รำคาญนายศรกุดครับ ที่หน้าด้านไร้ยางอายไม่หยุด
แปะภาพความเห็นผมตีกินซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทั้ง ๆ ที่มันมีเรื่องราวความจริงอยู่แท้ ๆ
แต่เพราะสันดานทราม ก็ก็อปภาพมาตีกินไม่เลิกรา เพื่อหวังให้คนอื่นเห็นว่าผมแย่ ตัวเองดี
ก็ไม่ถือสาครับ แต่บ่อยเหลือเกิน ยิ่งเฉยยิ่งทำ พอตามไปชี้แจงก็ยิ่งทำ
คงเพราะพอผมชี้แจงไปบ้าง ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกเสียหน้า ก็เลยยิ่งแปะเพื่อรักษาหน้าหนา ๆ ด้าน ๆ ของตัวเอง
อย่างวันนี้ ในทู้
http://pantip.com/topic/30123229 ก็เอาไปแปะอีก
แปะไม่พอ กล่าวหาและใส่ร้ายผมเสร็จสรรพ
ไม่เลวจริงไม่กล้าทำครับ เพราะทั้งบิดเบือน(กระทู้ต้นเรื่องก็มีอยู่ แต่ขี้เกีียจค้น) ทั้งโกหกใส่ร้าย
ก็เลยขอตั้งทู้นี้ อธิบายความเป็นมาของเรื่องราวให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้ทราบสักนิดครับ
..............
จากภาพ จะมีสองเรื่องครับ คือเรื่องข้อกฎหมาย กับเรื่องเงินกู้ 3.5 แสนล้าน
เรื่องข้อกฎหมาย
วันนั้น คุณโบกกรักโพสต์ว่า คดี 99 ศพ กำลังอยู่ในชั้นศาล
ศรกุดก็เข้ามาแย้งว่า คดีไม่ได้อยู่ในชั้นศาล ยังไม่มีการสั่งฟ้องด้วยซ้ำ และบอกว่าคุณโบกกรักไม่รู้เรื่องกฎหมายอาญา
ผมก็เลยเข้าไปอธิบายว่า คดีอยู่ในชั้นศาลแล้ว เพราะกำลังมีการไต่สวนการตาย
ถือว่าคดีอยู่ในชั้นศาล ตามวิธีพิจารณาความอาญา
(นายศรกุดไม่รู้จักวิธีพิจารณาความอาญา รู้จักแต่กฎหมายอาญา จึงคิดเพียงว่าต้องตั้งข้อหา อัยการสั่งฟ้อง ขึ้นศาล
จึงจะถือว่าอยู่ในชั้นศาล ที่คิดแบบนี้ คงเพราะศรกุดเห็นว่าอภิสิทธิ์และสุเทพยังไม่โดนฟ้อง คดีจะอยู่ในศาลได้อย่างไร)
ผมก็อธิบายอีกว่า เมื่อศาลไต่สวนการตายเสร็จ ก็จะมีคำสั่งออกมา หากสั่งว่าตายเพราะเจ้าหน้าที่รัฐ
ศาลก็จะส่งเรื่องกลับมาหาอัยการเพื่อทำการสอบสวนต่อไป
(เป็นการกล่าวในภาพรวม ศาลสั่ง คำสั่งการตายกลับมาหาอัยการ อัยการส่งดีเอสไอ ตำรวจ เพื่อรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องต่อไป
ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ตอนนี้แหละครับ คดีนายพัน คำกอง ศาลสั่ง คดีกลับมาหาอัยการ อัยการก็ส่งมาดีเอสไอรวบรวมหลักฐาน
และอัยการ ดีเอสไอ ตำรวจ มีความเห็นร่วมกันว่าควรแจ้งข้อกล่าวหา
และได้แ้จ้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพไปแล้ว ไปพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ดังที่เป็นข่าว)
เ่ท่านี้แหละครับ ได้เรื่อง
นายศรกุดก็หายไปสักพัก กลับมาพร้อมด้วยอุปกรณ์พิเศษ คือ google
แปะเรื่องวิธีพิจารณาความอาญาเป็นพรืดดดดด... เพื่ออวดว่าตัวเองรู้กฎหมายดี
