เสาร์ที่ผ่านมานี้ว่างจัดค่ะ เลยไปหาหนังเก่าๆมาดู ซะหน่อย แล้ว ออร่า หนังเรื่องนี้ก็กระทืบตาเข้าอย่างจัง จำได้ว่าเคยดู L.A. Confidential ตั้งแต่สมัย น๊านนนนน นานนนน มาละ (แต่เรายังไม่แก่นะ ฮ่าๆๆ

) คือตอนนั้นรู้สึกจะยังเด็ก ดูไปก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร งงๆ มืนๆ และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนชอบเรื่องนี้มากมาย (คือต้องเข้าใจว่าตอนนั้น หล่อน ยังติ๊งต๊อง ไม่เต็มบาทอยู่

) ถึงกับบอกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะแพ้ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ให้กับ ไททานิก ฟังทีแรก ด้วยความที่เคยดูมาแล้วก็ เฮ๊ยย ขนาดนั้นเชียว เพราะตอนนั้นเราคิดว่าปีนั้น ไททานิก โดดเด่นและสมควรกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่สุดละ แต่ตอนนี้โตขึ้น ก็ไล่เอาหนังเก่าๆที่เคยดูเมื่อครั้นชั่วโมงบินยังไม่สูงนักมาดูใหม่ ปรากฏว่ามุมมองความชอบ ความพิศวาส หนังหลายเรื่องเปลี่ยนไปมากค่ะเลยเข้าใจว่าบางที หนังบางเรื่องก็ต้องอาศัยประสบการณ์ วุฒิภาวะ ความรู้อยู่พอควรเหมือนกันถึงจะดูสนุก อย่าง Saving Private Ryan หรือ The Hours หรือ อีกหลายๆเรื่องที่เราเอามาดูใหม่แล้วชอบ และก็เข้าใจขึ้น ซึ่ง L.A. Confidential ก็เป็นหนึ่งในเรื่องเหล่านั้น
สมัยครั้งก่อนที่ดู L.A. Confidential จำได้ว่าไม่โสภาอย่างมาก คือด้วยความที่ยัง แอ๊บแบ๋ว (อืม!!

) ใสๆอยู่ เลยไม่ค่อยจะสนุกและอินกับหลายๆตอน หลายๆฉาก เอาง่ายๆคือทั้งเรื่อง ทั้งเนื้อหาที่ดูจะซับซ้อน มีชั้นเชิง ชวนคิดชวนประติดประต่อ ตอนนั้นเลย มึนค่ะ ดูไม่รู้เรื่องเลย แต่ตอนนี้ แก่ เอ๊ย!! โตขึ้นแล้ว อารมณ์ร่วมเราเลยค่อนข้างจะมีมากขึ้น เข้าใจมากขึ้น สนุกมากขึ้น จนเรา แอบมีใจให้เรื่องนี้ แล้วคิดว่า ถ้าปีนั้น ไม่มีไททานิกนะ เข้าวินได้อย่างสบายๆเลย
L.A. Confidential นำเสนอเรื่องราว ในวงการตำรวจของ นคร ลอสแองเจอลิส ในช่วงประมาณยุค 50 ชิมิค่ะ อนุมานเอาจะ Timeline เพราะช่วงนั้น มิกกี้ โคเฮน โดนจับไปแล้ว (ผิดโปรดรุมด่าด้วย) ซึ่งเล่าผ่านมุมมองของตำรวจ ที่มีลักษณะนิสัยไม่เหมือนกันเลย 3 คน ที่ทำการสืบสวนคดี ฆาตกรรมในคลับแห่งหนึ่ง ซึ่งโยงใยซับซ้อนไปถึงเรื่องราวของระดับผู้บริหารในกรมตำรวจ เก๊งธุรกิจผิดกฎหมาย และอีกหลายๆอย่าง จนมาหักมุมแบบสุดในตอนท้ายที่ทำเอา อร๊าวววววววว ไอ่นี้เองเหรอ คนร้าย (จริงๆ) ไม่เล่าละ เด๊ยวคนที่ยังไม่ได้ดูจะเสียอรรถรสนะค่ะ
ที่เรามาดูรอบนี้แล้วสนุก นอกจากที่คิดว่าเพราะโตขึ้นแล้ว เพราะเราเข้าใจแกนเรื่องหลักๆได้มากขึ้นด้วยแหละ ดูคราวนี้เข้าใจเหตุผลที่มาที่ไปหลายๆอย่างมากขึ้น อินกับฉากยิ่งปืน ตู๊มต๊ามมม!! หลายฉากเหมือนกัน บทสนทนาหลายตอนก็ เก๋ไก๋มาก ฉากดราม่า นี้แบบเอา จขกท. อยู่หมัด ที่โดดเด่นสำหรับหนังเรื่องนี้แล้วนอกจากบท (ได้ออสการ์ด้วยแหละ) คือทัพนักแสดง ที่ขนกันมาจัดเต็มแบบเท็คทีม แค่นักแสดงหลักสามคน ลุง สเปยซี่ เฮีย กาย เพียซ กับ เฮียโครว์ แค่นี้ก็คุ้มยัน ท้ายเครดิตละ ยังไม่รวมนักแสดงประกอบ อย่างเจ๊ คิม ที่ออกมา แว๊บๆ แต่แย่งซีนคนอื่นเค้ามาหมดเลย (สมแล้วกับออสการ์) การรับส่งอารมณ์ เฉือดเฉือนกันได้ มันส์แบบสุด ฉากเอคชั่นไม่ต้องบรรยาย เนื้อหาดีมากค่ะ ดูแล้วได้ข้อคิดหลายๆอย่างเอาไปใช้ต่อยอดในชีวิตประจำวันได้เยอะแยะ แต่หลักก็เห็นจะเป็น การทำตัวเป็นคนดีเนี่ยแหละสำคัญที่สุด เนอะ
ปล. อีกอย่างคือ ค้นพบว่า เฮีย รัสเซล สมัยแต่ก่อนหล่อ มว๊ากกก


