ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นทหารเกษียณอายุ เพราะนักการเมืองยังเกรงกลัวในอำนาจของทหารแบบลูกไก่อยู่ในกำมือ จึงต้องพึ่งพาอำนาจทางกองทัพค้ำยันรัฐบาลมาโดยตลอด
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยก็ไม่ตื่นตัวทางการเมือง เพราะทุกคนคิดแต่ว่านักการเมืองคือพวกที่เข้าไปโกงกินเท่านั้น เลือกพรรคไหนๆก็เหมือนกัน ทำให้การเลือกตั้งบางครั้งมีคนไปใช้สิทธิ์เพียง 30%เท่านั้น
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
พรรคการเมืองแต่ละพรรคก็ล้วนแต่หาเสียงแบบสะเปะสะปะ ไม่เคยคิดหานโยบายอะไรไปนำเสนอกับชาวบ้านอย่างที่เห็นในตอนนี้ ส่วนนโยบายนั้นทำได้หรือไม่ได้นั้นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยก็จะไม่เน้นเลือกพรรค เลือกแต่ตัวบุคคล จนทำให้รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยเป็นรัฐบาลที่เกิดจากพรรคการเมืองหลายๆพรรคเข้าด้วยกัน และเป็นข้ออ้างที่จะไปหลอกประชาชนต่อไปว่า ทำตามสัญญาไม่ได้เพราะเป็นพรรคเล็ก
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
พรรค ปชป ก็ยังคงเป็นพรรคที่ดูดีในสายตาประชาชนรุ่นใหม่เสมอ (จนถึงวันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น) เพราะชื่อพรรคทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนคำว่า"ประชาธิปไตย" ทั้งๆที่ความเป้นจริงแล้วมันไม่แน่เสมอไป ขนาดทักษิณเป็นคนเหนือยังมีชื่อที่แปลว่าใต้ได้เลย
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
การรัฐประหารจะถูกมองเป็นเรื่องปกติ เพราะประชาชนเห็นจนชาชิน เนื่องจากทุกรัฐบาลมีแต่ข่าวทุจริตเนื่องจากนักการเมืองยุคนั้นพอมีอำนาจก็เร่งกอบโกยโดยไม่เคยคิดถึงเรื่อง"ผลงาน" ท้ายสุดการรัฐประหารของทหารเลยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ได้แย่ไปกว่าเดิม เพราะมันแย่อยู่แล้ว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
ประชาชนไม่เคยคิดอยากจะเสียภาษีเพราะคิดว่าเสียมากแค่ไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะนักการเมืองที่ได้รับเลือกเป็น สส และได้เป็นรัฐบาล มีแต่เอาไปปู้ยี่ปู้ยำ จนประชาชนแทบจะไม่เคยได้ประโยชน์อะไรกลับคืนมาจากรัฐบาลเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
ข้าราชการไทยก็ยังคงทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม มองประชาชนเป็นภาระที่ทำให้พวกเขาต้องทำงานมากขึ้นแทนที่จะแข่งขันให้บริการประชาชนเพื่อให้คุ้มกับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนอย่างเช่นปัจจุบันนี้
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
แม้แต่พระองค์ท่านก็ทรงเดือดร้อน ต้องนำเงินจากมูลนิธิส่วนตัวมาช่วยเหลือประชาชนที่ลำบากอยู่เนืองๆ ทั้งๆที่ความทุกข์ยากของประชาชนควรจะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเพราะมีงบประมาณอยู่ในมือมากมายอยู่แล้ว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
การชุมนุมวิจารณ์การทำงานของประชาชนก็ไม่สามารถทำกันได้ง่ายๆ เพราะทุกรัฐบาลในอดีตสามารถอ้างความชอบธรรมในการสลายการชุมนุมได้เสมอ ถึงขั้นเอาสุนัขมาไล่กัดคนที่มาชุมนุมก็ทำมาแล้ว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยคงไม่รู้เรื่องราวการทำงานของรัฐบาลในแต่ละอาทิตย์ที่นายกรัฐมนตรีจะมานั่งออกทีวีเพื่อให้ประชาชนรับรู้สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วหรือว่ากำลังจะดำเนินการอยู่ ซึ่งทำให้ประชาชนมีการเตรียมพร้อมที่จะรับมือได้อย่างทันท่วงที
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยคงไม่มีโอกาสได้เห็นรัฐบาลไทยสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตอย่างสนามบินสุวรรณภูมิสำเร็จลงได้ เพราะสนามบินหนองงูเห่าคงจะเป็นเหมือนตอม่อโฮปเวลล์หรือโรงพัก 396 แห่งที่มีแต่เสาให้เห็นเท่านั้น
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยก็ยังไม่รู้ว่าประเทศไทยนั้นมีความสำคัญต่อภูมิภาคนี้แค่ไหน ทั้งๆที่ประเทศไทยตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุด จนผู้นำประเทศต่างๆทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
ประเทศไทยก็ยังคงเป็นลูกหนี้ไอเอ็มเอฟต่อไป เพราะทุกรัฐบาลรู้จักแต่กู้ แต่ไม่เคยคิดที่จะหาวิธีหาเงินตราเข้าประเทศ ไม่เคยมีความสามารถที่จะทำงบประมาณสมดุลได้แม้แต่ปีเดียว จะมีก็แต่ทักษิณเท่านั้นที่ทำได้ นั่นแปลว่า แม้จะใช้เงินเยอะ แต่ก็รู้จักหาเงินเช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือเกลียดทักษิณมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ก็คือ....
