ทนฟังหน่อยนะคะ แค่อยากระบาย
เรื่องมีอยู่ว่าลูกพี่ลูกน้องของดิฉัน เป็นผู้หญิง แต่งงานแล้ว มีลูกชาย 1 คน สามีทำงานเป็นลูกจ้างประจำของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ตัวลูกพี่ลูกน้องเองเปิดร้านขายของอยู่ที่บ้าน บ้านนี้เขาจะค่อนข้างตามใจลูก และเลี้ยงลูกด้วยเงินพอสมควร
1. ให้ลูกเขาโรงเรียนเอกชนที่ต้องนั่งรถ 20 กิโลเมตร ไปโรงเรียน เพราะเพื่อนที่ทำงานของสามีเขาเข้าโรงเรียนนี้กัน
2. ตอนป.1 ลูกชายโดดเรียนไม่เข้าเรียน ครูที่โรงเรียนเรียกผู้ปกครองไปพบ แม่ก็ว่าครูไม่ได้เรื่อง ไม่ขู่ให้เด็กกลัว เด็กเลยหนีเรียน
3. เวลาไปเที่ยวห้าง ถ้าลูกอยากได้อะไรขอให้ลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้น แม่ซื้อให้แน่นอน เคยซื้อรองเท้าผ้าใบคู้ละ 2,400 บาท ให้แล้ว เพราะการชักดิ้นชักงอนี่แหละ
4. เด็กสอบได้ลำดับท้าย ๆ ของชั้นทุกปี จนพ่อเด็กจะย้ายเด็กมาโรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้านตอน จบ ป.2 แล้ว แต่แม่เด็กห้ามไว้เพราะกลัวลูกไม่มีเพื่อน อืม เหตุผลเข้าท่ามากกกกกกกก
5. เด็กชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ และเล่น internet มากๆๆๆๆๆ จนขนาดว่ามีตุ่มไขมันขึ้นที่กลางหลังเพราะไม่อาบน้ำ และกินแต่ไก่ทอด ไม่ออกกำลังกาย พาไปหาหมอ หมอให้ไปลดน้ำหนักมาก ถ้าไม่อย่างนั้นจะให้กินยาลดไขมัน
6. ลูกอยากเรียนกีตาร์เพราะเพื่อนที่โรงเรียนเขาเรียนกัน พ่อเลยพาไปสมัครเรียน เสียค่าเรียนไป 5 พันกว่าบาท เรียนได้ 2 ครั้ง บอกว่าเจ็บนิด ทำให้เล่นคอมไม่ได้ เลยไม่อยากเรียน เสียเงินไปเปล่า ๆ
7. ล่าสุด ผลสอบของ ป.4 ออกมาแล้ว สอบตกอีก ครูจะให้ซ้ำชั้น คราวนี้แม่อาย อายเพื่อนลูกที่ลูกต้องซ้ำชั้น เลยจะพามาย้ายโรงเรียน
ข้อ 7 นี่แหละที่ทำให้ดิฉันไม่พอใจ เพราะวันนี้คุณลูกพี่ลูกน้องให้ดิฉันพาหลานไปฝากที่โรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้าน ดิฉันว่า ดิฉันทำงานราชการนะ จะให้ออกมาเวลางานได้อย่างไร เขาบอกว่าก็ลางานมาซิ ดิฉันเลยถามว่า แล้วแม่เด็กไปไหนละ ไม่ว่างพาลูกไปหรือ เขาบอกว่า เขาอายที่จะต้องพาลูกมาฝากโรงเรียน ในช่วงกลางคั่น แบบนี้
เลยถามกลับไปว่า ทำไมลูกถึงสอบตก เขาบอกว่าไมได้อ่านหนังสือเลย อ้าวแล้วทำไมไม่อ่านละ เขาว่าเขาก็ทำดีที่สุดแล้ว แล้วทำไมไม่บังคับลูกให้อ่านละ ไม่อยากบังคับกลัวลูกเครียด และประโยคเด็ดคือ "เธอไม่มีลูก เธอไม่เข้าใจหรอก เดี๋ยวมีลูกก็เข้าใจเอง"
ดิฉัน โกรธขึ้นหน้ากับประโยคนี้แหละคะ จะสวนกลับยังไงดีละ ดิฉันว่านี่คือการให้ท้ายเด็กแบบโง่ ๆ แต่ก็ไม่รู้จะสวนกลับอย่างไรให้เขาคิดได้ว่าที่ทำอยู่นะ ผิด แต่ยังไงจะให้ลางานเพื่อเอาหลานไปฝากเรียนคงไม่ได้ แน่นอน
ขอบคุณที่ตังใจอ่านค่ะ
