ชีวิตที่เคยแย่ แต่ก็ยังได้ดี

ชีวิตที่ไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง ครอบครัวผมอยู่ในฐานะปานกลาง แต่เมื่อก่อนอาจจะใช้คำว่าต่ำก็ได้ แม่ทำอาชีพค้าขายเดือนนึงเฉลี่ย2หมื่นได้ส่วนพ่อทำไร่ทำนาเลี้ยงวัวรายได้ไม่แน่นอน
     ตัวผมเป็นคนเอาแต่ใจอาจเป็นเพราะผมเป็นลูกคนเดียว เพราะพี่ชายเสียชีวิตั้งแต่ผมได้10ขวบ ชีวิตผมหัวสูงแต่ก็เรียนไม่เก่ง ดื่มเหล้าสำมะเรเทเมา แม่ไม่สบายให้ไปส่งหาหมอผมก็ไม่ไปมัวแต่ไปกินเหล้ากับเพื่อน เรียนม.6ไม่จบต้องเรียนต่อกศน.เอา สิ่งเดียวที่ผมดีตอนนั้นก็คือไม่สูบบุหรี่กับเล่นยาคับ
     ผมยังจำได้ตอนนั้นไปเดินห้างผมอยากได้กางเกงยีนต์ยี่ห้อแม็ก ราคาพันกว่าบาทแม่ถึงกับร้องไห้เพราะเสียดายตัง บอกผมว่ารอบนี้แม่หาเงินได้2-3พันเองนะ แต่ผมไม่ฟังรั้นเอาจนได้
     ตอนนั้นผมมีเพื่อน2กลุ่มทั้งดีและไม่ดี ผมตัดสินใจเลิกคบกลุ่มเพื่อนที่ไม่ดี เพราะมันทำให้ชีวิตผมแย่เรียนก็ไม่จบ จากนั้นผมก็ตั้งใจเรียนให้จบม.6 กศน.
     หลังจากนั้นเพื่อนๆไปเรียนกรุงเทพ เชียงใหม่กันหมดและผมก็อยากไปเรียนเชียงใหม่ตามเพื่อนพ่อแม่ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง จนสุดท้ายก็ได้ไปเรียเอกชนสมใจ
     แม่ต้องทำงานหนักกว่าเดิม ร้องไห้เรื่องเงินบ้างก็มี ยิ่งตอนนั้นแม่ตกเก้าอี้แขนหักไม่สามารถไปหาเงินได้ เงินที่มีก็สร้างบ้านหมดไปเยอะ แม่ปิดบังผมเพราะกลัวผมกลับบ้าน จนมาบอกผมอีกครั้ง1เดือนต่อมา
     จากนั้นเมื่อผมเรียนจบปวส.ก็ได้กลับมาอยู่บ้านเพราะผมจบช้าต้องเสียเวลารอวุฒิ1ปี จากนั้นผมก็หาไรทำเพราะไม่อยากเป็นภาระให้พ่อแม่ ความคิดสงสารทางบ้านเกิดขึ้นก็ตอนที่ผมไปอยู่ต่างจังหวัดนั่นแหละมันทำให้ผมรู้ว่าถ้าผมขาดท่านไปผมคงเสียใจแน่ถ้าไม่ได้ไถ่โทษ
     จากนั้นผมไปทำงานกับแม่แต่หาต่างหาก 12วันได้เงินรอบแรก2หมื่นกว่าผมดีใจมากและเริ่มติดใจอยากไปอีก พอกลับมาบ้านผมก็เอาของไปขายต่างจังหวัด2วันได้ครั้งนึงก็พันกว่าบาท แต่ผมเห็นว่าวันว่างผมเหลือตั้ง16วันก็เลยร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านกาแฟ เดือนนึงหักค่าใช้จ่ายแล้วก็เหลือหลายพันอยู่
     ชีวิตผมตอนนั้นเหนื่อยมากๆ บางทีปิดร้าน3-4ทุ่มเพระมีลูกค้าและเพื่อนเอาเหล้าเบียร์มากิน เราก็ต้องเฝ้าเค้าจนบางทีก็เมาเป็นเพื่อนด้วยซะเลย ชีวิตผมเป็นอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว เหนื่อยสุดๆ จนได้เจอแฟนผมคนนี้
