บทนี้เป็นบทความของร้านทอรุ้งในลำดับที่ 29 ของกิจการครับ
ร้านทอรุ้งเป็นร้านกิ๊ฟช็อปเล็กๆ เป็นกิจการที่เซ้งเขามาอีกต่อหนึ่ง จากมองเห็นลู่ทาง
กิจการตอนนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา เปิดกิจการมาได้ปีกว่าๆ กิจการอยู่ได้และพอมีกำไร
วันนี้เราตัดสินใจที่จะกระโดดไปข้างหน้า โดย “การขยายกิจการ”
โดยจะไปเช่าอาคารพาณิชย์สามคูหา และ จะแตกไลน์สินค้า
มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า ...
ผมมักกล่าวย้ำเสมอๆถึงเรื่องกับเรื่องของ “โอกาส”
“โอกาสจะผ่านหาเราเสมอ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะคว้ามันได้หรือเปล่า
และโดยมากโอกาสมันมักจะมาตอนที่เราไม่พร้อมเสมอๆ”
และคราครั้งนี้ก็เช่นกัน ...
เมื่อวานเย็นๆ ผมขับรถผ่านเส้นทางเดิมๆ ด้วยการจราจรที่จอแจ ผมรถติดอยู่ในตลาด
ผมก็มองดูไปรอบๆ พบเห็นสิ่งที่ “ผิดแปลกไปจากเดิม” มันคือ “ป้ายแขวนให้เช่า”
หืมม ... ร้านเฟอร์นิเจอร์ไปแล้วหรือ? สงสัยย้ายไปแล้ว
ร้านเฟอร์นิเจอร์นี้กินบริเวณกว้างหลายคูหาพอสมควร
ทำเลอาคารพาณิชย์ตรงนี้ดีกว่าที่ที่เราอยู่ปัจจุบัน เนื่องจากเป็นหัวมุม
ผมขับรถกลับถึงร้านทอรุ้งบอกภรรยาว่า
ซอยถัดไปตรงร้านเฟอร์นิเจอร์เขามีป้ายแขวนให้เช่าลองไปสืบดูมั้ย
เธอแว้นฟีโน่หายไปพักหนึ่ง กลับมาเล่าน่าตาตื่น
ได้ความว่า ... อาคารพาณิชย์สองชั้นครึ่งหลังมุม ปล่อยเช่าจริง ยังไม่มีคนจอง อีกทั้ง ราคาน่าคบหา
สมองวิ่งอย่างรวดเร็วคิดไปต่างๆนา ผมเปิดสมุดโน้ตดูแผนกิจการที่วางไว้
เรามีแผนขยายกิจการอยู่ก็จริงแต่ในแผนการมันยังไม่ใช่ตอนนี้
เราติดขัดหลายจุด เงินทุนเริ่มเก็บมาพักหนึ่งแต่ยังไม่มากพอ
อีกทั้งภรรยาผมพึ่งรับงานใหญ่มาจึงต้องออกไปทำงานนอกร้านบางช่วง
แต่โดยรวมแล้ว ... ผมก็สนใจๆทำเลนี้มากพอสมควร
รุ่งเช้าผมไปทำงานตามปกติ สายๆโทรบอกเล่าเรื่องทำเลที่ผมสนใจให้ฟังและให้แม่ลองสืบดู
เพราะว่าอาคารนี้ที่จริงเรารู้จักเจ้าของแต่กำลังสงสัยที่ว่า “คนที่เราคุยไม่ใช่เจ้าของ” ที่เรารู้จัก
หลังจากการสืบ เจ้าของเดิมปล่อยเช่ายกชุด 9 คูหามาให้คนนี้แล้ว
ในสัญญาสามารถปล่อยเช่าช่วงได้และพี่คนนี้เลยนำมาปรับปรุงและปล่อยต่อ
หลังจากได้ความ แม่จึงโทรสอบถามและโทรนัดเข้าไปดูสถานที่
ผมรีบทำงานและตามไปสมทบอย่างรวดเร็ว
เรื่องของผมชอบแอบมีโชคช่วยบ้างนิดๆหน่อยๆ 555+
เช่น ตอนที่เซ๊งกิจการมาในตอนแรก (ติดตามอ่านได้ใน ทอรุ้ง ตอนที่ 1)
พี่ที่จะปล่อยให้เช่า คนนี้บอกว่า พึ่งแขวนป้ายให้เช่าเมื่อวานตอนบ่ายๆ
แล้วตอนเย็นก็ได้ขึ้นไปจุดธูปบอกเจ้าที่ ด้านบน เสร็จแล้วก็ลงมาข้างล่าง
ลงมาปุ๊ปภรรยาผมเข้าไปดูสถานที่พอดิบพอดี ...
