หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Lost in SAPA 2013 (^_^)
กระทู้รีวิว
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
ทริปนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจของตัวเอง ที่ต้องการไปเยือนยังดินแดนอันสวยงามแห่งนี้ แต่ไม่มีเวลาแบบจริงๆจังๆซักที เลยคิดว่าถ้าไม่เริ่มดำเนินการอะไรซักอย่าง ก็คงจะไม่ได้ไปอยู่นั่นแหล่ะ เลยเริ่มจองตั๋วโปรโมชั่นตั้งแต่กลางปี 2012 ไปกลับ BKK-HANOI ในวันเดินทาง 20-24 Jan'2013 กับสายการบินที่ใครๆก็บินได้ อย่าง Air Asia ในราคาไปกลับเพียง 2,390 บาท พร้อมทั้งสมาชิกร่วมทริปด้วยกันอีก 7 ชีวิต ดังนั้น การเดินทางของเราครั้งนี้ จึงไม่ธรรมดาแน่นอน จุดหมายปลายทางของเรา คือ SAPA...The Roof of Indo-china
การเดินทางของเราในครั้งนี้ จุดหมายแรกของพวกเรา คือ กรุงฮานอย (Hanoi) เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ด้วยไฟล์ทการเดินทางแต่เช้าตรู่ เราเดินทางถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอย เวลา 8.25 น. และนั่งรถเข้าเมืองในย่าน Old Quarter โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่ะ (เวลาบ้านเค้า กับบ้านเราตรงกัน จึงไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเวลาบนข้อมือท่านแต่อย่างใด) กระทู้นี้ ขอเน้นไปที่ Sapa ดังนั้น ภาพบรรยากาศใน Hanoi จึงขอลงภาพประกอบเล็กๆน้อยๆ ละกันนะคะ
[/img]
พวกเราใช้เวลากันในเมืองหลวงอันเก่าแก่แห่งนี้ ไปกับการเดินชมเมือง เดินดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ไหนๆในโลก ทั้งผู้คน ความเป็นอยู่ และอาหารการกิน เรามีเวลาใน Hanoi ถึงช่วงหัวค่ำ เพราะต้องออกเดินทางสู่ เมือง SAPA จุดหมายปลายทางของเรา ที่กำลังรอเราอยู่... พวกเราใช้บริการการจองตั๋วรถไฟ และที่พักจาก Ms.Huang แห่ง Goldenlandstour เรามอบหมายให้เธอจัดการตั๋วการเดินทางของเราทั้งขาไปและขากลับ จาก Hanoi ไปยังเมือง Lao Cai และต่อรถไปยัง Sapa กับระยะทางประมาณ 60 km. ด้วยขบวนรถไฟ Tulico Express แบบ 4 เตียง ในราคาไปกลับคนละ 66$ ซึ่งถ้าเทียบกับเจ้าอื่นๆ ก็ถือว่า ราคาของเธอนั่น โอเคกว่าเจ้าอื่นๆ บวกกับที่พักสวยๆ ในเมือง Sapa อย่าง Sapa Summit Hotel ที่เธอสามารถจัดการให้เราได้ในราคา เพียงห้องละ 20$ เท่านั้น กับบรรยากาศ Mountain View แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การบริการของเธอที่มีแต่รอยยิ้มและความน่ารัก ทำให้เราประทับใจในตัวเธอจริงๆค่ะ เวลาออกของรถไฟ 21.15 น. ขอบอกว่าที่นี่ตรงเวลามากๆนะคะ เลทนิด เลทหน่อยกันไม่ได้เลยหล่ะค่ะ นักท่องเที่ยวคนไทยต้องรักษาเวลากันให้ดีเลยทีเดียว ;)
แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไกลกันต่อ...อย่างว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ทริปนี้ เราทั้ง 8 โชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมเยียนญาติของ จขกท. (คนไทย)ที่มีบ้านอยู่ Hanoi ซึ่งเจ้าของบ้านใจดีมากๆ ทำอาหารเย็นมื้อใหญ่ เป็นแกงส้มใต้รสจัดจ้านให้เราได้รับประทานกันอย่างอิ่มหนำมากๆ มาตั้งไกล ยังได้ลิ้มรสอาหารไทย เก๋ก็ตรงนี้แหล่ะค่ะ ;)
หน้าตาสถานีรถไฟของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามค่ะ เป็นชุมทางเส้นทางรถไฟ ที่มีเส้นทางการเดินทางหลากหลายเมือง รวมทั้งยังมีรถไฟระหว่างประเทศ ที่คุณสามารถจะเดินทางไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีนได้ด้วยนะคะ
รถไฟของที่นี่ตรงเวลามากๆค่ะ สภาพภายในรถไฟไม่แย่ จัดว่าดีเลยทีเดียว ที่นอน ผ้าห่ม สะอาดสะอ้านดีค่ะ ถ้าจะให้เทียบกับรถไฟบ้านเราแล้ว ของเค้าดีกว่าเยอะค่ะ อันนี้ จขกท. Confirm
6.30 น. พวกเราเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางของเรา...ขอต้อนรับสู่เมือง Sapa ดินแดนที่เราตั้งใจว่าจะหาโอกาสมาให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต วันนี้อากาศเป็นใจกับเราเหลือเกินค่ะ อุณหภูมิในตอนเช้า ประมาณ 7 องศา กับแสงแดดที่มาทักทายพวกเรา (พนักงานที่โรงแรมบอกกับเราว่า คุณโชคดีมากๆ เพราะก่อนหน้านี้ ที่นี่ปกคลุมไปด้วยหมอก ไม่มีแดดเลยซักนิด) แสงแดดกระทบกับสายหมอก ทำให้กลายเป็นทะเลหมอกที่สวยที่สุดตั้งแต่เคยพบเห็นมาในชีวิต ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงห้องพักของเราเองค่ะ แจ่มมั้ยคะ ;)
พวกเราเดินทางมาถึง ก็สามารถ Check-in เข้าห้องพักกันได้เลย วิวที่พักที่นี่สวยงามมากจริงๆ แค่ออกมานั่งจิบชาร้อนๆ ริมระเบียงห้อง ก็เป็นอะไรที่ฟินสุดแล้วจริงๆค่ะ แต่ด้วยสมาชิกทั้ง 8 ของเรา เริ่มหิว เราจึงออกไปหา Breakfast ทานกันยังร้าน Baguette&Chocolate Cafe' ค่ะ ร้านนี้ไม่ไกลจากที่พัก เดินมานิดเดียวก็ถึง สำหรับความเห็นส่วนตัว เบเกอรี่พอได้ค่ะ กาแฟเฉยๆ แต่โกโก้ร้อน อร่อยมากค่ะ หลังจากนั้น เราเดินชมเมืองกันอีกนิดหน่อย พอให้อาหารย่อยค่ะ
หลังจากเสร็จสิ้นมื้อเช้าแบบเบาๆ วันนี้พวกเราเลือกที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขี่เที่ยวกันเอง ในราคาคันละ 150,000 ด่องเวียดนาม (175 บาท) โดยมีจุดหมายปลายทางคือ Silver Waterfall และ Love Waterfall ค่ะ อยู่ห่างจากที่เราพักประมาณ 15 km. อากาศหนาวจัด แต่ยังพอมีแสงแดดบางๆ ที่ทำให้เราขับขี่กันแบบเพลินๆ แต่ก็หนาวเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ วิวระหว่างทางเป็นยังไง ไปชมกันเลยค่ะ
สวยจริงๆค่ะ อยากให้ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองมากๆ มันบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ
ขับไป จอดถ่ายรูปกันไป เพลินสุดๆ
สายธาร ระหว่างที่เราเดินขึ้นไปยัง Love Waterfall ค่ะ
แต่น แตน แต๊นนนน....Love Waterfall ระหว่างทางเดินขึ้นไปน้ำตก ค่อนข้างไกลและชันพอสมควร แต่พอถึง ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง น้ำตกยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆค่ะ
เรามุ่งหน้ากลับสู่ตัวเมือง Sapa กับสภาพอากาศที่จู่ๆ หมอกก็ลงหนาจัด จนแทบมองไม่เห็นอะไร อากาศช่างแตกต่างจากช่วงเช้าซะจริงๆ
หลังจากนั้น พวกเราทั้ง 8 ก็ไม่ย่อท้อต่อสภาพอากาศที่หนาวเหน็บตลอดทั้งวัน เดินเล่นกันต่อในเมือง โดยมีปลายทางคือ ทะเลสาบกลางเมืองค่ะ พอมาถึงแล้วต้อขอบอกว่า โอ้ววว นี่มันยุโรปรึป่าว???
