แต่งจบเป็นเรื่องแรกค่ะ อยากถามความเห็นเพื่อน ๆ ว่าเป็นยังไงบ้างนะคะ
แสงสุดท้าย
ผมเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในโรงเรียนรัฐบาล ขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ ผมเป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่นพอสมควร และขี้สงสัย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมคือ เชน เป็นหนุ่มเจ้าสำราญมีสาว ๆ รุมล้อมกันเต็มไปหมดผิดกับผม แต่ผมกับมันก็เรียนอยู่ห้องเดียวกันมาทั้งแต่ปีที่หนึ่ง
‘ริต้า’ เด็กผู้หญิงในห้องที่ผมแทบจะไม่ได้พูดกับเธอเลย จำได้ว่าครั้งแรกที่พบเธอก็ตอนครูที่ปรึกษาให้นักเรียนแต่ละคนออกไปแนะนำตัวหน้าชั้น ผมไม่รู้ว่าเธอเคยเรียนอยู่ที่นี่มาก่อนรึเปล่าเพราะผมไม่เคยเห็นหน้าเธอ ริต้าเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ และผมก็ยังไม่เห็นเธอมีเพื่อนเลยสักคน
ผมได้รู้จักริต้าจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนที่ครูสุ่มจับคู่ทำรายงานวิชาหนึ่ง ผมบังเอิญได้คู่กับเธอพอดี พวกเราปรึกษากันว่าจะทำเรื่องอะไร ใครจะเป็นคนทำอะไรบ้าง และได้ทำงานร่วมกัน นั่นทำให้เราสนิทกันมากขึ้น จนวันหนึ่งหลังเลิกเรียนเชนก็เข้ามาคุยกับผม
“ไอ้วิน! แกเป็นอะไรกับริต้ารึเปล่า?”
“เป็นเพื่อนกัน ฉันทำรายงานคู่กับริต้า แกจำไม่ได้หรอ?”
“ก็แล้วไป ขอเตือนแกว่าอย่าไปยุ่งกับแม่นั่นอีกหลังจบงาน”
“ทำไม? ริต้าเขาเป็นอะไร แกรู้อะไรเกี่ยวกับเขามาหรอ?”
“เอาเถอะน่า! แกไม่ต้องรู้หรอก แค่เชื่อที่ฉันพูดก็พอ” เชนพูดแล้วเดินจากไป
“เดี๋ยวสิ! มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไอ้เชน! ไอ้เชน!” ผมร้องตะโกนให้มันกลับมาก่อน แต่มันก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
วันรุ่งขึ้นผมมาโรงเรียนเช้าเหมือนเดิม พอมาถึงห้องก็มีคนมาก่อนผมแล้ว ริต้านั่นเอง ผมไม่เคยเห็นเธอมาโรงเรียนเช้าขนาดนี้มาก่อน เมื่อวางกระเป๋านักเรียนแล้ว ผมก็เดินไปทักเธอที่โต๊ะว่า
“ไง ริต้า อรุณสวัสดิ์”
“ไงวิน ทำไมมาเช้าจัง?”
“ผมน่าจะถามริต้ามากกว่านะ ทำไมวันนี้ถึงมาเช้าล่ะ? ปกติผมมาคนแรกของห้องก็ไม่เคยเห็นริต้าเลย”
“มีเรื่องนิดหน่อย เลยต้องมาเช้ากว่าปกติ นี่วิน! เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ ไปเดินเล่นกันมั้ย?”
“ไปสิ” ผมบอก และเราก็ลงไปด้วยกัน
เมื่อใกล้เวลาเข้าเรียนผมกับริต้าจึงกลับเข้าห้อง ทุกคนมากันครบหมดแล้ว แต่ครูผู้สอนยังไม่เข้ามา ดังนั้นเราจึงไม่รู้สึกรีบอะไร ผมนั่งลงข้าง ๆ เชนซึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มันกำลังทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ที่จะส่งในคาบที่สองและสาม พอทำการบ้านเสร็จแล้ว เชนก็หันมาพูดกับผม
“นี่แกไม่ฟังที่ฉันเตือน?”
“ฉันว่าแกคิดไปเองแหล่ะ ริต้าเขาก็น่ารักดี แค่ดูเงียบ ๆ ไปบ้างถ้าแกลองไปคุยกับเขาแล้วล่ะก็…”
“พอ ๆ ฉันไม่อยากฟังที่แกพูด เอางี้! ตอนกลางวันฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้แกฟังละกัน ครูมาแล้ว เรียนเถอะ!”
