เบื่อสามีค่ะ สามีไม่เอาหม้อหุง ไม่เอาถ่าน ไม่เอาอะไรเลย
เริ่มจากตั้งแต่ก่อนแต่งงาน สามีกับเราทำกิจการส่วนตัว ช่วยกันค้าคาย ซึ่งรายได้ก็นับว่าดีพอสมควร แต่ไม่เคยมีเงินเก็บค่ะ
อาจจะเพราะด้วยว่าไม่มีภาระอะไร บ้านก็มีคนซื้อให้ รถก็มีคนผ่อนให้ เงินทุกบาทที่หาได้ก็ใช้จ่ายกันสองคนอย่างเดียว
จะเชื่อหรือไม่เชื่อเราแต่งงานกับสามี สินสอดไม่เอาซักกะบาท แหวนซักกะวงก็ไม่มี สามีจ่ายแค่ค่าจัดงานต่าง ๆ
พอจบงานเก็บซองไ้ด้ เราก็เอาเงินที่ได้จากตรงนั้นไปฝากประำจำไว้ ไม่เคยแตะต้อง
ส่วนเราพอแต่งงาน ท้อง มีลูก ก็ไม่ได้ไปนั่งเฝ้าร้านด้วยเหมือนเคยเพราะมีภาระ ไหนจะแพ้ท้อง ไหนจะลูก
พอเราไม่ได้เข้าไปยุ่ง ก็เหมือนปัญหาเริ่มสะสม เราไม่รู้รายรับรายจ่ายอะไรเลย บางทีถามแล้วเค้าบอกปัดก็ขี้เกียจจะถาม
เราถือว่าเราก็มีเงินในส่วนเก็บค่าเช่าของเรา (เป็นห้องเช่าที่พ่อเรายกให้ตอนแต่งงาน)
ส่วนที่เค้าหาก็เป็นรายจ่ายจุกจิกในครอบครัว ทีนี้เกิดปัญหาคือเรามารู้ทีหลังว่า
เค้าเป็นหนี้บัตรเครดิตแบบเต็มวงเงินทุกใบ (เอาล่ะจุ้ย) ทั้ง ๆ ที่ตอนคลอดลูกได้เงินรับขวัญมาก้อนนึง เราเอาไปจ่ายบัตรพวกนี้หมดแล้ว
ซึ่งตอนนั้นบอกให้เค้ามาผ่อนคืนลูกแทนนะ จะได้ไม่เสียดอก แล้วก็ยังคงไม่ได้ (ซักบาท)
แต่ปากคุณชายก็จะพร่ำเพ้อว่า หาเงินเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ (ยอมรับค่ะว่าเค้าสปอยเรา สปอยลูก อยากซื้อไรซื้อ อยากกินไรกิน และตัวเค้าเองก็ฟุ้งเฟ้อมาก ซื้อของกินของใช้ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ประจำ) จนหนัก ๆ เข้าเราจี้ถามว่าเกี่ยวกับหนี้สินทั้งหลายแหล่ สรุปแล้วยังมีหนี้ที่มากกว่าบัตรเครดิตอีก เป็นหนี้ยืมพี่ยืมน้องเค้ามา คือจะเป็นลม งง เมิงทำงานประสาอะไรหว่า มีแต่หนี้ ....
