▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
[CR] Lost in SAPA 2013 (^_^)
การเดินทางของเราในครั้งนี้ จุดหมายแรกของพวกเรา คือ กรุงฮานอย (Hanoi) เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ด้วยไฟล์ทการเดินทางแต่เช้าตรู่ เราเดินทางถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอย เวลา 8.25 น. และนั่งรถเข้าเมืองในย่าน Old Quarter โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่ะ (เวลาบ้านเค้า กับบ้านเราตรงกัน จึงไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเวลาบนข้อมือท่านแต่อย่างใด) กระทู้นี้ ขอเน้นไปที่ Sapa ดังนั้น ภาพบรรยากาศใน Hanoi จึงขอลงภาพประกอบเล็กๆน้อยๆ ละกันนะคะ
[/img]
พวกเราใช้เวลากันในเมืองหลวงอันเก่าแก่แห่งนี้ ไปกับการเดินชมเมือง เดินดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ไหนๆในโลก ทั้งผู้คน ความเป็นอยู่ และอาหารการกิน เรามีเวลาใน Hanoi ถึงช่วงหัวค่ำ เพราะต้องออกเดินทางสู่ เมือง SAPA จุดหมายปลายทางของเรา ที่กำลังรอเราอยู่... พวกเราใช้บริการการจองตั๋วรถไฟ และที่พักจาก Ms.Huang แห่ง Goldenlandstour เรามอบหมายให้เธอจัดการตั๋วการเดินทางของเราทั้งขาไปและขากลับ จาก Hanoi ไปยังเมือง Lao Cai และต่อรถไปยัง Sapa กับระยะทางประมาณ 60 km. ด้วยขบวนรถไฟ Tulico Express แบบ 4 เตียง ในราคาไปกลับคนละ 66$ ซึ่งถ้าเทียบกับเจ้าอื่นๆ ก็ถือว่า ราคาของเธอนั่น โอเคกว่าเจ้าอื่นๆ บวกกับที่พักสวยๆ ในเมือง Sapa อย่าง Sapa Summit Hotel ที่เธอสามารถจัดการให้เราได้ในราคา เพียงห้องละ 20$ เท่านั้น กับบรรยากาศ Mountain View แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การบริการของเธอที่มีแต่รอยยิ้มและความน่ารัก ทำให้เราประทับใจในตัวเธอจริงๆค่ะ เวลาออกของรถไฟ 21.15 น. ขอบอกว่าที่นี่ตรงเวลามากๆนะคะ เลทนิด เลทหน่อยกันไม่ได้เลยหล่ะค่ะ นักท่องเที่ยวคนไทยต้องรักษาเวลากันให้ดีเลยทีเดียว ;)
แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไกลกันต่อ...อย่างว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ทริปนี้ เราทั้ง 8 โชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมเยียนญาติของ จขกท. (คนไทย)ที่มีบ้านอยู่ Hanoi ซึ่งเจ้าของบ้านใจดีมากๆ ทำอาหารเย็นมื้อใหญ่ เป็นแกงส้มใต้รสจัดจ้านให้เราได้รับประทานกันอย่างอิ่มหนำมากๆ มาตั้งไกล ยังได้ลิ้มรสอาหารไทย เก๋ก็ตรงนี้แหล่ะค่ะ ;)
หน้าตาสถานีรถไฟของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามค่ะ เป็นชุมทางเส้นทางรถไฟ ที่มีเส้นทางการเดินทางหลากหลายเมือง รวมทั้งยังมีรถไฟระหว่างประเทศ ที่คุณสามารถจะเดินทางไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีนได้ด้วยนะคะ
รถไฟของที่นี่ตรงเวลามากๆค่ะ สภาพภายในรถไฟไม่แย่ จัดว่าดีเลยทีเดียว ที่นอน ผ้าห่ม สะอาดสะอ้านดีค่ะ ถ้าจะให้เทียบกับรถไฟบ้านเราแล้ว ของเค้าดีกว่าเยอะค่ะ อันนี้ จขกท. Confirm
