เรืองมีอยู่ว่าเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2555 ผมได้เข้าไปดูรถ Honda City Zx ปี 2006 ที่เต้นแห่งนึงย่านปทุมธานี เบื้องต้นผมได้พาเพื่อนพ่อที่เป็นช่างไปทดสอบระบบเครื่องยนต์ เช็คร่องรอยการชน ปรากฎว่าเครื่องยนต์ไม่มีปัญหาอะไร รอบคันมีรอยขนแมว รอยขูดขีดบ้างเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงว่ารถคันนี้สีเดิมทั้งคัน ยังไม่เคยเก็บสีมา ตรวจสอบบุ๊คเซอร์วิส และเลขไมค์ อยู่ที่ 85000 กิโล และมีการเช็คสภาพตามระยะกับศูนย์บริการมาโดยตลอด โทรไปเช็คประวัติกับศูนย์ ก็ได้รับข้อมูลที่ตรงกัน ทั้งเลขไมค์ และประวัติการเข้ารับบริการ ไม่เคยมีประวัติการซ่อมหนัก มีแต่ประวัติการเปลี่ยนอะไหล่เสื่อมสภาพตามอายุ และกาลเวลา ต่อมาจึงได้ทำการทำลองขับ การเข้าเกียร์ การออกตัว การถอยหลังไม่มีปัญหา (เกียร์ CVT) พอจะทราบกิติศัพท์มาบ้างจึงเน้นเรื่องเกียร์เป็นพิเศษ จบการเทสไดร์ ไม่พบปัญหาอะไรจึงได้ทำการวางเงินมัดจำไว้ 5000 บาท
เวลาผ่านไปจนยื่นไฟแนนซ์ผ่าน และถึงวันรับรถ ขับรถออกมาจากเต้นวันแรกรู้สึกได้ว่ารถมีอาการเดินไม่เรียบนิดหน่อย กระตุกเบาที่ช่วงความเร็ว 40-60 จะเป็นเวลาเลี้ยว หรือยูเทริน ออกตัวทางตรงไม่เป็น และนานๆ เป็นที คิดในใจไม่เป็นไรนิดหน่อยเดี๋ยวว่างๆ หาอู่ใกล้ๆบ้านไปให้เค้าดุให้ก็ได้ แต่ก็ไม่วายโทรไปหาเต้นตั้งแต่วันแรก เล่าอาการให้ฟัง ทางเต้นบอกว่าเป็นที่หัวเทียน ให้เอาเข้ามาเปลี่ยน ผมก็ เออ แค่หัวเทียนไม่กี่ร้อย เดี๋ยวไปหาเปลี่ยนเองก็ได้ไม่เป็นไรอาการคงไม่หนัก ผ่านไป 2-3 วัน ขับรถใหม่(ของเรา)ไปเยี่ยมป้าที่สุพรรณ น้องสาวเอาไปขับ แล้วกลับมาบอกว่า รถกระตุกอ่ะ ก็เลยเอาไปให้ช่างที่สุพรรณ (ซ่อมฮอนด้าโดยเฉพาะ) ดู วน 2-3 รอบ กว่าจะเจออาการ ช่างบอกอ๋อ อาการนี้นิดหน่อย แค่ EGR สกปรก เอาไปล้างท่อร่วมไอดี 400 บาทก็หายแล้ว (พอดีวันนั้นวันอาทิตย์ ที่อู่ไม่มีลูกน้องช่วยรื้อท่อไอดีเลยไม่ได้ทำ) ผมก็อืม นิดหน่อยไว้ค่อยทำละกัน เวลาผ่านไปเกือบๆ 2 เดือน อาการที่ว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ เริ่มกระตุกแรง ออกตัวก็กระตุก เริ่มใจไม่ดี แต่ด้วยความคิดฝังหัวที่ว่า ซื้อรถมือ 2 ตาดีได้ตาร้ายเสีย ซื้อมาแล้วเสียก็ต้องซ่อมกันไป จึงได้เริ่มเอาเข้าอู่ ผ่านไป 3 – 4 อู่ อาการไม่ดีขึ้นเลย แถมวันเวลาผ่านไปอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ เข้ามา 3-4 อู่ ก็ยังอาสาเหตุไม่เจอ เครียดมาก แทบอยากร้องไห้ คำเตือนของญาติพี่น้องต่างๆ ที่เคยเตือนไว้ว่าอย่าซื้อรถมือ 2 พรั่งพรูเข้ามาในสมอง นอนไม่หลับ รถผ่อนไปงวดเดียว แต่กลับเสียจนแทบขับไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ขายทิ้งก็ไม่ได้ ขาดทุนหลายแสน จะซ่อม ก็หาต้นเหตุของการเสียไม่เจอ จึงตัดสินใจโทรไปหาเจ้าของเดิมจากข้อมูลที่มีที่ศูนย์ฮอนด้า คุยกับเจ้าของเดิม เค้าก็บอกว่าก่อนเค้าขายไปมันไม่เห็นมีอาการอะไรเลย (เค้าขายออกมาเดือนตุลา ผมซื้อมาปลายพฤศจิกา) ยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่
ผ่านมาได้อีก 2 สัปดาห์ หลังจากเข้าอุ่ครั้งสุดท้าย ก็ยังไม่เจอต้นเหตุของอาการเสีย (แต่ไล่หาต้นเหตุไปได้เยอะแล้ว เหลือจำเลยอยุ่ตัวเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ลองเนื่องด้วยราคาแพง และทางอู่ไม่มีสต๊อคไว้) ผมจึงได้ตัดสินใจโทรไปหาเต้นรถมือ 2 ที่ผมซื้อมา โทรไปด้วยใจที่ไม่หวังอะไรเลย เนื่องจากเต้นรถเค้าบอกว่ารับประกัน 1 เดือน แต่นี่มัน 2 เดือนแล้ว เลยระยะเวลาประกันมาแล้ว หลังจากโทรไปก็เล่าให้เค้าฟัง สิ่งที่เค้าตอบกลับมาผมแทบไม่อยากจะเชื่อหู เต้นรถมือ 2 ไม่มีจรรยาบรรณเลยจริงๆ ตอบกลับมาได้ยังไง “น้องเอารถเข้าศูนย์เลย เดี๋ยวพี่ดูแลให้” เฮ้ย เป็นไปได้ยังไง ประโยคนี้จะได้ยินจากเต้นรถมือ 2 ที่เราใช้รถเลยระยะเวลารับประกันเค้ามาแล้วเป็นเดือนเหรอ เป็นไปไม่ได้ แทบไม่เชื่อหู หลังจากนั้นก็เอารถเข้าศูนย์แบบงง จากการตรวจเช็ค (เนื่องจากแจ้งไปแล้วว่าทำอะไรมาบ้าง) ช่างลองเปลี่ยนชิ้นส่วนต้องสงสัยสุดท้ายที่ยังไม่ได้ลอง นั่นคือ “ลิเนียร์เกียร์” ปรากฎว่าหายสนิท แต่มันราคา 12,700 แพงเอาเรื่องอยู่ผมจึงได้โทรไปบอกที่เต้น ทางเต้นบอกว่าโอเค เดี๋ยวจะรับผิดชอบให้ แต่ขอเป็นอะไหล่มือ 2 นะ เพราะราคาศูนย์แรงมาก ผมก็ตกลง ขอแค่รถหายกระตุกเป็นพอ จากนั้นเต้นก็นัดให้นำรถไปเปลี่ยนกับช่างจากฮอนด้าที่เปิดจ๊อบนอกเวลางาน ปรากฎว่ารถหายกระตุกเป็นปลิดทิ้ง เหมือนได้รถใหม่ออกมาขับเลย แถมเต้นยังบอกอีกว่า ให้ช่างของเค้าเป็นคนดูแล หากไม่ตรงจุด ทางเต้นจะดูแลต่อไปจนกว่าอาการจะหาย แต่หากเราไปทำที่อื่น (ผมขออะไหล่ไปใส่ที่อื่นเอง) เต้นจะสิ้นสุดการรับประกันแค่นี้
