ในฐานะคนเสื้อแดงคนหนึ่ง แม้จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการต่าง ๆ หลาย ๆ เรื่องของคนกลุ่มนี้ก็ตาม แต่ก็ขอคารวะคุณราตรี และคุณวีระ ในความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ยึดมั่น มีอุดมการณ์ ไม่รักตัวกลัวตาย และทันเล่ห์เหลี่ยมของเขมร แม้จะต้องถูกคุมขังก็ตาม การที่ไม่ยอมรับว่าลุกล้ำดินแดนเขมร เท่ากับว่าคุณได้ปกป้องพื้นแผ่นดินไทย ยืนยันว่าตรงนั้นเป็นดินแดนไทย ...
แต่นายอภิสิทธิ์ ดันไปออกทีวียืนยันว่า 7 คนไทยได้บุกล้ำแดนกัมพูชาจริงๆ อย่างนี้ก็บรรลัยไทยแลนด์กันละซิ ไปพูดยังงี้ก็เท่ากับไปยอมรับว่าตรงนั้นเป็นดินแดนเขมรนะสิ ทั้ง ๆ ที่ตรงนั้นยังไม่มีการพิสูจน์เขตแดนอย่างชัดเจน...ไม่รู้จะสรรหาคำด่า จะประณามนายคนนี้ยังไงดี พูดเก่ง พูดดีทุกอย่าง โวหารดีทุกเรื่อง แต่เรื่องสำคัญ ๆ กลับคิดไม่ออก พูดไม่เป็น ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมเขา.. แต่ละเรื่อง ที่ทำมาทั้งหลายทั้งปวงหาอะไรที่เป็นคุณค่าต่อประเทศไทยไม่ได้เลย นายนี่มันจุดอ่อนของประเทศไทยจริง ๆ
=========================================================================
*** เห็นแก่ประเทศชาติ ยุติบทบาททางการเมืองซะวันนี้เถิดนายอภิสิทธิ์ จะให้กราบก็ยอม...***
=========================================================================
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : แม่ลูกจันทร์ 11 เมษายน 2554
ไม่เข้าใจ
การประชุมเจบีซี ไทย-กัมพูชา ที่อินโด-นีเซีย ก็ผ่านไปโดยไม่มีความคืบหน้าในสาระ สำคัญ
ไม่มีความคืบหน้าเหมือนกรณี “วีระ สมความคิด” และ “ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์” 2 คนไทย ที่ถูกศาลพนมเปญตัดสินจำคุก 7 ปี ข้อหาเจตนารุกล้ำเขตแดน และข้อหาจารกรรมความลับความมั่นคงของกัมพูชา
นับจนถึงวันนี้ ทั้ง 2 คนไทยถูกขังคุกพนมเปญสูญสิ้นอิสรภาพมาแล้ว 4 เดือนเต็มๆ
“แม่ลูกจันทร์” ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติโกโหติกากับคนไทยทั้ง 2 คน แต่มันอดไม่ไหวที่จะรู้สึกเจ็บปวดแทน
เพราะในขณะที่คนไทยอีก 5 คน ที่เดินทางไปด้วยกัน ได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างสะดวกโยธิน
“วีระ–ราตรี” กลับถูกยัดข้อหาว่ากระทำความผิดอย่างไม่เป็นธรรมและไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ความจริง
“แม่ลูกจันทร์” ยอมรับว่ารัฐบาลไทยได้พยายามหาช่องทางที่จะเจรจาขอร้อง “นายกฯฮุน เซน” ให้ปล่อยตัว 2 คนไทยโดยเร็ว