เราเลยตัดสินใจว่า จะย้ายกลับต่างจังหวัด (พ่อแม่เราอยู่ ตจว กัน 2 คนตายาย แล้วก็อยากให้เรากลับมาทั้งแต่คลอดลูกแล้วค่ะ ท่านอยากอยู่ใกล้หลานถึงขนาดลงทุนปลูกบ้านอีกหลังหวังจะให้กลับมาอยู่) จะเปิดกิจการเล็ก ๆ ที่บ้าน ในเมื่ออยู่ กทม ค่าใ้ช้จ่ายไม่พอกับรายได้
กลับ ตจว น่าจะดีกว่า เพราะอดทนกับภาวะผู้นำที่ล้มเหลวของเค้ามาแล้ว 2 ปี สิ่งที่เห็นคือ หนี้กองโต (คุณชายก็จะบอกว่า ฉันไม่ได้ให้เธอมาใช้หนี้ด้วยซักหน่อยเธอเดือดร้อนอะไร !) ตอนนี้คือเราเหมือนแยกกันอยู่แล้วค่ะ
เราพาลูกกลับ ตจว ส่วนเค้ายังไม่ยอมเลิกกิจการที่กรุงเทพ ยังหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าเป็นกิจการที่ดี มั่งคั่ง (คือมันดีจริงค่ะ เพราะเราเคยช่วยกันทำ แต่เค้าผลาญหมด ไม่เคยคิดจะเก็บเพื่อลูกเพื่อเมีย ไม่เคยให้เงินเราเป็นก้อน คงเห็นว่าเรามีรายได้จากค่าเช่าแล้ว)
เราพยายามทำทุกอย่างเืพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ย้ายกลับมาอยู่บ้านที่ ตจว เราก็แยกบ้านกับพ่อแม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอึดอัดใจ อยู่กันเป็นส่วนตัว
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของลูกพ่อแม่เราก็เต็มใจจ่ายให้ ไม่ว่าจะนม เพิส ค่าเรียนพิเศษ ค่าพี่เลี้ยง กิจการร้านค้าที่ดำเนินการจะเปิด พ่อเราก็จะลงทุนให้ (แน่ละสิให้ลงทุนเองเราสองคนก็ไม่มีปัญญาอยู่แล้ว) แต่คุณชายเค้าไม่ Happy ค่ะ เค้ามองว่า กิจการขายของจุ๊กจิ๊กแบบนี้ ไม่ได้เงินหรอก กว่าจะได้เงิน นู่นนี่นั่น บราบราบรา (ขายพวกฮาร์ดแวร์เฮ๊าส์เล็ก ๆ ค่ะ) คุยไปคุยมาจนเค้าพูดออกมาคำนึงว่า
" ถ้าเกิดฉันเลิกกับเธอ ฉันก็จะไม่เหลืออะไรเลย เพราะมันเป็นกิจการของพ่อเธอ แล้วแถมฉันยังเสียโอกาสที่จะสร้างอนาคตของฉันเองด้วย"
เราสะอึกมากกับคำพูดนี้ ... เมื่อคืนเราเลยตัดสินใจพูดกับเค้า ทำนองว่า ให้เค้าอยู่ทางนั้นไปเถอะ คุณ Make money มากมายได้จากทางนั้นก็อยู่ไป ส่วนกิจการทางนี้เราทำเอง (เราเคยตั้งมั่นไว้ค่ะ ว่าอยากเลี้ยงลูกเองจนกว่าจะเข้าโรงเรียน) ส่วนลูกก็มียายเลี้ยง มีพี่เลี้ยงช่วยอีก ฉันก็แค่ทิ้งความฝันที่จะเลี้ยงลูกเองแค่นั้น ไม่ได้เสียอะไร เค้าถามเราว่า
สามี - เธอจะทำยังไงคนเดียว เกิดคนมาซื้อท่อเธอแบกไหวหรอ ??
เรา - จ้างคนงานซักคนสิ
สามี - เกิดเธอขายได้เดือนละ 2 หมื่น จ้างลูกจ้าง 1 หมื่นเธอจะเหลืออะไรหรอ??