บรรยากาศโรแมนติกมากๆ เมืองนี้มันน่าเหลือเชื่อกับอากาศซะจริงๆ เพียงแค่คุณเดินคล้อยหลังจากอีกที่ เพื่อไปยังอีกที่ อากาศก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที เลยอยากฝากบอกว่า ควรจะพกยามาด้วยนะคะ เสี่ยงต่อการเป็นหวัดอย่างมากเลยหล่ะค่ะ
ขอปิดท้ายรีวิว Lost in SAPA วันแรก กับภาพกาแฟร้อนๆ สไตล์เวียดนามกับภาพ จขกท ในมาดสาวเวียดละกันนะคะ แล้วพบกันใหม่กับรีวิว Lost in SAPA 2nd Day เร็วๆนี้ค่ะ
ชื่อสินค้า:
Sapa, Vietnam
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
"Sapa in the mist " นั่งรถไฟไปซาปา🚂 กลับมานั่งจิบกาแฟที่ฮานอย☕
"Sapa in the mist " นั่งรถไฟไปซาปา🚂 กลับมานั่งจิบกาแฟที่ฮานอย☕ อันนี้ขอลงย้อนหลังหน่อยนะคะ เนื่องจากปลายปี 2017 ย่างเข้าปี 2018 วีตัดสินใจปุ๊ปปั๊ปกะทันหันว่าเราจะไปงองนั่งรถไฟตู้นอนไปเที่ย
LittleChick@Seattle
จะไป sapa ธันวานี้ครับ มีใครมีโรงแรมแนะนำไหมครับ
จะไปเวียดนามช่วง 25-30 ธันวานี้ครับ เลยกะว่าจะขึ้นจาก hanoi ไป sapa ช่วง 26-28 ธันวา ควรเดินทางจาก hanoi ไป sapa ด้วยบัสหรือรถไฟดีครับ มีใครมีโรงแรมแนะนำไหมครับ เห็นว่า sapa summit ที่แนะนำกันเยอะๆ เห
สมาชิกหมายเลข 1232683
ปรึกษาเรื่องทริป ฮานอย ซาปา 18-22 ตค 2556 นี้ครับผม
ผมจะไปเที่ยว ฮานอย ซาปา 18 - 22 ตค 56 ไปกัน 3 คนครับ โดยติดต่อ Mrs.Nga ที่ในห้องบลูแนะนำกันมา ได้ดังนี้ เพื่อนๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ Date Service 18.10.13 -Taxi pick up at the airport *** free -
Dr.DJ
นาขั้นบันได Sapa . Mu Cang Chai . La Pan Tan . Tu Le , Vietnam
สวัสดีจ้า... มีภาพนาขั้นบันไดจากเวียดนามมาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ ไปตามล่านาขั้นบันไดมาหลายที่ค่ะ Sapa , Mu Cang Chai , La Pan Tan , Tu Le แต่ละที่ก็ไม่ใกล้กันเลย แต่อยากได้รูปสวยก็ต้องไปผจญภัยกันสักหน่อ
IdeaLamoon
สถานการณ์ฝุ่น PM เช้านี้ริมโขงจังหวัดหนองคาย
ตื่นเช้ามานึกว่าหมอกนี่ก็แดดออกแล้วยังไม่จางหายไปเลย สถานการณ์ฝุ่นช่วง 2-3 วันมานี้จะหนักหน่อยโดยเฉพาะวันนี้ฝุ่นจะเยอะ แต่อากาศที่หนองคายก็หนาว
เฮ้ยหมอนี้ใคร
ซาปา นาขั้นบันได ..เที่ยวง่ายๆ..สไตล์ป้า (18-22 July 2024)
Hanoi - Sapa (July 2024)ทริปนี้ ไม่ได้เตรียมตัวอะไร แค่อยากไปนอนดูนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านตาวาน ซาปา ได้จองรถบัสนอน และรถรับส่งสนามบินกับน้องลานนา Lanna Pham และตั๋วเครื่องบินซื้อจาก Asaen pass ของแอร์เ
ป้า Kanyjung
อยากขอช่วยวางแพลนสถานที่ท่องเที่ยวของ "ฮานอยและเมืองอื่นๆ" หน่อยครับ.
พอดี มีทริปช่วงเดือน ธันวาคมนี้ ครับ ดังนี้ ปักเมืองไว้คร่าวๆตามนี้ครับ Hanoi 3 วัน Sapa 2 วัน Dalat 1 วัน Ho chi min 1 วัน เหนือกับใต้ ผมใช้วิธีบินเอาครับ ยกเว้น ฮานอย ซาปา นั่งรถไฟเอา ที่อยากขอ
Devilscot
Hanoi (up date) รถ Bus สาย 86 จากสนามบินเข้าเมือง
เพิ่งกลับจาก Hanoi - Sapa ครับ ไปตั้งแต่วันที่ 8 - 18 อยู่ Hanoi 2+3 คืน Sapa 5คืน ได้ข้อมูลจาก ใน Pantip กลับมา ก็มาขยาย เพิ่มเติม หวังว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่ทราบข้อมูล
หยำฉา
ทริป Hanoi /SAPA / Halong
อยากสอบถามท่านที่เคยไปดังนี้ครับ พอดีอยากจับทริปชิวๆ ไม่เหนื่อย ไม่เร่งรีบ Slow life ไม่ครบไม่เป็นไรไปซ้ำได้ ผมไปทั้งหมด 5 คืน แต่ด้วยเวลาบิน ทำไมมีเวลาเที่ยวเต็มๆ 3 วัน 1.SAPA ตอนนี้ผมจอง 2 คืน รร.
