แอร์เอเซียตั้งเป้าครองตลาดได้ครึ่งหนึ่งภายในปีนี้ และเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่

สายการบินไทยแอร์เอเชีย ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด ในธุรกิจการบินภายในประเทศให้ได้ร้อยละ50 พร้อมรุกตลาดการบินในกลุ่มประเทศอินโดจีน ที่จะเติบโตขึ้นกว่าเดิม จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

  นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวถึงแผนธุรกิจของไทยแอร์เอเชียในปี 2556 ว่า ใน 1-3 ปีนี้ ไทยแอร์เอเชียตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสายการบินต้นทุนต่ำ ในทุกเส้นทางการบินภายในประเทศ

  โดยตั้งเป้าว่าได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 จากเดิมที่มีสัดส่วนร้อยละ 37-38 โดยจะเน้นเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางหลักที่ได้รับความนิยมสูง เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ รวมทั้งเส้นทางรองอย่าง เชียงราย อุดรธานี และนราธิวาส เป็นต้น แต่จะมีเส้นทางบินใหม่น้อยลง

  ส่วนเส้นทางบินในต่างประเทศนั้น จะขยายเส้นทางบินใหม่ 3-4 เส้นทาง เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558   คือ ใน 2 มณทลของจีน ,ประเทศในอินโดจีน เช่น เมียนมาร์และกัมพูชา รวมทั้งประเทศภูฎาน หรือ เนปาล และจะเพิ่มความถี่ในเส้นทางเดิมของจีนให้มากกว่า 1 เที่ยวบินต่อวัน

  ทั้งนี้ ในปี 2556 ไทยแอร์เอเชีย จะมีเครื่องบินใหม่ทยอยเข้ามาในฝูงบิน 7 ลำ  จึงทำให้ไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินรวม 34 ลำ โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มความถี่ในการบินได้ร้อยละ 15-20 และจะทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ10 จากเดิมในปี 2555 ที่มีอยู่ประมาณ 8 ล้าน 3 แสนคน

  โดยวันนี้ (4 ก.พ.56) สายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้จัดพิธีเจิมเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 เครื่องบินลำที่ 28 ในฝูงบิน และเป็นลำแรกที่เข้ามาให้บริการในไทย โดยมีคุณสมบัติพิเศษที่มีปลายปีกแบบ "ชาร์คเล็ท" คล้ายกับกระโดปลาฉลาม ที่จะช่วยลดการไหลเวียนของอากาศที่มีแรงดันสูงใต้ปีก ไปยังพื้นที่เหนือปีก ที่อากาศมีแรงดันต่ำกว่า ช่วยลดแรงดึงที่ปลายปีก และยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับเครื่องบินแอร์บัส ด้านพิสัยบินและการบรรทุกน้ำหนัก โดยจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าเดิมร้อยละ3 โดยหลังจากนี้ เครื่องบินแอร์บัสของไทยแอร์เอเชียจะเป็นเครื่องรุ่นนี้ทั้งหมด

  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแอร์เอเชียยังกล่าวถึง ปัจจัยเสี่ยงในปีนี้ ว่า จะยังคงเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน แต่คาดว่าสถานการณ์ราคาทั้งปีจะทรงตัวและปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก โดยราคาเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 125-127 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

  ส่วนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงนั้น แอร์เอเซียเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับจำนวนผู้โดยสารของสายการบินต้นทุนต่ำ  เนื่องจาก สนามบินดอนเมืองอยู่ในแหล่งชุมชนเดินทางได้สะดวก กว่าสถานีรถไฟความเร็วสูง และราคาตั๋วโดยสารก็ไม่แตกต่างกันมากนัก คืออยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท  

แหล่งอ้างอิง http://news.voicetv.co.th/business/62252.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่