สรุปคือ คุณชาย มุงจะเอายังไงกันแน่คะ พอกุจะรับผิดชอบทำเอง ก็กระแนะกระแหน .. พออยากให้กลับมาช่วยกันทำตรงนี้ ก็บอกไม่พอจะกิน
ตอนนี้เรารู้สึกเบื่อหน่ายผู้ชายคนนี้มากกกกกกกกกกกกก แต่ก็ยอมรับว่ารักเค้า คิดถึงเค้า ทุกวันนี้เราก็พยายามปรับตัวให้ชินที่ต้องนอนคนเดียว
3 คืนแล้วที่นอนกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ เพราะไม่ชินกับการนอนคนเดียว (ลูกนอนบ้านตาบ้านยายค่ะ)
แต่คิดว่าฝืนไปไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เค้ายังคงใช้ชีวิตแบบ กินเบียร์ทุกวัน (ไฮเนเก้นวันละ 4 ขวด) ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วสัญญากันแล้วว่าจะพยายามงด พยายามห่าง พยายามกินน้อยลง แต่เปล่าเลย ยังคงกินทุกวันจริง ๆ สูบบุหรี่จัด ๆ ซื้อหวยงวดหลายพัน เล่นพนันบอล ... สิ่งเดียวที่เค้าไม่เคยทำให้ผิดหวังคือเค้าไม่เคยนอกใจ สิ่งเดียวจริงๆ ที่ผูกแข้งผูกขาเราไว้ทุกวันนี้ นอกนั้นเราหาไม่เจอแล้วจริง ๆ ค่ะ
อ่อ จะบอกว่าล่าสุดกำหนดคือจะมาหาเราวันนี้ แต่ ......... เมื่อคืนวันเสาร์ เมาแล้วขับ เจอตำรวจจับวันนี้เลยต้องไปขึ้นศาล
เรายิ่งรู้สึกว่า คุณไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้นเลย คุณทำให้ทุกอย่างมันแย่ แย่ แย่ ... พอเราถามก็บอก แค่เสียค่าปรับไม่กี่พัน (หรอออ?)
ได้ข่าวว่าเงินแต๊ะเอียของลูก คุณยังต้องยืมไปจ่ายค่านั่นค่านี้อยู่เลย ..
บ่นจบแล้วค่ะ ขอบคุณมากที่รับฟัง
ใครแนะนำได้แนะทีนะคะ ทำยังไงจะหลุดพ้น
อ่อ ลืมบอกว่าเรากำลังท้องอยู่ด้วยค่ะตอนนี้ 35 วีคแล้ว .. เมื่อคืนอยากจะกลั้นใจพูดกับเค้าว่า ให้เค้ามาทีเดียวตอนเราคลอดเลยก็ได้
มาหาลูก ... ส่วนเมีย อยากจะยุติบทบาทหน้าที่นี้แล้ว T T
เบื่อ อยากระบาย ๆ
เริ่มจากตั้งแต่ก่อนแต่งงาน สามีกับเราทำกิจการส่วนตัว ช่วยกันค้าคาย ซึ่งรายได้ก็นับว่าดีพอสมควร แต่ไม่เคยมีเงินเก็บค่ะ
อาจจะเพราะด้วยว่าไม่มีภาระอะไร บ้านก็มีคนซื้อให้ รถก็มีคนผ่อนให้ เงินทุกบาทที่หาได้ก็ใช้จ่ายกันสองคนอย่างเดียว
จะเชื่อหรือไม่เชื่อเราแต่งงานกับสามี สินสอดไม่เอาซักกะบาท แหวนซักกะวงก็ไม่มี สามีจ่ายแค่ค่าจัดงานต่าง ๆ
พอจบงานเก็บซองไ้ด้ เราก็เอาเงินที่ได้จากตรงนั้นไปฝากประำจำไว้ ไม่เคยแตะต้อง
ส่วนเราพอแต่งงาน ท้อง มีลูก ก็ไม่ได้ไปนั่งเฝ้าร้านด้วยเหมือนเคยเพราะมีภาระ ไหนจะแพ้ท้อง ไหนจะลูก
พอเราไม่ได้เข้าไปยุ่ง ก็เหมือนปัญหาเริ่มสะสม เราไม่รู้รายรับรายจ่ายอะไรเลย บางทีถามแล้วเค้าบอกปัดก็ขี้เกียจจะถาม
เราถือว่าเราก็มีเงินในส่วนเก็บค่าเช่าของเรา (เป็นห้องเช่าที่พ่อเรายกให้ตอนแต่งงาน)
ส่วนที่เค้าหาก็เป็นรายจ่ายจุกจิกในครอบครัว ทีนี้เกิดปัญหาคือเรามารู้ทีหลังว่า
เค้าเป็นหนี้บัตรเครดิตแบบเต็มวงเงินทุกใบ (เอาล่ะจุ้ย) ทั้ง ๆ ที่ตอนคลอดลูกได้เงินรับขวัญมาก้อนนึง เราเอาไปจ่ายบัตรพวกนี้หมดแล้ว
ซึ่งตอนนั้นบอกให้เค้ามาผ่อนคืนลูกแทนนะ จะได้ไม่เสียดอก แล้วก็ยังคงไม่ได้ (ซักบาท)
แต่ปากคุณชายก็จะพร่ำเพ้อว่า หาเงินเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ (ยอมรับค่ะว่าเค้าสปอยเรา สปอยลูก อยากซื้อไรซื้อ อยากกินไรกิน และตัวเค้าเองก็ฟุ้งเฟ้อมาก ซื้อของกินของใช้ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ประจำ) จนหนัก ๆ เข้าเราจี้ถามว่าเกี่ยวกับหนี้สินทั้งหลายแหล่ สรุปแล้วยังมีหนี้ที่มากกว่าบัตรเครดิตอีก เป็นหนี้ยืมพี่ยืมน้องเค้ามา คือจะเป็นลม งง เมิงทำงานประสาอะไรหว่า มีแต่หนี้ ....
