ปล่อยให้ “เพชร กรุณพล” พูดอยู่ฝ่ายเดียวถึงเรื่องที่ว่าทำไมต้องเลิกกัน “โบ ชญาดา” จึงถูกมองว่าเป็นฝ่ายปันใจก่อน แถมฝ่ายเพชรยังไปออกรายการ “Take Me Out Thailand”ขอความเห็นใจจากสาวๆว่าตัวเองถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมาตลอด ยิ่งทำให้สาวโบถูกมองไม่ดี ล่าสุดโบบอกว่าขอพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย ในงานฉลอง “8 ปี คาเฟ่ ชิลลี่” ที่สยามพารากอนเมื่อวานนี้ (30ม.ค.)
เกี่ยวกับรายการTake Me Out Thailand ที่เพชรไปออก
“ขอบอกก่อนนะคะ ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับรายการเทคมีเอาท์เลยจริงๆ ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้วค่ะ อยากจะให้มันจบๆไปเรื่องมันก็ค่อนข้างนานแล้วก็ถ้าพูดไปก็จะกลายเป็นประเด็น การวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา ที่จริงเราจบก็ไม่ได้มีปัญหา เราก็จบกันด้วยดี ไม่มีอะไร แต่ที่ผ่านมาก็ประเด็นเยอะมาก มีการโพสข้อความ มีการให้สัมภาษณ์โน้นนี่ เยอะมาก ก็ตั้งแต่ให้สัมภาษณ์ครั้งนั้นก็มีผลกระทบค่อนข้างเยอะ เราก็เลยรูสึกว่าเป็นความอึดอัด พอไม่พูดก็เดากันไป วิจารณ์ วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา พอมีการโพส IG ก็หมายถึงโบอีกไหม
การสัมภาษณ์หรือการแสดงออกก็เป็นเหตุผลที่โบเองก็พูด อยากจะพูดครั้งเดียวว่าเรื่องคนสองคนไม่มีใครผิดถูก ไม่มีใครผิดอะไร ต่างคนก็ต่างมีความคิดคนละมุมมอง เข้ากันไม่ได้ ก็จบกันไปแต่ว่ามันก็เหมือนมีเรื่องเข้ามามากมาย จนกระทั้งถึงล่าสุด เพราะมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับรายการเทคมีเอาท์เลย
การที่โบทำอะไรหลายๆครั้ง มีการคบกัน รักกัน โบมีสติทุกอย่างค่ะ คบกันก็มีขึ้นๆลงๆ นะคะ พอมีการเลิกกัน1วัน ก็มีข่าวเอาไปออกว่าเลิกกันเลย พอเป็นข่าวแล้วก็ต้องมีนักข่าว ก็เปิดใจค่ะว่าเลิกกัน แต่ก็ไม่อยากพูดว่าเลิกกันเพราะอะไร ถ้าพูดเรื่องนี้อีกมันก็ไม่จบ เดี๋ยวความคิดเห็นไม่ตรงกัน”
เลิกแบบจบไม่สวยหรือเปล่า
“ตอนแรกโบก็กะจะให้มันจบให้สวยที่สุด คือการที่เราจะให้สัมภาษณ์เราก็ต้องพูดกลางๆ คือเราจบใครจะเดายังไงก็ไม่เป็นไร แล้วก็มีผลกระทบกับคนใกล้ตัวโบด้วย พอเพื่อนมาคุยมาอะไรด้วย ก็กลายเป็นมือที่สาม ซึ่งโบก็รู้สึกว่าทำไมคนที่เราเลิกไป เราจบกันไปแล้วเราก็อยู่คนเดียว เราจะมีเพื่อนเราจะคุยกับใคร ก็กลายเป็นมือที่สามไปหมด ก็รู้สึกอึดอัดใจเหมือนกันค่ะ”
ข้อความล่าสุด มีfeedback อะไรจากเพชรไหม
“ไม่ค่ะ ไม่ได้คุยเลย พอโบลบออกไปก็ วันหนึ่งก็มีไปออกรายการอีก ว่าลบออกไปทำลายหลักฐานกลัวโดนสาวไส้ คือโบไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว คือการที่เราจะส่งไลน์ไปบอกเลิกกันก็เป็นหลักฐานอยู่แล้ว”
คิกว่าหลังจากนี้จะคุยกันอีกไหมหรือว่าจะตัดขาดกันไปเลย?
