ตอนแรกเขียนกระทู้ไปแล้วครั้งนึงค่ะ ยาวซะด้วย คอมเป้นไรไม่รู้เซ็งเลย แต่ก็เอาว่ะ อีกรอบก็ได้ ครั้งนี้ก็เดินทางไปทางตะวันออกค่ะ พอดีต้องไปขนของกลับที่ กทม. ที่ศรีราชา แต่ชลเที่ยวมาก็หลายที่แล้วก็เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปที่อื่นบ้าง ได้ยินชื่อเสียงเกาะเสม็ดมานาน ไม่เคยไปสักที คราวนี้เป้นโอกาสทองค่ะ ฮ่าๆๆ อยากรู้ว่าไปเสม็ด ทำไมต้องเสร็จทุกราย ฮ่าฮ่า เริ่มต้นเดินทางก็ปาไปเที่ยงแล้วค่ะ มีเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย
พอไปถึงท่าเรือบ้านเพก็บ่ายสามกว่าๆ กว่าจะเดินหาตู้เอทีเอ็มกว่าจะจองห้องพัก เ่อ่ออไอ้ห้องพักเนี่ยตอนแรกก็คิดว่าจะไปหาเอาบนเกาะเอง แต่บริษัททัวร์ตรงท่าเรือเค้าบอกว่าอาจจะไม่มีที่พัก หรือที่พักอาจจะเต็ม ถ้าไม่จองก่อน ไอ้เราไม่เคยมาก็กลัวจะไม่มีที่พัก ก็เลยจองไป ได้หลังสามพันกว่าพักสี่คน ออ แล้วสำหรับท่านที่เอารถไปเองน่ะค่ะ แถวๆท่าเรือเค้าจะมีที่รับฝากรถค่ะ คืนล่ะร้อย เสร็จแล้วก็นั่งรอเรือถ้านั่งเรือข้ามฝั่งไปกับเรือช้านี่เป็นชั่วโมงค่ะ เลยนั่งสปีดโบ้ทไป เพื่อไม่ให้เสียเวลา รอๆๆๆ สปีดโบ้ทกว่าจะได้ขึ้นก็ปาไปห้าโมงกว่าค่ะ
นั่งมาประมาณยี่สิบนาทีได้มั้งค่ะ ก็ถึงหาดทรายแก้ว ถ้านั่งสปีดโบ้ทเนี่ยมันจะมาส่งตรงหน้าหาดเลยค่ะ พอดีจองที่พัก ทรายแก้ววิลล่า อยู่หน้าหาดพอดีค่ะ แต่ถ้านั่งเรือช้ามา มันจะจอดตรงท่าเรือค่ะ แล้วต้องนั่งรถโดยสารอีต่อนึงมาที่พักค่ะ
มาถึงหาดทรายแก้วก็เย็นนิดๆแล้วค่ะ บรรยากาศดีไม่แพ้ทะเลอื่นๆที่เคยไปมาเลยค่ะ
ภาพแรกที่ประทับใจ ทำให้ยิ้มได้ เห็นจะเป็นแขกวีไอพีของร้านนี้มั้งค่ะ หลับสบายเชียว ฮ่าฮ่า
พอถึงที่พักก็รีบเช็คอินเลยค่ะ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในการทัวร์รอบเหฃกาะ และออกเดินทางตามหาพระอภัยมณีค่ะ ฮ่าๆๆๆ ..........
และแล้วก็เจอพระอภัยมณีค่ะ มีนางเงือกครองคู่อยู่ข้างๆๆ
อันที่จริงก็รู้สึกสงสารนางผีเสื้อสมุทรน่ะค่ะ อกหักแล้วยังไปอยู่โดดเดี่ยวคนเดียว ห่างไกลจากพระอภัย อยู่ตรงท่าเรือโน้น เห็นแล้วเศร้าใจจริงๆ....
