เราต้องตั้งคำถามเสมอ เมื่อเจอเหตุการณ์ แล้วตอบคำถามด้วยความจริงเท่าที่ตัวเราจะสืบค้นมาได้ ตัวอย่างเช่น ทุกๆ วันจะมีข่าว ออกมาเสมอจากที่ต่างๆ และที่เป็นข่าวแปรตามสถานการณ์แบบปกติ เช่น ดัชนีสำคัญของตลาดโลก ราคาปิโตเคมี อัตราค่าระวางเรือ ราคาโลหะมีค่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ข่าวปัจจัยผลกระทบต่อตลาด อื่น ๆ ฯลฯ ถ้าคนที่ไม่ได้อ่าน ไม่ได้รู้ แล้วพอร์ทของเขาต้องขาดทุนยับเยินในทันใดหรือไม่? และถามตัวเองอีกว่าคนที่อ่านข่าว 20 ฉบับ พอร์ทของเขาจะกำไรหรือไม่ ในทันใด? หรือ อ่านทุกวัน จะมีกำไรเป็น 10 เท่าในกี่เดือนกี่ปี? ถ้าคำตอบว่าใช่ เชื่อว่า ทุกคนจนเกือบครบทุกบัญชีหุ้น คงอ่านข่าวหมดแล้วก็รวยเป็นเศรษฐีใน 1 ปี ...คำตอบคือไม่ใช่ ถึงแม้จะมีส่วนถูกคือ คนรู้ย่อมดีกว่าไม่รู้ แต่รู้แล้วไม่ได้ตัดสินใจ ย่อมแพ้คนที่ตัดสินใจลงมือ แต่หากคนลงมือผิดที่ผิดจังหวะ ย่อมแพ้คนลงมือถูกตัวถูกจังหวะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่คนรู้ทุกคนจะลงมือถูกจังหวะ หรือคนไม่รู้ทุกคนต้องเจ้งขาดทุนหมดรูปไป ระบบตลาดหุ้น คือการเฉลี่ยหมุนเวียนตามกระแสเงินที่พัดไปพักในหุ้น หุ้นที่มีคนนิยมมากเงินย่อมเข้าไปพักมาก ราคาย่อมขึ้นไปสูงในอัตราความเร็วที่เร็วกว่าหุ้นที่ไม่มีกระแสเงินเข้าไปพัก คำถามคือ ทำไมเงินไม่เข้าและเมื่อไรจะเข้า? เรื่องนี้ตอบง่ายว่า มีสองคำตอบ คือ ข้อหนึ่ง เงินที่หมุนเข้าไปน้อยกว่าจำนวนหุ้นที่หมุน(ตามราคาขณะนั้นด้วย)ก็คือเงินไม่เข้า ข้อสอง มันขึ้นกับปัจจัยพื้นฐานของหุ้น คือ บริษัทที่มีผลกำไรดีมาตลอด หรือ บริษัทใหญ่ น่าเชื่อถือ ซึ่งคนมือใหม่ก็ตรวจสอบถามได้ แล้วจดจำกลุ่มหุ้นเหล่านี้ ไปลงมือ ถามว่าทำไมซื้อหุ้นกลุ่มนี้แล้วราคาไม่ไปไหน? ก็ตอบว่า อาจเป็นช่วงพักตัว ปรับฐาน เพราะกระแสเงินที่เข้าไปย่อมมีจุดชะลอตัว (ตามข้อหนึ่ง) เหมือนขายปลาทู ที่ตลาดหนึ่ง พอคนแย่งซื้อจนคนแถวนั้นมีครบ ปลาทูที่เหลือก็ไม่ค่อยมีราคา ถ้าซื้อมาแล้วขายต่อไม่ทัน ต้องย้ายไปขายตลาดอื่น เมื่อไปถึงที่นั่น ปลาทูที่ค้าง3 วันก็ยังขายดีได้ราคา แต่หากไม่ย้ายไป ปลาทูจะเริ่มเน่าเสีย เหมือนกับการเล่นหุ้น พอราคาดีถึงจุดหนึ่งควรขาย แล้วรอการปรับตัวก่อน หรือไปเล่นหุ้นตัวอื่นก่อน ถ้าท่านไม่ขายก็ต้องรอตลาดจุดติดใหม่ (คือเวลาอีกระยะหนึ่งที่คนลืมราคาสูงแล้ว อาจกินเวลาเป็นเดือนเป็นปี หรือรอลูกค้าใหม่ขนเงินใหม่มาซื้อ ) อย่ารักหุ้นตัวนั้นตลอดและกอดตลอดชีพ นอกเสียจากว่า ต้นทุนเป็นของฟรีไปแล้ว นั่นคือพวก vi รับปันผลจนคุ้มค่าทุนที่ซื้อเก็บมา 10 ปีแล้ว แต่หากท่านเพิ่งซื้อ และจะเริ่มไปแข่งขันกับคนกลุ่ม vi นี้ ท่านไม่มีวันชนะ จึงต้องหากลยุทธวิธีการใหม่ ด้วยการเริ่มต้นที่เกือบเท่าเสมอทุนเขาหรือให้หุ้นมีค่าเสมือนฟรีก่อนให้จงได้ หากรู้ ถึงแนวคิดวิธีการเช่นนั้น ก็ลงมือได้ เรื่องแบบนี้ต้องมีคนผ่านประสบการณ์มาเล่ามาสอนมาบอกถึงจะรู้และลงมือได้ และหนีไม่พ้นต้องมีโปรแกรมประกอบช่วยตัดสินใจ
อย่าลืมกลับไปหาอ่าน ตอนที่ 1 ก่อน...........ยังมีตอน ที่ 3 โปรดติดตาม
NOWYA ไม่รู้ตรรกะของตลาดหุ้น อย่าหวังเอากำไรไป (ตอนที่ 2 )
อย่าลืมกลับไปหาอ่าน ตอนที่ 1 ก่อน...........ยังมีตอน ที่ 3 โปรดติดตาม