“อย่างที่โบพูดตั้งแต่เลิกกันวันแรกว่า ก็ยังเป็นเพื่อนกัน คือเป็นเพื่อนกัน แต่ว่าตั้งแต่คุยกันวันนั้น เดือนกันยายนจนถึงวันนี้โบก็ไม่เคยได้คุยกับเขาเลย เขาก็ไม่เคยที่จะโทรมาคุยกัน เหมือนกับคนในอดีตคือว่าถ้าเลิกคบกัน ก็ยังโทรมาคุยบ้าง แต่ก็โอเคมันอาจจะเป็นรูปแบบใหม่ที่เราก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเราเลิกกันด้วยการพิมพ์ เราก็มีสติในการเขียนอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ได้กลัวว่าหลักฐานนี้จะเผยแพร่หรือว่าอะไร คือมันเป็นความรู้สึกจริงๆในวันนั้นว่าเรา มีความรู้สึกกับคนคนนั้นมากขนาดไหน”
ที่เขาไม่โทรมาก็เพราะว่าพี่โบก็มีคนอื่นแล้ว เขาก็เลยไม่อยากจะโทรมาหา
“คือการพูดแบบนี้มันก็มองไปว่า มองในแง่เป็นลบของโบอีก กว่าที่โบจะมีคุณแบงค์(ร.อ.กฤชพล เศวตนันทน์)เข้ามาจีบ หรือว่าเริ่มที่จะศึกษาเรียนรู้กันมันก็ใช้เวลาพอสมควร ในเวลาสองสามเดือนที่เราตัดสินใจที่จะคบกัน มันก็มีช่วงเวลาเหมือนกันนะคะว่ามันจะมีเวลาพูดคุยกันไหม ไม่ใช่โทรมาถามเรื่องจุกจิก มันคนละเรื่องกันว่า เอาคุณแบงค์เข้ามาเกี่ยวด้วย”
แบบนี้ต่างคนต่างอยู่หรือเปล่า?
“ไม่ค่ะโบก็ธรรมชาตินะคะ โบก็ไม่ได้โกรธไม่ได้อะไร โบว่าคนเรามันเคยรู้จักกัน เคยคบกันวันหนึ่งโบเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปเราก็คงกลับมาคุยกันได้ มันก็เหมือนเพื่อนกันที่มีการโกรธกัน งอนกัน ไม่เข้าใจกัน วันหนึ่งก็กลับมาคุยกันได้”
ถ้าเกิดว่าตอนนี้ได้พูดกับพี่เพชร จะพูดอะไรกับเขา
“ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร โบรู้สึกว่าไม่ว่าโบจะทำอะไรโบก็ผิดไปหมด คือว่าโบจะพูดอะไร จะแสดงอะไรโบก็โดน โบเป็นคนเดียวที่โบรู้สึกแบบนี้ มันไม่เหมือนกับทุกคนที่โอเค แต่ว่าโบจะทำอะไรก็รู้สึกแบบนี้ ต่อจากนี้โบก็ไม่อยากจะพูดอะไรแล้ว แล้วก็ขอร้องอย่าถามเรื่องนี้อีกแล้ว โบไม่อยากจะเข้าใจผิดกันมากว่านี้ค่ะ”
กับพี่แบงค์ ที่ไปเที่ยวต่างประเทศกัน
“ก็เป็นเหมือนกับช่วงเวลามันทำให้เราอยู่คนเดียว แล้วเราก็รู้จักพี่แบงค์อยู่แล้ว จริงๆแล้วมันก็เหมือนพี่คนนึงที่เราสนิทกันมากกว่า แล้วก็เป็นกำลังใจให้กันและกัน คือโบไม่ได้คิดว่า จะอะไรมากมาย เราทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วก็ที่สำคัญคือน้องอชิ ที่โบต้องให้ความสำคัญกับลูกมากที่สุด เพราะว่าทุกอย่างก็ต้องเจอกับลูกแน่นอน ตอนนี้พี่แบงค์หรือว่าโบเองมันก็เหมือนเป็นเพื่อนกัน มีแต่สิ่งที่ดีๆ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ แล้วก็อยากให้ทุกคนมีความสุขค่ะ”