ฮ่าๆๆ เลิกดราม่าดีกว่า ออกเดินทางต่อดีกว่าเพราะเริ่มเย็นมากแล้ว ก็เลยตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซด์ทัวร์รอบเกาะค่ะ ชั่วโมงล่ะร้อย ถ้าทั้งวันก็สามร้อยบาท แต่มาถึงก็เย็นแล้วเช่าสามร้อยก็ไม่คุ้ม เลยเช่าแค่ชั่วโมงเดียว ชั่วโมงเดียวก็คงมืดพอดี.....ได้มอไซด์แล้วก็เริ่มเดินทางกันค่ะ ถนนทางไปหาดต่างๆนี่ ถ้าหากคนขับไม่เก่งแย่ค่ะ เพราะว่าทางเขาโหดจริงๆๆ ก้อนหินเล็กใหญ่เต็มไปหมด ทางก้ไม่เรียบค่ะ บางเส้น น้ำขังโคลนเต็มไปหมด แต่ก็ถือว่าผจญภัยไปอีกแบบค่ะ ฮ่าๆๆ
และแล้วก็มาถึงอ่าวพร้าวที่เค้าว่ากันว่าเป็นห้าดาวของเสม็ด มาถึงบรรยากาศดีจริงๆค่ะ สงบเหมาะกับคนที่ชอบเงียบสงบหรืออยากมีความเป้นส่วนตัวค่ะ น้ำทะเลก้สวยใส แต่มาถึงก็เริ่มมืดแ้ล้วเลยเดินทัวร์รอบอ่าวได้ไม่มากค่ะ
ที่จริงมันมีจุดชมวิวชมพระอาทิตย์ตกด้วยค่ะ แต่ดันมืดซะแล้ว ต้องเดินทางกลับที่พัก เวลาก็เกือบจะหมดชั่วโมงนึงแล้วค่ะ ไปได้ไม่กี่หาด
พอมาถึงหาดทรายแก้วคืนเค้าเสร็จเรียบร้อย ก้เดินเล่นชมบรรยากาศรอบหาดซะหน่อยค่ะ ที่นี่มีพวกผับพวกร้านนั่งชิวเยอะเหมือนกัน ร้านตกแต่งสวยงามเข้ากับบรรยากาศน่านั่งมากมากค่ะ
เดินไปเรื่อยๆเห็นร้านอาหาร อาหารทะเลเยอะแยะก็เริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ อยากนั่งร้านชิวๆๆ แต่ก็เสียดายอุส่าห์พกแก้ว พกเสื่อมานั่งกินลม ก็จัดไปซะหน่อย ฮ่าๆๆๆ ไปหาซื้อของกินมาสี่ห้าอย่างเบียร์เย็นๆๆ สามสี่ขวด อาหารถ้าจะซื้อต้องเดินเข้าไปข้างในอีกค่ะ มีอาหารขายเยอะมา พวกตามสั่งก็มี รสชาติดีทีเดียวค่ะ ว่าแล้วก็เอาเสื่อมาปูนั่ง พร้อมอาหาร เบียร์เย็นๆๆ บรรยากาศมืดๆแล้วค่ะ แต่ผู้คนยังเดินเล่นอยู่เยอะทีเดียว พูดว่าเริ่มเยอะขึ้นก็ได้ค่ะ ตามร้านอาหารต่างๆ ก็มีเสียงดนตรี ได้บรรยากาศมากมาก....นั่งกินอยู่ไม่นาน ก็มีการแสดงโชว์ริมหาด เป็นโชว์ควงคบเพลิงนี่แหละค่ะ อดใจไม่ไหวเลยวิ่งเข้าไปดู คนเล่นยังเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่เลยค่ะควงไวมาก และเก่งมากมากด้วยค่ะ
จบโชว์นี้ต่อไปก็เป็นการเปิดโอกาศให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมค่ะ คือเล่นลอดใต้ไฟที่เค้าจัดไว้ มีเสียงเพลงมันส์ๆประกอบ ไอ้ที่ว่ามาเสม็ดเสร็จทุกรายน่าจะเป็นเสร็จบรรยากาศดีดี โชว์และกิจกรรมของเกาะเนี่ยล่ะมั้งค่ะ ฮ่าๆๆๆ เพราะนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซะเยอะค่ะ
เห็นดนตรีมันส์ ไอ้เราก็อดไม่ได้ที่จะเข้าร่วม ตอนที่ไฟมันยังอยู่สูงๆอยู่ก็พอลอดได้ค่ะ แต่พอเค้าลดต่ำลงๆ ไม่ไหวค่ะ ร่างกายย่อได้ไม่มาก ต่ำมากๆเดี๋ยวจะเป็นคลานซะแทน ฮ่าๆๆ เลยยืนดูเค้าเล่นดีกว่า มีทั้งเด็กตัวเล็กๆ วัยรุ่น แล้วก็คนแก่ มากันเป็นครอบครัวก็เยอะค่ะ เห็นแล้วก็มีความสุขไปด้วย
