เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องสาวของเราอีกทีนะคะ ขอให้เราช่วยลงให้หน่อย
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เมมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกขุ่นข้องหมองกับสายการบินไทย ขอออกชื่อเลยแล้วกันนะคะ เนื่องจากเสียความรู้สึกมากๆ เพราะไม่คิดว่าสายการบินที่ได้ชื่อว่าเป็นสายการบินของคนไทย และบริการทุกระดับประทับใจ จะบริการ “ห่วยแตก” อย่างนี้ ไม่เห็นเหมือนที่โฆษณาไว้เลยค่ะ
เมซื้อตั๋วเครื่องบินให้น้องชาย เพื่อจะกลับภูเก็ตค่ะ เป็นตั๋ววันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 19.00 น. โดยขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ ซื้อผ่านบริการเวปไซต์ เหมือนกับทุกๆครั้งที่ซื้อตั๋วเครื่องบินทุกๆสายการบินที่เคยใช้บริการ และซื้อให้คนอื่นๆในครอบครัวที่จะใช้บริการสายการบิน ต้องบอกว่าไม่เคยพบปัญหาแต่อย่างใด
แต่ครั้งนี้เมื่อถึงเวลาเช็คอิน น้องชายของเมก็ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ตามปกติ แต่ปรากฏว่า ทางเคาน์เตอร์ไม่สามารถเช็คอินให้ได้ เนื่องจากน้องชายของเมไม่ใช่เจ้าของบัตรเครดิตที่จ่ายผ่านทางเวปไซต์!!!
ต้องบอกว่า ตอนเมซื้อตั๋วผ่านทางเวปไซต์ ก็จะมีลิงค์เล็กๆให้กรอกเอกสารยืนยันว่าเมผู้เป็นเจ้าของบัตรเครดิต และได้ซื้อตั๋วโดยสารให้กับน้องชาย พร้อมทั้งลงชื่อลงลายเซ็นและให้น้องชายถือเอกสารนี้พร้อมกับตั๋วโดยสารที่พิมพ์ออกมาจากหน้าเวปไซต์ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงแจ้งว่าไม่สามารถอนุญาตให้เดินทางได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เมก็ซื้อตั๋วเครื่องบินของการบินไทยให้น้องชายบ่อยๆและจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต (ก็มีมันอยู่ใบเดียวนี่แหล่ะค่ะ) ก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ
แน่นอนค่ะ เหลือเวลาไม่กี่นาทีเครื่องบินกำลังจะออก หากให้เมเดินทางไปยังสนามบินเพื่อ แค่เอาบัตรเครดิตใบจริงไปแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์เพื่อเป็นหลักฐานก็ไม่ทันอยู่ดี เมเลยให้น้องชายคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าทำยังไงดี ขอใช้ Skype Tango Line หรือ แอพพลิเคชั่นที่เราสามารถ Video call กันได้ เพื่อจะได้แสดงบัตรและสามารถพูดคุยกันได้ และยืนยันสิทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมอยู่ดีแล้วก็พึมพำมาว่า ทำไมน้องชายของเมไม่เอาบัตรเครดิตตัวจริงของเมถือไปด้วย ....... โอ้โห ทีนี้ก็ยิ่งอารมณ์เสียเลยค่ะ เงินก็ตัดผ่านบัตรจ่ายไปแล้ว บัตรเครดิตของเมก็ต้องอยู่ที่เมสิคะ แล้วถ้าน้องชายเมเอาไปถือไว้ก็ไม่ใช่เจ้าของบัตรอยู่ดีจะทำอะไรได้ ก็ต้องเอาบัตรประชาชนแนบให้ด้วยอยู่ดี แล้วถ้าเมซื้อตั๋วเครื่องบินให้พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด เมไม่ต้องส่ง EMS บัตรเครดิตกับบัตรประชาชนของเมไปให้ญาติที่ต่างจังหวัดก่อนขึ้นเครื่องบินรึ ไง!!!
