตบหน้าสามเณรเพิ่ม ก็เรียกออกมาตบหน้าจนล้มคว่ำ จากนั้นก็ไปกราบขอโทษเจ้าอาวาส เหตุการณ์จึงจบลง
เราอ่านมาจากหลายๆเวปก็ข้อมูลประมาณนี้เหมือนกันหมด ถ้าใครสนใจเพิ่มเติมลองหาหนังสือ เหตุเกิดในสงครามมหาเอเชียบูรพา ของโรม บุนนาคมาอ่านดูนะ เห็นเวปหนึ่งเขาแนะนำเอาไว้
ปล. เขาบอกว่าการตบหน้าแบบญี่ปุ่นเนี่ยเป็นการลงโทษสำหรับหัวหน้าทำกับลูกน้อง
แก้ไขเพิ่มเติม พอดีมีความอยากรู้เรื่องนี้ต่ิอ
สุดท้ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดถูกนำขึ้นศาลทหารที่กรุงเทพ ในปีต่อมา วันที่ 10 มิถุนายน 2486 สามเณรลูกวัดถูกตัดสินประหารชีวิต ความผิดฐานติดต่อกับเชลย ยุยงกรรมกรไทยให้ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่เป็นกรรมกรให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานเสพสุรามึนเมา ชักชวนกรรมกรคนอื่นๆให้จับอาวุธสู้กับทหารญี่ปุ่นเป็นเหตุให้ทหารญี่ปุ่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ รัฐบาลไทยได้มอบเงินชดเชย 80,000 บาทแก่ครอบครัวทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิต แต่ฝ่ายญี่ปุ่นได้บริจาคเงินจำนวนดังกล่าวคืนแก่ฝ่ายไทย
ขอบคุณค่ะ
ข่าวจากวิทยุในเรื่องคู่กรรม ทหารญี่ป่นตบหน้าสามเณร
วันที่ 18 ส.ค.2485 ที่วัดดอนตูม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ค่ายทหารญี่ปุ่น สามเณรเพิ่ม สิริพิบูล อายุ 37 ปี เดินสูบบุหรี่ ฝรั่งเชลยศึกเดินมาขอบุหรี่ สามเณรเพิ่มก็ยื่นให้ ทหารญี่ปุ่นก็เข้ามาดึงออกแล้วตบไป 3 ทีจนล้มคว่ำ พอบอกล่ามไปฟ้องผู้บังคับบัญชา ทหารญี่ปุ่นก็ไม่ยอม เอาปืนมายิงขู่ คนไทยก็รวมตัวกันเอาจอมเสียมสู้ จนนายอำเภอและนายทหารญี่ปุ่นออกมาห้าม ก็เลยสงบไปรอบหนึ่ง
พอตอนเที่ยงคืนทหารญี่ปุ่น 5 คันรถจากเมืองกาญจน์ มาถึงบ้านโป่ง 1 คันแรก คุมเชิงด้านริมแม่น้ำ 2 คันมาที่วัดดอนตูม จับคนไทยไปสอบสวน 31 คน อีก 2 คันหลังไปสถานีตำรวจ ก็เกิดเกิดยิงสู้กันปึงปังอยู่ 3 นาที นายทหารญี่ปุ่นตายไป 1 พลทหารญี่ปุ่นตายไป 4
ญี่ปุ่นเลยจับพระครูปัญญาธิการ เจ้าอาวาสวัดดอนตูม ไปนั่งตากแดด โทษฐานไม่ดูแลลูกวัด
ทหารช่างระดับเจ้ากรม และรองเจ้ากรม ทนญี่ปุ่นรังแกไทยไม่ไหว ยกกำลังมาตั้งฐานอยู่ริมทางรถไฟ ตั้งปืนกลหนัก เตรียมถล่มค่ายทหารญี่ปุ่น
เรื่องถึงรัฐบาล นายพลทหารญี่ปุ่น จึงเดินทางมาค่ายวัดดอนตูม เรียกแถวทหาร เจอคนที่ตบหน้าสามเณรเพิ่ม ก็เรียกออกมาตบหน้าจนล้มคว่ำ จากนั้นก็ไปกราบขอโทษเจ้าอาวาส เหตุการณ์จึงจบลง
เราอ่านมาจากหลายๆเวปก็ข้อมูลประมาณนี้เหมือนกันหมด ถ้าใครสนใจเพิ่มเติมลองหาหนังสือ เหตุเกิดในสงครามมหาเอเชียบูรพา ของโรม บุนนาคมาอ่านดูนะ เห็นเวปหนึ่งเขาแนะนำเอาไว้
ปล. เขาบอกว่าการตบหน้าแบบญี่ปุ่นเนี่ยเป็นการลงโทษสำหรับหัวหน้าทำกับลูกน้อง
แก้ไขเพิ่มเติม พอดีมีความอยากรู้เรื่องนี้ต่ิอ
สุดท้ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดถูกนำขึ้นศาลทหารที่กรุงเทพ ในปีต่อมา วันที่ 10 มิถุนายน 2486 สามเณรลูกวัดถูกตัดสินประหารชีวิต ความผิดฐานติดต่อกับเชลย ยุยงกรรมกรไทยให้ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่เป็นกรรมกรให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานเสพสุรามึนเมา ชักชวนกรรมกรคนอื่นๆให้จับอาวุธสู้กับทหารญี่ปุ่นเป็นเหตุให้ทหารญี่ปุ่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ รัฐบาลไทยได้มอบเงินชดเชย 80,000 บาทแก่ครอบครัวทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิต แต่ฝ่ายญี่ปุ่นได้บริจาคเงินจำนวนดังกล่าวคืนแก่ฝ่ายไทย
ขอบคุณค่ะ