อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ซีอีโอ "นักบริหารความเสี่ยง"
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 01:10
โดย : ประกายดาว แบ่งสันเทียะ
อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้
"อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล"เผยความสำเร็จแบงก์เล็กที่"NLP"ต่ำที่สุดว่าซีอีโอจะต้องค้นหาตัวเองให้เจอเพื่อโฟกัสสิ่งนั้น-เน้นการบริหารความเสี่ยง
ในงาน "Press Trip Wealth of happiness” ทำให้สื่อมีโอกาสสัมผัส "ตัวตน"ของผู้นำหญิง "อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ ที่บรรดานักข่าวสายการเงินเรียกเธออย่างสนิทสนมว่า "พี่นุช"
ความห้าวหาญ ทะมัดทะแมง แกร่งอย่างชาย ทำให้หลายคนมองผู้บริหารคนนี้ต่างกันออกไปจากนิยามความเป็นหญิง ทว่านั่นเฉพาะในบทบาทผู้นำ อีกด้านในตัวเธอยังเป็นคุณแม่ลูกสองผู้อ่อนโยน และเป็นศรีภรรยาผู้อ่อนหวาน ไม่ต่างจากผู้หญิงทั่วไป
ความที่ซีอีโอหญิงเช่นเธอทำภารกิจหลากหลายได้อย่างไม่บกพร่อง ยังล้างความเชื่อที่ว่า "เพศชายคือผู้นำ" (เสมอไป)
“ผู้หญิงเป็นผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย Generalist ทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งอุ้มลูก รีดผ้า ทำกับข้าวไปพร้อมกันได้ แต่ผู้ชายทำได้ดีอย่างเดียว (Single Track) เช่น ผู้ชายถ้าดูบอลแล้วลูกร้อง จะหัวเสียอย่ามายุ่งกับฉัน”
"การค้นหาตัวเองให้เจอ" ยังเป็นอีกจุดที่อรนุช บอกว่า เป็นสิ่งที่ช่วยขับดันความสามารถในตัวเธอให้โดดเด่น ฉายแวว
“ทุกวันนี้บางคนไม่ค้นสิ่งดีๆในตัวเอง มัวนั่งมองสิ่งดีๆในตัวคนอื่น จนมาสมเพชตัวเอง ทำไมฉันไม่ได้อย่างนั้น สำหรับพี่ NO ! NO ! มองตัวเองสิ ฉันเก่งตรงนี้ๆ”
อรนุชเล่าว่า เธอรู้ตัวมาตั้งแต่เล็กว่าเป็นคนชอบเรียนคณิตศาสตร์ เรียนเลขเก่ง เป็นคนหัวไว สมองด้านตรรกะดี จึงเลือกเดินในสายอาชีพนี้ ที่เน้นเรื่องตัวลง ตัวเลข
ที่สำคัญ(เรา)ต้องบอกตัวเองอยู่เสมอว่า "ฉันสวย จิตใจดี" !!