     เราตัดสินใจทำธุรกิจส่วนตัวด้วยกัน ด้วยเงิน4แสนบาทที่ยืมมาจากญาติพี่น้อง ผมตัดสินใจหยุดอาชีพที่เคยทำทั้งหมด เริ่มต้นไหม่กับแฟนจนตอนนี้ผมมีทุกอย่างแล้ว รายได้ผมกกับแฟนได้กำไรเนอะๆเดือนละ1แสน จุนเจือครอบครัวทั้ง2ฝ่าย
     ตอนนี้ผมมีเท่าไหร่ผมทุ่มให้พ่อแม่หมด ผมรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องอดีต ผมบอกกับท่านว่าต่อไปนี้ผมจะเป็นเลี้ยงดูท่านเองสบายใจได้ ตอนนี้สถานะการเงินครอบครัวผมดีขึ้น แม่ผมมีรายได้มากขึ้นถึงเดือนละ4หมื่นบาท อาจเพราะผมไม่ได้เป้นตัวถ่วงแล้วก็ได้555 ตอนนี้ชีวิตผมคงยากที่จะได้เรียนต่ออีก2ปีเพราะกำลังยุ่งกับเรื่องงานคงต้องมีสักวันผมจะคว้าปริญญามาให้พ่อกับแม่คับ
     เรื่องราวในชีวิตผมอาจจะทำให้คนที่กำลังทำตัวแย่ๆอยู่ในตอนนี้ คิดและทบทวนดูว่าคุณควรจะทำยังไงต่อไป วันนึงคุณอาจจะไม่ได้ไถ่บาปเหมือนที่ผมทำอยู่ก็ได้ สวัสดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
สิ่งที่ทำให้ผมคิดได้คือ
1. เพื่อนกลุ่มที่เกเรด้วยกันทำงานโรงงานกันหมด ผมเคยเห็นสังคมที่เค้าอยู่ ผมไม่อยากอยู่แบบนั้น
2. ผมเห็นเพื่อนได้ดีกัน มีรถขับผมก็อยากมีเหมือนเค้ามั่ง
3. ผมไม่ชอบสายตาที่ใครๆมองผม มันเหมือนเค้าไม่อยากคุยกับผม/แต่ตอนนี้ตรงกันข้ามคับคนมีเงินที่ผมเคยทักแล้วเค้าไม่ทักผม กลับทักผมก่อนทุกครั้ง เพื่อนบ้านนี่เรียกผมกันเล่นๆว่าพ่อเลี้ยง 555
4. แม่บอกผมว่าชาตินี้เราคงไม่มีโอกาสได้ขับป้ายแดงเหมือนคนอื่นเค้าเนอะ/ตอนนี้ผมมีรถเก๋งส่วนตัว แล้วก็ซื้อกะบะให้พ่อแม่อีก1คันคับ แกไม่ได้ขับไปไหนขับแต่รถเก่า แต่ก็จอดคลุมผ้าไว้ให้รู้แล้วว่ามีป้ายแดงกะเค้าแล้ว
5. แม่พูดกับผมว่าแม่คงได้ทำงานเหนื่อยอย่างนี้จนตาย คงไม่มีโอกาสได้จับเงินล้านกะเค้า/ตอนนี้แกมีเงินเดือนแล้วคับ ผมให้ทุกเดือน อยากไปหาเงินก็ไปไม่อยากก็ไม่ต้องไป ส่วนเงินล้านที่อยากจับผมก็ฝากไว้ที่แกเกินล้านแล้วคับ
6. แฟนคนเก่ากับเพื่อนของเค้า สบประหม่าผมว่าผมไม่มีน้ำยา ผมไม่ทางทำให้เพื่อนเค้าสบายได้หรอก/แต่ตอนนี้กลับโทรขอยืมเงินผม555เสียใจผมไม่ให้หรอกแถมเคลียร์สายทิ้งด้วย
7. และที่สำคัญคือแฟนคับ แฟนผมเป็นคนดีผมก็เลยได้สิ่งที่ดีเต็มสมองมาเลยคับ555