สมาชิกหมายเลข 1513692
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Lost in SAPA 2013 (^_^)
การเดินทางของเราในครั้งนี้ จุดหมายแรกของพวกเรา คือ กรุงฮานอย (Hanoi) เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ด้วยไฟล์ทการเดินทางแต่เช้าตรู่ เราเดินทางถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอย เวลา 8.25 น. และนั่งรถเข้าเมืองในย่าน Old Quarter โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่ะ (เวลาบ้านเค้า กับบ้านเราตรงกัน จึงไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเวลาบนข้อมือท่านแต่อย่างใด) กระทู้นี้ ขอเน้นไปที่ Sapa ดังนั้น ภาพบรรยากาศใน Hanoi จึงขอลงภาพประกอบเล็กๆน้อยๆ ละกันนะคะ
[/img]
พวกเราใช้เวลากันในเมืองหลวงอันเก่าแก่แห่งนี้ ไปกับการเดินชมเมือง เดินดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ไหนๆในโลก ทั้งผู้คน ความเป็นอยู่ และอาหารการกิน เรามีเวลาใน Hanoi ถึงช่วงหัวค่ำ เพราะต้องออกเดินทางสู่ เมือง SAPA จุดหมายปลายทางของเรา ที่กำลังรอเราอยู่... พวกเราใช้บริการการจองตั๋วรถไฟ และที่พักจาก Ms.Huang แห่ง Goldenlandstour เรามอบหมายให้เธอจัดการตั๋วการเดินทางของเราทั้งขาไปและขากลับ จาก Hanoi ไปยังเมือง Lao Cai และต่อรถไปยัง Sapa กับระยะทางประมาณ 60 km. ด้วยขบวนรถไฟ Tulico Express แบบ 4 เตียง ในราคาไปกลับคนละ 66$ ซึ่งถ้าเทียบกับเจ้าอื่นๆ ก็ถือว่า ราคาของเธอนั่น โอเคกว่าเจ้าอื่นๆ บวกกับที่พักสวยๆ ในเมือง Sapa อย่าง Sapa Summit Hotel ที่เธอสามารถจัดการให้เราได้ในราคา เพียงห้องละ 20$ เท่านั้น กับบรรยากาศ Mountain View แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การบริการของเธอที่มีแต่รอยยิ้มและความน่ารัก ทำให้เราประทับใจในตัวเธอจริงๆค่ะ เวลาออกของรถไฟ 21.15 น. ขอบอกว่าที่นี่ตรงเวลามากๆนะคะ เลทนิด เลทหน่อยกันไม่ได้เลยหล่ะค่ะ นักท่องเที่ยวคนไทยต้องรักษาเวลากันให้ดีเลยทีเดียว ;)
แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไกลกันต่อ...อย่างว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ทริปนี้ เราทั้ง 8 โชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมเยียนญาติของ จขกท. (คนไทย)ที่มีบ้านอยู่ Hanoi ซึ่งเจ้าของบ้านใจดีมากๆ ทำอาหารเย็นมื้อใหญ่ เป็นแกงส้มใต้รสจัดจ้านให้เราได้รับประทานกันอย่างอิ่มหนำมากๆ มาตั้งไกล ยังได้ลิ้มรสอาหารไทย เก๋ก็ตรงนี้แหล่ะค่ะ ;)
หน้าตาสถานีรถไฟของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามค่ะ เป็นชุมทางเส้นทางรถไฟ ที่มีเส้นทางการเดินทางหลากหลายเมือง รวมทั้งยังมีรถไฟระหว่างประเทศ ที่คุณสามารถจะเดินทางไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีนได้ด้วยนะคะ
รถไฟของที่นี่ตรงเวลามากๆค่ะ สภาพภายในรถไฟไม่แย่ จัดว่าดีเลยทีเดียว ที่นอน ผ้าห่ม สะอาดสะอ้านดีค่ะ ถ้าจะให้เทียบกับรถไฟบ้านเราแล้ว ของเค้าดีกว่าเยอะค่ะ อันนี้ จขกท. Confirm