แล้วก็ย้อนผมว่า อัยการไม่มีหน้าที่สอบสวน ตำรวจต่างหากมีหน้าที่สอบสวน และก็เถียง ๆ แปะ ๆ
ผมรำคาญ ก็เลยโพสต์ตัดบทไปอย่างในภาพนั่นแหละครับ
และนายศรกุดก็เอามาแปะตีกินเป็นสิบ ๆ ครั้งแล้วมั้ง เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าผมยอมแพ้ ยอมจำนน
ให้คนอื่นเห็นว่า ศรกุดเก่งที่สุดในโลก แม้แต่กูเกิ้ลยังยอมสยบ
เรื่องที่สอง เรื่องเงินกู้ 350000 ล้านบาท
ตอนนั้น นายศรกุดตั้งกระทู้ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์กู้เงินสามแสนห้าหมื่นล้านบาทมา แล้วแก้ปัญหาน้ำท่วมได้แค่นี้เองเหรอ
(ตอนนั้นมีข่าวแค่ว่า รัฐบาลทำการขุดลอกแม่น้ำ)
ถ้าผมจำไม่ผิด ก็มีคุณ "คนไทยใจกว้าง" เข้าไปถกแย้งว่า เงินกู้ 350000 ล้านบาท ยังไม่ได้ใช้สักบาท
อยู่ในขั้นตอนสรรหาผู้รับงานเท่านั้น
นายศรกุดชักไปไม่เป็น แต่ไปหามาได้ว่า เงิน 350000 ล้าน ใช้ไปแล้วในการขุดลอกแม่น้ำ 900 ล้านบาท
แล้วก็ตะแบงเถียงเอาชนะว่า ไหนว่ายังไม่ได้ใช้สักบาท ใช้ไปแล้ว 900 ล้าน ไม่เห็นเหรอ
ทั้งที่ตัวเองตั้งกระทู้ด้วยความไม่รู้เรื่องอย่างหมายความว่า เงิน 350000 ล้านใช้ไปแล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไร
ผมก็เลยเข้าไปแย้ง
แย้งว่า เงิน 350000 ล้าน ใช้ไปแค่ 900 ล้าน คิดเ็ป็น 2.57% เท่านั้น
ในภาษาพูด จึงพูดได้อย่างเต็มปากว่ายังไม่ได้ใช้สักบาท
เหมือนเงินร้อยบาท ใช้ไปแค่สองบาทห้าสิบ มันก็เหมือนไม่ได้ใช้
แล้วก็มีสมาชิกท่านอื่นเข้ามาแนะนำว่า ผมคิดผิด ที่ถูกคือ 0.257% เท่านั้น ซึ่งก็ยิ่งสนับสนุนความเห็นผมขึ้นไปอีก
เพราะเปรียบว่า เงิน 100 บาท ใช้ไป 0.257 บาท ยิ่งเหมือนไม่ได้ใช้สักบาทไปใหญ่
แต่นายศรกุดก็ไม่ยอมนะครับ เอาเรื่องนี้ไปตั้งกระทู้ในเสรีไทย ประจานผมว่า
ผมใช้ตรรกะเพี้ยน เงินใช้ไป 900 ล้าน ยังมาบอกว่าไม่ได้ใช้สักบาท
ก็เอาแค่ภาพไปแปะครับ ไม่มีรายละเอียดของเรื่องราว คือเอาไปแปะตีกินดื้อ ๆ เท่านั้นเอง
เรื่องราวที่แท้จริง ก็คือ นายศรกุดคิดว่าเงิน 350000 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว
พอโดนแย้งว่ายังไม่ได้ใช้ ก็สะอึก แต่คุณพระช่วย ชายชุดดำมาพอดี เอ๊ย เงิน 900 ล้านมาพอดี
เลยเถียงว่า ใช้ไปแล้ว 900 ล้าน ไม่ได้ใช้ยังไง
ส่วนประเด็นที่ตัวเองมั่วว่าใช้เงินไปแล้ว 350000 ก็ทำลืมไปเลย
ก็เลยขอชี้แจงให้สาธารณะเข้าใจครับ
เพราะนายศรกุดแปะภาพความเห็นผมซ้ำซากเป็นสิบ ๆ ครั้งแล้วมั้ง และคิดว่าคงแปะต่อไปอีกนาน
ก็อย่างนี้แหละครับ พวกพาล ปัญญาอ่อน ขาดสติปัญญา ใช้เหตุผลไม่เป็น ไร้ความรู้ ขาดความคิด
ถกแย้งสู้ไม่ได้ จำนนด้วยข้อมูล หลักฐาน เหตุผล
ก็หันมาใช้วิธีโมเม กล่าวหา ใส่ร้าย ตีกินหน้าด้าน ๆ ไปแบบนี้แหละ
ตอนนี้เห็นไหมครับ การหาเสียงผู้ว่า กทม.