6.30 น. พวกเราเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางของเรา...ขอต้อนรับสู่เมือง Sapa ดินแดนที่เราตั้งใจว่าจะหาโอกาสมาให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต วันนี้อากาศเป็นใจกับเราเหลือเกินค่ะ อุณหภูมิในตอนเช้า ประมาณ 7 องศา กับแสงแดดที่มาทักทายพวกเรา (พนักงานที่โรงแรมบอกกับเราว่า คุณโชคดีมากๆ เพราะก่อนหน้านี้ ที่นี่ปกคลุมไปด้วยหมอก ไม่มีแดดเลยซักนิด) แสงแดดกระทบกับสายหมอก ทำให้กลายเป็นทะเลหมอกที่สวยที่สุดตั้งแต่เคยพบเห็นมาในชีวิต ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงห้องพักของเราเองค่ะ แจ่มมั้ยคะ ;)
พวกเราเดินทางมาถึง ก็สามารถ Check-in เข้าห้องพักกันได้เลย วิวที่พักที่นี่สวยงามมากจริงๆ แค่ออกมานั่งจิบชาร้อนๆ ริมระเบียงห้อง ก็เป็นอะไรที่ฟินสุดแล้วจริงๆค่ะ แต่ด้วยสมาชิกทั้ง 8 ของเรา เริ่มหิว เราจึงออกไปหา Breakfast ทานกันยังร้าน Baguette&Chocolate Cafe' ค่ะ ร้านนี้ไม่ไกลจากที่พัก เดินมานิดเดียวก็ถึง สำหรับความเห็นส่วนตัว เบเกอรี่พอได้ค่ะ กาแฟเฉยๆ แต่โกโก้ร้อน อร่อยมากค่ะ หลังจากนั้น เราเดินชมเมืองกันอีกนิดหน่อย พอให้อาหารย่อยค่ะ
หลังจากเสร็จสิ้นมื้อเช้าแบบเบาๆ วันนี้พวกเราเลือกที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขี่เที่ยวกันเอง ในราคาคันละ 150,000 ด่องเวียดนาม (175 บาท) โดยมีจุดหมายปลายทางคือ Silver Waterfall และ Love Waterfall ค่ะ อยู่ห่างจากที่เราพักประมาณ 15 km. อากาศหนาวจัด แต่ยังพอมีแสงแดดบางๆ ที่ทำให้เราขับขี่กันแบบเพลินๆ แต่ก็หนาวเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ วิวระหว่างทางเป็นยังไง ไปชมกันเลยค่ะ
สวยจริงๆค่ะ อยากให้ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองมากๆ มันบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ
ขับไป จอดถ่ายรูปกันไป เพลินสุดๆ
สายธาร ระหว่างที่เราเดินขึ้นไปยัง Love Waterfall ค่ะ
แต่น แตน แต๊นนนน....Love Waterfall ระหว่างทางเดินขึ้นไปน้ำตก ค่อนข้างไกลและชันพอสมควร แต่พอถึง ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง น้ำตกยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆค่ะ
เรามุ่งหน้ากลับสู่ตัวเมือง Sapa กับสภาพอากาศที่จู่ๆ หมอกก็ลงหนาจัด จนแทบมองไม่เห็นอะไร อากาศช่างแตกต่างจากช่วงเช้าซะจริงๆ
หลังจากนั้น พวกเราทั้ง 8 ก็ไม่ย่อท้อต่อสภาพอากาศที่หนาวเหน็บตลอดทั้งวัน เดินเล่นกันต่อในเมือง โดยมีปลายทางคือ ทะเลสาบกลางเมืองค่ะ พอมาถึงแล้วต้อขอบอกว่า โอ้ววว นี่มันยุโรปรึป่าว???
บรรยากาศโรแมนติกมากๆ เมืองนี้มันน่าเหลือเชื่อกับอากาศซะจริงๆ เพียงแค่คุณเดินคล้อยหลังจากอีกที่ เพื่อไปยังอีกที่ อากาศก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที เลยอยากฝากบอกว่า ควรจะพกยามาด้วยนะคะ เสี่ยงต่อการเป็นหวัดอย่างมากเลยหล่ะค่ะ
ขอปิดท้ายรีวิว Lost in SAPA วันแรก กับภาพกาแฟร้อนๆ สไตล์เวียดนามกับภาพ จขกท ในมาดสาวเวียดละกันนะคะ แล้วพบกันใหม่กับรีวิว Lost in SAPA 2nd Day เร็วๆนี้ค่ะ