ผมหันกลับไปมองหน้ากระดานก็เห็นครูเดินเข้ามาพอดี หัวหน้าห้องบอกนักเรียนทำความเคารพ แล้วการเรียนช่วงเช้าก็ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า โดยในหัวผมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก นอกจากคิดเรื่องที่เชนจะเล่าให้ฟังในตอนกลางวันเกี่ยวกับริต้า
“วันนี้พอแค่นี้ หัวหน้าห้องบอกเลิกชั้นเรียนได้” เสียงครูสั่งหัวหน้าห้องเรียกสติผมคืนมาหลังจากที่เหม่อลอยไปไกล
“ขอบคุณครับ” ผมกล่าวขอบคุณครู แล้วหันไปหาเชน
“วันนี้จะไปกินข้าวที่ไหน?”
“ที่ดาดฟ้าก็ไม่เลว ไม่ค่อยมีคนด้วย ฉันจะได้เล่าเรื่องริต้าให้แกฟังสบายๆ”
“เออ!” แล้วผมกับเชนก็ขึ้นไปทานอาหารกลางวันบนดาดฟ้า ที่นี่ไม่ค่อยมีคนจริง ๆ นอกจากพวกเราแล้วก็มีเด็กผู้ชายคนเดียวเท่านั้นที่ขึ้นมา เมื่อไม่เห็นว่ามีปัญหาผมกับเชนจึงนั่งลง ทานข้าวของใครของมันแล้วเริ่มคุยกัน
“แกมีเรื่องอะไรก็รีบ ๆ เล่ามาสิวะ เดี๋ยวก็หมดเวลาพอดี”
“ไหน ๆ ก็รอมาจนครึ่งวันแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นไร”
“ก็ได้ ๆ แกก็กินให้มันไว ๆ หน่อย มัวแต่เคี้ยวยืดยาดอืดอาดอยู่ได้”
“เข้าใจล่ะ” เชนเงียบไปสักพักพอทานเสร็จจึงพูดต่อ “เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว แกจำได้รึเปล่าว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่โรงเรียนเรา?”
“เรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว หรือว่าจะเป็นเรื่อง…”
“ใช่แล้วล่ะ เรื่องฆาตกรรมที่ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ไง ใครเป็นคนฆ่าเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้วทิ้งศพไว้กลางสนามโรงเรียน”
“แกรู้?” ผมถามเชน
“ไม่รู้หรอก ฉันแค่สงสัยอะไรนิดหน่อยน่ะ”
“และคนที่แกสงสัยก็คือริต้า”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็อย่างที่บอก สองปีที่แล้ว ฉันเคยเห็นริต้าอยู่กับคนที่ตายนั่น สองคนนั้นดูสนิทกันมากกว่าเพื่อน ฉันคิดว่าเป็นคู่รักกันเสียอีก แต่ก็นะยังไงทั้งสองคนก็เป็นผู้หญิง ฉันสงสัยเลยไปสอบถามคนรอบข้างทั้งสองคนดู พวกนั้นก็บอกมาว่า ริต้ากับผู้หญิงอีกคน ซึ่งก็คือคนที่ตาย รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่ากันว่าบ้านทั้งสองคนอยู่ติดกัน อยู่โรงเรียนเดียวกันมาตลอด พอจบประถมศึกษาตอนปลาย ก็สอบเข้าที่นี่ด้วยกันแล้วก็อยู่ห้องเดียวกัน”
“แล้วยังไงต่อ?” ผมขัดขึ้นระหว่างที่เชนพักดื่มน้ำ
“ก็จะมีอะไร เพื่อนคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบที่ฉันเห็น ก็คิดแบบที่ฉันคิดน่ะสิ สองคนนั่น ‘รักกัน’ ขนลุกชะมัด!”
“ไม่เห็นจะมีอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ตายไปแล้ว ทีนี้ก็ไม่มีข่าวกับริต้าแบบนั้นอีก”
“เรื่องมันไม่จบแค่นั้น ฉันไปรู้มาว่าริต้าแอบชอบผู้ชายคนนึง ตอนนั้นเขาเป็นคนที่ฮอตที่สุดในสายชั้นเลยล่ะ”
“อย่าบอกนะว่า คน ๆ นั้นก็คือ?”