เต้นรถมือ 2 คุณทำแบบนี้ได้ยังไงไม่ยึดถือจรรยาบรรณในการลอยแพลูกค้า ดูแล บริการลูกค้าหลังการขาย แม้จะเลยระยะเวลารับประกันของเค้าไปแล้ว คุณทำได้ยังไง ผมไม่อยากจะเชื่อว่าในโลกนี้จะมีเต้นดีดีแบบนี้อยู่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเต้นรถที่ฝังอยู่ในหัวผม มันตรงกันข้ามหมดเลย มันทำให้ผมต้องคิดใหม่ว่าการซื้อรถมือ 2 จากเต้นก็ไม่ได้น่ากลัวจนเกินไปนัก หากเราได้เจอเต้นรถที่ดี ดังนั้นหากเจอเต้นดีดีแบบนี้ก็ควรบอกต่อ และส่งเสริมให้เค้ามีลูกค้าเยอะๆ ต่อไปครับ
เต้นรถมือ 2 กับจรรยาบรรณ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง
เวลาผ่านไปจนยื่นไฟแนนซ์ผ่าน และถึงวันรับรถ ขับรถออกมาจากเต้นวันแรกรู้สึกได้ว่ารถมีอาการเดินไม่เรียบนิดหน่อย กระตุกเบาที่ช่วงความเร็ว 40-60 จะเป็นเวลาเลี้ยว หรือยูเทริน ออกตัวทางตรงไม่เป็น และนานๆ เป็นที คิดในใจไม่เป็นไรนิดหน่อยเดี๋ยวว่างๆ หาอู่ใกล้ๆบ้านไปให้เค้าดุให้ก็ได้ แต่ก็ไม่วายโทรไปหาเต้นตั้งแต่วันแรก เล่าอาการให้ฟัง ทางเต้นบอกว่าเป็นที่หัวเทียน ให้เอาเข้ามาเปลี่ยน ผมก็ เออ แค่หัวเทียนไม่กี่ร้อย เดี๋ยวไปหาเปลี่ยนเองก็ได้ไม่เป็นไรอาการคงไม่หนัก ผ่านไป 2-3 วัน ขับรถใหม่(ของเรา)ไปเยี่ยมป้าที่สุพรรณ น้องสาวเอาไปขับ แล้วกลับมาบอกว่า รถกระตุกอ่ะ ก็เลยเอาไปให้ช่างที่สุพรรณ (ซ่อมฮอนด้าโดยเฉพาะ) ดู วน 2-3 รอบ กว่าจะเจออาการ ช่างบอกอ๋อ อาการนี้นิดหน่อย แค่ EGR สกปรก เอาไปล้างท่อร่วมไอดี 400 บาทก็หายแล้ว (พอดีวันนั้นวันอาทิตย์ ที่อู่ไม่มีลูกน้องช่วยรื้อท่อไอดีเลยไม่ได้ทำ) ผมก็อืม นิดหน่อยไว้ค่อยทำละกัน เวลาผ่านไปเกือบๆ 2 เดือน อาการที่ว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ เริ่มกระตุกแรง ออกตัวก็กระตุก เริ่มใจไม่ดี แต่ด้วยความคิดฝังหัวที่ว่า ซื้อรถมือ 2 ตาดีได้ตาร้ายเสีย ซื้อมาแล้วเสียก็ต้องซ่อมกันไป จึงได้เริ่มเอาเข้าอู่ ผ่านไป 3 – 4 อู่ อาการไม่ดีขึ้นเลย แถมวันเวลาผ่านไปอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ เข้ามา 3-4 อู่ ก็ยังอาสาเหตุไม่เจอ เครียดมาก แทบอยากร้องไห้ คำเตือนของญาติพี่น้องต่างๆ ที่เคยเตือนไว้ว่าอย่าซื้อรถมือ 2 พรั่งพรูเข้ามาในสมอง นอนไม่หลับ รถผ่อนไปงวดเดียว แต่กลับเสียจนแทบขับไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ขายทิ้งก็ไม่ได้ ขาดทุนหลายแสน จะซ่อม ก็หาต้นเหตุของการเสียไม่เจอ จึงตัดสินใจโทรไปหาเจ้าของเดิมจากข้อมูลที่มีที่ศูนย์ฮอนด้า คุยกับเจ้าของเดิม เค้าก็บอกว่าก่อนเค้าขายไปมันไม่เห็นมีอาการอะไรเลย (เค้าขายออกมาเดือนตุลา ผมซื้อมาปลายพฤศจิกา) ยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่