หากประเทศไทยไม่มีนักธุรกิจที่ติดอันดับคนรวยที่สุดในประเทศไทยกล้ากระโดดลงมาเล่นการเมืองอย่างคนที่ชื่อทักษิณแล้ว การเมืองไทยก็ยังคงจมปลักกับการกล่าวหากันไปวันๆ รัฐบาลแต่ละคณะล้วนไม่เคยคิดที่จะทำประโยชน์อะไรให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
เงินงบประมาณในแต่ละปีหมดไปกับนโยบายไร้สาระที่ไม่มีใครจำได้ เพราะทุกโครงการล้วนคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของพวกตัวเองทั้งสิ้น
เพราะทักษิณนี่แหละ ที่ปฎิวัติการทำงานของพรรคการเมืองให้รู้จักคิดหานโยบายที่เป็นประโยชน์ประชาชนอย่างชัดเจน เช่นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่โด่งดัง จึงทำให้ทักษิณนั้นเป็นคนที่ประชาชนคิดถึงผลงานอยู่เสมอไม่ว่าพรรคจะถูกยุบไปกี่ครั้งก็ตาม
และทักษิณคนเดียวกันนี่แหละ เป็นคนที่ศัตรูนั้นเกลียดเข้าไส้อย่างที่เห็นเพราะรู้ว่าไม่มีความสามารถที่จะทำเลียนแบบได้นั่นเอง
และถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง คนไทยก็ไม่มีทางรู้ว่าพรรคเก่าแก่ของประเทศไทยที่เคยเชื่อกันว่าเป็นสถาบันการเมืองและเป็นเสาหลักประชาธิปไตยนั้นเป็นเรื่องเท็จ
เพราะเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น ถึงขั้นไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารกันเลย และกล้าที่จะยกกระทรวงสำคัญให้กับพรรคเล็กๆอย่างเนวินยังทำมาแล้ว และที่เลวร้ายที่สุดคือยอมสั่งทหารให้ใช้กระสุนจริงยิงประชาชนแทนที่จะยอมยุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสิน ยังกล้าทำเลยนะฮ้า
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นทหารเกษียณอายุ เพราะนักการเมืองยังเกรงกลัวในอำนาจของทหารแบบลูกไก่อยู่ในกำมือ จึงต้องพึ่งพาอำนาจทางกองทัพค้ำยันรัฐบาลมาโดยตลอด
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยก็ไม่ตื่นตัวทางการเมือง เพราะทุกคนคิดแต่ว่านักการเมืองคือพวกที่เข้าไปโกงกินเท่านั้น เลือกพรรคไหนๆก็เหมือนกัน ทำให้การเลือกตั้งบางครั้งมีคนไปใช้สิทธิ์เพียง 30%เท่านั้น
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
พรรคการเมืองแต่ละพรรคก็ล้วนแต่หาเสียงแบบสะเปะสะปะ ไม่เคยคิดหานโยบายอะไรไปนำเสนอกับชาวบ้านอย่างที่เห็นในตอนนี้ ส่วนนโยบายนั้นทำได้หรือไม่ได้นั้นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยก็จะไม่เน้นเลือกพรรค เลือกแต่ตัวบุคคล จนทำให้รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยเป็นรัฐบาลที่เกิดจากพรรคการเมืองหลายๆพรรคเข้าด้วยกัน และเป็นข้ออ้างที่จะไปหลอกประชาชนต่อไปว่า ทำตามสัญญาไม่ได้เพราะเป็นพรรคเล็ก
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
พรรค ปชป ก็ยังคงเป็นพรรคที่ดูดีในสายตาประชาชนรุ่นใหม่เสมอ (จนถึงวันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น) เพราะชื่อพรรคทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนคำว่า"ประชาธิปไตย" ทั้งๆที่ความเป้นจริงแล้วมันไม่แน่เสมอไป ขนาดทักษิณเป็นคนเหนือยังมีชื่อที่แปลว่าใต้ได้เลย
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
การรัฐประหารจะถูกมองเป็นเรื่องปกติ เพราะประชาชนเห็นจนชาชิน เนื่องจากทุกรัฐบาลมีแต่ข่าวทุจริตเนื่องจากนักการเมืองยุคนั้นพอมีอำนาจก็เร่งกอบโกยโดยไม่เคยคิดถึงเรื่อง"ผลงาน" ท้ายสุดการรัฐประหารของทหารเลยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ได้แย่ไปกว่าเดิม เพราะมันแย่อยู่แล้ว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
ประชาชนไม่เคยคิดอยากจะเสียภาษีเพราะคิดว่าเสียมากแค่ไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะนักการเมืองที่ได้รับเลือกเป็น สส และได้เป็นรัฐบาล มีแต่เอาไปปู้ยี่ปู้ยำ จนประชาชนแทบจะไม่เคยได้ประโยชน์อะไรกลับคืนมาจากรัฐบาลเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