ปชป. เห็นท่าจะเป็นรองมากขึ้น ๆ วิชามารก็เริ่ม
พวกนี้ เหมือนกันเด๊ะครับ
คือเลวพอ ๆ กัน
ขอบคุณครับทุกท่านที่ทนอ่านจนจบ
ส่วนสลิ่มคงอ่านไม่เกินสามบรรทัด
ขอเคลียร์คำกล่าวหาใส่ร้ายสักนิดครับ เพื่อให้สาธารณะเห็นว่าอะไรเป็นอะไร
แปะภาพความเห็นผมตีกินซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทั้ง ๆ ที่มันมีเรื่องราวความจริงอยู่แท้ ๆ
แต่เพราะสันดานทราม ก็ก็อปภาพมาตีกินไม่เลิกรา เพื่อหวังให้คนอื่นเห็นว่าผมแย่ ตัวเองดี
ก็ไม่ถือสาครับ แต่บ่อยเหลือเกิน ยิ่งเฉยยิ่งทำ พอตามไปชี้แจงก็ยิ่งทำ
คงเพราะพอผมชี้แจงไปบ้าง ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกเสียหน้า ก็เลยยิ่งแปะเพื่อรักษาหน้าหนา ๆ ด้าน ๆ ของตัวเอง
อย่างวันนี้ ในทู้ http://pantip.com/topic/30123229 ก็เอาไปแปะอีก
แปะไม่พอ กล่าวหาและใส่ร้ายผมเสร็จสรรพ
ไม่เลวจริงไม่กล้าทำครับ เพราะทั้งบิดเบือน(กระทู้ต้นเรื่องก็มีอยู่ แต่ขี้เกีียจค้น) ทั้งโกหกใส่ร้าย
ก็เลยขอตั้งทู้นี้ อธิบายความเป็นมาของเรื่องราวให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้ทราบสักนิดครับ
..............
จากภาพ จะมีสองเรื่องครับ คือเรื่องข้อกฎหมาย กับเรื่องเงินกู้ 3.5 แสนล้าน
เรื่องข้อกฎหมาย
วันนั้น คุณโบกกรักโพสต์ว่า คดี 99 ศพ กำลังอยู่ในชั้นศาล
ศรกุดก็เข้ามาแย้งว่า คดีไม่ได้อยู่ในชั้นศาล ยังไม่มีการสั่งฟ้องด้วยซ้ำ และบอกว่าคุณโบกกรักไม่รู้เรื่องกฎหมายอาญา
ผมก็เลยเข้าไปอธิบายว่า คดีอยู่ในชั้นศาลแล้ว เพราะกำลังมีการไต่สวนการตาย
ถือว่าคดีอยู่ในชั้นศาล ตามวิธีพิจารณาความอาญา
(นายศรกุดไม่รู้จักวิธีพิจารณาความอาญา รู้จักแต่กฎหมายอาญา จึงคิดเพียงว่าต้องตั้งข้อหา อัยการสั่งฟ้อง ขึ้นศาล
จึงจะถือว่าอยู่ในชั้นศาล ที่คิดแบบนี้ คงเพราะศรกุดเห็นว่าอภิสิทธิ์และสุเทพยังไม่โดนฟ้อง คดีจะอยู่ในศาลได้อย่างไร)
ผมก็อธิบายอีกว่า เมื่อศาลไต่สวนการตายเสร็จ ก็จะมีคำสั่งออกมา หากสั่งว่าตายเพราะเจ้าหน้าที่รัฐ
ศาลก็จะส่งเรื่องกลับมาหาอัยการเพื่อทำการสอบสวนต่อไป
(เป็นการกล่าวในภาพรวม ศาลสั่ง คำสั่งการตายกลับมาหาอัยการ อัยการส่งดีเอสไอ ตำรวจ เพื่อรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องต่อไป
ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ตอนนี้แหละครับ คดีนายพัน คำกอง ศาลสั่ง คดีกลับมาหาอัยการ อัยการก็ส่งมาดีเอสไอรวบรวมหลักฐาน
และอัยการ ดีเอสไอ ตำรวจ มีความเห็นร่วมกันว่าควรแจ้งข้อกล่าวหา
และได้แ้จ้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพไปแล้ว ไปพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ดังที่เป็นข่าว)
เ่ท่านี้แหละครับ ได้เรื่อง
นายศรกุดก็หายไปสักพัก กลับมาพร้อมด้วยอุปกรณ์พิเศษ คือ google
แปะเรื่องวิธีพิจารณาความอาญาเป็นพรืดดดดด... เพื่ออวดว่าตัวเองรู้กฎหมายดี