น้องชายก็เริ่มกังวลแล้วค่ะเพราะใกล้เวลาที่ต้องเดินทาง จริงๆแล้วหากสนามบินปลายทางที่น้องชายเมไป อยู่ใกล้ๆบ้าน เมกับน้องก็คงไม่ร้อนใจกันเท่าไหร่รอบินเที่ยวต่อไปก็ได้ แต่พ่อของเมขับรถมาจากจังหวัดใกล้เคียงเพื่อมารอรับค่ะ
ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์จึงบอกให้น้องชายเมซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ค่ะ โดยให้ทำเรื่องขอคืนเงินค่าตั๋วไว้ แล้วจะดำเนินการให้ภายใน 45 วัน จริงๆก็นอยด์เรื่องนี้เหมือนกันนะ เวลาตัดบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าตั๋ว ตัดเงินภายใน 1 นาที แต่เวลาคืนเงินเนี่ย 45 วัน !! นานไปรึปล่าวคะ 30 วันนี่ก็น่าจะนานเกินไปแล้วนะคะ
เอาล่ะ ทีนี้น้องชายเมก็ยื่นเรื่องขอคืนค่าตั๋วไว้ค่ะ แล้วก็ซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เพื่อจะได้กลับบ้าน แต่ยังค่ะ อย่าคิดว่าเรื่องจบแค่นี้
พนักงาน บอกว่า ค่าตั๋ว 3,315 บาทค่ะ น้องชายเมก็ควักเงินสดจ่ายไป 3,320 บาท ทอนมา 6 บาท ซึ่งจริงๆ ต้องทอน 5 บาทใช่มั๊ยคะ แต่เจ้าหน้าที่บอกกับน้องชายเมว่าไม่มีเหรียญ 5 บาททอนค่ะ แต่ไม่เป็นไร ทอนให้ 6 บาทแล้วกัน จริงๆก็แปลกใจนิดๆนะที่ตั๋วแพงขึ้นตั้ง 300 บาท แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าคงเหมือนสายการบินราคาประหยัดที่ซื้อตั๋วแล้วขึ้นบินทันที ราคาตั๋วก็จะแพงกว่าการซื้อผ่านเวปไซต์
กลับมาที่เงินทอน 6 บาท ใจดีแปลกๆนะ ทีตั๋วที่จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้วกลับมีปัญหา แต่เงินสดขาด 1 บาทนี่จะยอมจ่ายให้ด้วย อืม.....แปลกจริงๆ
เวลาเหลือไม่มากแล้วค่ะ น้องชายรีบวิ่งเข้าเกทไปเพราะว่าเครื่องจะออกแล้ว (ถ้าใครเคยขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิจะรู้ดีนะคะว่าทางเดินข้างในมันไกลแค่ ไหน ดังนั้นวิ่งเท่านั้นค่ะ ไม่งั้นตกเครื่องแน่) จนเข้ามาถึงเคาน์เตอร์ด้านในเพื่อจะขึ้นเครื่อง พอยื่นตั๋วให้กับพนักงานเช็คอินไป จึงได้มีโอกาส ดูใบเสร็จที่รับมา ปรากฏว่า .....
ใบเสร็จออกให้ ในราคา 3,015 บาท ค่ะ ย้ำว่า 3,015 บาท อ้าววววววว!!!! แล้วหายไปไหน 300 บาทล่ะ นั่นไง ...มาแล้ว สาเหตุของการใจดีแปลกๆ ทอนเงินให้ ยอมขาดทุน 1 บาท ที่แท้งุบงิบไปแล้ว 299 บาท โอ้โห...น้องชายเมถึงกับงงเลย ก็ยอมรับนะว่าสะเพร่าที่ไม่ได้ตรวจใบเสร็จทันทีที่ได้รับตั๋ว แต่ก็ต้องเข้าใจว่า ฃเครื่องบินจะออกแล้วก็ต้องรีบ ก็เลยแจ้งกับพนักงานที่เช็คตั๋วด้านล่างว่า เมื่อกี้จ่ายไป 3320 นะ ทำไมใบเสร็จเหลือแค่นี้ล่ะ ทางพนักงานเลยโทรเช็คกับเคาเตอร์ด้านบนให้ พร้อมกับให้คำตอบว่า “ขอโทษค่ะ เดี๋ยวเราจะโอนเงินส่วนทีผิพลาดเข้าบัญชีให้นะคะ” นั่นไง ขอโทษค่ะ...บลาๆๆๆ แล้วบอกว่าจะโอนให้ทางบัญชี เงินสดก็อยู่กับคุณที่เคาน์เตอร์แท้ๆ ก็คืนได้เลยนะ แล้วรีบขอโทษแล้วสรุปว่าโอนให้ทางบัญชีเลย แถมไม่ได้สอบถามเลขบัญชี หรือเขียนคำร้องอะไรด้วย ก็แปลว่า อุ๊ย โดนจับได้แล้วหรอ...งั้นเค้าคืนเงินก็ได้นะ ...อย่างนี้นะเหรอ!! ไม่ได้อยากคิดในแง่ร้ายแต่มันชวนให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