ครั้งนี้ผมมีเหตุผลประกอบการพิจารณาสามประการ
1. ผมยอมรับแต่โดยดีว่าเคสนี้ผมมีเวลาวิเคราะห์ คำนวณ และ ตัดสินใจน้อยมากๆ
โชคยังดีที่ผม “ทำการบ้านมาอย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่วางไว้ก่อนหน้า”
จึงพอประมาณการณ์ได้บ้าง ค่าใช้จ่ายคงที่ ค่าใช้จ่ายแปรผัน คาดการณ์เงินลงทุน
เดารายรับที่น่าจะเป็นขั้นต่ำที่น่าจะเป็น แต่ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ในทางธุรกิจพอสมควร
สรุปคือ ... จะเฮงหรือเปล่าไม่รู้ว่ากันอีกที แต่อย่างน้อยๆก็น่าจะอยู่ได้
2. ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะทำเลนี้ไม่เกินวันสองวัน ต้องโดนเช่าไปแน่นอน
3. ผมค่อนข้างไม่พร้อมที่จะขยายกิจการในตอนนี้ในหลายเรื่อง
แต่ปัญหาที่ติดขัดอยู่ น่าจะมีทางแก้ไขได้ และ อีกทั้งโอกาสแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
หลังจากสำรวจตรวจตาและปรึกษากันไม่นาน เราก็ลงความเห็นว่า
“เราตกลงที่จะเช่าอาคารพาณิชย์สามคูนี้”
ตอนนี้แผนกิจการมีแค่แบบร่างคร่าวๆ แต่ตอนยังไม่มีรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น
คงมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ แล้วพบกันแน่ กับ ... “ร้านเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อปทอรุ้ง” เวอร์ชั่นใหม่ ฮึๆๆๆ...
เขาว่ากันว่า ... บนเขาสูงลูกนั้น มีทิวทัศน์ที่สวยงามเกินบรรยาย
ผมเริ่มออกเดินทางขึ้นเขามาได้พักหนึ่ง มองเห็นยอดเขาอยู่ลิบๆ เบื้องหน้า
วันนี้โชคช่วย เสาะพบทางเดินขึ้นยอดเขาอีกทางหนึ่ง ....
มองดูหนทางที่เต็มไปด้วยป่ารก สูงชัน และ หมอกหนาทึบ แลมากมายด้วยอุปสรรค
แต่ผมตัดสินใจว่าจะเลือกเดินทางนี้ ดังนั้นแล้ว . . . ผมจะสู้สุดใจ
ขอให้บทความชิ้นนี้จงได้สร้างประโยชน์ให้แก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน
ขอให้ความร่ำรวยและความสุขสวัสดิ์จงมาสถิตแด่ท่าน
…[^_^]…
วันนี้ผมตัดสินที่ “กระโดด” ไปข้างหน้า ถึงแม้ว่า ...
ร้านทอรุ้งเป็นร้านกิ๊ฟช็อปเล็กๆ เป็นกิจการที่เซ้งเขามาอีกต่อหนึ่ง จากมองเห็นลู่ทาง
กิจการตอนนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา เปิดกิจการมาได้ปีกว่าๆ กิจการอยู่ได้และพอมีกำไร
วันนี้เราตัดสินใจที่จะกระโดดไปข้างหน้า โดย “การขยายกิจการ”
โดยจะไปเช่าอาคารพาณิชย์สามคูหา และ จะแตกไลน์สินค้า
มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า ...
ผมมักกล่าวย้ำเสมอๆถึงเรื่องกับเรื่องของ “โอกาส”
“โอกาสจะผ่านหาเราเสมอ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะคว้ามันได้หรือเปล่า
และโดยมากโอกาสมันมักจะมาตอนที่เราไม่พร้อมเสมอๆ”
และคราครั้งนี้ก็เช่นกัน ...