“ฉันเอง” เชนตอบหน้าตาเฉย
“นี่มัน…” ทันใดนั้นเสียงออดหมดเวลาพักกลางวันก็ดังขึ้น ผมกับเชนจึงเก็บขยะไปทิ้งแล้วลงไปที่ห้องเพื่อเรียนวิชาในภาคบ่าย วันนี้เป็นวันที่ไม่น่าเรียนหนังสือเอาซะเลย ผมมองไปนอกหน้าต่าง เมฆฝนเคลื่อนตัวมาบดบังทัศนวิสัยในตอนนี้หมดทุกหนแห่ง แล้วผมจะกลับบ้านยังไงถ้าตอนเย็นฝนตก
ซ่า!
เสียงฝนโปรยลงมา พร้อมกับหมดเวลาวิชาสุดท้าย ผมหยิบกระเป๋านักเรียนแล้วออกจากห้องไปพร้อมกับเชน เดินลงบันไดไปเรื่อย ๆ จนถึงชั้นล่างสุด มองไปทางไหนก็มีแต่คนมีร่มทั้งนั้น เชนก็มีร่มเช่นกัน แต่ร่มของมันไม่พอสำหรับคนสองคน ผมจึงบอกลามันทั้งที่ตัวเองยังติดอยู่ที่โรงเรียน
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น เหลือนักเรียนอยู่เพียงไม่กี่คนที่รอฝนซา ผมกำลังจะวิ่งตากฝนกลับบ้านไป เพราะเย็นมากแล้วกลัวว่าพ่อและแม่จะเป็นห่วง ก็มีเสียงทักขึ้นมาว่า
“ไม่กลัวฟ้าผ่าหรอ จะวิ่งตากฝนไปแบบนั้น” ผมหันไปมองหน้าคนพูด ไม่ต้องบอกก็รู้ ‘ริต้า’
“ฟ้าไม่ผ่าใครง่าย ๆ หรอก ยังไงผมก็ต้องรีบกลับ” ผมพูด และเมื่อไม่มีอะไร ผมจึงตัดสินใจออกไปอีกครั้ง
“เดี๋ยว!” ริต้าเรียก “ให้ไปส่งมั้ย?”
“แต่ว่า…”
“ฉันมีร่ม” เธอบอก แล้วผมก็กลับบ้านกับเธอ
พักเที่ยงของอีกวัน ผมกับเชนก็ขึ้นมาบนดาดฟ้า วันนี้ริต้าไม่มาโรงเรียน ผมคิดว่าเธอน่าจะไม่สบายจากการไปส่งผมที่บ้านเมื่อวาน เพราะร่มของเธอก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าร่มของเชนเมื่อวานนี้ เธอพยายามกางร่มกันฝนให้ผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่คิดว่าตัวเองจะเปียกขนาดไหน ผมห้ามเธอก็ไม่ฟัง ผลมันก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ คือริต้าไม่สบาย มาโรงเรียนไม่ได้ และผมก็สบายดีแบบนี้ไงเล่า เมื่อทานอาหารกันเสร็จ เชนก็ถามผมว่า
“เมื่อวาน ริต้าไปส่งแกที่บ้าน?”
“ใช่!” ผมตอบเสียงดัง
“ไม่เกิดอะไรขึ้นเลยหรอ?”
“ก็ไม่นะ วันนี้เธอก็ไม่มาโรงเรียน แกไม่เห็นหรือไง?”
“อือ… งั้นฉันขอเล่าต่อจากเมื่อวานเลยละกัน ฉันเล่าถึงตอนที่ริต้าชอบฉันใช่ป่ะ?”