คบกับพี่แบงค์แต่มีข่าวกับพี่เพชร พี่แบงค์ว่าไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ก็ปล่อยมากกว่า เพราะโบก็รู้สึกว่า ทำไมไม่เข้าใจโบสักที โบรู้ว่าพี่เพชรก็ไม่อยากจะทำร้ายใครอยู่แล้ว บางครั้งก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำ แต่ว่าอยู่ในวงการที่เป็นที่รู้จักพอทำอะไรก็เป็นที่จับตามองอย่างเช่นที่เวลาเลิกกัน อย่างการสัมภาษณ์ ไม่ใช่ว่าโบไม่รู้สึก แต่ว่าในเมื่อเราคุยกันแล้ว ก็อยากจะเข้มแข็ง คุณแบงค์เองก็ให้กำลังใจเดี๋ยวก็ผ่านไป ที่เรารู้จักกันวันนี้เราก้ไม่ได้ทำร้ายใคร เราตั้งใจดี มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีที่ผ่านไป”
บรรยากาศที่อยู่ด้วยกันสองครอบครัวกับฟลุคด้วย
“คือถ้าเราไม่ได้ไปไหนอยู่แล้วเราก็คุยกันปกติ ทำตัวปกติ แต่ว่าการที่ไปเที่ยวต่างประเทศก็ยอมรับว่ามันเป็นความสุข การที่เราโพส IG มันก็เป็นการแสดงความสุข ความรัก เรื่องราวต่างๆนานา ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นค่ะ”
ที่มา :
http://entertain.smmonline.net/
“โบ ชญาดา”ขอพูดถึง “เพชร กรุณพล” เป็นครั้งสุดท้าย
ปล่อยให้ “เพชร กรุณพล” พูดอยู่ฝ่ายเดียวถึงเรื่องที่ว่าทำไมต้องเลิกกัน “โบ ชญาดา” จึงถูกมองว่าเป็นฝ่ายปันใจก่อน แถมฝ่ายเพชรยังไปออกรายการ “Take Me Out Thailand”ขอความเห็นใจจากสาวๆว่าตัวเองถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมาตลอด ยิ่งทำให้สาวโบถูกมองไม่ดี ล่าสุดโบบอกว่าขอพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย ในงานฉลอง “8 ปี คาเฟ่ ชิลลี่” ที่สยามพารากอนเมื่อวานนี้ (30ม.ค.)
เกี่ยวกับรายการTake Me Out Thailand ที่เพชรไปออก
“ขอบอกก่อนนะคะ ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับรายการเทคมีเอาท์เลยจริงๆ ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้วค่ะ อยากจะให้มันจบๆไปเรื่องมันก็ค่อนข้างนานแล้วก็ถ้าพูดไปก็จะกลายเป็นประเด็น การวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา ที่จริงเราจบก็ไม่ได้มีปัญหา เราก็จบกันด้วยดี ไม่มีอะไร แต่ที่ผ่านมาก็ประเด็นเยอะมาก มีการโพสข้อความ มีการให้สัมภาษณ์โน้นนี่ เยอะมาก ก็ตั้งแต่ให้สัมภาษณ์ครั้งนั้นก็มีผลกระทบค่อนข้างเยอะ เราก็เลยรูสึกว่าเป็นความอึดอัด พอไม่พูดก็เดากันไป วิจารณ์ วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา พอมีการโพส IG ก็หมายถึงโบอีกไหม