ที่จริงอัดคลิปไว้ด้วย เดี๋ยวถ้ามีเวลาลงยังไงจะอัพไว้แล้วกันค่ะ อย่างนึงที่ประทับใจคือ ผู้คนที่นี่มีน้ำใจมากค่ะ ตัวเองทำกระเป๋าตังค์หาย เพิ่งมารู้ตัวตอนกลับมา กทม.แล้ว ก็รู้จากคุณตำรวจที่โทรมานั่นแหละค่ะ บอกว่ามีคนเจอแล้วมามอบให้ตำรวจ ถึงแม้ในกระเป๋าตังค์จะมีแค่บัตรกับเหรียญก็ตาม ฮ่าๆๆๆ คุณตำรวจก็พยายามติดต่อเรามาจนได้ ดีน่ะที่เอาเบอร์เพื่อนที่จดไว้ในกระดาษใส่ไว้ในกระเป๋าด้วยไม่งั้นคงติดต่อลำบาก
ถึงจะมีเวลาเที่ยวไม่มาก แต่เรื่องราวความทรงจำไม่น้อยทีเดียวค่ะ หนึ่งวันทำอะไรได้ตั้งมากมาย บางคนคิดว่าวันเดียวจะเที่ยวสนุกอะไร พรุ่งนี้เช้าก็ต้องกลับแต่เช้าอีก แต่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เหล่านั้นมันทำให้เราหาความสุขให้กับตัวเองได้ ดีกว่าปล่อยเวลาไปเฉยๆๆ แม้แต่วินาทีเดียวก็มีค่าน่ะค่ะ
ระหว่างเดินทางกลับมีแว๊บนึงในใจ อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆๆ เอ๊ะหรือว่าลาออกจากงานมาทำงานที่เกาะนี้ดี ฮ่าๆๆ ภาษาอาจจะดีขึ้นด้วยก็ได้ เพราะแม้ค้า พนักงานเสิร์ฟ แม้กระทั่งคนขับเรือ พูดกับฝรั่งคล่องเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ นั้นก็เป็นอีกอย่างที่เกิดขึ้นในใจ ต่อไปจะพยายามทำในสิ่งที่อยากทำ มากกว่าสิ่งที่ต้องทำให้มากกว่านี้ให้ได้........ตอนนี้กลับบ้านก่อนค่ะ ฮ่าๆๆๆ *
[CR] พเนจร ตอนเกาะแก้วพิสดาร(เกาะเสม็ด ระยอง)
พอไปถึงท่าเรือบ้านเพก็บ่ายสามกว่าๆ กว่าจะเดินหาตู้เอทีเอ็มกว่าจะจองห้องพัก เ่อ่ออไอ้ห้องพักเนี่ยตอนแรกก็คิดว่าจะไปหาเอาบนเกาะเอง แต่บริษัททัวร์ตรงท่าเรือเค้าบอกว่าอาจจะไม่มีที่พัก หรือที่พักอาจจะเต็ม ถ้าไม่จองก่อน ไอ้เราไม่เคยมาก็กลัวจะไม่มีที่พัก ก็เลยจองไป ได้หลังสามพันกว่าพักสี่คน ออ แล้วสำหรับท่านที่เอารถไปเองน่ะค่ะ แถวๆท่าเรือเค้าจะมีที่รับฝากรถค่ะ คืนล่ะร้อย เสร็จแล้วก็นั่งรอเรือถ้านั่งเรือข้ามฝั่งไปกับเรือช้านี่เป็นชั่วโมงค่ะ เลยนั่งสปีดโบ้ทไป เพื่อไม่ให้เสียเวลา รอๆๆๆ สปีดโบ้ทกว่าจะได้ขึ้นก็ปาไปห้าโมงกว่าค่ะ
นั่งมาประมาณยี่สิบนาทีได้มั้งค่ะ ก็ถึงหาดทรายแก้ว ถ้านั่งสปีดโบ้ทเนี่ยมันจะมาส่งตรงหน้าหาดเลยค่ะ พอดีจองที่พัก ทรายแก้ววิลล่า อยู่หน้าหาดพอดีค่ะ แต่ถ้านั่งเรือช้ามา มันจะจอดตรงท่าเรือค่ะ แล้วต้องนั่งรถโดยสารอีต่อนึงมาที่พักค่ะ
มาถึงหาดทรายแก้วก็เย็นนิดๆแล้วค่ะ บรรยากาศดีไม่แพ้ทะเลอื่นๆที่เคยไปมาเลยค่ะ
ภาพแรกที่ประทับใจ ทำให้ยิ้มได้ เห็นจะเป็นแขกวีไอพีของร้านนี้มั้งค่ะ หลับสบายเชียว ฮ่าฮ่า
พอถึงที่พักก็รีบเช็คอินเลยค่ะ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในการทัวร์รอบเหฃกาะ และออกเดินทางตามหาพระอภัยมณีค่ะ ฮ่าๆๆๆ ..........