เราเลยตัดสินใจว่า จะย้ายกลับต่างจังหวัด (พ่อแม่เราอยู่ ตจว กัน 2 คนตายาย แล้วก็อยากให้เรากลับมาทั้งแต่คลอดลูกแล้วค่ะ ท่านอยากอยู่ใกล้หลานถึงขนาดลงทุนปลูกบ้านอีกหลังหวังจะให้กลับมาอยู่) จะเปิดกิจการเล็ก ๆ ที่บ้าน ในเมื่ออยู่ กทม ค่าใ้ช้จ่ายไม่พอกับรายได้
กลับ ตจว น่าจะดีกว่า เพราะอดทนกับภาวะผู้นำที่ล้มเหลวของเค้ามาแล้ว 2 ปี สิ่งที่เห็นคือ หนี้กองโต (คุณชายก็จะบอกว่า ฉันไม่ได้ให้เธอมาใช้หนี้ด้วยซักหน่อยเธอเดือดร้อนอะไร !) ตอนนี้คือเราเหมือนแยกกันอยู่แล้วค่ะ
เราพาลูกกลับ ตจว ส่วนเค้ายังไม่ยอมเลิกกิจการที่กรุงเทพ ยังหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าเป็นกิจการที่ดี มั่งคั่ง (คือมันดีจริงค่ะ เพราะเราเคยช่วยกันทำ แต่เค้าผลาญหมด ไม่เคยคิดจะเก็บเพื่อลูกเพื่อเมีย ไม่เคยให้เงินเราเป็นก้อน คงเห็นว่าเรามีรายได้จากค่าเช่าแล้ว)
เราพยายามทำทุกอย่างเืพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ย้ายกลับมาอยู่บ้านที่ ตจว เราก็แยกบ้านกับพ่อแม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอึดอัดใจ อยู่กันเป็นส่วนตัว
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของลูกพ่อแม่เราก็เต็มใจจ่ายให้ ไม่ว่าจะนม เพิส ค่าเรียนพิเศษ ค่าพี่เลี้ยง กิจการร้านค้าที่ดำเนินการจะเปิด พ่อเราก็จะลงทุนให้ (แน่ละสิให้ลงทุนเองเราสองคนก็ไม่มีปัญญาอยู่แล้ว) แต่คุณชายเค้าไม่ Happy ค่ะ เค้ามองว่า กิจการขายของจุ๊กจิ๊กแบบนี้ ไม่ได้เงินหรอก กว่าจะได้เงิน นู่นนี่นั่น บราบราบรา (ขายพวกฮาร์ดแวร์เฮ๊าส์เล็ก ๆ ค่ะ) คุยไปคุยมาจนเค้าพูดออกมาคำนึงว่า
" ถ้าเกิดฉันเลิกกับเธอ ฉันก็จะไม่เหลืออะไรเลย เพราะมันเป็นกิจการของพ่อเธอ แล้วแถมฉันยังเสียโอกาสที่จะสร้างอนาคตของฉันเองด้วย"
เราสะอึกมากกับคำพูดนี้ ... เมื่อคืนเราเลยตัดสินใจพูดกับเค้า ทำนองว่า ให้เค้าอยู่ทางนั้นไปเถอะ คุณ Make money มากมายได้จากทางนั้นก็อยู่ไป ส่วนกิจการทางนี้เราทำเอง (เราเคยตั้งมั่นไว้ค่ะ ว่าอยากเลี้ยงลูกเองจนกว่าจะเข้าโรงเรียน) ส่วนลูกก็มียายเลี้ยง มีพี่เลี้ยงช่วยอีก ฉันก็แค่ทิ้งความฝันที่จะเลี้ยงลูกเองแค่นั้น ไม่ได้เสียอะไร เค้าถามเราว่า
สามี - เธอจะทำยังไงคนเดียว เกิดคนมาซื้อท่อเธอแบกไหวหรอ ??
