ในวันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2556 ดิฉันได้เดินทางไปประเทศเกาหลี โดยสายการบิน AirAsia โดยได้ทำการจองแบบ Fly Thu เส้นทางการบินคือ ดอนเมือง - กัวลาฯ - อินชอน ดิฉันได้เลือกเที่ยวบินที่ AK1949 ไฟล์ทบินจากดอนเมือง 21.00 น ถึง สนามบิน LCCT (KUL) 00:15 และต้องต่อเครื่องไปยังสนามบิน ICN โซล ประเทศเกาหลีเวลา 01.00 am ไฟล์ทบิน D7 506 ซึ่งจะเดินทางไปถึงประเทศเกาหลีในเช้าวันที่ 26 มกราคม 2556 เวลา 8.20 ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนลงเครื่องกัปตันได้แจ้งอุณหภูมิของเกาหลี ณ ขณะนั้น ติดลบ 10 องศา
การเดินทางครั้งนี้ ดิฉันไปกับเพื่อนอีก 1 คน ตอนอยู่บนเครื่องเราตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการเดินทางมาเที่ยวเกาหลีเป็นครั้งแรก ทริปนี้ดิฉันเลือกที่จะท่องเที่ยวเกาหลีแบบเต็ม ๆ คือ 6 วัน 5 คืน ไม่นับรวมคืนวันที่ 25 นะคะ
แพลนการท่องเที่ยวคือ
วันแรก เที่ยวเคียงบกกุน บลูเฮ้าส์ หมู่บ้านบุกชน อนุสาวรีย์แม่ทัพลี คลองซองเกชอง ช็อปปิ้งเมียงดง
วันที่สอง หอคอย N Seoul Tower (ใกล้ที่พัก) ตามรอยซีรี่ย์ F4 หมู่บ้านฝรั่งเศษ แถวพาจู ประมาณนี้ แล้วจะกลับมาเดิน ทงแดมุน
วันที่สาม เกาะนามิ และเดินทางไป Sokcho นอนค้างที่ The House 1 คืน
วันที่สี่ ตอนเช้าไปซอรัคซาน ช่วงบ่ายกลับมาตามรอย Autumn และไปเก็บสตอเบอร์รี่ที่ไร่ เดินทางกลับ Seoul เดินเล่นแถวฮงอิก
วันที่ห้า เที่ยว Everland ทั้งวัน และกลับมาช็อปที่เมียงดง
วันที่หก เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เช้า
จากการเตรียมข้อมูล เราได้ Print ข้อมูลต่าง ๆ จากห้องบลู รวมถึงซื้อหนังสือ มา 1 เล่ม และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น มันช่างเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตการท่องเที่ยวของดิฉันจริง ๆ หลังจากที่เครื่องบินร่อนลงอย่างปลอดภัย ก็ถึงเวลาลุ้นกับ ตม. ซึ่งอันนี้ไม่เครียดคะ เพระาหน้าตาไม่เข้าข่ายแน่นอน 555 ดิฉันและเพื่อนผ่าน ตม.อย่างละม่อม กิกิ หลังจากนั้นดิฉันก็เดินมาที่สายพานกระเป๋า เวลาผ่านไปดิฉันมองหากระเป๋าของดิฉันและเพื่อนไม่เจอ ผู้โดยสารท่านอื่น ก็ไปกันหมดแล้ว เราเริ่มได่้กลิ่นตุ ตุ แล้วคะ รีบวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่ ว่ากระเป๋าหาย เจ้าหน้าที่ให้ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์แจ้งกระเป๋าหาย เวลาขณะนั้นประมาณ 9.30 น. เจ้าหน้าที่ก๋พยายามประสานงานเบื้องต้นว่ากระเป๋าหายหรือตกค้างที่ไหน เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชม. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า กระเป๋าดิฉันยังอยู่ที่สนามบินกัวลาฯ TT TT ณ จุดนี้งานงอกคะ เจ้าหน้าที่บอกไม่ต้องตกใจ กระเป๋าจะมาในวันรุ่งขึ้นไฟลท์เดียวกัน เวลาเดียวกันนี้ และจะมีเจ้าหน้าที่นำส่งให้ที่พัก แต่ แต่ ดิฉันไม่มีโทรศัพท์ติดต่อ ทางเจ้าหน้าที่แนะนำให้ดิฉันไปเช่าโทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์ด้านนอก ดิฉันไม่ต้องการเช่า และทำการขอยืมโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่โทรไปหาเจ้าของห้องเกสต์เฮ้าส์ที่จองไว้ และให้เจ้าของคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อกระเป๋ามาถึงให้แจ้งกับทางเค้าและให้บอกสถานที่เพื่อทำการจัดส่งกระเป๋าไปให้ เพื่อน ๆ พอจะทราบนะคะ คนเกาหลี พูดอังกฤษได้น้อย แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ในสนามบินเองก็ตาม TT TT
กว่าที่ดิฉันจะดำเนินการต่าง ๆ เสร็จสิ้น ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงวันแล้ว ดิฉันและเพื่อน ใส่เสื้อหนาวตัวบาง ๆ คิดภาพตามนะคะ เสื้อหนาวแบบใส่กันในออฟฟิตอ่ะคะ พออุ่น ๆ นำติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วยเผื่อจะหนาว ของทุกสิ่งอย่างแม้กระทั้งเอกสารที่ปรินซ์มาว่าต้องไปไหน นั่งรถไฟฟ้าอย่างไร อยู่ในกระเป๋าหมดคะ ดิฉันวิ่งออกไปนอกประตูเพื่อดูว่าสามารถออกไปได้มั้ย คือว่า ครั้งแรกในชีวิตนะคะ ของคนเมืองร้อนอย่างประเทศเราต้องไปประเทศที่หนาวจนอากาศติดลบ เราทนไม่ไหว กลับมาตั้งหลักในสนามบินอีกครั้ง ระหว่างนั้น ดิฉันได้ซื้อบัตรโทรศัทพ์ โทรฯ กลับมาหาเพื่อนที่เมืองไทย เพืี่อให้เพื่อนแจ้งกับทาง Airasia ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจะทำอย่างไร โดยขอยืมโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ในสนามบิน หลังจากนั้น ดิฉันก็ตั้งหลักมองหารถเข้าเมืองไปที่เมียงดง 6015 พอจอดปุ๊ปก็วิงขึ้นรถทันที ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก้อถึงที่พัก มือดิฉันแดงมาก เราเข้าไปเช็คอินและคุยกับเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ เค้ารับปากเป็นธุระให้ ช่วงเวลานั้นดิฉันไม่มีจิตใจที่จะเดินเที่ยวไหนแล้ว มันหนาวมากกกกก แต่ตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้กินข้าว เราก๋เดินออกจากบ้านพักที่อยู่ในซอยค่อนข้างลึกแต่อยู่ตรงข้ามเมียงดงเลย เราตัดสินใจไปหาซื้อของใช้ที่จำเป็นก่อน เช่น ผ้าพันคอ ที่ครอบหู ถุงมือ สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ส่วนชุดที่ใส่มาทำงานตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ดิฉันก็ใส่จนกระทั่งได้รับกระเป๋า อย่างเหม็นเลยคะ TT TT เท่ากับวันแรก ดิฉันไม่ได้ไปไหนเลยเสียเวลา เสียค่าที่พัก ฟรี ฟรี
วันที่สอง เราออกเดินทางไปเคียงบกกุง ตามแผนของวันแรก หลังจากตั้งหลักได้ โดยขอให้เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ print ข้อมูลให้ ช่วงบ่ายเพื่อนไม่ไหวแล้ว ขอกลับมาดูกระเป๋าว่าได้หรือยังจะได้เอาเสี้อหนาวมาใส่ เรากลับมาถึงที่พักประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง เจ้าของบ้าน บอกว่า ยังไม่ได้รับกระเป๋า เค้าเลยโทรตามกับเจ้าหน้าที่ที่สนามบินให้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากระเป๋าออกจากสนามบินมาแล้ว สักพักไม่ถึง 3 นาที มีคนมากดออดหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ที่นำกระเป๋ามาให้มาถึงพอดี รวมแล้วดิฉันเสียเวลาไปถึง 2 วันแทบจะไม่ได้เที่ยวอะไรกันเลย เพระาวันรุ่งขึ้นก็ต้องไป Soksho แล้ว TT TT