จากการสังเกตพฤติกรรม น้องชายเมก็บอกว่า ตอนที่แจ้งราคาตั๋วใหม่และตอนที่รับเงิน พนักงานเองก็ไม่มองหน้า หรืออะไรเลย อย่างนี้ขอตีความเลยได้มั้ยคะว่าตั้งใจตั้งแต่แรก เพราะรู้จากสถานการณ์อยู่แล้วว่ายังไงน้องชายก็ต้องยอมจ่ายเพื่อกลับต่างจังหวัด
เหวอสองรอบเลยค่ะวันนี้ ต้องบอกว่าใช้บริการการบินไทยมาตลอดในการกลับบ้าน (ยกเว้นที่ซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆ จะใช้บริการสายการบินราคาประหยัด)
มันหงุดหงิดหัวใจมากจนอยากแชร์เรื่องนี้ไปให้ถึงการบินไทยด้วยค่ะ เผื่อว่าจะสามารถติดต่อได้ เนื่องจากเมลองติดต่อผ่านทวิตเตอร์ก็แล้ว ก็ไม่มีเมนชั่นกลับมา ติดต่อผ่านหน้าเฟสบุ๊คก็บอกว่ามีปัญหา ไม่สามารถให้บริการได้ ติดต่อผ่าน Line app. ก็มีแค่โฆษณาทัวร์เอื้องหลวงตอบกลับมา และไม้สุดท้ายโทรเข้าสำนักงานฯก็บอกว่าสายเต็มไม่สามารถให้บริการได้ ถือสายรอนานกว่า 20 นาที และขณะนี้นอกเวลาทำการ บลาๆ......กรุณาติดต่อใหม่ในเวลา (ขอโทษนะคะ เรื่องมันเกิดเดี๋ยวนี้ ก็ควรจะดูแลลูกค้าเดี๋ยวนี้นะคะ)
สุดท้าย1 หากบริการของการบินไทยยังเป็นอย่างนี้ ก็คงต้องเสียลูกค้าไปเรื่อยๆนะคะ
สุด ท้าย 2 การบินไทยอาจจะมองว่าปัญหาของเมก็เป็นแค่ปัญหาเล็กๆที่ไม่ได้ส่งผลต่อบริษัทฯใหญ่ๆอย่างท่าน เรียกร้องอะไรไปเดี๋ยวก็คงเงียบไปเอง หรือเพราะคิดว่าเมคงไม่มีปัญญาทำอะไรคุณได้เพราะเงินแค่ 3000 กว่าบาท มันไม่ได้กระเทือนก็บริษัทของคุณอยู่แล้ว แต่ในมุมกลับกันหากคุณเป็นผู้ได้รับบริการที่ห่วยแตก และโกงกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้ รับรองว่าลืมไม่ลงเลยแน่ๆ
สุดท้าย 3 อยากให้การบินไทยพิจารณากฎหรืออะไรไร้สาระบางประเภทเช่นการแสดงบัตรเครดิตอย่างเช่นเหตุการณ์ทำนองนี้ด้วย นะคะ เพราะถ้าอย่างนั้น คงไม่มีใครได้ขึ้นเครื่องบินกันอีกเยอะแน่ค่ะ แถมยังต้องรอเงินคืนจากคุณอีก 45 วัน ซึ่งจะคืนในรูปแบบอะไรก็ยังไม่ทราบ หากคืนเป็นเครดิตมา ก็เท่ากับบังคับให้เราไปใช้จ่ายอะไรอีกเท่าราคาเงินที่คืน ซึ่งมันก็เป็นปัญหา เพราะเวลาที่คนใช้จ่ายอย่างเราต้องชำระหนี้ก็ต้องเอาเงินสดไปจ่าย แต่พอคุณคืนเงินมาเป็นเครดิต เท่ากับเราเสียฟรีสองต่อ มีแต่เงินในอากาศ มันเสียอารมณ์จริงๆนะคะ
ขออภัยที่เขียนระบายยาวไปหน่อย บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่มันเสียความรู้สึกมากสำหรับคนที่เจอบริการแบบนี้
เจอบริการแบบนี้ของการบินไทย ทำไงดี