นั่นแหละที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นในตัวเอง กลายเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเธอให้เข้าใกล้ความฝันและความสำเร็จ ขึ้นทุกทีๆ
“ถ้าเราเชื่ออะไรก็ต้องทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นให้ได้ Drive ตัวเองออกมาอย่ารอให้คนอื่นมา Drive” หญิงมั่นออกปาก
อรนุชยอมรับว่า ได้นำจุดเด่นในตัว มาพัฒนาการทำงานตลอด 30 ปีที่ทิสโก้จนเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์องค์กร มาสู่ฝ่ายงบประมาณและงานบริหารความเสี่ยง จนกระทั่งเกิดวิกฤติการเงินไทยในปี 2540
โดยเธอมีส่วนออกแบบนวัตกรรมทางการเงินที่เรียกว่า Securitization หรือการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์รายแรกของประเทศ ตั้งแต่ 2539 นำมาใช้ในปี 2540 โดยสามารถระดมทุนได้ถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผ่านวิกฤติรอบนั้นมาได้
อรนุชยังอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารดูแลสายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของทิสโก้มานาน 10 ปี ก่อนจะได้รับตำแหน่งผู้นำองค์กรในปี 2553 ด้านการวางกลยุทธ์องค์กร เธอยังใช้หลักการเดียวกันกับการวางแผนชีวิต นั่นคือ ต้องเลือกค้นหาตัวเองให้เจอ เมื่อรู้ว่าจุดเด่นของทิสโก้อยู่ที่การบริหารจัดการความเสี่ยง "อ่านธุรกิจ และบริหารความเสี่ยงจากสถิติได้ดี" ก็ต้องพุ่งไปทางนั้น
จนทำให้ปัจจุบันทิสโก้ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการเงินที่มี NPL (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ต่ำที่สุดในวงการ
“ในเมื่อเราทำเงินจากความเสี่ยง ดังนั้นเราก็ต้องมีความรู้ในสิ่งนั้นให้มากพอที่จะบริหารความเสี่ยง"
แม้ว่าทิสโก้จะมีต้นทุนการเงินค่อนข้างสูง ฐานที่เป็นแบงก์เล็ก แต่เมื่อหักลบกลบกับทุนการจัดการ และทุนการบริหารความเสี่ยงแล้ว "ทิสโก้" ยังถือว่ามีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรม "อรนุช" บอก
“มันเป็นเทคนิคการบริหารที่เราต้องเลือกว่าจะให้ตัวไหนแพง ตัวไหนถูก อย่าโลภเลือกทั้ง 3 ตัว ค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวม (Cost income Ratio) ของเรายังต่ำเมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรม และ NPL ยังต่ำสุด"
เหมือนผู้หญิงที่รู้ตัวเองว่า สวยตรงไหน ? อรนุช เปรียบเปรยจนเห็นภาพ
ก่อนที่เธอจะเล่าถึงทิศทางการทำงานของทิสโก้ว่า ได้วางแผนขยายธุรกิจใน 4 ด้าน คือ ลูกค้า แบรนด์ ธุรกิจ และการจัดการเริ่มต้นจาก การขยายฐานลูกค้า เดิมมีลูกค้ากลุ่มสถาบันและกลุ่มธนกิจ (คนรวย) ที่รู้จักทิสโก้ดีอยู่แล้ว ก็จะขยายฐานด้วยการเพิ่มทางเลือก ในการลงทุนให้กับผู้สนใจลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงขยายฐานลูกค้าบางส่วนไปเล่นตลาดแมสในต่างจังหวัด
โดยปีนี้จะเปิดสำนักงานสินเชื่อรายย่อย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ สมหวัง ซึ่งจะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 20-30 สาขา ให้ครบ 100 สาขาทั่วประเทศ ขณะที่สาขาธนาคารทิสโก้ที่เน้นขยายในห้างสรรพสินค้า จะเปิดเพิ่มอีก 2-3 แห่ง จากที่มีอยู่เดิม 45 สาขา
“ต้องแยกชื่อการทำตลาดระดับล่างชัดเจนว่าสมหวัง เพราะต้องการให้รายย่อยกล้าเข้ามาใช้บริการ หากใช้เป็นทิสโก้ รูปลักษณ์ การตกแต่งหรูคนก็ไม่กล้าเข้า หรือหากทิสโก้ปรับลดไปหาตลาดแมส ไม่แต่งให้ครบ ก็ดูไม่ดี” เธอเล่า
นั่นจึงทำให้ทิสโก้ ต้อง "ขยายแบรนด์" ไปสู่ตลาดแมส เพื่อทำให้คนทั่วไปจดจำชื่อว่า “ทิสโก้” คือธนาคารหนึ่ง ที่บริการทางการเงินเช่นเดียวกัน
