พิจารณาครับ

1. หลักฐานแรก

แล้วทรงกระทำพระพุทธมารดาให้เป็นประธานในเทวสมาคมนั้น
ตรัส พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ อันมีชื่อว่า
ธัมมสังคณี วิภังค์ ธาตุกถา ปุคคลบัญญัติ กถาวัตมก และ ปัฏฐาน
ให้สมควรแก่ปัญญาบารมีของ
พระพุทธมารดาและหมู่ทวยเทพ
เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดง “สัตตปกรณาภิธรรม”     (พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์) นั้น
สันดุสิตเทพบุตรพุทธมารดาก็บรรลุโสดาปัตติผล
สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นแรกในพระพุทธศาสนา
กล่าวกันว่า พระพุทธองค์ทรงแสดง พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
ณ เทวโลก ชั้นดาวดึงส์ ทั้งกลางคืนและกลางวัน
มิมีระหว่างว่างเว้น เป็นเวลาถึง ๓ เดือนเต็มตามเวลาโลกมนุษย์
ในระหว่างที่ทรงแสดง เมื่อถึงเวลาเสด็จบิณฑบาตเพื่อเสวยพระภัตตาหาร
และเวลาทรงพักผ่อนกลางวัน

พระอภิธรรมเป็นพุทธพจน์ โดย พระคันธสาราวงศ์ วัดท่ามะโอ

2...หลักฐานที่ 2

เล่ม ๓๗  กถาวัตถุ
            คัมภีร์ที่พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ประธานการสังคายนาครั้งที่ ๓ เรียบเรียงขึ้น เพื่อแก้ความเห็นผิดของนิกายต่างๆ ในพระพุทธศาสนาครั้งนั้น ซึ่งได้แตกแยกกันออกแล้วถึง ๑๘ นิกาย
            เช่น ความเห็นว่า พระอรหันต์เสื่อมจากอรหัตตผลได้ เป็นพระอรหันต์พร้อมกับการเกิดได้ ทุกอย่างเกิดจากกรรม เป็นต้น
            ประพันธ์เป็นคำปุจฉาวิสัชนา มีทั้งหมด ๒๑๙ กถา

หลักฐานที่ เฉลิมสักดิ์  เป็นคน ยกมาเอง

ถ้าหลักฐานที่ 2  คือความจริง   วัดท่ามะโอ ตก นรก ทั้งวัด  เพราะโกหก เอาคำของผู้อื่น ยกขึ้นเหนือพระธรรมเทศนาโปรดพระมารดาของจริง

แล้ว หลักฐานที่ 1   มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน  ลองอ่านดู อีกที

แล้วทรงกระทำพระพุทธมารดาให้เป็นประธานในเทวสมาคมนั้น
ตรัส พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ อันมีชื่อว่า
ธัมมสังคณี วิภังค์ ธาตุกถา ปุคคลบัญญัติ กถาวัตมก และ ปัฏฐาน
ให้สมควรแก่ปัญญาบารมีของ
พระพุทธมารดาและหมู่ทวยเทพ

ถ้าบอกวว่า พระท่า มะโอ  เป็นเพียงผู้ แปลมา    แล้วข้อความข้างบน  ใครเป็นผู้กล่าว  

เพราะผู้กล่าว  กล่าวไว้ในการสังคยนาครั้งที่ 3  ที่ตนมีส่วนรู้เห็นด้วย   จะบอกว่า  ตนไม่มีส่วนรู้เห็น  ในหลักฐานอันที่ 2 เลย ตนยืนยันหลักฐานอันแรกว่าเป็นจริง

แล้วหลักฐานที่ 2.  ใครเป็นผู้กล่าวไว้

อนิจจัง  วะตะสังขารา  อุปาทะวะยะธัมมีโน  อุปัชชิตวา  นิรุตชันตื   เตสังวู ปะสะโม สุขโข

เฉลิมศักดิ์  ส่ง พระท่ามะโอ และ สำนัก อภิธรรม ลง นรก ด้วยการ กระทำ  ของ เฉลิมศักดิ์ เองแล้ว