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เมมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกขุ่นข้องหมองกับสายการบินไทย ขอออกชื่อเลยแล้วกันนะคะ เนื่องจากเสียความรู้สึกมากๆ เพราะไม่คิดว่าสายการบินที่ได้ชื่อว่าเป็นสายการบินของคนไทย และบริการทุกระดับประทับใจ จะบริการ “ห่วยแตก” อย่างนี้ ไม่เห็นเหมือนที่โฆษณาไว้เลยค่ะ
เมซื้อตั๋วเครื่องบินให้น้องชาย เพื่อจะกลับภูเก็ตค่ะ เป็นตั๋ววันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 19.00 น. โดยขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ ซื้อผ่านบริการเวปไซต์ เหมือนกับทุกๆครั้งที่ซื้อตั๋วเครื่องบินทุกๆสายการบินที่เคยใช้บริการ และซื้อให้คนอื่นๆในครอบครัวที่จะใช้บริการสายการบิน ต้องบอกว่าไม่เคยพบปัญหาแต่อย่างใด
แต่ครั้งนี้เมื่อถึงเวลาเช็คอิน น้องชายของเมก็ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ตามปกติ แต่ปรากฏว่า ทางเคาน์เตอร์ไม่สามารถเช็คอินให้ได้ เนื่องจากน้องชายของเมไม่ใช่เจ้าของบัตรเครดิตที่จ่ายผ่านทางเวปไซต์!!!
ต้องบอกว่า ตอนเมซื้อตั๋วผ่านทางเวปไซต์ ก็จะมีลิงค์เล็กๆให้กรอกเอกสารยืนยันว่าเมผู้เป็นเจ้าของบัตรเครดิต และได้ซื้อตั๋วโดยสารให้กับน้องชาย พร้อมทั้งลงชื่อลงลายเซ็นและให้น้องชายถือเอกสารนี้พร้อมกับตั๋วโดยสารที่พิมพ์ออกมาจากหน้าเวปไซต์ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงแจ้งว่าไม่สามารถอนุญาตให้เดินทางได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เมก็ซื้อตั๋วเครื่องบินของการบินไทยให้น้องชายบ่อยๆและจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต (ก็มีมันอยู่ใบเดียวนี่แหล่ะค่ะ) ก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ
แน่นอนค่ะ เหลือเวลาไม่กี่นาทีเครื่องบินกำลังจะออก หากให้เมเดินทางไปยังสนามบินเพื่อ แค่เอาบัตรเครดิตใบจริงไปแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์เพื่อเป็นหลักฐานก็ไม่ทันอยู่ดี เมเลยให้น้องชายคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าทำยังไงดี ขอใช้ Skype Tango Line หรือ แอพพลิเคชั่นที่เราสามารถ Video call กันได้ เพื่อจะได้แสดงบัตรและสามารถพูดคุยกันได้ และยืนยันสิทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมอยู่ดีแล้วก็พึมพำมาว่า ทำไมน้องชายของเมไม่เอาบัตรเครดิตตัวจริงของเมถือไปด้วย ....... โอ้โห ทีนี้ก็ยิ่งอารมณ์เสียเลยค่ะ เงินก็ตัดผ่านบัตรจ่ายไปแล้ว บัตรเครดิตของเมก็ต้องอยู่ที่เมสิคะ แล้วถ้าน้องชายเมเอาไปถือไว้ก็ไม่ใช่เจ้าของบัตรอยู่ดีจะทำอะไรได้ ก็ต้องเอาบัตรประชาชนแนบให้ด้วยอยู่ดี แล้วถ้าเมซื้อตั๋วเครื่องบินให้พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด เมไม่ต้องส่ง EMS บัตรเครดิตกับบัตรประชาชนของเมไปให้ญาติที่ต่างจังหวัดก่อนขึ้นเครื่องบินรึ ไง!!!