และแล้วก็เจอพระอภัยมณีค่ะ มีนางเงือกครองคู่อยู่ข้างๆๆ
อันที่จริงก็รู้สึกสงสารนางผีเสื้อสมุทรน่ะค่ะ อกหักแล้วยังไปอยู่โดดเดี่ยวคนเดียว ห่างไกลจากพระอภัย อยู่ตรงท่าเรือโน้น เห็นแล้วเศร้าใจจริงๆ....
ฮ่าๆๆ เลิกดราม่าดีกว่า ออกเดินทางต่อดีกว่าเพราะเริ่มเย็นมากแล้ว ก็เลยตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซด์ทัวร์รอบเกาะค่ะ ชั่วโมงล่ะร้อย ถ้าทั้งวันก็สามร้อยบาท แต่มาถึงก็เย็นแล้วเช่าสามร้อยก็ไม่คุ้ม เลยเช่าแค่ชั่วโมงเดียว ชั่วโมงเดียวก็คงมืดพอดี.....ได้มอไซด์แล้วก็เริ่มเดินทางกันค่ะ ถนนทางไปหาดต่างๆนี่ ถ้าหากคนขับไม่เก่งแย่ค่ะ เพราะว่าทางเขาโหดจริงๆๆ ก้อนหินเล็กใหญ่เต็มไปหมด ทางก้ไม่เรียบค่ะ บางเส้น น้ำขังโคลนเต็มไปหมด แต่ก็ถือว่าผจญภัยไปอีกแบบค่ะ ฮ่าๆๆ
และแล้วก็มาถึงอ่าวพร้าวที่เค้าว่ากันว่าเป็นห้าดาวของเสม็ด มาถึงบรรยากาศดีจริงๆค่ะ สงบเหมาะกับคนที่ชอบเงียบสงบหรืออยากมีความเป้นส่วนตัวค่ะ น้ำทะเลก้สวยใส แต่มาถึงก็เริ่มมืดแ้ล้วเลยเดินทัวร์รอบอ่าวได้ไม่มากค่ะ
ที่จริงมันมีจุดชมวิวชมพระอาทิตย์ตกด้วยค่ะ แต่ดันมืดซะแล้ว ต้องเดินทางกลับที่พัก เวลาก็เกือบจะหมดชั่วโมงนึงแล้วค่ะ ไปได้ไม่กี่หาด
พอมาถึงหาดทรายแก้วคืนเค้าเสร็จเรียบร้อย ก้เดินเล่นชมบรรยากาศรอบหาดซะหน่อยค่ะ ที่นี่มีพวกผับพวกร้านนั่งชิวเยอะเหมือนกัน ร้านตกแต่งสวยงามเข้ากับบรรยากาศน่านั่งมากมากค่ะ
เดินไปเรื่อยๆเห็นร้านอาหาร อาหารทะเลเยอะแยะก็เริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ อยากนั่งร้านชิวๆๆ แต่ก็เสียดายอุส่าห์พกแก้ว พกเสื่อมานั่งกินลม ก็จัดไปซะหน่อย ฮ่าๆๆๆ ไปหาซื้อของกินมาสี่ห้าอย่างเบียร์เย็นๆๆ สามสี่ขวด อาหารถ้าจะซื้อต้องเดินเข้าไปข้างในอีกค่ะ มีอาหารขายเยอะมา พวกตามสั่งก็มี รสชาติดีทีเดียวค่ะ ว่าแล้วก็เอาเสื่อมาปูนั่ง พร้อมอาหาร เบียร์เย็นๆๆ บรรยากาศมืดๆแล้วค่ะ แต่ผู้คนยังเดินเล่นอยู่เยอะทีเดียว พูดว่าเริ่มเยอะขึ้นก็ได้ค่ะ ตามร้านอาหารต่างๆ ก็มีเสียงดนตรี ได้บรรยากาศมากมาก....นั่งกินอยู่ไม่นาน ก็มีการแสดงโชว์ริมหาด เป็นโชว์ควงคบเพลิงนี่แหละค่ะ อดใจไม่ไหวเลยวิ่งเข้าไปดู คนเล่นยังเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่เลยค่ะควงไวมาก และเก่งมากมากด้วยค่ะ