(นอกประเด็นล่ะหร่อน) คือ บทเฮียดูจะไม่ใช่นักแสดงหลักนะ แต่พอดูๆไป รู้สึกจะเด่นกว่าคนอื่นเวอร์ ถ้าไม่รวม กาย เพียซนะ (ความคิดของหล่อนคนเดียวมั้งย่ะ) โดยเฉพาะเลิฝซีนกับ เจ๊คิม เหนี่ย ฟินค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
ยังไงก็ แนะนำนะค่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยดูเพราะหนังเค้าดีจริงๆ
เอา L.A. Confidential (1997) มาดูใหม่แล้ว เฮ๊ยย มัน โค ตร ระ สนุกเลย นะเนี่ยยยย!!
สมัยครั้งก่อนที่ดู L.A. Confidential จำได้ว่าไม่โสภาอย่างมาก คือด้วยความที่ยัง แอ๊บแบ๋ว (อืม!!
L.A. Confidential นำเสนอเรื่องราว ในวงการตำรวจของ นคร ลอสแองเจอลิส ในช่วงประมาณยุค 50 ชิมิค่ะ อนุมานเอาจะ Timeline เพราะช่วงนั้น มิกกี้ โคเฮน โดนจับไปแล้ว (ผิดโปรดรุมด่าด้วย) ซึ่งเล่าผ่านมุมมองของตำรวจ ที่มีลักษณะนิสัยไม่เหมือนกันเลย 3 คน ที่ทำการสืบสวนคดี ฆาตกรรมในคลับแห่งหนึ่ง ซึ่งโยงใยซับซ้อนไปถึงเรื่องราวของระดับผู้บริหารในกรมตำรวจ เก๊งธุรกิจผิดกฎหมาย และอีกหลายๆอย่าง จนมาหักมุมแบบสุดในตอนท้ายที่ทำเอา อร๊าวววววววว ไอ่นี้เองเหรอ คนร้าย (จริงๆ) ไม่เล่าละ เด๊ยวคนที่ยังไม่ได้ดูจะเสียอรรถรสนะค่ะ
ที่เรามาดูรอบนี้แล้วสนุก นอกจากที่คิดว่าเพราะโตขึ้นแล้ว เพราะเราเข้าใจแกนเรื่องหลักๆได้มากขึ้นด้วยแหละ ดูคราวนี้เข้าใจเหตุผลที่มาที่ไปหลายๆอย่างมากขึ้น อินกับฉากยิ่งปืน ตู๊มต๊ามมม!! หลายฉากเหมือนกัน บทสนทนาหลายตอนก็ เก๋ไก๋มาก ฉากดราม่า นี้แบบเอา จขกท. อยู่หมัด ที่โดดเด่นสำหรับหนังเรื่องนี้แล้วนอกจากบท (ได้ออสการ์ด้วยแหละ) คือทัพนักแสดง ที่ขนกันมาจัดเต็มแบบเท็คทีม แค่นักแสดงหลักสามคน ลุง สเปยซี่ เฮีย กาย เพียซ กับ เฮียโครว์ แค่นี้ก็คุ้มยัน ท้ายเครดิตละ ยังไม่รวมนักแสดงประกอบ อย่างเจ๊ คิม ที่ออกมา แว๊บๆ แต่แย่งซีนคนอื่นเค้ามาหมดเลย (สมแล้วกับออสการ์) การรับส่งอารมณ์ เฉือดเฉือนกันได้ มันส์แบบสุด ฉากเอคชั่นไม่ต้องบรรยาย เนื้อหาดีมากค่ะ ดูแล้วได้ข้อคิดหลายๆอย่างเอาไปใช้ต่อยอดในชีวิตประจำวันได้เยอะแยะ แต่หลักก็เห็นจะเป็น การทำตัวเป็นคนดีเนี่ยแหละสำคัญที่สุด เนอะ
ปล. อีกอย่างคือ ค้นพบว่า เฮีย รัสเซล สมัยแต่ก่อนหล่อ มว๊ากกก
ยังไงก็ แนะนำนะค่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยดูเพราะหนังเค้าดีจริงๆ