น้องชายก็เริ่มกังวลแล้วค่ะเพราะใกล้เวลาที่ต้องเดินทาง จริงๆแล้วหากสนามบินปลายทางที่น้องชายเมไป อยู่ใกล้ๆบ้าน เมกับน้องก็คงไม่ร้อนใจกันเท่าไหร่รอบินเที่ยวต่อไปก็ได้ แต่พ่อของเมขับรถมาจากจังหวัดใกล้เคียงเพื่อมารอรับค่ะ
ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์จึงบอกให้น้องชายเมซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ค่ะ โดยให้ทำเรื่องขอคืนเงินค่าตั๋วไว้ แล้วจะดำเนินการให้ภายใน 45 วัน จริงๆก็นอยด์เรื่องนี้เหมือนกันนะ เวลาตัดบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าตั๋ว ตัดเงินภายใน 1 นาที แต่เวลาคืนเงินเนี่ย 45 วัน !! นานไปรึปล่าวคะ 30 วันนี่ก็น่าจะนานเกินไปแล้วนะคะ
เอาล่ะ ทีนี้น้องชายเมก็ยื่นเรื่องขอคืนค่าตั๋วไว้ค่ะ แล้วก็ซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เพื่อจะได้กลับบ้าน แต่ยังค่ะ อย่าคิดว่าเรื่องจบแค่นี้
พนักงาน บอกว่า ค่าตั๋ว 3,315 บาทค่ะ น้องชายเมก็ควักเงินสดจ่ายไป 3,320 บาท ทอนมา 6 บาท ซึ่งจริงๆ ต้องทอน 5 บาทใช่มั๊ยคะ แต่เจ้าหน้าที่บอกกับน้องชายเมว่าไม่มีเหรียญ 5 บาททอนค่ะ แต่ไม่เป็นไร ทอนให้ 6 บาทแล้วกัน จริงๆก็แปลกใจนิดๆนะที่ตั๋วแพงขึ้นตั้ง 300 บาท แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าคงเหมือนสายการบินราคาประหยัดที่ซื้อตั๋วแล้วขึ้นบินทันที ราคาตั๋วก็จะแพงกว่าการซื้อผ่านเวปไซต์
กลับมาที่เงินทอน 6 บาท ใจดีแปลกๆนะ ทีตั๋วที่จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้วกลับมีปัญหา แต่เงินสดขาด 1 บาทนี่จะยอมจ่ายให้ด้วย อืม.....แปลกจริงๆ
เวลาเหลือไม่มากแล้วค่ะ น้องชายรีบวิ่งเข้าเกทไปเพราะว่าเครื่องจะออกแล้ว (ถ้าใครเคยขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิจะรู้ดีนะคะว่าทางเดินข้างในมันไกลแค่ ไหน ดังนั้นวิ่งเท่านั้นค่ะ ไม่งั้นตกเครื่องแน่) จนเข้ามาถึงเคาน์เตอร์ด้านในเพื่อจะขึ้นเครื่อง พอยื่นตั๋วให้กับพนักงานเช็คอินไป จึงได้มีโอกาส ดูใบเสร็จที่รับมา ปรากฏว่า .....
ใบเสร็จออกให้ ในราคา 3,015 บาท ค่ะ ย้ำว่า 3,015 บาท อ้าววววววว!!!! แล้วหายไปไหน 300 บาทล่ะ นั่นไง ...มาแล้ว สาเหตุของการใจดีแปลกๆ ทอนเงินให้ ยอมขาดทุน 1 บาท ที่แท้งุบงิบไปแล้ว 299 บาท โอ้โห...น้องชายเมถึงกับงงเลย ก็ยอมรับนะว่าสะเพร่าที่ไม่ได้ตรวจใบเสร็จทันทีที่ได้รับตั๋ว แต่ก็ต้องเข้าใจว่า ฃเครื่องบินจะออกแล้วก็ต้องรีบ ก็เลยแจ้งกับพนักงานที่เช็คตั๋วด้านล่างว่า เมื่อกี้จ่ายไป 3320 นะ ทำไมใบเสร็จเหลือแค่นี้ล่ะ ทางพนักงานเลยโทรเช็คกับเคาเตอร์ด้านบนให้ พร้อมกับให้คำตอบว่า “ขอโทษค่ะ เดี๋ยวเราจะโอนเงินส่วนทีผิพลาดเข้าบัญชีให้นะคะ” นั่นไง ขอโทษค่ะ...บลาๆๆๆ แล้วบอกว่าจะโอนให้ทางบัญชี เงินสดก็อยู่กับคุณที่เคาน์เตอร์แท้ๆ ก็คืนได้เลยนะ แล้วรีบขอโทษแล้วสรุปว่าโอนให้ทางบัญชีเลย แถมไม่ได้สอบถามเลขบัญชี หรือเขียนคำร้องอะไรด้วย ก็แปลว่า อุ๊ย โดนจับได้แล้วหรอ...งั้นเค้าคืนเงินก็ได้นะ ...อย่างนี้นะเหรอ!! ไม่ได้อยากคิดในแง่ร้ายแต่มันชวนให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