แต่ช่องทางต่างๆที่มีอยู่ถูกปิดประตูลงกลอน
รัฐบาลกัมพูชาอ้างว่าต้องให้ 2 คนไทยถูกคุมขัง 2 ใน 3 ของกำหนดโทษเสียก่อน จึงจะมีสิทธิได้รับการอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา
ก็หมายความว่า “วีระ–ราตรี” จะต้องติดคุกเขมรอีกไม่ต่ำกว่า 4 ปี จึงมีโอกาสได้รับการปล่อยตัว
นี่คือเหตุผลที่ญาติของ “วีระ– ราตรี” ต้องหันไปขอความช่วยเหลือจาก อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ให้ช่วยเจรจากับ “ฮุน เซน” อีกแรง
แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า “ฮุน เซน” จะไม่ยอมปล่อยตัว 2 คนไทยอยู่ดี
เพราะเขี้ยวลากดินอย่างนายกฯฮุน เซน ต้องการใช้กรณี 2 คนไทย เป็นเงื่อนไขต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของกัมพูชา
หรือถ้ามองอีกมุม กรณี “วีระ– ราตรี” ทำให้รัฐบาลไทยอยู่ในสภาพเสียเปรียบกัมพูชาครึ่งช่วงตัว
แต่แทนที่รัฐบาลจะยอมรับว่าเป็นต้นเหตุให้ “วีระ–ราตรี” ต้องติดคุกเขมร 7 ปี ทั้งๆที่ไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด รัฐบาลกลับไม่พูดถึงความจริงตรงนี้เลย
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำอีกครั้งว่า ต้นเหตุที่ 7 คนไทยถูกจับกุม เพราะ พนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.ปชป. ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้นำคณะคนไทยเดินทางไปตรวจสอบข้อ เท็จจริงกรณีทหารกัมพูชาบุกรุกเข้ามายึดครองที่ดินทำกินของราษฎรไทยที่มีเอกสาร-สิทธิของทางราชการ
“วีระ–ราตรี” เป็นเพียงผู้ถูกชักชวนให้ร่วมคณะเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้นเอง
ข้อสำคัญจุดที่ 7 คนไทยถูกทหาร เขมรจับกุมก็ยังอยู่ในเขตประเทศไทย
หลักฐานที่ถูกข้อหาจารกรรมก็มีแค่กล้องถ่ายวีดิโอตัวเดียว
แถมคนไทยทั้ง 7 คน ก็เดินไปอย่างเปิดเผย ไม่ได้หลบๆซ่อนๆที่จะเข้าข่ายว่ามีเจตนาจารกรรม
แต่ที่ปัญหาบานปลายถึงคุกถึงตะราง เพราะ “นายกฯอภิสิทธิ์” ไปออกทีวียืนยันว่า 7 คนไทยได้บุกล้ำแดนกัมพูชาจริงๆ
“แม่ลูกจันทร์” ยังงงไม่หายว่า นายกฯอภิสิทธิ์ไปพูดอย่างนี้ได้อย่างไร? ในเมื่อยังไม่มีการพิสูจน์เขตแดนอย่างชัดเจน
แต่ที่ฟังแล้วงงไปกันใหญ่คือ รมว.ต่างประเทศ “กษิต ภิรมย์” ที่ออกมาตำหนิกลุ่มคนที่โจมตี “นายกฯฮุน เซน” ว่าเป็นต้นเหตุให้ “วีระ– ราตรี” ต้องติดคุกยาว
ทั้งๆที่คนที่เคยด่าทอ “ฮุน เซน” รุนแรงที่สุดว่าเป็นกุ๊ย เป็นอันธพาล ก็คือ รมว.ต่างประเทศ “กษิต ภิรมย์” นี่เอง
หรือว่า “กษิต” ตอนโน้น กับ “กษิต” ตอนนี้ ไม่ใช่คนเดียวกัน??