“อ่าฮะ” ผมพยักหน้าตาม ๆ ไป
“ยัยนั่นมาสารภาพรักกับฉันถึงห้อง ตอนนั้นฉันอยู่ห้องเดียวกับแกก็จริง แต่ยังไม่สนิทกับแกมาก ฉะนั้นแกคงไม่รู้เรื่องนี้สักเท่าไหร่”
“แล้วยังไงต่อ เล่ามาสิ”
“ฉันก็บอกปฏิเสธ แต่…”
“แต่?” ผมเร่ง
“แต่ฉันผิวปากเรียกคนในห้องทั้งหมดให้หันมาที่ฉัน แล้วประกาศออกไปว่า ‘ยัยทอมนี่มาสารภาพรักกับฉันว่ะ ฉันจะรับหล่อนเป็นแฟนดีมั้ย? หรือเขี่ยหล่อนทิ้งไปดี’ แล้วหันไปพูดกับริต้าว่า ‘เลิกกับคู่ขาตัวเองแล้วหรอ ถึงมาสารภาพรักกับฉัน คบกันมาตั้งนานนี่ เปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่เมื่อไหร่?’” เชนหัวเราะกับตัวเองแล้วพูดต่อ “แค่นั้นแหล่ะพวกเพื่อน ๆ ก็หัวเราะกันทั้งห้อง แล้วชี้มาที่ริต้า เธอคงทนไม่ได้เลยวิ่งหนีไป และนับจากวันนั้น ฉันก็ไม่เห็นเธออยู่กับผู้หญิงคนนั้นที่ฉันคิดว่าเป็นคู่ขาเธออีก แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้”
“ในวันสอบวันสุดท้าย…”
“ใช่” เชนพูด “ภาพนั้นยังติดตาฉันอยู่เลย” หยุดกลืนน้ำลาย “เช้าวันนั้นเด็กผู้หญิงสวมชุดนักเรียนเปื้อนเลือด นอนแผ่อยู่กลางสนาม ลำคอบิดมาด้านหลัง ตาไม่ได้ปิด…”
“…” ผมเงียบ รู้สึกเหมือนมีก้อนแข็ง ๆ ขึ้นมาจุกที่คอ
“จำได้ว่าฉันเป็นคนแรกที่พบศพ ฉันรีบวิ่งไปบอกครู แล้วเจ้าหน้าที่ก็มาจัดการ”
“…”
“ในวันนั้นฉันเจอเด็กทุกคนในชั้น นายจะคิดว่าฉันคิดไปเองก็ได้ แต่ฉันไม่เห็นริต้า”
“ไม่เห็น? หมายถึงอะไร…”
“ฉันหมายความว่า วันนั้นริต้าไม่ได้มาโรงเรียน”
“แล้วเธอ…” ผมถามออกไปแต่เชนขัดขึ้นซะก่อน
“ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าริต้าเป็นคนเดียวที่สนิทกับผู้หญิงคนนั้น เธอก็น่าจะแสดงความรู้สึกเสียใจบ้างไม่ใช่หรอที่เพื่อนตายน่ะ ครูเลื่อนวันสอบออกไป จำได้มั้ย? พอฉันมาสอบในวันสุดท้ายฉันก็เห็นริต้า สีหน้าดูไม่เสียใจอะไรเลย ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้วน่ะ”
“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะถามริต้าเอง ว่าตกลงเรื่องมันเป็นยังไง” เสียงออดหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้น ผมลุกขึ้นกลับห้องเรียนทันที เชนตะโกนเรียกผม แต่ผมก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
ผมเข้าห้องก่อนเชนห้านาที ครูยังไม่เข้าสอน เมื่อเชนกำลังจะเข้า ครูก็มาพอดิบพอดี ทำให้ครูลงโทษหน้าชั้น หลังทำโทษเสร็จเชนก็เดินมานั่งข้างผมเหมือนเดิม ระหว่างที่ครูสอน มันก็ถามผมว่า
“ตกลงแกจะไปถามแม่นั่นจริงดิ!”
“อือ…” ผมตอบเนือย ๆ
“ฉันไปด้วยได้ป่ะ?”
“ไม่ต้องเลย! แกไปเดี๋ยววุ่นกันพอดี”
“เออ ๆ ตามใจ เกิดเรื่องก็อย่ามาขอให้ฉันช่วยละกัน” เชนพูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะไปสนใจเรียนต่อ ผมก็กลับไปมองหน้ากระดานเช่นกัน พอถึงเวลาเลิกเรียน ผมก็เดินกลับบ้านพร้อมกับเชน
วันต่อมาริต้าก็มาโรงเรียนอย่างที่ผมคาดไว้ ผมหาโอกาสเข้าไปคุยกับเธอตั้งแต่เช้าจนเที่ยง แต่ก็ยังไม่มีเพราะเมื่อวานริต้าไม่มาโรงเรียน ทำให้วันนี้มีการบ้านที่ต้องทำหลายอย่าง ผมจึงชวนเธอไปนั่งคุยที่ร้านขนมหน้าโรงเรียนแทน
“ริต้า เย็นนี้ว่างมั้ย?”