ทุกวันสำคัญผมมีของขวัญให้พ่อแม่ตลอด ผมดีใจที่ได้เห็นแกมีความสุข ยิ่งตอนนี้ผมบอกว่าจะเปลี่ยนรถใหม่คันละล้านกว่า โน่นไปโม้ข้างบ้านหมดเลย ว่าแกจะเป็นคนนั่งหน้าออกศูนย์ให้555 แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วคับ
ความคิดเห็นที่ 17
    ธุรกิจที่ผมทำอยู่ เป็นธุรกิจที่แฟนผมเค้าเคยทำตอนคบกับแฟนเก่าคับ แต่ก็ต้องเลิกทำเพราะว่าแยกทางกันไป เราจึงตัดสินใจลองทำมันอีกครั้งโดยตอนแรกลงทุนไป3แสน ธุรกิจก็ไปด้วยดีคับไม่มีปัญหา
     แต่จู่ก็มีเรื่องให้คิดหนักขึ้นมาอีก คือตึกห้องข้างๆเค้าย้ายออกซึ่งมีคนมาขอติดต่อเช่าหลายราย ให้ราคาแพง หรือแม้กระทั่งขอซื้อตึกเลยก็มี แต่ที่ปวดใจที่สุดก็คือมันเป็นธุรกิจเดียวกับผมนี่สิ ทั้งที่เราเป็นคนบุกเบิกแถวนี้แท้ๆ
    ไอ้ผมตอนนั้นเงินที่ได้กำไรมาก็ยังไม่ได้มากเพราะต้องแบ่งใช้หนี้ไปด้วย เท้านี่แทบเกยหน้าผากเพราะกลัวโดนตัดราคามั่ง ลอกเลียนแบบยี่ห้อมั่ง ในที่สุดจึงตัดสินใจยืมเงินแม่อีก1แสนขยายร้าน โชคดีที่สุดของผมตอนนั้นก็คือ คนเก่าที่ย้ายแกไปคุยกับเจ้าของตึกว่าเราเป็นหลาน จะขอเช่าต่อเลย โดยแกก็ตกลงให้ แต่ขอค่าเช่าเพิ่มและให้จ่ายภาษีโรงเรือนกับประกันเอาเอง ผมก็เลยตกลงทันทีเลยคับ
    หายเครียดแต่ก็เหนื่อยเพิ่มขึ้น จนตอนนี้ผ่านไป3ปีทุกอย่างลงตัวหมดแล้วคับ ผมมีเวลาได้เที่ยวกะเค้าก็ตอนเข้าปีที่3นี่แหละ แต่ก่อนทำงานปีนึง365วันเต็ม เพราะอยากใช้หนี้ให้หมดเร็วๆ เดี๋ยวนี้ได้เที่ยวเมืองนงเมืองนอกกะเค้าด้วย555ถือว่าเป็นรางวัลชีวิตให้ตัวเองคับ    
    ตอนนี้ผมอายุ26เอง คงจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นในชีวิตผมอีกเยอะ ให้เราทั้งคู่ต้องเผชิญมัน แต่ผมก็พร้อมนะ เพราะคิดว่าตัวเราแกร่งในระดับนึงกันแล้ว และที่สำคัญผมยังมีคนที่ห่วง คนที่เค้ารักเดินจับมืออยู่เคียงข้าง
    ผมจะพูดกับตัวเองเสมอตอนที่เหนื่อย หรือเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ที่เค้าได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นได้กินได้เที่ยว ว่า "เหนื่อยหน่อยนะแต่ก็จะได้สบายเร็วๆ"แล้ววันนึงพอผมไปได้ไกล ผมจะหันหลังกลับมาดูอดีต กับรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจคับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่