หลังจากเราได้รับกระเป๋าเราก็รีบอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวกันใหม่ แบบจัดเต็ม และทำตามแพลนที่ได้เตรียมไว้เท่าที่จะทำได้จนถึงวันเดินทางกลับ
เหตุการณ์โชคร้ายซ้ำสองคือ กระเป๋าเดินทางดิฉันโดนกระแทกจนที่จับหลุด TT TT
ดิฉันไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อเคลมค่าเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบว่าดิฉันได้ซื้อประกันกับทางแอร์เอเชียหรือไม่ ปรากฏว่าดิฉันไม่ได้ซื้อ จึงมีแค่ 2 ทางเลือกคือ รับเงินไปซ่อมเอง 500 บาท หรือจะให้ทาง Airasai ซ่อมให้ซึ่งต้องใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ และส่วนในเรื่องกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ทางเกาหลี ทำเอกสารเพียงชุดเดียว ทาง AirAsia ก็จะจ่ายเพียง 500 บาท สำหรับดิฉันกับเพื่อนเท่ากับได้คนละ 250 บาท นี่หรือคะสิ่งที่เราได้รับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ดิฉันจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า เงิน 500 บาทดิฉันไม่รับ แต่ดิฉันจะขอร้องเรียนให้ถึงที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ท่านนั้นบอกว่าตามกฏของสายการบินหากผู้โดยสารไม่ได้ซื้อประกัน ก็จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้นคะ
เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากดิฉัน แต่เกิดจากความผิดพลาดของสายการบิน แต่ทำไม Airasia ถึงไม่มีความรับผิดชอบใด ๆ เลย จึงอยากขอเตือนเพื่อน ๆ หากคิดจะใช้บริการของสายการบินนี้ ควรศึกษาข้อมูลความรับผิดชอบต่าง ๆ ก่อนนะคะ ทริปนี้เสียความรู้สึกจริง ๆ คะ
ขอแชร์ประสบการณ์กระเป๋าล่าช้า การใช้ชีวิตอยู่กับอุณหภูมิติดลบ 2-13 องศา กับความรับผิดชอบจากสายการบิน AirAsia
การเดินทางครั้งนี้ ดิฉันไปกับเพื่อนอีก 1 คน ตอนอยู่บนเครื่องเราตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการเดินทางมาเที่ยวเกาหลีเป็นครั้งแรก ทริปนี้ดิฉันเลือกที่จะท่องเที่ยวเกาหลีแบบเต็ม ๆ คือ 6 วัน 5 คืน ไม่นับรวมคืนวันที่ 25 นะคะ
แพลนการท่องเที่ยวคือ
วันแรก เที่ยวเคียงบกกุน บลูเฮ้าส์ หมู่บ้านบุกชน อนุสาวรีย์แม่ทัพลี คลองซองเกชอง ช็อปปิ้งเมียงดง
วันที่สอง หอคอย N Seoul Tower (ใกล้ที่พัก) ตามรอยซีรี่ย์ F4 หมู่บ้านฝรั่งเศษ แถวพาจู ประมาณนี้ แล้วจะกลับมาเดิน ทงแดมุน
วันที่สาม เกาะนามิ และเดินทางไป Sokcho นอนค้างที่ The House 1 คืน
วันที่สี่ ตอนเช้าไปซอรัคซาน ช่วงบ่ายกลับมาตามรอย Autumn และไปเก็บสตอเบอร์รี่ที่ไร่ เดินทางกลับ Seoul เดินเล่นแถวฮงอิก
วันที่ห้า เที่ยว Everland ทั้งวัน และกลับมาช็อปที่เมียงดง
วันที่หก เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เช้า