“ตอนนี้คนยังมีบางคนคิดว่า "ทิสโก้" คือ "เทสโก้" บางคนก็คิดว่าเราเป็นเครือเดียวกันกับเทสโก้ โฆษณาเคยทำมาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่เฟล เพราะใช้สื่อทางทีวี ที่ยิงเงินไปผ่านการให้ข้อมูลมากๆ แต่สุดท้ายคนจำเราไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ไม่เน้นให้ข้อมูล แต่เน้นสร้างการรับรู้ และไม่ใช้สื่อทีวีเพราะต้นทุนสูง" เธอบอก
ด้าน การขยายธุรกิจ ทิสโก้จะเลือกสิ่งที่มีความชำนาญ (Niche Market) และให้ผลตอบแทนดี โดยจะโฟกัสไปที่ ธุรกิจสินเชื่อทั่วไป ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ (ลีสซิ่ง) ธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงธุรกิจจัดการกองทุน
กลยุทธ์สุดท้ายคือ ขยายประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการรองรับความเสี่ยงเพื่อรักษา NPL ให้ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม โดยทิสโก้เป็นธนาคารไทยธนาคารเดียวที่ใช้ระบบบริหารความเสี่ยงมาตรฐานสากล ที่เรียกว่าการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์วิธี IRB (Internal Risk Rating Base) ที่แตกต่างจากธนาคารไทยทั่วไปที่คำนวณตามเงินกองทุนจากสินทรัพย์
อรนุช บอกว่า กลยุทธ์การขยายงานทั้ง 4 ด้าน ถือเป็นหนึ่งในการเตรียมพร้อมรองรับการแข่งขันรอบด้านในอนาคต โดยเฉพาะจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งทิสโก้เลือกที่จะขยายฐานลูกค้าภายในประเทศให้ครบทุกเซกเมนต์อย่างแข็งแกร่งก่อน ค่อยออกไปเปิดสาขาในต่างประเทศ เธอไม่วายประเมินความเสี่ยง
รวมกระทู้ " กระต่ายป่า " ( 1 กุมภาพันธ์ 2556 )
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 01:10
โดย : ประกายดาว แบ่งสันเทียะ
อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้
"อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล"เผยความสำเร็จแบงก์เล็กที่"NLP"ต่ำที่สุดว่าซีอีโอจะต้องค้นหาตัวเองให้เจอเพื่อโฟกัสสิ่งนั้น-เน้นการบริหารความเสี่ยง
ในงาน "Press Trip Wealth of happiness” ทำให้สื่อมีโอกาสสัมผัส "ตัวตน"ของผู้นำหญิง "อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ ที่บรรดานักข่าวสายการเงินเรียกเธออย่างสนิทสนมว่า "พี่นุช"
ความห้าวหาญ ทะมัดทะแมง แกร่งอย่างชาย ทำให้หลายคนมองผู้บริหารคนนี้ต่างกันออกไปจากนิยามความเป็นหญิง ทว่านั่นเฉพาะในบทบาทผู้นำ อีกด้านในตัวเธอยังเป็นคุณแม่ลูกสองผู้อ่อนโยน และเป็นศรีภรรยาผู้อ่อนหวาน ไม่ต่างจากผู้หญิงทั่วไป
ความที่ซีอีโอหญิงเช่นเธอทำภารกิจหลากหลายได้อย่างไม่บกพร่อง ยังล้างความเชื่อที่ว่า "เพศชายคือผู้นำ" (เสมอไป)
“ผู้หญิงเป็นผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย Generalist ทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งอุ้มลูก รีดผ้า ทำกับข้าวไปพร้อมกันได้ แต่ผู้ชายทำได้ดีอย่างเดียว (Single Track) เช่น ผู้ชายถ้าดูบอลแล้วลูกร้อง จะหัวเสียอย่ามายุ่งกับฉัน”
"การค้นหาตัวเองให้เจอ" ยังเป็นอีกจุดที่อรนุช บอกว่า เป็นสิ่งที่ช่วยขับดันความสามารถในตัวเธอให้โดดเด่น ฉายแวว
“ทุกวันนี้บางคนไม่ค้นสิ่งดีๆในตัวเอง มัวนั่งมองสิ่งดีๆในตัวคนอื่น จนมาสมเพชตัวเอง ทำไมฉันไม่ได้อย่างนั้น สำหรับพี่ NO ! NO ! มองตัวเองสิ ฉันเก่งตรงนี้ๆ”
อรนุชเล่าว่า เธอรู้ตัวมาตั้งแต่เล็กว่าเป็นคนชอบเรียนคณิตศาสตร์ เรียนเลขเก่ง เป็นคนหัวไว สมองด้านตรรกะดี จึงเลือกเดินในสายอาชีพนี้ ที่เน้นเรื่องตัวลง ตัวเลข
ที่สำคัญ(เรา)ต้องบอกตัวเองอยู่เสมอว่า "ฉันสวย จิตใจดี" !!