“ก็ว่างอยู่นะ วินมีเรื่องอะไรหรอ?”
แสงสุดท้าย
แสงสุดท้าย
ผมเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในโรงเรียนรัฐบาล ขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ ผมเป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่นพอสมควร และขี้สงสัย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมคือ เชน เป็นหนุ่มเจ้าสำราญมีสาว ๆ รุมล้อมกันเต็มไปหมดผิดกับผม แต่ผมกับมันก็เรียนอยู่ห้องเดียวกันมาทั้งแต่ปีที่หนึ่ง
‘ริต้า’ เด็กผู้หญิงในห้องที่ผมแทบจะไม่ได้พูดกับเธอเลย จำได้ว่าครั้งแรกที่พบเธอก็ตอนครูที่ปรึกษาให้นักเรียนแต่ละคนออกไปแนะนำตัวหน้าชั้น ผมไม่รู้ว่าเธอเคยเรียนอยู่ที่นี่มาก่อนรึเปล่าเพราะผมไม่เคยเห็นหน้าเธอ ริต้าเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ และผมก็ยังไม่เห็นเธอมีเพื่อนเลยสักคน
ผมได้รู้จักริต้าจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนที่ครูสุ่มจับคู่ทำรายงานวิชาหนึ่ง ผมบังเอิญได้คู่กับเธอพอดี พวกเราปรึกษากันว่าจะทำเรื่องอะไร ใครจะเป็นคนทำอะไรบ้าง และได้ทำงานร่วมกัน นั่นทำให้เราสนิทกันมากขึ้น จนวันหนึ่งหลังเลิกเรียนเชนก็เข้ามาคุยกับผม
“ไอ้วิน! แกเป็นอะไรกับริต้ารึเปล่า?”
“เป็นเพื่อนกัน ฉันทำรายงานคู่กับริต้า แกจำไม่ได้หรอ?”
“ก็แล้วไป ขอเตือนแกว่าอย่าไปยุ่งกับแม่นั่นอีกหลังจบงาน”
“ทำไม? ริต้าเขาเป็นอะไร แกรู้อะไรเกี่ยวกับเขามาหรอ?”
“เอาเถอะน่า! แกไม่ต้องรู้หรอก แค่เชื่อที่ฉันพูดก็พอ” เชนพูดแล้วเดินจากไป
“เดี๋ยวสิ! มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไอ้เชน! ไอ้เชน!” ผมร้องตะโกนให้มันกลับมาก่อน แต่มันก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
วันรุ่งขึ้นผมมาโรงเรียนเช้าเหมือนเดิม พอมาถึงห้องก็มีคนมาก่อนผมแล้ว ริต้านั่นเอง ผมไม่เคยเห็นเธอมาโรงเรียนเช้าขนาดนี้มาก่อน เมื่อวางกระเป๋านักเรียนแล้ว ผมก็เดินไปทักเธอที่โต๊ะว่า
“ไง ริต้า อรุณสวัสดิ์”
“ไงวิน ทำไมมาเช้าจัง?”
“ผมน่าจะถามริต้ามากกว่านะ ทำไมวันนี้ถึงมาเช้าล่ะ? ปกติผมมาคนแรกของห้องก็ไม่เคยเห็นริต้าเลย”
“มีเรื่องนิดหน่อย เลยต้องมาเช้ากว่าปกติ นี่วิน! เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ ไปเดินเล่นกันมั้ย?”
“ไปสิ” ผมบอก และเราก็ลงไปด้วยกัน
เมื่อใกล้เวลาเข้าเรียนผมกับริต้าจึงกลับเข้าห้อง ทุกคนมากันครบหมดแล้ว แต่ครูผู้สอนยังไม่เข้ามา ดังนั้นเราจึงไม่รู้สึกรีบอะไร ผมนั่งลงข้าง ๆ เชนซึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มันกำลังทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ที่จะส่งในคาบที่สองและสาม พอทำการบ้านเสร็จแล้ว เชนก็หันมาพูดกับผม
“นี่แกไม่ฟังที่ฉันเตือน?”
“ฉันว่าแกคิดไปเองแหล่ะ ริต้าเขาก็น่ารักดี แค่ดูเงียบ ๆ ไปบ้างถ้าแกลองไปคุยกับเขาแล้วล่ะก็…”
“พอ ๆ ฉันไม่อยากฟังที่แกพูด เอางี้! ตอนกลางวันฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้แกฟังละกัน ครูมาแล้ว เรียนเถอะ!”