จากการเตรียมข้อมูล เราได้ Print ข้อมูลต่าง ๆ จากห้องบลู รวมถึงซื้อหนังสือ มา 1 เล่ม และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น มันช่างเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตการท่องเที่ยวของดิฉันจริง ๆ หลังจากที่เครื่องบินร่อนลงอย่างปลอดภัย ก็ถึงเวลาลุ้นกับ ตม. ซึ่งอันนี้ไม่เครียดคะ เพระาหน้าตาไม่เข้าข่ายแน่นอน 555 ดิฉันและเพื่อนผ่าน ตม.อย่างละม่อม กิกิ หลังจากนั้นดิฉันก็เดินมาที่สายพานกระเป๋า เวลาผ่านไปดิฉันมองหากระเป๋าของดิฉันและเพื่อนไม่เจอ ผู้โดยสารท่านอื่น ก็ไปกันหมดแล้ว เราเริ่มได่้กลิ่นตุ ตุ แล้วคะ รีบวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่ ว่ากระเป๋าหาย เจ้าหน้าที่ให้ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์แจ้งกระเป๋าหาย เวลาขณะนั้นประมาณ 9.30 น. เจ้าหน้าที่ก๋พยายามประสานงานเบื้องต้นว่ากระเป๋าหายหรือตกค้างที่ไหน เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชม. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า กระเป๋าดิฉันยังอยู่ที่สนามบินกัวลาฯ TT TT ณ จุดนี้งานงอกคะ เจ้าหน้าที่บอกไม่ต้องตกใจ กระเป๋าจะมาในวันรุ่งขึ้นไฟลท์เดียวกัน เวลาเดียวกันนี้ และจะมีเจ้าหน้าที่นำส่งให้ที่พัก แต่ แต่ ดิฉันไม่มีโทรศัพท์ติดต่อ ทางเจ้าหน้าที่แนะนำให้ดิฉันไปเช่าโทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์ด้านนอก ดิฉันไม่ต้องการเช่า และทำการขอยืมโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่โทรไปหาเจ้าของห้องเกสต์เฮ้าส์ที่จองไว้ และให้เจ้าของคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อกระเป๋ามาถึงให้แจ้งกับทางเค้าและให้บอกสถานที่เพื่อทำการจัดส่งกระเป๋าไปให้ เพื่อน ๆ พอจะทราบนะคะ คนเกาหลี พูดอังกฤษได้น้อย แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ในสนามบินเองก็ตาม TT TT
กว่าที่ดิฉันจะดำเนินการต่าง ๆ เสร็จสิ้น ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงวันแล้ว ดิฉันและเพื่อน ใส่เสื้อหนาวตัวบาง ๆ คิดภาพตามนะคะ เสื้อหนาวแบบใส่กันในออฟฟิตอ่ะคะ พออุ่น ๆ นำติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วยเผื่อจะหนาว ของทุกสิ่งอย่างแม้กระทั้งเอกสารที่ปรินซ์มาว่าต้องไปไหน นั่งรถไฟฟ้าอย่างไร อยู่ในกระเป๋าหมดคะ ดิฉันวิ่งออกไปนอกประตูเพื่อดูว่าสามารถออกไปได้มั้ย คือว่า ครั้งแรกในชีวิตนะคะ ของคนเมืองร้อนอย่างประเทศเราต้องไปประเทศที่หนาวจนอากาศติดลบ เราทนไม่ไหว กลับมาตั้งหลักในสนามบินอีกครั้ง ระหว่างนั้น ดิฉันได้ซื้อบัตรโทรศัทพ์ โทรฯ กลับมาหาเพื่อนที่เมืองไทย เพืี่อให้เพื่อนแจ้งกับทาง Airasia ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจะทำอย่างไร โดยขอยืมโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ในสนามบิน หลังจากนั้น ดิฉันก็ตั้งหลักมองหารถเข้าเมืองไปที่เมียงดง 6015 พอจอดปุ๊ปก็วิงขึ้นรถทันที ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก้อถึงที่พัก มือดิฉันแดงมาก เราเข้าไปเช็คอินและคุยกับเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ เค้ารับปากเป็นธุระให้ ช่วงเวลานั้นดิฉันไม่มีจิตใจที่จะเดินเที่ยวไหนแล้ว