วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจ พาเจ้าหมาน้อย ไปตัดขนที่เมเจอร์รัชโยธิน ซึ่งปกติจะตัดแถวบ้านที่สุทธิสาร แต่เนื่องจากร้านประจำปิด และไปหาเพื่อนด้วย
ก็เลยถือโอกาสนี้พาหมาไปตัดขนด้วยเลยทีเดียว และให้เจ้าตัวเล็กอยู่ในกระเป๋าใบนี้ตลอด ชิสุตัวเล็กเลยใส่กระเป๋าได้
ขาไปก็ขึ้นรถเมล์ไป แต่จะเลือกขึ้นรถเมล์ร้อน เพราะว่าเรามีหมาไปด้วย ขาไปก็ไม่มีอะไร ไม่เห็นกระเป๋ารถเมล์จะบอกว่า ห้ามพาหมาขึ้น
แต่พอขากลับ เจอแจ๊กพอตคะ เรานั่งสาย 136 จะมาลงที่สุทธิสาร พอกระเป๋าเดินมาเก็บค่าโดยสารเรา เค้าเห็นเรามีหมา เค้าพูดเสียงดังมาก
เขาพูดว่า ไม่ให้เอาหมาขึ้นมา ห้ามเด็ดขาด ห้ามพาหมาขึ้นรถเมล์ ถ้าตำรวจเห็นเค้าจะโดนจับ แล้วก็มายืนเท้าเอว สายตาอำมหิตมากอ่ะ
เราก็เหวอเลย คืองง มาก อึ้งจน นึกอะไรไม่ออกเลย ก็ได้แต่ยิ้ม แหยแหย จนคนข้างหน้าหันมามองเรา แล้วก็ยิ้มๆ เพราะกระเป๋าคนนี้เค้าพูดเสียงดังมาก แข่งกับเสียงลมเสียงรถอ่ะ เราก็ตั้งใจว่าจะลงป้ายหน้า เพราะไม่อยากมีปัญหา ก็จะจ่ายค่าโดยสารเค้า ก่อนจะลง
แต่เขากลับไม่รับเงิน และทำสายตาแบบ โกรธเรามาก เรายื่นเงินให้เขา เขาไม่แม้แต่จะมองเราเลย เออ จะบอกว่าไม่เอาค่าโดยสาร ก็บอกกันดีดี สิ เราก็เลยลงจากรถโดยที่ไม่ได้จ่ายเงินค่าโดยสารเลย
รู้สึกแย่มาก ๆ ที่เจอกระเป๋ารถเมล์คันนี้้ ทำกิริยาแบบนี้ใส่ รู้สึกว่าเราผิดมากมาย รู้สึกว่า ไม่น่าพาหมามาเลย ถ้าเขาบอกเราดีดี เราไม่รู็สึกแย่เลย
และเราไม่รู้จริงๆ ว่าห้ามพาหมาขึ้นรถเมล์ พวกรถไฟฟ้า ห้าง ไรแบบรู้อยู่เพราะมีป้ายบอก ก็ไม่เคยฝีนกฎอะไรหรอก
ขนาดพาหมาเดินเล่น ยังถือทิชชู่ ถือกระดาษ ตามเก็บอึมันเลย ดังนั้นเราคิดว่า เรามีความรับผิดชอบพอ ถ้ากลัวหมาจะมีเชื้อโรค
สรุป เสียใจมาก จิกเรา อย่างกับนางร้ายจิกนางเอก โดยที่นางเอกยังไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่ลงจากรถมาแบบงง งง
วันนี้โดนกระเป๋ารถเมล์ด่าเละเพราะว่าพาหมาขึ้นรถเมล์
วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจ พาเจ้าหมาน้อย ไปตัดขนที่เมเจอร์รัชโยธิน ซึ่งปกติจะตัดแถวบ้านที่สุทธิสาร แต่เนื่องจากร้านประจำปิด และไปหาเพื่อนด้วย
ก็เลยถือโอกาสนี้พาหมาไปตัดขนด้วยเลยทีเดียว และให้เจ้าตัวเล็กอยู่ในกระเป๋าใบนี้ตลอด ชิสุตัวเล็กเลยใส่กระเป๋าได้
ขาไปก็ขึ้นรถเมล์ไป แต่จะเลือกขึ้นรถเมล์ร้อน เพราะว่าเรามีหมาไปด้วย ขาไปก็ไม่มีอะไร ไม่เห็นกระเป๋ารถเมล์จะบอกว่า ห้ามพาหมาขึ้น
แต่พอขากลับ เจอแจ๊กพอตคะ เรานั่งสาย 136 จะมาลงที่สุทธิสาร พอกระเป๋าเดินมาเก็บค่าโดยสารเรา เค้าเห็นเรามีหมา เค้าพูดเสียงดังมาก
เขาพูดว่า ไม่ให้เอาหมาขึ้นมา ห้ามเด็ดขาด ห้ามพาหมาขึ้นรถเมล์ ถ้าตำรวจเห็นเค้าจะโดนจับ แล้วก็มายืนเท้าเอว สายตาอำมหิตมากอ่ะ
เราก็เหวอเลย คืองง มาก อึ้งจน นึกอะไรไม่ออกเลย ก็ได้แต่ยิ้ม แหยแหย จนคนข้างหน้าหันมามองเรา แล้วก็ยิ้มๆ เพราะกระเป๋าคนนี้เค้าพูดเสียงดังมาก แข่งกับเสียงลมเสียงรถอ่ะ เราก็ตั้งใจว่าจะลงป้ายหน้า เพราะไม่อยากมีปัญหา ก็จะจ่ายค่าโดยสารเค้า ก่อนจะลง
แต่เขากลับไม่รับเงิน และทำสายตาแบบ โกรธเรามาก เรายื่นเงินให้เขา เขาไม่แม้แต่จะมองเราเลย เออ จะบอกว่าไม่เอาค่าโดยสาร ก็บอกกันดีดี สิ เราก็เลยลงจากรถโดยที่ไม่ได้จ่ายเงินค่าโดยสารเลย
รู้สึกแย่มาก ๆ ที่เจอกระเป๋ารถเมล์คันนี้้ ทำกิริยาแบบนี้ใส่ รู้สึกว่าเราผิดมากมาย รู้สึกว่า ไม่น่าพาหมามาเลย ถ้าเขาบอกเราดีดี เราไม่รู็สึกแย่เลย
และเราไม่รู้จริงๆ ว่าห้ามพาหมาขึ้นรถเมล์ พวกรถไฟฟ้า ห้าง ไรแบบรู้อยู่เพราะมีป้ายบอก ก็ไม่เคยฝีนกฎอะไรหรอก
ขนาดพาหมาเดินเล่น ยังถือทิชชู่ ถือกระดาษ ตามเก็บอึมันเลย ดังนั้นเราคิดว่า เรามีความรับผิดชอบพอ ถ้ากลัวหมาจะมีเชื้อโรค
สรุป เสียใจมาก จิกเรา อย่างกับนางร้ายจิกนางเอก โดยที่นางเอกยังไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่ลงจากรถมาแบบงง งง