เรา - จ้างคนงานซักคนสิ
สามี - เกิดเธอขายได้เดือนละ 2 หมื่น จ้างลูกจ้าง 1 หมื่นเธอจะเหลืออะไรหรอ??
สรุปคือ คุณชาย มุงจะเอายังไงกันแน่คะ พอกุจะรับผิดชอบทำเอง ก็กระแนะกระแหน .. พออยากให้กลับมาช่วยกันทำตรงนี้ ก็บอกไม่พอจะกิน
ตอนนี้เรารู้สึกเบื่อหน่ายผู้ชายคนนี้มากกกกกกกกกกกกก แต่ก็ยอมรับว่ารักเค้า คิดถึงเค้า ทุกวันนี้เราก็พยายามปรับตัวให้ชินที่ต้องนอนคนเดียว
3 คืนแล้วที่นอนกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ เพราะไม่ชินกับการนอนคนเดียว (ลูกนอนบ้านตาบ้านยายค่ะ)
แต่คิดว่าฝืนไปไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เค้ายังคงใช้ชีวิตแบบ กินเบียร์ทุกวัน (ไฮเนเก้นวันละ 4 ขวด) ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วสัญญากันแล้วว่าจะพยายามงด พยายามห่าง พยายามกินน้อยลง แต่เปล่าเลย ยังคงกินทุกวันจริง ๆ สูบบุหรี่จัด ๆ ซื้อหวยงวดหลายพัน เล่นพนันบอล ... สิ่งเดียวที่เค้าไม่เคยทำให้ผิดหวังคือเค้าไม่เคยนอกใจ สิ่งเดียวจริงๆ ที่ผูกแข้งผูกขาเราไว้ทุกวันนี้ นอกนั้นเราหาไม่เจอแล้วจริง ๆ ค่ะ
อ่อ จะบอกว่าล่าสุดกำหนดคือจะมาหาเราวันนี้ แต่ ......... เมื่อคืนวันเสาร์ เมาแล้วขับ เจอตำรวจจับวันนี้เลยต้องไปขึ้นศาล
เรายิ่งรู้สึกว่า คุณไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้นเลย คุณทำให้ทุกอย่างมันแย่ แย่ แย่ ... พอเราถามก็บอก แค่เสียค่าปรับไม่กี่พัน (หรอออ?)
ได้ข่าวว่าเงินแต๊ะเอียของลูก คุณยังต้องยืมไปจ่ายค่านั่นค่านี้อยู่เลย ..
บ่นจบแล้วค่ะ ขอบคุณมากที่รับฟัง
ใครแนะนำได้แนะทีนะคะ ทำยังไงจะหลุดพ้น
อ่อ ลืมบอกว่าเรากำลังท้องอยู่ด้วยค่ะตอนนี้ 35 วีคแล้ว .. เมื่อคืนอยากจะกลั้นใจพูดกับเค้าว่า ให้เค้ามาทีเดียวตอนเราคลอดเลยก็ได้
มาหาลูก ... ส่วนเมีย อยากจะยุติบทบาทหน้าที่นี้แล้ว T T