"แม่ลูกจันทร์"
=====================
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : แม่ลูกจันทร์ 24 มกราคม 2554
พลาดเต็มเปา
พนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำคณะคนไทยไปให้ทหารเขมรจับที่ชายแดน พร้อมคนไทยอีก 4 คน ก็บินกลับบ้านอย่างสะดวกโยธิน
หลังจากศาลพนมเปญได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 5 คน คนละ 9 เดือน ฐานรุกล้ำเขตแดนประเทศกัมพูชา
แต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 5 ยอมรับสารภาพผิด อ้างว่าเดินเข้าไปในเขตแดนกัมพูชาโดยไม่ตั้งใจ
ศาลจึงให้รอลงอาญาโทษจำคุกที่เหลืออีก 8 เดือน และอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศ ไทยได้อย่างสบายแฮ
"แม่ลูกจันทร์" มีข้อสังเกตว่าการพิจารณาคดีนี้แตกต่างจากการพิจารณาคดีทั่วไป 2 ประการ
1, ศาลพนมเปญได้กำหนดวันตัดสินคดีนี้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
แต่เมื่อรัฐบาลไทยต้องการให้คดีนี้ ยุติโดยเร็ว ศาลก็ยอมลัดคิวตัดสินคดีนี้ เร็วกว่ากำหนดถึง 12 วัน
2, การพิจารณาคดีและการตัดสินคดีแบบม้วนเดียวจบในวันเดียว โดยศาลเรียกฝ่ายโจทก์และจำเลยขึ้นให้การตั้งแต่ บ่ายสองโมงจนเสร็จสิ้นในเวลาหนึ่งทุ่มตรง
จากนั้น ศาลก็อ่านคำตัดสินในเวลา 2 ทุ่ม ซึ่งเลยเวลาทำงานปกติไปกว่า 3 ชั่วโมง
"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่าผลการตัดสินที่ออกมาเป็นตามที่คาดไว้ทุกประการ
ในแง่รัฐบาลไทย การที่สามารถเอาตัวคนไทย 5 คน กลับมาได้รวดเร็ว และ "ส.ส.พนิช" ก็ไม่ต้องพ้นสภาพ ส.ส. เพราะศาลรอลงอาญา
ถือว่าภารกิจประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ในแง่รัฐบาลกัมพูชา การที่ ส.ส. รัฐบาล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ไทยยอมรับในศาลว่าได้ล่วงล้ำเขตแดนกัมพูชาโดยไม่ตั้งใจ
ถึงแม้โทษจำคุกศาลให้รอลงอาญา แต่ในทางคดีถือว่าคนไทยทั้ง 5 ยอมรับว่ากระทำความผิดจริง
นี่คือหลักฐานสำคัญที่นายกฯฮุน เซน จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้อย่าง มโหฬาร
ทีนี้ก็ยังเหลือ "วีระ สมความคิด" และ "ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์" ที่ยืนหยัดปฏิเสธข้อหารุกล้ำเขตแดนกัมพูชา
เลยโดนยัดข้อหาจารกรรมเพิ่มพิเศษอีกกระทง!!
"แม่ลูกจันทร์" ชื่นชม "วีระ-ราตรี" ที่กล้าหาญเลือกแนวทางต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ว่าพื้นที่ที่ 7 คนไทยถูกทหารกัมพูชาจับกุมเป็นแผ่นดินของไทย 100 เปอร์เซ็นต์!!
มีพยานเอกสารและพยานบุคคลชี้ ชัดเจนว่าบริเวณที่ดินตรงนี้เป็นดินแดนไทย อยู่ในเขตประเทศไทย และราษฎรไทยได้ใช้ทำกินมายาวนานหลายชั่วคน
ก่อนจะถูกกัมพูชาใช้กำลังทหารแอบเข้ามายึดครอง
พูดง่ายๆ "วีระ สมความคิด" ยอมใช้อิสรภาพของตัวเองเป็นเดิมพัน ต่อสู้คดีเพื่อปกป้องดินแดนไทย
แต่ในเมื่อจำเลย 5 คนใน 7 คนไปยอมรับผิดต่อศาลว่าบุกรุกดินแดนกัมพูชาโดยไม่ตั้งใจ
ก็เท่ากับเหตุผลของ "วีระ" ถูกหักล้างจากพวกเดียวกันเอง
สรุปว่าเราได้ ส.ส.พนิช และ 4 คนไทยกลับคืนมา
แต่เราอาจต้องเสียดินแดนตรงนี้ให้กัมพูชาสะง่อมไปฟรีๆ!
ถึงแม้ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะออกมายืนยันว่าคำตัดสินของศาลมีผลผูกพันเฉพาะจำเลย 7 คน
ไม่มีผลผูกพันการเจรจาเขตแดนไทย-กัมพูชา
แต่ "แม่ลูกจันทร์" ไม่เชื่อสิ่งที่ "นายกฯอภิสิทธิ์" ชี้แจง
เพราะเชื่อว่าเขี้ยวลากดินอย่าง "นายกฯฮุน เซน" จะเอาประเด็นนี้ไปขยายผลเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือเขต แดนไทย
เพราะพยานปากสำคัญที่ยืนยันว่า 7 คนไทยถูกจับกุมในเขตแดนกัมพูชาคือ นายกฯอภิสิทธิ์เอง!!