มันหนาวมากกกกก แต่ตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้กินข้าว เราก๋เดินออกจากบ้านพักที่อยู่ในซอยค่อนข้างลึกแต่อยู่ตรงข้ามเมียงดงเลย เราตัดสินใจไปหาซื้อของใช้ที่จำเป็นก่อน เช่น ผ้าพันคอ ที่ครอบหู ถุงมือ สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ส่วนชุดที่ใส่มาทำงานตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ดิฉันก็ใส่จนกระทั่งได้รับกระเป๋า อย่างเหม็นเลยคะ TT TT เท่ากับวันแรก ดิฉันไม่ได้ไปไหนเลยเสียเวลา เสียค่าที่พัก ฟรี ฟรี
วันที่สอง เราออกเดินทางไปเคียงบกกุง ตามแผนของวันแรก หลังจากตั้งหลักได้ โดยขอให้เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ print ข้อมูลให้ ช่วงบ่ายเพื่อนไม่ไหวแล้ว ขอกลับมาดูกระเป๋าว่าได้หรือยังจะได้เอาเสี้อหนาวมาใส่ เรากลับมาถึงที่พักประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง เจ้าของบ้าน บอกว่า ยังไม่ได้รับกระเป๋า เค้าเลยโทรตามกับเจ้าหน้าที่ที่สนามบินให้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากระเป๋าออกจากสนามบินมาแล้ว สักพักไม่ถึง 3 นาที มีคนมากดออดหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ที่นำกระเป๋ามาให้มาถึงพอดี รวมแล้วดิฉันเสียเวลาไปถึง 2 วันแทบจะไม่ได้เที่ยวอะไรกันเลย เพระาวันรุ่งขึ้นก็ต้องไป Soksho แล้ว TT TT
หลังจากเราได้รับกระเป๋าเราก็รีบอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวกันใหม่ แบบจัดเต็ม และทำตามแพลนที่ได้เตรียมไว้เท่าที่จะทำได้จนถึงวันเดินทางกลับ
เหตุการณ์โชคร้ายซ้ำสองคือ กระเป๋าเดินทางดิฉันโดนกระแทกจนที่จับหลุด TT TT
ดิฉันไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อเคลมค่าเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบว่าดิฉันได้ซื้อประกันกับทางแอร์เอเชียหรือไม่ ปรากฏว่าดิฉันไม่ได้ซื้อ จึงมีแค่ 2 ทางเลือกคือ รับเงินไปซ่อมเอง 500 บาท หรือจะให้ทาง Airasai ซ่อมให้ซึ่งต้องใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ และส่วนในเรื่องกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ทางเกาหลี ทำเอกสารเพียงชุดเดียว ทาง AirAsia ก็จะจ่ายเพียง 500 บาท สำหรับดิฉันกับเพื่อนเท่ากับได้คนละ 250 บาท นี่หรือคะสิ่งที่เราได้รับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ดิฉันจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า เงิน 500 บาทดิฉันไม่รับ แต่ดิฉันจะขอร้องเรียนให้ถึงที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ท่านนั้นบอกว่าตามกฏของสายการบินหากผู้โดยสารไม่ได้ซื้อประกัน ก็จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้นคะ
เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากดิฉัน แต่เกิดจากความผิดพลาดของสายการบิน แต่ทำไม Airasia ถึงไม่มีความรับผิดชอบใด ๆ เลย จึงอยากขอเตือนเพื่อน ๆ หากคิดจะใช้บริการของสายการบินนี้ ควรศึกษาข้อมูลความรับผิดชอบต่าง ๆ ก่อนนะคะ ทริปนี้เสียความรู้สึกจริง ๆ คะ