ภรรยาผม ฝาก โพสต์
ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ว่าจะแจ้งเรื่องนี้ได้ที่ไหน คิดว่า พันทิพ นี่แหละที่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้ได้
เรื่องมีอยู่ว่า
วันที่ 8 ก.พ. 56 ได้รับ sms จาก ธ.กสิกรไทย ดังนี้
ขอแจ้งข้อมูลบัตรเครดิตกสิกร X-5786
ยอดที่ต้องชำระ 7,742.81 ครบกำหนดชำระวันที่ 11-02-13
ขออภัยหากชำระแล้ว
เมื่อได้รับ sms แล้ว ดิฉันจึงไปค้นใบแจ้งหนี้ เพราะจำได้ว่ายังไม่ได้รับใบแจ้งหนี้ดังกล่าว เมื่อหาไม่เจอจึงโทรไปที่ contact center ของ Kbank ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ สรุปความได้ดังนี้
1. ธนาคารยังไม่ได้ส่งใบแจ้งหนี้จริง ๆ เพราะเกิดปัญหาบางอย่างของธนาคารเอง จึงส่งข้อมูลให้ทาง sms
2. สามารถนำบัตรเครดิตไปชำระตามยอดเงินที่ระบุใน sms ได้เลยที่ ธ. ทุกสาขา
ดิฉันนึกได้ว่าเพิ่งซื้อตั๋วเครื่องบินยอดเงิน 72,xxx บาท โดยหักผ่านบัตรเครดิต และต้องเดินทางไปต่างประเทศสัปดาห์หน้า เลยอยากชำระเงินค่าตั๋วเครื่องบินดังกล่าวเสียเลยก่อนเดินทาง จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า
หาก ธ. ยังไม่เรียกเก็บเงิน แต่จะจ่ายก่อนได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไร
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลแล้วให้คำตอบว่า ยอดล่าสุดที่ต้องชำระคือยอดที่ปรากฎใน sms แล้ว
คำตอบของเจ้าหน้าที่ทำให้ดิฉันต้องซักถามอยู่นาน ในที่สุดได้ข้อสรุปว่า
ยอดเงินที่ระบุใน sms ให้ไปชำระนั้น เป็นยอดขั้นต่ำ 10% เท่านั้น ซึ่งมาจากยอดเต็ม 77,4281.x บาท
ดิฉันจึงขอร้องให้ส่ง sms ใหม่เป็นจำนวนเงินที่ต้องชำระเต็ม เพื่อความสะดวกในการไปชำระที่เคาร์เตอร์ธนาคาร จนท.บอกว่า ส่งยอดชำระเต็มให้ไม่ได้ ต้องจดเอาเอง ยอดที่จะแจ้งทาง sms คือยอดขั้นต่ำเท่านั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า ดิฉันเป็นคนต้องการให้แจ้งยอดขั้นต่ำเอง (ซึ่ง ดิฉันจำไม่ได้จริง ๆ ว่าเผลอบอกแบบนั้นเมื่อไร อย่างไร…..คาดว่าข้อความดังกล่าวคงอยู่ในเอกสารตอนสมัครบัตรเครดิต ซึ่งคงอยู่ในส่วนตัวอักษรเล็ก ๆ เยอะ ๆ ที่ดิฉันอ่านไม่ถนัด อันนี้ยอมรับผิดเองค่ะ ที่ไม่ระวังในการลงนามเอกสาร)
ดิฉันรู้สึกว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ เหมือนตั้งใจจะให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้า
เพราะหากดิฉันยังไม่คิดจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ก็คงไม่ซักถามต่อ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่ายอดเงินที่ต้องจ่ายคือ 7,742.81 ซึ่งทำให้ดิฉันต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยให้ธนาคารแน่ ๆ ในงวดต่อไป ต้องขอเรียนว่าลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตหลายใบและไม่ละเอียดรอบคอบมากพอจะจดทุกครั้งว่าใช้ซื้ออะไร เท่าไร ด้วยบัตรใบไหน ตัดยอดวันไหน ต้องจ่ายวันไหน ฯลฯ……. แบบดิฉัน ต้องมีอีกหลายคนแน่ ๆ
ดิฉันขอฝากความไปถึงผู้บริหารระดับสูงของ ธ.กสิกรไทย ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ และอำนาจมากพอจะแก้ไขปัญหานี้ได้ ดังนี้
1. หากผู้บริหารระดับสูงทราบและเห็นด้วยกับเรื่องแบบนี้
ขอให้คิดทบทวนใหม่ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นานนะคะ ดอกเบี้ยเล็ก ๆ น้อยๆ ที่จะได้จากลูกค้าเฟอะฟะแบบดิฉันไม่มากมายหรอกคะ แต่การสูญเสียความไว้วางใจมีผลกระทบต่อธุรกรรมในอนาคตมากกว่านะคะ ลองคิดดูให้ดี
2. หากผู้บริหารระดับสูงไม่ทราบเรื่องแบบนี้
ขอให้รับทราบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในองค์กรของท่าน และเร่งแก้ไขโดยด่วนนะคะ เพื่อผลประกอบการของ ธ.กสิกรไทยเอง
ผู้อ่านท่านใดรู้จักผู้บริหารระดับสูงของ ธ.กสิกรไทย รบกวนขอร้องให้ท่าน ๆ มาอ่านด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอฝากความถึงผู้บริหารระดับสูงของ ธนาคารกสิกรไทย
ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ว่าจะแจ้งเรื่องนี้ได้ที่ไหน คิดว่า พันทิพ นี่แหละที่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้ได้
เรื่องมีอยู่ว่า
วันที่ 8 ก.พ. 56 ได้รับ sms จาก ธ.กสิกรไทย ดังนี้
ขอแจ้งข้อมูลบัตรเครดิตกสิกร X-5786
ยอดที่ต้องชำระ 7,742.81 ครบกำหนดชำระวันที่ 11-02-13
ขออภัยหากชำระแล้ว
เมื่อได้รับ sms แล้ว ดิฉันจึงไปค้นใบแจ้งหนี้ เพราะจำได้ว่ายังไม่ได้รับใบแจ้งหนี้ดังกล่าว เมื่อหาไม่เจอจึงโทรไปที่ contact center ของ Kbank ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ สรุปความได้ดังนี้
1. ธนาคารยังไม่ได้ส่งใบแจ้งหนี้จริง ๆ เพราะเกิดปัญหาบางอย่างของธนาคารเอง จึงส่งข้อมูลให้ทาง sms
2. สามารถนำบัตรเครดิตไปชำระตามยอดเงินที่ระบุใน sms ได้เลยที่ ธ. ทุกสาขา
ดิฉันนึกได้ว่าเพิ่งซื้อตั๋วเครื่องบินยอดเงิน 72,xxx บาท โดยหักผ่านบัตรเครดิต และต้องเดินทางไปต่างประเทศสัปดาห์หน้า เลยอยากชำระเงินค่าตั๋วเครื่องบินดังกล่าวเสียเลยก่อนเดินทาง จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า
หาก ธ. ยังไม่เรียกเก็บเงิน แต่จะจ่ายก่อนได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไร
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลแล้วให้คำตอบว่า ยอดล่าสุดที่ต้องชำระคือยอดที่ปรากฎใน sms แล้ว
คำตอบของเจ้าหน้าที่ทำให้ดิฉันต้องซักถามอยู่นาน ในที่สุดได้ข้อสรุปว่า
ยอดเงินที่ระบุใน sms ให้ไปชำระนั้น เป็นยอดขั้นต่ำ 10% เท่านั้น ซึ่งมาจากยอดเต็ม 77,4281.x บาท
ดิฉันจึงขอร้องให้ส่ง sms ใหม่เป็นจำนวนเงินที่ต้องชำระเต็ม เพื่อความสะดวกในการไปชำระที่เคาร์เตอร์ธนาคาร จนท.บอกว่า ส่งยอดชำระเต็มให้ไม่ได้ ต้องจดเอาเอง ยอดที่จะแจ้งทาง sms คือยอดขั้นต่ำเท่านั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า ดิฉันเป็นคนต้องการให้แจ้งยอดขั้นต่ำเอง (ซึ่ง ดิฉันจำไม่ได้จริง ๆ ว่าเผลอบอกแบบนั้นเมื่อไร อย่างไร…..คาดว่าข้อความดังกล่าวคงอยู่ในเอกสารตอนสมัครบัตรเครดิต ซึ่งคงอยู่ในส่วนตัวอักษรเล็ก ๆ เยอะ ๆ ที่ดิฉันอ่านไม่ถนัด อันนี้ยอมรับผิดเองค่ะ ที่ไม่ระวังในการลงนามเอกสาร)
ดิฉันรู้สึกว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ เหมือนตั้งใจจะให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้า
เพราะหากดิฉันยังไม่คิดจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ก็คงไม่ซักถามต่อ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่ายอดเงินที่ต้องจ่ายคือ 7,742.81 ซึ่งทำให้ดิฉันต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยให้ธนาคารแน่ ๆ ในงวดต่อไป ต้องขอเรียนว่าลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตหลายใบและไม่ละเอียดรอบคอบมากพอจะจดทุกครั้งว่าใช้ซื้ออะไร เท่าไร ด้วยบัตรใบไหน ตัดยอดวันไหน ต้องจ่ายวันไหน ฯลฯ……. แบบดิฉัน ต้องมีอีกหลายคนแน่ ๆ
ดิฉันขอฝากความไปถึงผู้บริหารระดับสูงของ ธ.กสิกรไทย ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ และอำนาจมากพอจะแก้ไขปัญหานี้ได้ ดังนี้
1. หากผู้บริหารระดับสูงทราบและเห็นด้วยกับเรื่องแบบนี้
ขอให้คิดทบทวนใหม่ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นานนะคะ ดอกเบี้ยเล็ก ๆ น้อยๆ ที่จะได้จากลูกค้าเฟอะฟะแบบดิฉันไม่มากมายหรอกคะ แต่การสูญเสียความไว้วางใจมีผลกระทบต่อธุรกรรมในอนาคตมากกว่านะคะ ลองคิดดูให้ดี
2. หากผู้บริหารระดับสูงไม่ทราบเรื่องแบบนี้
ขอให้รับทราบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในองค์กรของท่าน และเร่งแก้ไขโดยด่วนนะคะ เพื่อผลประกอบการของ ธ.กสิกรไทยเอง
ผู้อ่านท่านใดรู้จักผู้บริหารระดับสูงของ ธ.กสิกรไทย รบกวนขอร้องให้ท่าน ๆ มาอ่านด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