ผ่านมาได้อีก 2 สัปดาห์ หลังจากเข้าอุ่ครั้งสุดท้าย ก็ยังไม่เจอต้นเหตุของอาการเสีย (แต่ไล่หาต้นเหตุไปได้เยอะแล้ว เหลือจำเลยอยุ่ตัวเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ลองเนื่องด้วยราคาแพง และทางอู่ไม่มีสต๊อคไว้) ผมจึงได้ตัดสินใจโทรไปหาเต้นรถมือ 2 ที่ผมซื้อมา โทรไปด้วยใจที่ไม่หวังอะไรเลย เนื่องจากเต้นรถเค้าบอกว่ารับประกัน 1 เดือน แต่นี่มัน 2 เดือนแล้ว เลยระยะเวลาประกันมาแล้ว หลังจากโทรไปก็เล่าให้เค้าฟัง สิ่งที่เค้าตอบกลับมาผมแทบไม่อยากจะเชื่อหู เต้นรถมือ 2 ไม่มีจรรยาบรรณเลยจริงๆ ตอบกลับมาได้ยังไง “น้องเอารถเข้าศูนย์เลย เดี๋ยวพี่ดูแลให้” เฮ้ย เป็นไปได้ยังไง ประโยคนี้จะได้ยินจากเต้นรถมือ 2 ที่เราใช้รถเลยระยะเวลารับประกันเค้ามาแล้วเป็นเดือนเหรอ เป็นไปไม่ได้ แทบไม่เชื่อหู หลังจากนั้นก็เอารถเข้าศูนย์แบบงง จากการตรวจเช็ค (เนื่องจากแจ้งไปแล้วว่าทำอะไรมาบ้าง) ช่างลองเปลี่ยนชิ้นส่วนต้องสงสัยสุดท้ายที่ยังไม่ได้ลอง นั่นคือ “ลิเนียร์เกียร์” ปรากฎว่าหายสนิท แต่มันราคา 12,700 แพงเอาเรื่องอยู่ผมจึงได้โทรไปบอกที่เต้น ทางเต้นบอกว่าโอเค เดี๋ยวจะรับผิดชอบให้ แต่ขอเป็นอะไหล่มือ 2 นะ เพราะราคาศูนย์แรงมาก ผมก็ตกลง ขอแค่รถหายกระตุกเป็นพอ จากนั้นเต้นก็นัดให้นำรถไปเปลี่ยนกับช่างจากฮอนด้าที่เปิดจ๊อบนอกเวลางาน ปรากฎว่ารถหายกระตุกเป็นปลิดทิ้ง เหมือนได้รถใหม่ออกมาขับเลย แถมเต้นยังบอกอีกว่า ให้ช่างของเค้าเป็นคนดูแล หากไม่ตรงจุด ทางเต้นจะดูแลต่อไปจนกว่าอาการจะหาย แต่หากเราไปทำที่อื่น (ผมขออะไหล่ไปใส่ที่อื่นเอง) เต้นจะสิ้นสุดการรับประกันแค่นี้
เต้นรถมือ 2 คุณทำแบบนี้ได้ยังไงไม่ยึดถือจรรยาบรรณในการลอยแพลูกค้า ดูแล บริการลูกค้าหลังการขาย แม้จะเลยระยะเวลารับประกันของเค้าไปแล้ว คุณทำได้ยังไง ผมไม่อยากจะเชื่อว่าในโลกนี้จะมีเต้นดีดีแบบนี้อยู่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเต้นรถที่ฝังอยู่ในหัวผม มันตรงกันข้ามหมดเลย มันทำให้ผมต้องคิดใหม่ว่าการซื้อรถมือ 2 จากเต้นก็ไม่ได้น่ากลัวจนเกินไปนัก หากเราได้เจอเต้นรถที่ดี ดังนั้นหากเจอเต้นดีดีแบบนี้ก็ควรบอกต่อ และส่งเสริมให้เค้ามีลูกค้าเยอะๆ ต่อไปครับ