แบบนี้มันก็จบเห่น่ะซีโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
ขอคารวะ คุณราตรี และ คุณวีระ ที่ไม่ยอมรับว่ารุกล้ำดินแดนเขมร แม้จะต้องสูญเสียอิสระภาพ.. แต่ไอ้คนโง่ คนนี้นี่สิ ....
แต่นายอภิสิทธิ์ ดันไปออกทีวียืนยันว่า 7 คนไทยได้บุกล้ำแดนกัมพูชาจริงๆ อย่างนี้ก็บรรลัยไทยแลนด์กันละซิ ไปพูดยังงี้ก็เท่ากับไปยอมรับว่าตรงนั้นเป็นดินแดนเขมรนะสิ ทั้ง ๆ ที่ตรงนั้นยังไม่มีการพิสูจน์เขตแดนอย่างชัดเจน...ไม่รู้จะสรรหาคำด่า จะประณามนายคนนี้ยังไงดี พูดเก่ง พูดดีทุกอย่าง โวหารดีทุกเรื่อง แต่เรื่องสำคัญ ๆ กลับคิดไม่ออก พูดไม่เป็น ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมเขา.. แต่ละเรื่อง ที่ทำมาทั้งหลายทั้งปวงหาอะไรที่เป็นคุณค่าต่อประเทศไทยไม่ได้เลย นายนี่มันจุดอ่อนของประเทศไทยจริง ๆ
=========================================================================
*** เห็นแก่ประเทศชาติ ยุติบทบาททางการเมืองซะวันนี้เถิดนายอภิสิทธิ์ จะให้กราบก็ยอม...***
=========================================================================
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : แม่ลูกจันทร์ 11 เมษายน 2554
ไม่เข้าใจ
การประชุมเจบีซี ไทย-กัมพูชา ที่อินโด-นีเซีย ก็ผ่านไปโดยไม่มีความคืบหน้าในสาระ สำคัญ
ไม่มีความคืบหน้าเหมือนกรณี “วีระ สมความคิด” และ “ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์” 2 คนไทย ที่ถูกศาลพนมเปญตัดสินจำคุก 7 ปี ข้อหาเจตนารุกล้ำเขตแดน และข้อหาจารกรรมความลับความมั่นคงของกัมพูชา
นับจนถึงวันนี้ ทั้ง 2 คนไทยถูกขังคุกพนมเปญสูญสิ้นอิสรภาพมาแล้ว 4 เดือนเต็มๆ
“แม่ลูกจันทร์” ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติโกโหติกากับคนไทยทั้ง 2 คน แต่มันอดไม่ไหวที่จะรู้สึกเจ็บปวดแทน
เพราะในขณะที่คนไทยอีก 5 คน ที่เดินทางไปด้วยกัน ได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างสะดวกโยธิน
“วีระ–ราตรี” กลับถูกยัดข้อหาว่ากระทำความผิดอย่างไม่เป็นธรรมและไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ความจริง
“แม่ลูกจันทร์” ยอมรับว่ารัฐบาลไทยได้พยายามหาช่องทางที่จะเจรจาขอร้อง “นายกฯฮุน เซน” ให้ปล่อยตัว 2 คนไทยโดยเร็ว
แต่ช่องทางต่างๆที่มีอยู่ถูกปิดประตูลงกลอน