การสัมภาษณ์หรือการแสดงออกก็เป็นเหตุผลที่โบเองก็พูด อยากจะพูดครั้งเดียวว่าเรื่องคนสองคนไม่มีใครผิดถูก ไม่มีใครผิดอะไร ต่างคนก็ต่างมีความคิดคนละมุมมอง เข้ากันไม่ได้ ก็จบกันไปแต่ว่ามันก็เหมือนมีเรื่องเข้ามามากมาย จนกระทั้งถึงล่าสุด เพราะมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับรายการเทคมีเอาท์เลย
การที่โบทำอะไรหลายๆครั้ง มีการคบกัน รักกัน โบมีสติทุกอย่างค่ะ คบกันก็มีขึ้นๆลงๆ นะคะ พอมีการเลิกกัน1วัน ก็มีข่าวเอาไปออกว่าเลิกกันเลย พอเป็นข่าวแล้วก็ต้องมีนักข่าว ก็เปิดใจค่ะว่าเลิกกัน แต่ก็ไม่อยากพูดว่าเลิกกันเพราะอะไร ถ้าพูดเรื่องนี้อีกมันก็ไม่จบ เดี๋ยวความคิดเห็นไม่ตรงกัน”
เลิกแบบจบไม่สวยหรือเปล่า
“ตอนแรกโบก็กะจะให้มันจบให้สวยที่สุด คือการที่เราจะให้สัมภาษณ์เราก็ต้องพูดกลางๆ คือเราจบใครจะเดายังไงก็ไม่เป็นไร แล้วก็มีผลกระทบกับคนใกล้ตัวโบด้วย พอเพื่อนมาคุยมาอะไรด้วย ก็กลายเป็นมือที่สาม ซึ่งโบก็รู้สึกว่าทำไมคนที่เราเลิกไป เราจบกันไปแล้วเราก็อยู่คนเดียว เราจะมีเพื่อนเราจะคุยกับใคร ก็กลายเป็นมือที่สามไปหมด ก็รู้สึกอึดอัดใจเหมือนกันค่ะ”
ข้อความล่าสุด มีfeedback อะไรจากเพชรไหม
“ไม่ค่ะ ไม่ได้คุยเลย พอโบลบออกไปก็ วันหนึ่งก็มีไปออกรายการอีก ว่าลบออกไปทำลายหลักฐานกลัวโดนสาวไส้ คือโบไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว คือการที่เราจะส่งไลน์ไปบอกเลิกกันก็เป็นหลักฐานอยู่แล้ว”
คิกว่าหลังจากนี้จะคุยกันอีกไหมหรือว่าจะตัดขาดกันไปเลย?
“อย่างที่โบพูดตั้งแต่เลิกกันวันแรกว่า ก็ยังเป็นเพื่อนกัน คือเป็นเพื่อนกัน แต่ว่าตั้งแต่คุยกันวันนั้น เดือนกันยายนจนถึงวันนี้โบก็ไม่เคยได้คุยกับเขาเลย เขาก็ไม่เคยที่จะโทรมาคุยกัน เหมือนกับคนในอดีตคือว่าถ้าเลิกคบกัน ก็ยังโทรมาคุยบ้าง แต่ก็โอเคมันอาจจะเป็นรูปแบบใหม่ที่เราก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเราเลิกกันด้วยการพิมพ์ เราก็มีสติในการเขียนอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ได้กลัวว่าหลักฐานนี้จะเผยแพร่หรือว่าอะไร คือมันเป็นความรู้สึกจริงๆในวันนั้นว่าเรา มีความรู้สึกกับคนคนนั้นมากขนาดไหน”
ที่เขาไม่โทรมาก็เพราะว่าพี่โบก็มีคนอื่นแล้ว เขาก็เลยไม่อยากจะโทรมาหา
“คือการพูดแบบนี้มันก็มองไปว่า มองในแง่เป็นลบของโบอีก กว่าที่โบจะมีคุณแบงค์(ร.อ.กฤชพล เศวตนันทน์)เข้ามาจีบ หรือว่าเริ่มที่จะศึกษาเรียนรู้กันมันก็ใช้เวลาพอสมควร ในเวลาสองสามเดือนที่เราตัดสินใจที่จะคบกัน มันก็มีช่วงเวลาเหมือนกันนะคะว่ามันจะมีเวลาพูดคุยกันไหม ไม่ใช่โทรมาถามเรื่องจุกจิก มันคนละเรื่องกันว่า เอาคุณแบงค์เข้ามาเกี่ยวด้วย”
แบบนี้ต่างคนต่างอยู่หรือเปล่า?