เมื่อวานเย็นๆ ผมขับรถผ่านเส้นทางเดิมๆ ด้วยการจราจรที่จอแจ ผมรถติดอยู่ในตลาด
ผมก็มองดูไปรอบๆ พบเห็นสิ่งที่ “ผิดแปลกไปจากเดิม” มันคือ “ป้ายแขวนให้เช่า”
หืมม ... ร้านเฟอร์นิเจอร์ไปแล้วหรือ? สงสัยย้ายไปแล้ว
ร้านเฟอร์นิเจอร์นี้กินบริเวณกว้างหลายคูหาพอสมควร
ทำเลอาคารพาณิชย์ตรงนี้ดีกว่าที่ที่เราอยู่ปัจจุบัน เนื่องจากเป็นหัวมุม
ผมขับรถกลับถึงร้านทอรุ้งบอกภรรยาว่า
ซอยถัดไปตรงร้านเฟอร์นิเจอร์เขามีป้ายแขวนให้เช่าลองไปสืบดูมั้ย
เธอแว้นฟีโน่หายไปพักหนึ่ง กลับมาเล่าน่าตาตื่น
ได้ความว่า ... อาคารพาณิชย์สองชั้นครึ่งหลังมุม ปล่อยเช่าจริง ยังไม่มีคนจอง อีกทั้ง ราคาน่าคบหา
สมองวิ่งอย่างรวดเร็วคิดไปต่างๆนา ผมเปิดสมุดโน้ตดูแผนกิจการที่วางไว้
เรามีแผนขยายกิจการอยู่ก็จริงแต่ในแผนการมันยังไม่ใช่ตอนนี้
เราติดขัดหลายจุด เงินทุนเริ่มเก็บมาพักหนึ่งแต่ยังไม่มากพอ
อีกทั้งภรรยาผมพึ่งรับงานใหญ่มาจึงต้องออกไปทำงานนอกร้านบางช่วง
แต่โดยรวมแล้ว ... ผมก็สนใจๆทำเลนี้มากพอสมควร
รุ่งเช้าผมไปทำงานตามปกติ สายๆโทรบอกเล่าเรื่องทำเลที่ผมสนใจให้ฟังและให้แม่ลองสืบดู
เพราะว่าอาคารนี้ที่จริงเรารู้จักเจ้าของแต่กำลังสงสัยที่ว่า “คนที่เราคุยไม่ใช่เจ้าของ” ที่เรารู้จัก
หลังจากการสืบ เจ้าของเดิมปล่อยเช่ายกชุด 9 คูหามาให้คนนี้แล้ว
ในสัญญาสามารถปล่อยเช่าช่วงได้และพี่คนนี้เลยนำมาปรับปรุงและปล่อยต่อ
หลังจากได้ความ แม่จึงโทรสอบถามและโทรนัดเข้าไปดูสถานที่
ผมรีบทำงานและตามไปสมทบอย่างรวดเร็ว
เรื่องของผมชอบแอบมีโชคช่วยบ้างนิดๆหน่อยๆ 555+
เช่น ตอนที่เซ๊งกิจการมาในตอนแรก (ติดตามอ่านได้ใน ทอรุ้ง ตอนที่ 1)
พี่ที่จะปล่อยให้เช่า คนนี้บอกว่า พึ่งแขวนป้ายให้เช่าเมื่อวานตอนบ่ายๆ
แล้วตอนเย็นก็ได้ขึ้นไปจุดธูปบอกเจ้าที่ ด้านบน เสร็จแล้วก็ลงมาข้างล่าง
ลงมาปุ๊ปภรรยาผมเข้าไปดูสถานที่พอดิบพอดี ...
ครั้งนี้ผมมีเหตุผลประกอบการพิจารณาสามประการ
1. ผมยอมรับแต่โดยดีว่าเคสนี้ผมมีเวลาวิเคราะห์ คำนวณ และ ตัดสินใจน้อยมากๆ
โชคยังดีที่ผม “ทำการบ้านมาอย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่วางไว้ก่อนหน้า”
จึงพอประมาณการณ์ได้บ้าง ค่าใช้จ่ายคงที่ ค่าใช้จ่ายแปรผัน คาดการณ์เงินลงทุน
เดารายรับที่น่าจะเป็นขั้นต่ำที่น่าจะเป็น แต่ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ในทางธุรกิจพอสมควร
สรุปคือ ... จะเฮงหรือเปล่าไม่รู้ว่ากันอีกที แต่อย่างน้อยๆก็น่าจะอยู่ได้
2. ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะทำเลนี้ไม่เกินวันสองวัน ต้องโดนเช่าไปแน่นอน
3. ผมค่อนข้างไม่พร้อมที่จะขยายกิจการในตอนนี้ในหลายเรื่อง
แต่ปัญหาที่ติดขัดอยู่ น่าจะมีทางแก้ไขได้ และ อีกทั้งโอกาสแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
หลังจากสำรวจตรวจตาและปรึกษากันไม่นาน เราก็ลงความเห็นว่า
“เราตกลงที่จะเช่าอาคารพาณิชย์สามคูนี้”
ตอนนี้แผนกิจการมีแค่แบบร่างคร่าวๆ แต่ตอนยังไม่มีรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น
คงมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ แล้วพบกันแน่ กับ ... “ร้านเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อปทอรุ้ง” เวอร์ชั่นใหม่ ฮึๆๆๆ...
เขาว่ากันว่า ... บนเขาสูงลูกนั้น มีทิวทัศน์ที่สวยงามเกินบรรยาย
ผมเริ่มออกเดินทางขึ้นเขามาได้พักหนึ่ง มองเห็นยอดเขาอยู่ลิบๆ เบื้องหน้า
วันนี้โชคช่วย เสาะพบทางเดินขึ้นยอดเขาอีกทางหนึ่ง ....
มองดูหนทางที่เต็มไปด้วยป่ารก สูงชัน และ หมอกหนาทึบ แลมากมายด้วยอุปสรรค
แต่ผมตัดสินใจว่าจะเลือกเดินทางนี้ ดังนั้นแล้ว . . . ผมจะสู้สุดใจ
ขอให้บทความชิ้นนี้จงได้สร้างประโยชน์ให้แก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน
ขอให้ความร่ำรวยและความสุขสวัสดิ์จงมาสถิตแด่ท่าน
…[^_^]…