ผมหันกลับไปมองหน้ากระดานก็เห็นครูเดินเข้ามาพอดี หัวหน้าห้องบอกนักเรียนทำความเคารพ แล้วการเรียนช่วงเช้าก็ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า โดยในหัวผมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก นอกจากคิดเรื่องที่เชนจะเล่าให้ฟังในตอนกลางวันเกี่ยวกับริต้า
“วันนี้พอแค่นี้ หัวหน้าห้องบอกเลิกชั้นเรียนได้” เสียงครูสั่งหัวหน้าห้องเรียกสติผมคืนมาหลังจากที่เหม่อลอยไปไกล
“ขอบคุณครับ” ผมกล่าวขอบคุณครู แล้วหันไปหาเชน
“วันนี้จะไปกินข้าวที่ไหน?”
“ที่ดาดฟ้าก็ไม่เลว ไม่ค่อยมีคนด้วย ฉันจะได้เล่าเรื่องริต้าให้แกฟังสบายๆ”
“เออ!” แล้วผมกับเชนก็ขึ้นไปทานอาหารกลางวันบนดาดฟ้า ที่นี่ไม่ค่อยมีคนจริง ๆ นอกจากพวกเราแล้วก็มีเด็กผู้ชายคนเดียวเท่านั้นที่ขึ้นมา เมื่อไม่เห็นว่ามีปัญหาผมกับเชนจึงนั่งลง ทานข้าวของใครของมันแล้วเริ่มคุยกัน
“แกมีเรื่องอะไรก็รีบ ๆ เล่ามาสิวะ เดี๋ยวก็หมดเวลาพอดี”
“ไหน ๆ ก็รอมาจนครึ่งวันแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นไร”
“ก็ได้ ๆ แกก็กินให้มันไว ๆ หน่อย มัวแต่เคี้ยวยืดยาดอืดอาดอยู่ได้”
“เข้าใจล่ะ” เชนเงียบไปสักพักพอทานเสร็จจึงพูดต่อ “เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว แกจำได้รึเปล่าว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่โรงเรียนเรา?”
“เรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว หรือว่าจะเป็นเรื่อง…”
“ใช่แล้วล่ะ เรื่องฆาตกรรมที่ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ไง ใครเป็นคนฆ่าเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้วทิ้งศพไว้กลางสนามโรงเรียน”
“แกรู้?” ผมถามเชน
“ไม่รู้หรอก ฉันแค่สงสัยอะไรนิดหน่อยน่ะ”
“และคนที่แกสงสัยก็คือริต้า”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็อย่างที่บอก สองปีที่แล้ว ฉันเคยเห็นริต้าอยู่กับคนที่ตายนั่น สองคนนั้นดูสนิทกันมากกว่าเพื่อน ฉันคิดว่าเป็นคู่รักกันเสียอีก แต่ก็นะยังไงทั้งสองคนก็เป็นผู้หญิง ฉันสงสัยเลยไปสอบถามคนรอบข้างทั้งสองคนดู พวกนั้นก็บอกมาว่า ริต้ากับผู้หญิงอีกคน ซึ่งก็คือคนที่ตาย รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่ากันว่าบ้านทั้งสองคนอยู่ติดกัน อยู่โรงเรียนเดียวกันมาตลอด พอจบประถมศึกษาตอนปลาย ก็สอบเข้าที่นี่ด้วยกันแล้วก็อยู่ห้องเดียวกัน”
“แล้วยังไงต่อ?” ผมขัดขึ้นระหว่างที่เชนพักดื่มน้ำ
“ก็จะมีอะไร เพื่อนคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบที่ฉันเห็น ก็คิดแบบที่ฉันคิดน่ะสิ สองคนนั่น ‘รักกัน’ ขนลุกชะมัด!”
“ไม่เห็นจะมีอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ตายไปแล้ว ทีนี้ก็ไม่มีข่าวกับริต้าแบบนั้นอีก”
“เรื่องมันไม่จบแค่นั้น ฉันไปรู้มาว่าริต้าแอบชอบผู้ชายคนนึง ตอนนั้นเขาเป็นคนที่ฮอตที่สุดในสายชั้นเลยล่ะ”
“อย่าบอกนะว่า คน ๆ นั้นก็คือ?”