“ไม่ค่ะโบก็ธรรมชาตินะคะ โบก็ไม่ได้โกรธไม่ได้อะไร โบว่าคนเรามันเคยรู้จักกัน เคยคบกันวันหนึ่งโบเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปเราก็คงกลับมาคุยกันได้ มันก็เหมือนเพื่อนกันที่มีการโกรธกัน งอนกัน ไม่เข้าใจกัน วันหนึ่งก็กลับมาคุยกันได้”
ถ้าเกิดว่าตอนนี้ได้พูดกับพี่เพชร จะพูดอะไรกับเขา
“ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร โบรู้สึกว่าไม่ว่าโบจะทำอะไรโบก็ผิดไปหมด คือว่าโบจะพูดอะไร จะแสดงอะไรโบก็โดน โบเป็นคนเดียวที่โบรู้สึกแบบนี้ มันไม่เหมือนกับทุกคนที่โอเค แต่ว่าโบจะทำอะไรก็รู้สึกแบบนี้ ต่อจากนี้โบก็ไม่อยากจะพูดอะไรแล้ว แล้วก็ขอร้องอย่าถามเรื่องนี้อีกแล้ว โบไม่อยากจะเข้าใจผิดกันมากว่านี้ค่ะ”
กับพี่แบงค์ ที่ไปเที่ยวต่างประเทศกัน
“ก็เป็นเหมือนกับช่วงเวลามันทำให้เราอยู่คนเดียว แล้วเราก็รู้จักพี่แบงค์อยู่แล้ว จริงๆแล้วมันก็เหมือนพี่คนนึงที่เราสนิทกันมากกว่า แล้วก็เป็นกำลังใจให้กันและกัน คือโบไม่ได้คิดว่า จะอะไรมากมาย เราทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วก็ที่สำคัญคือน้องอชิ ที่โบต้องให้ความสำคัญกับลูกมากที่สุด เพราะว่าทุกอย่างก็ต้องเจอกับลูกแน่นอน ตอนนี้พี่แบงค์หรือว่าโบเองมันก็เหมือนเป็นเพื่อนกัน มีแต่สิ่งที่ดีๆ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ แล้วก็อยากให้ทุกคนมีความสุขค่ะ”
คบกับพี่แบงค์แต่มีข่าวกับพี่เพชร พี่แบงค์ว่าไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ก็ปล่อยมากกว่า เพราะโบก็รู้สึกว่า ทำไมไม่เข้าใจโบสักที โบรู้ว่าพี่เพชรก็ไม่อยากจะทำร้ายใครอยู่แล้ว บางครั้งก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำ แต่ว่าอยู่ในวงการที่เป็นที่รู้จักพอทำอะไรก็เป็นที่จับตามองอย่างเช่นที่เวลาเลิกกัน อย่างการสัมภาษณ์ ไม่ใช่ว่าโบไม่รู้สึก แต่ว่าในเมื่อเราคุยกันแล้ว ก็อยากจะเข้มแข็ง คุณแบงค์เองก็ให้กำลังใจเดี๋ยวก็ผ่านไป ที่เรารู้จักกันวันนี้เราก้ไม่ได้ทำร้ายใคร เราตั้งใจดี มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีที่ผ่านไป”
บรรยากาศที่อยู่ด้วยกันสองครอบครัวกับฟลุคด้วย
“คือถ้าเราไม่ได้ไปไหนอยู่แล้วเราก็คุยกันปกติ ทำตัวปกติ แต่ว่าการที่ไปเที่ยวต่างประเทศก็ยอมรับว่ามันเป็นความสุข การที่เราโพส IG มันก็เป็นการแสดงความสุข ความรัก เรื่องราวต่างๆนานา ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นค่ะ”
ที่มา : http://entertain.smmonline.net/