แล้วก็ย้อนผมว่า อัยการไม่มีหน้าที่สอบสวน ตำรวจต่างหากมีหน้าที่สอบสวน และก็เถียง ๆ แปะ ๆ
ผมรำคาญ ก็เลยโพสต์ตัดบทไปอย่างในภาพนั่นแหละครับ
และนายศรกุดก็เอามาแปะตีกินเป็นสิบ ๆ ครั้งแล้วมั้ง เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าผมยอมแพ้ ยอมจำนน
ให้คนอื่นเห็นว่า ศรกุดเก่งที่สุดในโลก แม้แต่กูเกิ้ลยังยอมสยบ
เรื่องที่สอง เรื่องเงินกู้ 350000 ล้านบาท
ตอนนั้น นายศรกุดตั้งกระทู้ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์กู้เงินสามแสนห้าหมื่นล้านบาทมา แล้วแก้ปัญหาน้ำท่วมได้แค่นี้เองเหรอ
(ตอนนั้นมีข่าวแค่ว่า รัฐบาลทำการขุดลอกแม่น้ำ)
ถ้าผมจำไม่ผิด ก็มีคุณ "คนไทยใจกว้าง" เข้าไปถกแย้งว่า เงินกู้ 350000 ล้านบาท ยังไม่ได้ใช้สักบาท
อยู่ในขั้นตอนสรรหาผู้รับงานเท่านั้น
นายศรกุดชักไปไม่เป็น แต่ไปหามาได้ว่า เงิน 350000 ล้าน ใช้ไปแล้วในการขุดลอกแม่น้ำ 900 ล้านบาท
แล้วก็ตะแบงเถียงเอาชนะว่า ไหนว่ายังไม่ได้ใช้สักบาท ใช้ไปแล้ว 900 ล้าน ไม่เห็นเหรอ
ทั้งที่ตัวเองตั้งกระทู้ด้วยความไม่รู้เรื่องอย่างหมายความว่า เงิน 350000 ล้านใช้ไปแล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไร
ผมก็เลยเข้าไปแย้ง
แย้งว่า เงิน 350000 ล้าน ใช้ไปแค่ 900 ล้าน คิดเ็ป็น 2.57% เท่านั้น
ในภาษาพูด จึงพูดได้อย่างเต็มปากว่ายังไม่ได้ใช้สักบาท
เหมือนเงินร้อยบาท ใช้ไปแค่สองบาทห้าสิบ มันก็เหมือนไม่ได้ใช้
แล้วก็มีสมาชิกท่านอื่นเข้ามาแนะนำว่า ผมคิดผิด ที่ถูกคือ 0.257% เท่านั้น ซึ่งก็ยิ่งสนับสนุนความเห็นผมขึ้นไปอีก
เพราะเปรียบว่า เงิน 100 บาท ใช้ไป 0.257 บาท ยิ่งเหมือนไม่ได้ใช้สักบาทไปใหญ่
แต่นายศรกุดก็ไม่ยอมนะครับ เอาเรื่องนี้ไปตั้งกระทู้ในเสรีไทย ประจานผมว่า
ผมใช้ตรรกะเพี้ยน เงินใช้ไป 900 ล้าน ยังมาบอกว่าไม่ได้ใช้สักบาท
ก็เอาแค่ภาพไปแปะครับ ไม่มีรายละเอียดของเรื่องราว คือเอาไปแปะตีกินดื้อ ๆ เท่านั้นเอง
เรื่องราวที่แท้จริง ก็คือ นายศรกุดคิดว่าเงิน 350000 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว
พอโดนแย้งว่ายังไม่ได้ใช้ ก็สะอึก แต่คุณพระช่วย ชายชุดดำมาพอดี เอ๊ย เงิน 900 ล้านมาพอดี
เลยเถียงว่า ใช้ไปแล้ว 900 ล้าน ไม่ได้ใช้ยังไง
ส่วนประเด็นที่ตัวเองมั่วว่าใช้เงินไปแล้ว 350000 ก็ทำลืมไปเลย
ก็เลยขอชี้แจงให้สาธารณะเข้าใจครับ
เพราะนายศรกุดแปะภาพความเห็นผมซ้ำซากเป็นสิบ ๆ ครั้งแล้วมั้ง และคิดว่าคงแปะต่อไปอีกนาน
ก็อย่างนี้แหละครับ พวกพาล ปัญญาอ่อน ขาดสติปัญญา ใช้เหตุผลไม่เป็น ไร้ความรู้ ขาดความคิด
ถกแย้งสู้ไม่ได้ จำนนด้วยข้อมูล หลักฐาน เหตุผล
ก็หันมาใช้วิธีโมเม กล่าวหา ใส่ร้าย ตีกินหน้าด้าน ๆ ไปแบบนี้แหละ
ตอนนี้เห็นไหมครับ การหาเสียงผู้ว่า กทม.
ปชป. เห็นท่าจะเป็นรองมากขึ้น ๆ วิชามารก็เริ่ม
พวกนี้ เหมือนกันเด๊ะครับ
คือเลวพอ ๆ กัน
ขอบคุณครับทุกท่านที่ทนอ่านจนจบ
ส่วนสลิ่มคงอ่านไม่เกินสามบรรทัด