จบโชว์นี้ต่อไปก็เป็นการเปิดโอกาศให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมค่ะ คือเล่นลอดใต้ไฟที่เค้าจัดไว้ มีเสียงเพลงมันส์ๆประกอบ ไอ้ที่ว่ามาเสม็ดเสร็จทุกรายน่าจะเป็นเสร็จบรรยากาศดีดี โชว์และกิจกรรมของเกาะเนี่ยล่ะมั้งค่ะ ฮ่าๆๆๆ เพราะนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซะเยอะค่ะ
เห็นดนตรีมันส์ ไอ้เราก็อดไม่ได้ที่จะเข้าร่วม ตอนที่ไฟมันยังอยู่สูงๆอยู่ก็พอลอดได้ค่ะ แต่พอเค้าลดต่ำลงๆ ไม่ไหวค่ะ ร่างกายย่อได้ไม่มาก ต่ำมากๆเดี๋ยวจะเป็นคลานซะแทน ฮ่าๆๆ เลยยืนดูเค้าเล่นดีกว่า มีทั้งเด็กตัวเล็กๆ วัยรุ่น แล้วก็คนแก่ มากันเป็นครอบครัวก็เยอะค่ะ เห็นแล้วก็มีความสุขไปด้วย
ที่จริงอัดคลิปไว้ด้วย เดี๋ยวถ้ามีเวลาลงยังไงจะอัพไว้แล้วกันค่ะ อย่างนึงที่ประทับใจคือ ผู้คนที่นี่มีน้ำใจมากค่ะ ตัวเองทำกระเป๋าตังค์หาย เพิ่งมารู้ตัวตอนกลับมา กทม.แล้ว ก็รู้จากคุณตำรวจที่โทรมานั่นแหละค่ะ บอกว่ามีคนเจอแล้วมามอบให้ตำรวจ ถึงแม้ในกระเป๋าตังค์จะมีแค่บัตรกับเหรียญก็ตาม ฮ่าๆๆๆ คุณตำรวจก็พยายามติดต่อเรามาจนได้ ดีน่ะที่เอาเบอร์เพื่อนที่จดไว้ในกระดาษใส่ไว้ในกระเป๋าด้วยไม่งั้นคงติดต่อลำบาก
ถึงจะมีเวลาเที่ยวไม่มาก แต่เรื่องราวความทรงจำไม่น้อยทีเดียวค่ะ หนึ่งวันทำอะไรได้ตั้งมากมาย บางคนคิดว่าวันเดียวจะเที่ยวสนุกอะไร พรุ่งนี้เช้าก็ต้องกลับแต่เช้าอีก แต่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เหล่านั้นมันทำให้เราหาความสุขให้กับตัวเองได้ ดีกว่าปล่อยเวลาไปเฉยๆๆ แม้แต่วินาทีเดียวก็มีค่าน่ะค่ะ
ระหว่างเดินทางกลับมีแว๊บนึงในใจ อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆๆ เอ๊ะหรือว่าลาออกจากงานมาทำงานที่เกาะนี้ดี ฮ่าๆๆ ภาษาอาจจะดีขึ้นด้วยก็ได้ เพราะแม้ค้า พนักงานเสิร์ฟ แม้กระทั่งคนขับเรือ พูดกับฝรั่งคล่องเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ นั้นก็เป็นอีกอย่างที่เกิดขึ้นในใจ ต่อไปจะพยายามทำในสิ่งที่อยากทำ มากกว่าสิ่งที่ต้องทำให้มากกว่านี้ให้ได้........ตอนนี้กลับบ้านก่อนค่ะ ฮ่าๆๆๆ *
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น