“ฉันเอง” เชนตอบหน้าตาเฉย
“นี่มัน…” ทันใดนั้นเสียงออดหมดเวลาพักกลางวันก็ดังขึ้น ผมกับเชนจึงเก็บขยะไปทิ้งแล้วลงไปที่ห้องเพื่อเรียนวิชาในภาคบ่าย วันนี้เป็นวันที่ไม่น่าเรียนหนังสือเอาซะเลย ผมมองไปนอกหน้าต่าง เมฆฝนเคลื่อนตัวมาบดบังทัศนวิสัยในตอนนี้หมดทุกหนแห่ง แล้วผมจะกลับบ้านยังไงถ้าตอนเย็นฝนตก
ซ่า!
เสียงฝนโปรยลงมา พร้อมกับหมดเวลาวิชาสุดท้าย ผมหยิบกระเป๋านักเรียนแล้วออกจากห้องไปพร้อมกับเชน เดินลงบันไดไปเรื่อย ๆ จนถึงชั้นล่างสุด มองไปทางไหนก็มีแต่คนมีร่มทั้งนั้น เชนก็มีร่มเช่นกัน แต่ร่มของมันไม่พอสำหรับคนสองคน ผมจึงบอกลามันทั้งที่ตัวเองยังติดอยู่ที่โรงเรียน
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น เหลือนักเรียนอยู่เพียงไม่กี่คนที่รอฝนซา ผมกำลังจะวิ่งตากฝนกลับบ้านไป เพราะเย็นมากแล้วกลัวว่าพ่อและแม่จะเป็นห่วง ก็มีเสียงทักขึ้นมาว่า
“ไม่กลัวฟ้าผ่าหรอ จะวิ่งตากฝนไปแบบนั้น” ผมหันไปมองหน้าคนพูด ไม่ต้องบอกก็รู้ ‘ริต้า’
“ฟ้าไม่ผ่าใครง่าย ๆ หรอก ยังไงผมก็ต้องรีบกลับ” ผมพูด และเมื่อไม่มีอะไร ผมจึงตัดสินใจออกไปอีกครั้ง
“เดี๋ยว!” ริต้าเรียก “ให้ไปส่งมั้ย?”
“แต่ว่า…”
“ฉันมีร่ม” เธอบอก แล้วผมก็กลับบ้านกับเธอ
พักเที่ยงของอีกวัน ผมกับเชนก็ขึ้นมาบนดาดฟ้า วันนี้ริต้าไม่มาโรงเรียน ผมคิดว่าเธอน่าจะไม่สบายจากการไปส่งผมที่บ้านเมื่อวาน เพราะร่มของเธอก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าร่มของเชนเมื่อวานนี้ เธอพยายามกางร่มกันฝนให้ผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่คิดว่าตัวเองจะเปียกขนาดไหน ผมห้ามเธอก็ไม่ฟัง ผลมันก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ คือริต้าไม่สบาย มาโรงเรียนไม่ได้ และผมก็สบายดีแบบนี้ไงเล่า เมื่อทานอาหารกันเสร็จ เชนก็ถามผมว่า
“เมื่อวาน ริต้าไปส่งแกที่บ้าน?”
“ใช่!” ผมตอบเสียงดัง
“ไม่เกิดอะไรขึ้นเลยหรอ?”
“ก็ไม่นะ วันนี้เธอก็ไม่มาโรงเรียน แกไม่เห็นหรือไง?”
“อือ… งั้นฉันขอเล่าต่อจากเมื่อวานเลยละกัน ฉันเล่าถึงตอนที่ริต้าชอบฉันใช่ป่ะ?”