จากการสังเกตพฤติกรรม น้องชายเมก็บอกว่า ตอนที่แจ้งราคาตั๋วใหม่และตอนที่รับเงิน พนักงานเองก็ไม่มองหน้า หรืออะไรเลย อย่างนี้ขอตีความเลยได้มั้ยคะว่าตั้งใจตั้งแต่แรก เพราะรู้จากสถานการณ์อยู่แล้วว่ายังไงน้องชายก็ต้องยอมจ่ายเพื่อกลับต่างจังหวัด
เหวอสองรอบเลยค่ะวันนี้ ต้องบอกว่าใช้บริการการบินไทยมาตลอดในการกลับบ้าน (ยกเว้นที่ซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆ จะใช้บริการสายการบินราคาประหยัด)
มันหงุดหงิดหัวใจมากจนอยากแชร์เรื่องนี้ไปให้ถึงการบินไทยด้วยค่ะ เผื่อว่าจะสามารถติดต่อได้ เนื่องจากเมลองติดต่อผ่านทวิตเตอร์ก็แล้ว ก็ไม่มีเมนชั่นกลับมา ติดต่อผ่านหน้าเฟสบุ๊คก็บอกว่ามีปัญหา ไม่สามารถให้บริการได้ ติดต่อผ่าน Line app. ก็มีแค่โฆษณาทัวร์เอื้องหลวงตอบกลับมา และไม้สุดท้ายโทรเข้าสำนักงานฯก็บอกว่าสายเต็มไม่สามารถให้บริการได้ ถือสายรอนานกว่า 20 นาที และขณะนี้นอกเวลาทำการ บลาๆ......กรุณาติดต่อใหม่ในเวลา (ขอโทษนะคะ เรื่องมันเกิดเดี๋ยวนี้ ก็ควรจะดูแลลูกค้าเดี๋ยวนี้นะคะ)
สุดท้าย1 หากบริการของการบินไทยยังเป็นอย่างนี้ ก็คงต้องเสียลูกค้าไปเรื่อยๆนะคะ
สุด ท้าย 2 การบินไทยอาจจะมองว่าปัญหาของเมก็เป็นแค่ปัญหาเล็กๆที่ไม่ได้ส่งผลต่อบริษัทฯใหญ่ๆอย่างท่าน เรียกร้องอะไรไปเดี๋ยวก็คงเงียบไปเอง หรือเพราะคิดว่าเมคงไม่มีปัญญาทำอะไรคุณได้เพราะเงินแค่ 3000 กว่าบาท มันไม่ได้กระเทือนก็บริษัทของคุณอยู่แล้ว แต่ในมุมกลับกันหากคุณเป็นผู้ได้รับบริการที่ห่วยแตก และโกงกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้ รับรองว่าลืมไม่ลงเลยแน่ๆ
สุดท้าย 3 อยากให้การบินไทยพิจารณากฎหรืออะไรไร้สาระบางประเภทเช่นการแสดงบัตรเครดิตอย่างเช่นเหตุการณ์ทำนองนี้ด้วย นะคะ เพราะถ้าอย่างนั้น คงไม่มีใครได้ขึ้นเครื่องบินกันอีกเยอะแน่ค่ะ แถมยังต้องรอเงินคืนจากคุณอีก 45 วัน ซึ่งจะคืนในรูปแบบอะไรก็ยังไม่ทราบ หากคืนเป็นเครดิตมา ก็เท่ากับบังคับให้เราไปใช้จ่ายอะไรอีกเท่าราคาเงินที่คืน ซึ่งมันก็เป็นปัญหา เพราะเวลาที่คนใช้จ่ายอย่างเราต้องชำระหนี้ก็ต้องเอาเงินสดไปจ่าย แต่พอคุณคืนเงินมาเป็นเครดิต เท่ากับเราเสียฟรีสองต่อ มีแต่เงินในอากาศ มันเสียอารมณ์จริงๆนะคะ
ขออภัยที่เขียนระบายยาวไปหน่อย บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่มันเสียความรู้สึกมากสำหรับคนที่เจอบริการแบบนี้