ข้าราชการไทยก็ยังคงทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม มองประชาชนเป็นภาระที่ทำให้พวกเขาต้องทำงานมากขึ้นแทนที่จะแข่งขันให้บริการประชาชนเพื่อให้คุ้มกับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนอย่างเช่นปัจจุบันนี้
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
แม้แต่พระองค์ท่านก็ทรงเดือดร้อน ต้องนำเงินจากมูลนิธิส่วนตัวมาช่วยเหลือประชาชนที่ลำบากอยู่เนืองๆ ทั้งๆที่ความทุกข์ยากของประชาชนควรจะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเพราะมีงบประมาณอยู่ในมือมากมายอยู่แล้ว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
การชุมนุมวิจารณ์การทำงานของประชาชนก็ไม่สามารถทำกันได้ง่ายๆ เพราะทุกรัฐบาลในอดีตสามารถอ้างความชอบธรรมในการสลายการชุมนุมได้เสมอ ถึงขั้นเอาสุนัขมาไล่กัดคนที่มาชุมนุมก็ทำมาแล้ว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยคงไม่รู้เรื่องราวการทำงานของรัฐบาลในแต่ละอาทิตย์ที่นายกรัฐมนตรีจะมานั่งออกทีวีเพื่อให้ประชาชนรับรู้สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วหรือว่ากำลังจะดำเนินการอยู่ ซึ่งทำให้ประชาชนมีการเตรียมพร้อมที่จะรับมือได้อย่างทันท่วงที
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยคงไม่มีโอกาสได้เห็นรัฐบาลไทยสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตอย่างสนามบินสุวรรณภูมิสำเร็จลงได้ เพราะสนามบินหนองงูเห่าคงจะเป็นเหมือนตอม่อโฮปเวลล์หรือโรงพัก 396 แห่งที่มีแต่เสาให้เห็นเท่านั้น
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
คนไทยก็ยังไม่รู้ว่าประเทศไทยนั้นมีความสำคัญต่อภูมิภาคนี้แค่ไหน ทั้งๆที่ประเทศไทยตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุด จนผู้นำประเทศต่างๆทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว
ถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง.....
ประเทศไทยก็ยังคงเป็นลูกหนี้ไอเอ็มเอฟต่อไป เพราะทุกรัฐบาลรู้จักแต่กู้ แต่ไม่เคยคิดที่จะหาวิธีหาเงินตราเข้าประเทศ ไม่เคยมีความสามารถที่จะทำงบประมาณสมดุลได้แม้แต่ปีเดียว จะมีก็แต่ทักษิณเท่านั้นที่ทำได้ นั่นแปลว่า แม้จะใช้เงินเยอะ แต่ก็รู้จักหาเงินเช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือเกลียดทักษิณมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ก็คือ....
หากประเทศไทยไม่มีนักธุรกิจที่ติดอันดับคนรวยที่สุดในประเทศไทยกล้ากระโดดลงมาเล่นการเมืองอย่างคนที่ชื่อทักษิณแล้ว การเมืองไทยก็ยังคงจมปลักกับการกล่าวหากันไปวันๆ รัฐบาลแต่ละคณะล้วนไม่เคยคิดที่จะทำประโยชน์อะไรให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
เงินงบประมาณในแต่ละปีหมดไปกับนโยบายไร้สาระที่ไม่มีใครจำได้ เพราะทุกโครงการล้วนคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของพวกตัวเองทั้งสิ้น
เพราะทักษิณนี่แหละ ที่ปฎิวัติการทำงานของพรรคการเมืองให้รู้จักคิดหานโยบายที่เป็นประโยชน์ประชาชนอย่างชัดเจน เช่นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่โด่งดัง จึงทำให้ทักษิณนั้นเป็นคนที่ประชาชนคิดถึงผลงานอยู่เสมอไม่ว่าพรรคจะถูกยุบไปกี่ครั้งก็ตาม
และทักษิณคนเดียวกันนี่แหละ เป็นคนที่ศัตรูนั้นเกลียดเข้าไส้อย่างที่เห็นเพราะรู้ว่าไม่มีความสามารถที่จะทำเลียนแบบได้นั่นเอง
และถ้าทักษิณไม่ลงมาเล่นการเมือง คนไทยก็ไม่มีทางรู้ว่าพรรคเก่าแก่ของประเทศไทยที่เคยเชื่อกันว่าเป็นสถาบันการเมืองและเป็นเสาหลักประชาธิปไตยนั้นเป็นเรื่องเท็จ
เพราะเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น ถึงขั้นไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารกันเลย และกล้าที่จะยกกระทรวงสำคัญให้กับพรรคเล็กๆอย่างเนวินยังทำมาแล้ว และที่เลวร้ายที่สุดคือยอมสั่งทหารให้ใช้กระสุนจริงยิงประชาชนแทนที่จะยอมยุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสิน ยังกล้าทำเลยนะฮ้า