นั่นแหละที่ช่วยเรียกความเชื่อมั่นในตัวเอง กลายเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเธอให้เข้าใกล้ความฝันและความสำเร็จ ขึ้นทุกทีๆ
“ถ้าเราเชื่ออะไรก็ต้องทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นให้ได้ Drive ตัวเองออกมาอย่ารอให้คนอื่นมา Drive” หญิงมั่นออกปาก
อรนุชยอมรับว่า ได้นำจุดเด่นในตัว มาพัฒนาการทำงานตลอด 30 ปีที่ทิสโก้จนเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์องค์กร มาสู่ฝ่ายงบประมาณและงานบริหารความเสี่ยง จนกระทั่งเกิดวิกฤติการเงินไทยในปี 2540
โดยเธอมีส่วนออกแบบนวัตกรรมทางการเงินที่เรียกว่า Securitization หรือการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์รายแรกของประเทศ ตั้งแต่ 2539 นำมาใช้ในปี 2540 โดยสามารถระดมทุนได้ถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผ่านวิกฤติรอบนั้นมาได้
อรนุชยังอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารดูแลสายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของทิสโก้มานาน 10 ปี ก่อนจะได้รับตำแหน่งผู้นำองค์กรในปี 2553 ด้านการวางกลยุทธ์องค์กร เธอยังใช้หลักการเดียวกันกับการวางแผนชีวิต นั่นคือ ต้องเลือกค้นหาตัวเองให้เจอ เมื่อรู้ว่าจุดเด่นของทิสโก้อยู่ที่การบริหารจัดการความเสี่ยง "อ่านธุรกิจ และบริหารความเสี่ยงจากสถิติได้ดี" ก็ต้องพุ่งไปทางนั้น
จนทำให้ปัจจุบันทิสโก้ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการเงินที่มี NPL (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ต่ำที่สุดในวงการ
“ในเมื่อเราทำเงินจากความเสี่ยง ดังนั้นเราก็ต้องมีความรู้ในสิ่งนั้นให้มากพอที่จะบริหารความเสี่ยง"
แม้ว่าทิสโก้จะมีต้นทุนการเงินค่อนข้างสูง ฐานที่เป็นแบงก์เล็ก แต่เมื่อหักลบกลบกับทุนการจัดการ และทุนการบริหารความเสี่ยงแล้ว "ทิสโก้" ยังถือว่ามีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรม "อรนุช" บอก
“มันเป็นเทคนิคการบริหารที่เราต้องเลือกว่าจะให้ตัวไหนแพง ตัวไหนถูก อย่าโลภเลือกทั้ง 3 ตัว ค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวม (Cost income Ratio) ของเรายังต่ำเมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรม และ NPL ยังต่ำสุด"
เหมือนผู้หญิงที่รู้ตัวเองว่า สวยตรงไหน ? อรนุช เปรียบเปรยจนเห็นภาพ