รัฐบาลกัมพูชาอ้างว่าต้องให้ 2 คนไทยถูกคุมขัง 2 ใน 3 ของกำหนดโทษเสียก่อน จึงจะมีสิทธิได้รับการอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา
ก็หมายความว่า “วีระ–ราตรี” จะต้องติดคุกเขมรอีกไม่ต่ำกว่า 4 ปี จึงมีโอกาสได้รับการปล่อยตัว
นี่คือเหตุผลที่ญาติของ “วีระ– ราตรี” ต้องหันไปขอความช่วยเหลือจาก อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ให้ช่วยเจรจากับ “ฮุน เซน” อีกแรง
แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า “ฮุน เซน” จะไม่ยอมปล่อยตัว 2 คนไทยอยู่ดี
เพราะเขี้ยวลากดินอย่างนายกฯฮุน เซน ต้องการใช้กรณี 2 คนไทย เป็นเงื่อนไขต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของกัมพูชา
หรือถ้ามองอีกมุม กรณี “วีระ– ราตรี” ทำให้รัฐบาลไทยอยู่ในสภาพเสียเปรียบกัมพูชาครึ่งช่วงตัว
แต่แทนที่รัฐบาลจะยอมรับว่าเป็นต้นเหตุให้ “วีระ–ราตรี” ต้องติดคุกเขมร 7 ปี ทั้งๆที่ไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด รัฐบาลกลับไม่พูดถึงความจริงตรงนี้เลย
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำอีกครั้งว่า ต้นเหตุที่ 7 คนไทยถูกจับกุม เพราะ พนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.ปชป. ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้นำคณะคนไทยเดินทางไปตรวจสอบข้อ เท็จจริงกรณีทหารกัมพูชาบุกรุกเข้ามายึดครองที่ดินทำกินของราษฎรไทยที่มีเอกสาร-สิทธิของทางราชการ
“วีระ–ราตรี” เป็นเพียงผู้ถูกชักชวนให้ร่วมคณะเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้นเอง
ข้อสำคัญจุดที่ 7 คนไทยถูกทหาร เขมรจับกุมก็ยังอยู่ในเขตประเทศไทย
หลักฐานที่ถูกข้อหาจารกรรมก็มีแค่กล้องถ่ายวีดิโอตัวเดียว
แถมคนไทยทั้ง 7 คน ก็เดินไปอย่างเปิดเผย ไม่ได้หลบๆซ่อนๆที่จะเข้าข่ายว่ามีเจตนาจารกรรม
แต่ที่ปัญหาบานปลายถึงคุกถึงตะราง เพราะ “นายกฯอภิสิทธิ์” ไปออกทีวียืนยันว่า 7 คนไทยได้บุกล้ำแดนกัมพูชาจริงๆ
“แม่ลูกจันทร์” ยังงงไม่หายว่า นายกฯอภิสิทธิ์ไปพูดอย่างนี้ได้อย่างไร? ในเมื่อยังไม่มีการพิสูจน์เขตแดนอย่างชัดเจน
แต่ที่ฟังแล้วงงไปกันใหญ่คือ รมว.ต่างประเทศ “กษิต ภิรมย์” ที่ออกมาตำหนิกลุ่มคนที่โจมตี “นายกฯฮุน เซน” ว่าเป็นต้นเหตุให้ “วีระ– ราตรี” ต้องติดคุกยาว
ทั้งๆที่คนที่เคยด่าทอ “ฮุน เซน” รุนแรงที่สุดว่าเป็นกุ๊ย เป็นอันธพาล ก็คือ รมว.ต่างประเทศ “กษิต ภิรมย์” นี่เอง
หรือว่า “กษิต” ตอนโน้น กับ “กษิต” ตอนนี้ ไม่ใช่คนเดียวกัน??
