เรามาดูสองฝ่ายอาสาทำงานให้กับคนกรุงเทพกัน

ฝ่ายหนึ่ง ชูนโยบาย รถเมล์ฟรีทุกคัน ออกทุก 5 นาที
ส่วนอีกฝ่าย จะฟ้อง กกต.เรื่องหาเสียงเกินอำนาจผู้ว่าฯกทม.

ฝ่ายหนึ่ง ชูนโยบาย นั่งเรือฟรี
ส่วนอีกฝ่าย ห่วงไม่เป็นธรรมกับคนต่างจังหวัด

ฝ่ายหนึ่ง เฝ้าระวังบ้านทุกหลัง 365 วัน
ส่วนอีกฝ่าย คอยตรวจสอบคดีเก่าว่าอีกฝ่ายขาดคุณสมบัติหรือไม่

ฝ่ายหนึ่ง จะร่วมมือกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ
ส่วนอีกฝ่าย จะคอยถ่วงดุลรัฐบาล

ฝ่ายหนึ่ง ชูนโยบายคืนความสุขให้กับคนกรุงเทพ
ส่วนอีกฝ่าย วอนสื่อฯช่วยตรวจสอบว่านโยบายคนอื่นทำได้จริงหรือไม่

ฝ่ายหนึ่ง ชูนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด
ส่วนอีกฝ่าย ให้คู่แข่งแจงเหตุไม่ลาออกเลขาธิการ ปปส.

ฝ่ายหนึ่ง จะนำสายไฟลงดิน
ส่วนอีกฝ่าย ไม่ให้คนเลือกเสาไฟฟ้า

ฝ่ายหนึ่ง แม้โพลนำก็ยังขยันลงพื้นที่
ส่วนอีกฝ่าย คอยดีสเครดิตสำนักโพล

ฝ่ายหนึ่ง จะเดินหน้าเปลี่ยนแปลงกรุงเทพ
ส่วนอีกฝ่าย จะสานต่องานที่ยังคั่งค้าง

ฝ่ายหนึ่ง ชูนโยบายสร้างทางเท้า เอื้อคนพิการ
ส่วนอีกฝ่าย โวยนายกฯใช้รถราชการช่วยหาเสียง

ฝ่ายหนึ่งชู นโยบายป้ายรถเมล์สว่างทุกป้าย พร้อมห้องน้ำ
ส่วนอีกฝ่าย คอยนับป้ายหาเสียงคู่แข่งเกินกฎหมายกำหนด

ฝ่ายหนึ่งชู นโยบายติดกล้องซีซีทีวีทุกมุมอันตราย
ส่วนอีกฝ่าย โพสภาพตัดต่อใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม

ฝ่ายหนึ่ง สร้างสะพานทางเดินจากสะพานพระราม 8 ไปถึงสะพานสาทร
ส่วนอีกฝ่าย มัวสงสัยขับรถเมล์มีใบขับขี่สาธารณะหรือไม่

ฝ่ายหนึ่ง ต้องการยกระดับศูนย์อนามัยชุมชนให้เป็นโรงพยาบาลชุมชน
ส่วนอีกฝ่าย ยื่นตรวจสอบคู่แข่งลงนามเช่ารถตำรวจ

ฝ่ายหนึ่งชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องคนกรุงเทพ
อีกฝ่ายหนึ่ง สงสัยคู่แข่งเคยเปลี่ยนชื่อหวังเลื่อนยศ

และสุดท้ายฝ่ายหนึ่ง ชูนโยบายแก้ไขระบบอัคคีภัย
ส่วนอีกฝ่าย คอยใส่ไฟเรื่องเผาบ้านเผาเมือง