6.30 น. พวกเราเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางของเรา...ขอต้อนรับสู่เมือง Sapa ดินแดนที่เราตั้งใจว่าจะหาโอกาสมาให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต วันนี้อากาศเป็นใจกับเราเหลือเกินค่ะ อุณหภูมิในตอนเช้า ประมาณ 7 องศา กับแสงแดดที่มาทักทายพวกเรา (พนักงานที่โรงแรมบอกกับเราว่า คุณโชคดีมากๆ เพราะก่อนหน้านี้ ที่นี่ปกคลุมไปด้วยหมอก ไม่มีแดดเลยซักนิด) แสงแดดกระทบกับสายหมอก ทำให้กลายเป็นทะเลหมอกที่สวยที่สุดตั้งแต่เคยพบเห็นมาในชีวิต ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงห้องพักของเราเองค่ะ แจ่มมั้ยคะ ;)
พวกเราเดินทางมาถึง ก็สามารถ Check-in เข้าห้องพักกันได้เลย วิวที่พักที่นี่สวยงามมากจริงๆ แค่ออกมานั่งจิบชาร้อนๆ ริมระเบียงห้อง ก็เป็นอะไรที่ฟินสุดแล้วจริงๆค่ะ แต่ด้วยสมาชิกทั้ง 8 ของเรา เริ่มหิว เราจึงออกไปหา Breakfast ทานกันยังร้าน Baguette&Chocolate Cafe' ค่ะ ร้านนี้ไม่ไกลจากที่พัก เดินมานิดเดียวก็ถึง สำหรับความเห็นส่วนตัว เบเกอรี่พอได้ค่ะ กาแฟเฉยๆ แต่โกโก้ร้อน อร่อยมากค่ะ หลังจากนั้น เราเดินชมเมืองกันอีกนิดหน่อย พอให้อาหารย่อยค่ะ
หลังจากเสร็จสิ้นมื้อเช้าแบบเบาๆ วันนี้พวกเราเลือกที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขี่เที่ยวกันเอง ในราคาคันละ 150,000 ด่องเวียดนาม (175 บาท) โดยมีจุดหมายปลายทางคือ Silver Waterfall และ Love Waterfall ค่ะ อยู่ห่างจากที่เราพักประมาณ 15 km. อากาศหนาวจัด แต่ยังพอมีแสงแดดบางๆ ที่ทำให้เราขับขี่กันแบบเพลินๆ แต่ก็หนาวเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ วิวระหว่างทางเป็นยังไง ไปชมกันเลยค่ะ
สวยจริงๆค่ะ อยากให้ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองมากๆ มันบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ
ขับไป จอดถ่ายรูปกันไป เพลินสุดๆ
สายธาร ระหว่างที่เราเดินขึ้นไปยัง Love Waterfall ค่ะ
แต่น แตน แต๊นนนน....Love Waterfall ระหว่างทางเดินขึ้นไปน้ำตก ค่อนข้างไกลและชันพอสมควร แต่พอถึง ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง น้ำตกยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆค่ะ
เรามุ่งหน้ากลับสู่ตัวเมือง Sapa กับสภาพอากาศที่จู่ๆ หมอกก็ลงหนาจัด จนแทบมองไม่เห็นอะไร อากาศช่างแตกต่างจากช่วงเช้าซะจริงๆ
หลังจากนั้น พวกเราทั้ง 8 ก็ไม่ย่อท้อต่อสภาพอากาศที่หนาวเหน็บตลอดทั้งวัน เดินเล่นกันต่อในเมือง โดยมีปลายทางคือ ทะเลสาบกลางเมืองค่ะ พอมาถึงแล้วต้อขอบอกว่า โอ้ววว นี่มันยุโรปรึป่าว???
บรรยากาศโรแมนติกมากๆ เมืองนี้มันน่าเหลือเชื่อกับอากาศซะจริงๆ เพียงแค่คุณเดินคล้อยหลังจากอีกที่ เพื่อไปยังอีกที่ อากาศก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที เลยอยากฝากบอกว่า ควรจะพกยามาด้วยนะคะ เสี่ยงต่อการเป็นหวัดอย่างมากเลยหล่ะค่ะ
ขอปิดท้ายรีวิว Lost in SAPA วันแรก กับภาพกาแฟร้อนๆ สไตล์เวียดนามกับภาพ จขกท ในมาดสาวเวียดละกันนะคะ แล้วพบกันใหม่กับรีวิว Lost in SAPA 2nd Day เร็วๆนี้ค่ะ