"แม่ลูกจันทร์"
=====================
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : แม่ลูกจันทร์ 24 มกราคม 2554
พลาดเต็มเปา
พนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำคณะคนไทยไปให้ทหารเขมรจับที่ชายแดน พร้อมคนไทยอีก 4 คน ก็บินกลับบ้านอย่างสะดวกโยธิน
หลังจากศาลพนมเปญได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 5 คน คนละ 9 เดือน ฐานรุกล้ำเขตแดนประเทศกัมพูชา
แต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 5 ยอมรับสารภาพผิด อ้างว่าเดินเข้าไปในเขตแดนกัมพูชาโดยไม่ตั้งใจ
ศาลจึงให้รอลงอาญาโทษจำคุกที่เหลืออีก 8 เดือน และอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศ ไทยได้อย่างสบายแฮ
"แม่ลูกจันทร์" มีข้อสังเกตว่าการพิจารณาคดีนี้แตกต่างจากการพิจารณาคดีทั่วไป 2 ประการ
1, ศาลพนมเปญได้กำหนดวันตัดสินคดีนี้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
แต่เมื่อรัฐบาลไทยต้องการให้คดีนี้ ยุติโดยเร็ว ศาลก็ยอมลัดคิวตัดสินคดีนี้ เร็วกว่ากำหนดถึง 12 วัน
2, การพิจารณาคดีและการตัดสินคดีแบบม้วนเดียวจบในวันเดียว โดยศาลเรียกฝ่ายโจทก์และจำเลยขึ้นให้การตั้งแต่ บ่ายสองโมงจนเสร็จสิ้นในเวลาหนึ่งทุ่มตรง
จากนั้น ศาลก็อ่านคำตัดสินในเวลา 2 ทุ่ม ซึ่งเลยเวลาทำงานปกติไปกว่า 3 ชั่วโมง
"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่าผลการตัดสินที่ออกมาเป็นตามที่คาดไว้ทุกประการ
ในแง่รัฐบาลไทย การที่สามารถเอาตัวคนไทย 5 คน กลับมาได้รวดเร็ว และ "ส.ส.พนิช" ก็ไม่ต้องพ้นสภาพ ส.ส. เพราะศาลรอลงอาญา
ถือว่าภารกิจประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ในแง่รัฐบาลกัมพูชา การที่ ส.ส. รัฐบาล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ไทยยอมรับในศาลว่าได้ล่วงล้ำเขตแดนกัมพูชาโดยไม่ตั้งใจ
ถึงแม้โทษจำคุกศาลให้รอลงอาญา แต่ในทางคดีถือว่าคนไทยทั้ง 5 ยอมรับว่ากระทำความผิดจริง
นี่คือหลักฐานสำคัญที่นายกฯฮุน เซน จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้อย่าง มโหฬาร
ทีนี้ก็ยังเหลือ "วีระ สมความคิด" และ "ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์" ที่ยืนหยัดปฏิเสธข้อหารุกล้ำเขตแดนกัมพูชา
เลยโดนยัดข้อหาจารกรรมเพิ่มพิเศษอีกกระทง!!
"แม่ลูกจันทร์" ชื่นชม "วีระ-ราตรี" ที่กล้าหาญเลือกแนวทางต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ว่าพื้นที่ที่ 7 คนไทยถูกทหารกัมพูชาจับกุมเป็นแผ่นดินของไทย 100 เปอร์เซ็นต์!!
มีพยานเอกสารและพยานบุคคลชี้ ชัดเจนว่าบริเวณที่ดินตรงนี้เป็นดินแดนไทย อยู่ในเขตประเทศไทย และราษฎรไทยได้ใช้ทำกินมายาวนานหลายชั่วคน
ก่อนจะถูกกัมพูชาใช้กำลังทหารแอบเข้ามายึดครอง
พูดง่ายๆ "วีระ สมความคิด" ยอมใช้อิสรภาพของตัวเองเป็นเดิมพัน ต่อสู้คดีเพื่อปกป้องดินแดนไทย
แต่ในเมื่อจำเลย 5 คนใน 7 คนไปยอมรับผิดต่อศาลว่าบุกรุกดินแดนกัมพูชาโดยไม่ตั้งใจ
ก็เท่ากับเหตุผลของ "วีระ" ถูกหักล้างจากพวกเดียวกันเอง
สรุปว่าเราได้ ส.ส.พนิช และ 4 คนไทยกลับคืนมา
แต่เราอาจต้องเสียดินแดนตรงนี้ให้กัมพูชาสะง่อมไปฟรีๆ!
ถึงแม้ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะออกมายืนยันว่าคำตัดสินของศาลมีผลผูกพันเฉพาะจำเลย 7 คน
ไม่มีผลผูกพันการเจรจาเขตแดนไทย-กัมพูชา
แต่ "แม่ลูกจันทร์" ไม่เชื่อสิ่งที่ "นายกฯอภิสิทธิ์" ชี้แจง
เพราะเชื่อว่าเขี้ยวลากดินอย่าง "นายกฯฮุน เซน" จะเอาประเด็นนี้ไปขยายผลเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือเขต แดนไทย
เพราะพยานปากสำคัญที่ยืนยันว่า 7 คนไทยถูกจับกุมในเขตแดนกัมพูชาคือ นายกฯอภิสิทธิ์เอง!!
แบบนี้มันก็จบเห่น่ะซีโยม.
"แม่ลูกจันทร์"