เซ็งกับญาติเรื่องเด็กสอบตก
เรื่องมีอยู่ว่าลูกพี่ลูกน้องของดิฉัน เป็นผู้หญิง แต่งงานแล้ว มีลูกชาย 1 คน สามีทำงานเป็นลูกจ้างประจำของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ตัวลูกพี่ลูกน้องเองเปิดร้านขายของอยู่ที่บ้าน บ้านนี้เขาจะค่อนข้างตามใจลูก และเลี้ยงลูกด้วยเงินพอสมควร
1. ให้ลูกเขาโรงเรียนเอกชนที่ต้องนั่งรถ 20 กิโลเมตร ไปโรงเรียน เพราะเพื่อนที่ทำงานของสามีเขาเข้าโรงเรียนนี้กัน
2. ตอนป.1 ลูกชายโดดเรียนไม่เข้าเรียน ครูที่โรงเรียนเรียกผู้ปกครองไปพบ แม่ก็ว่าครูไม่ได้เรื่อง ไม่ขู่ให้เด็กกลัว เด็กเลยหนีเรียน
3. เวลาไปเที่ยวห้าง ถ้าลูกอยากได้อะไรขอให้ลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้น แม่ซื้อให้แน่นอน เคยซื้อรองเท้าผ้าใบคู้ละ 2,400 บาท ให้แล้ว เพราะการชักดิ้นชักงอนี่แหละ
4. เด็กสอบได้ลำดับท้าย ๆ ของชั้นทุกปี จนพ่อเด็กจะย้ายเด็กมาโรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้านตอน จบ ป.2 แล้ว แต่แม่เด็กห้ามไว้เพราะกลัวลูกไม่มีเพื่อน อืม เหตุผลเข้าท่ามากกกกกกกก
5. เด็กชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ และเล่น internet มากๆๆๆๆๆ จนขนาดว่ามีตุ่มไขมันขึ้นที่กลางหลังเพราะไม่อาบน้ำ และกินแต่ไก่ทอด ไม่ออกกำลังกาย พาไปหาหมอ หมอให้ไปลดน้ำหนักมาก ถ้าไม่อย่างนั้นจะให้กินยาลดไขมัน
6. ลูกอยากเรียนกีตาร์เพราะเพื่อนที่โรงเรียนเขาเรียนกัน พ่อเลยพาไปสมัครเรียน เสียค่าเรียนไป 5 พันกว่าบาท เรียนได้ 2 ครั้ง บอกว่าเจ็บนิด ทำให้เล่นคอมไม่ได้ เลยไม่อยากเรียน เสียเงินไปเปล่า ๆ
7. ล่าสุด ผลสอบของ ป.4 ออกมาแล้ว สอบตกอีก ครูจะให้ซ้ำชั้น คราวนี้แม่อาย อายเพื่อนลูกที่ลูกต้องซ้ำชั้น เลยจะพามาย้ายโรงเรียน
ข้อ 7 นี่แหละที่ทำให้ดิฉันไม่พอใจ เพราะวันนี้คุณลูกพี่ลูกน้องให้ดิฉันพาหลานไปฝากที่โรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้าน ดิฉันว่า ดิฉันทำงานราชการนะ จะให้ออกมาเวลางานได้อย่างไร เขาบอกว่าก็ลางานมาซิ ดิฉันเลยถามว่า แล้วแม่เด็กไปไหนละ ไม่ว่างพาลูกไปหรือ เขาบอกว่า เขาอายที่จะต้องพาลูกมาฝากโรงเรียน ในช่วงกลางคั่น แบบนี้
เลยถามกลับไปว่า ทำไมลูกถึงสอบตก เขาบอกว่าไมได้อ่านหนังสือเลย อ้าวแล้วทำไมไม่อ่านละ เขาว่าเขาก็ทำดีที่สุดแล้ว แล้วทำไมไม่บังคับลูกให้อ่านละ ไม่อยากบังคับกลัวลูกเครียด และประโยคเด็ดคือ "เธอไม่มีลูก เธอไม่เข้าใจหรอก เดี๋ยวมีลูกก็เข้าใจเอง"
ดิฉัน โกรธขึ้นหน้ากับประโยคนี้แหละคะ จะสวนกลับยังไงดีละ ดิฉันว่านี่คือการให้ท้ายเด็กแบบโง่ ๆ แต่ก็ไม่รู้จะสวนกลับอย่างไรให้เขาคิดได้ว่าที่ทำอยู่นะ ผิด แต่ยังไงจะให้ลางานเพื่อเอาหลานไปฝากเรียนคงไม่ได้ แน่นอน
ขอบคุณที่ตังใจอ่านค่ะ