“อ่าฮะ” ผมพยักหน้าตาม ๆ ไป
“ยัยนั่นมาสารภาพรักกับฉันถึงห้อง ตอนนั้นฉันอยู่ห้องเดียวกับแกก็จริง แต่ยังไม่สนิทกับแกมาก ฉะนั้นแกคงไม่รู้เรื่องนี้สักเท่าไหร่”
“แล้วยังไงต่อ เล่ามาสิ”
“ฉันก็บอกปฏิเสธ แต่…”
“แต่?” ผมเร่ง
“แต่ฉันผิวปากเรียกคนในห้องทั้งหมดให้หันมาที่ฉัน แล้วประกาศออกไปว่า ‘ยัยทอมนี่มาสารภาพรักกับฉันว่ะ ฉันจะรับหล่อนเป็นแฟนดีมั้ย? หรือเขี่ยหล่อนทิ้งไปดี’ แล้วหันไปพูดกับริต้าว่า ‘เลิกกับคู่ขาตัวเองแล้วหรอ ถึงมาสารภาพรักกับฉัน คบกันมาตั้งนานนี่ เปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่เมื่อไหร่?’” เชนหัวเราะกับตัวเองแล้วพูดต่อ “แค่นั้นแหล่ะพวกเพื่อน ๆ ก็หัวเราะกันทั้งห้อง แล้วชี้มาที่ริต้า เธอคงทนไม่ได้เลยวิ่งหนีไป และนับจากวันนั้น ฉันก็ไม่เห็นเธออยู่กับผู้หญิงคนนั้นที่ฉันคิดว่าเป็นคู่ขาเธออีก แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้”
“ในวันสอบวันสุดท้าย…”
“ใช่” เชนพูด “ภาพนั้นยังติดตาฉันอยู่เลย” หยุดกลืนน้ำลาย “เช้าวันนั้นเด็กผู้หญิงสวมชุดนักเรียนเปื้อนเลือด นอนแผ่อยู่กลางสนาม ลำคอบิดมาด้านหลัง ตาไม่ได้ปิด…”
“…” ผมเงียบ รู้สึกเหมือนมีก้อนแข็ง ๆ ขึ้นมาจุกที่คอ
“จำได้ว่าฉันเป็นคนแรกที่พบศพ ฉันรีบวิ่งไปบอกครู แล้วเจ้าหน้าที่ก็มาจัดการ”
“…”
“ในวันนั้นฉันเจอเด็กทุกคนในชั้น นายจะคิดว่าฉันคิดไปเองก็ได้ แต่ฉันไม่เห็นริต้า”
“ไม่เห็น? หมายถึงอะไร…”
“ฉันหมายความว่า วันนั้นริต้าไม่ได้มาโรงเรียน”
“แล้วเธอ…” ผมถามออกไปแต่เชนขัดขึ้นซะก่อน
“ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าริต้าเป็นคนเดียวที่สนิทกับผู้หญิงคนนั้น เธอก็น่าจะแสดงความรู้สึกเสียใจบ้างไม่ใช่หรอที่เพื่อนตายน่ะ ครูเลื่อนวันสอบออกไป จำได้มั้ย? พอฉันมาสอบในวันสุดท้ายฉันก็เห็นริต้า สีหน้าดูไม่เสียใจอะไรเลย ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้วน่ะ”
“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะถามริต้าเอง ว่าตกลงเรื่องมันเป็นยังไง” เสียงออดหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้น ผมลุกขึ้นกลับห้องเรียนทันที เชนตะโกนเรียกผม แต่ผมก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
ผมเข้าห้องก่อนเชนห้านาที ครูยังไม่เข้าสอน เมื่อเชนกำลังจะเข้า ครูก็มาพอดิบพอดี ทำให้ครูลงโทษหน้าชั้น หลังทำโทษเสร็จเชนก็เดินมานั่งข้างผมเหมือนเดิม ระหว่างที่ครูสอน มันก็ถามผมว่า
“ตกลงแกจะไปถามแม่นั่นจริงดิ!”
“อือ…” ผมตอบเนือย ๆ
“ฉันไปด้วยได้ป่ะ?”
“ไม่ต้องเลย! แกไปเดี๋ยววุ่นกันพอดี”
“เออ ๆ ตามใจ เกิดเรื่องก็อย่ามาขอให้ฉันช่วยละกัน” เชนพูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะไปสนใจเรียนต่อ ผมก็กลับไปมองหน้ากระดานเช่นกัน พอถึงเวลาเลิกเรียน ผมก็เดินกลับบ้านพร้อมกับเชน
วันต่อมาริต้าก็มาโรงเรียนอย่างที่ผมคาดไว้ ผมหาโอกาสเข้าไปคุยกับเธอตั้งแต่เช้าจนเที่ยง แต่ก็ยังไม่มีเพราะเมื่อวานริต้าไม่มาโรงเรียน ทำให้วันนี้มีการบ้านที่ต้องทำหลายอย่าง ผมจึงชวนเธอไปนั่งคุยที่ร้านขนมหน้าโรงเรียนแทน
“ริต้า เย็นนี้ว่างมั้ย?”
“ก็ว่างอยู่นะ วินมีเรื่องอะไรหรอ?”