ก่อนที่เธอจะเล่าถึงทิศทางการทำงานของทิสโก้ว่า ได้วางแผนขยายธุรกิจใน 4 ด้าน คือ ลูกค้า แบรนด์ ธุรกิจ และการจัดการเริ่มต้นจาก การขยายฐานลูกค้า เดิมมีลูกค้ากลุ่มสถาบันและกลุ่มธนกิจ (คนรวย) ที่รู้จักทิสโก้ดีอยู่แล้ว ก็จะขยายฐานด้วยการเพิ่มทางเลือก ในการลงทุนให้กับผู้สนใจลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงขยายฐานลูกค้าบางส่วนไปเล่นตลาดแมสในต่างจังหวัด
โดยปีนี้จะเปิดสำนักงานสินเชื่อรายย่อย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ สมหวัง ซึ่งจะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 20-30 สาขา ให้ครบ 100 สาขาทั่วประเทศ ขณะที่สาขาธนาคารทิสโก้ที่เน้นขยายในห้างสรรพสินค้า จะเปิดเพิ่มอีก 2-3 แห่ง จากที่มีอยู่เดิม 45 สาขา
“ต้องแยกชื่อการทำตลาดระดับล่างชัดเจนว่าสมหวัง เพราะต้องการให้รายย่อยกล้าเข้ามาใช้บริการ หากใช้เป็นทิสโก้ รูปลักษณ์ การตกแต่งหรูคนก็ไม่กล้าเข้า หรือหากทิสโก้ปรับลดไปหาตลาดแมส ไม่แต่งให้ครบ ก็ดูไม่ดี” เธอเล่า
นั่นจึงทำให้ทิสโก้ ต้อง "ขยายแบรนด์" ไปสู่ตลาดแมส เพื่อทำให้คนทั่วไปจดจำชื่อว่า “ทิสโก้” คือธนาคารหนึ่ง ที่บริการทางการเงินเช่นเดียวกัน
“ตอนนี้คนยังมีบางคนคิดว่า "ทิสโก้" คือ "เทสโก้" บางคนก็คิดว่าเราเป็นเครือเดียวกันกับเทสโก้ โฆษณาเคยทำมาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่เฟล เพราะใช้สื่อทางทีวี ที่ยิงเงินไปผ่านการให้ข้อมูลมากๆ แต่สุดท้ายคนจำเราไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ไม่เน้นให้ข้อมูล แต่เน้นสร้างการรับรู้ และไม่ใช้สื่อทีวีเพราะต้นทุนสูง" เธอบอก
ด้าน การขยายธุรกิจ ทิสโก้จะเลือกสิ่งที่มีความชำนาญ (Niche Market) และให้ผลตอบแทนดี โดยจะโฟกัสไปที่ ธุรกิจสินเชื่อทั่วไป ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ (ลีสซิ่ง) ธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงธุรกิจจัดการกองทุน
กลยุทธ์สุดท้ายคือ ขยายประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการรองรับความเสี่ยงเพื่อรักษา NPL ให้ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม โดยทิสโก้เป็นธนาคารไทยธนาคารเดียวที่ใช้ระบบบริหารความเสี่ยงมาตรฐานสากล ที่เรียกว่าการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์วิธี IRB (Internal Risk Rating Base) ที่แตกต่างจากธนาคารไทยทั่วไปที่คำนวณตามเงินกองทุนจากสินทรัพย์
อรนุช บอกว่า กลยุทธ์การขยายงานทั้ง 4 ด้าน ถือเป็นหนึ่งในการเตรียมพร้อมรองรับการแข่งขันรอบด้านในอนาคต โดยเฉพาะจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งทิสโก้เลือกที่จะขยายฐานลูกค้าภายในประเทศให้ครบทุกเซกเมนต์อย่างแข็งแกร่งก่อน ค่อยออกไปเปิดสาขาในต่างประเทศ เธอไม่วายประเมินความเสี่ยง