ไม่ตั้งศูนย์พักพิง'โรฮิงญา'ในไทย หวั่นกระทบความมั่นคง
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
การกวาดจับแรงงานมุสลิมโรฮิงญา กว่า 700 คน ในพื้นที่อ.สะเดา จ.สงขลา ช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนของรัฐบาลที่ต้องร่วมมือกับองค์กรนานาชาติแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อให้ "คนไร้รัฐ" กลุ่มนี้ดำรงชีพอยู่ได้ในแหล่งพำนักที่เหมาะสม ขณะที่ทางการไทย ยืนยันจะป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวโดยไม่เปิดศูนย์พักพิงให้ แต่จะเป็นการหาทางออกร่วมกันกับองค์การช่วยเหลือระดับนานาชาติ
ปัญหาและทางออกเกี่ยวกับชาวโรฮิงญา รัฐบาลไทยจะเป็นไปในทิศทางใดบ้าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ชี้แจงว่า
ชาวโรฮิงญา ที่เข้ามาในสถานะ ผู้หลบหนีเข้าเมือง ถ้าปล่อยให้เนิ่นนาน แล้วไม่แก้ปัญหาจะขยายผลไปสู่ความมั่นคงภายในแน่นอน การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล หลังจากที่เขาเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง รัฐบาลต้องนำกลับไปยังประเทศต้นทาง แต่ขณะเดียวกันปัญหาระยะยาวเรามองตรงกันหมดว่า ต้องเกิดจากความร่วม มือของประเทศต้นทาง ปลายทาง ประเทศอื่นๆ และองค์กรระหว่างประเทศ ปัญหาคือ การแก้ไขปัญหาที่ประเทศต้นทางคือ พม่า มีความคิดร่วมกันในภูมิภาคเห็นว่า ต้องเกิดการพัฒนาในรัฐยะไข่ ที่ชาวโรฮิงญาอาศัย อยู่ เมื่อมีการพัฒนาเขาก็จะไม่ออกมา เป็นการแก้ระยะยาว ซึ่งเป็นความร่วมมือในมิติของอาเซียน เพราะถ้าไม่พูดคุย และร่วมมือกันแก้ไขจะลามไปทุกที่
เดิมมาเลเซียก็รับชาวโรฮิงญาไปเป็นแรงงาน แต่พอมีระบบแรงงานที่ถูกต้องมาจากอินเดีย และบังกลาเทศ มาเลเซียก็เริ่มปฏิเสธคนกลุ่มนี้เพราะกลัวว่าจะเป็นมุสลิมหัวรุนแรง ขณะที่เดิมเมื่อมีปัญหาชาวโรฮิงญาจะไปที่ บังกลาเทศ เพราะหน้าตาเป็นบังกลาเทศอยู่แล้ว เมื่อเริ่มไปร่วมสังฆกรรมกับขบวนการหัวรุนแรง รัฐบาลบังกลาเทศเริ่มกังวล และปฏิเสธอีก จึงกลายเป็นกลุ่มที่ถูกรังเกียจ ไม่รู้จะไปอย่างไร จะอยู่ที่เดิมก็ถูกพม่าเข้มงวด ทำมาหากินไม่ได้ เพื่อเอาตัวรอดก็ออกมา ในการแก้ไขปัญหาจึงต้องมีความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ และประเทศในภูมิภาคเอเชีย ขณะนี้องค์การระหว่างประเทศที่เข้ามาหาทางช่วยเหลือ อาทิ UNITED NATIONS HIGH COMMISSIONER FOR REFUGEES : UNHCR (สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ) จึงเชื่อมั่นว่าจะแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่จะยืดเยื้อถูกหยิบยกมาเป็นประเทศการเมืองในอนาคต
การที่ UNHCR เขามาดูแล้วไทยจะดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหายืดเยื้อ เช่น หากเป็นศูนย์พักพิงเหมือนในอดีต จะเกิดปัญหาเหมือนกรณี ชนกลุ่มน้อย ที่จ.แม่ฮ่องสอน และจ.ตาก ที่เข้ามาอยู่นานเป็น 10 ปี จึงยืนยันว่าจะไม่มีศูนย์พักพิงให้กลุ่มโรฮิงญาแน่นอน แต่จะใช้แนวทางอื่นในการแก้ปัญหา
แรงงานโรฮิงญา ที่เข้ามารับจ้างทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ยังมีไม่มาก โดยกลุ่มที่ถูกปลูกฝังอุดม การณ์ในเชิงรุนแรงมีไม่มาก อยู่ในเกณฑ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถดำเนินการได้ แต่ถ่าปล่อยให้มีไหลเข้ามาสมทบกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหลุดเข้าไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วเข้าร่วมกับขบวนการกลุ่มหัวรุนแรงในภาคใต้ รัฐบาลจึงต้องดูแลอย่างเข้มข้น ส่วนชาวโรฮิง ญาในกรุงเทพฯ มีบางสวนไม่ถึงกับเยอะมาก เช่น พ่อค้าขายโรตี จะเป็นชาวโรฮิงญาผสมกับปากีสถาน เป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ปัญหาโรฮิงญา เป็นปัญหาที่น่าสนใจในเชิงมนุษย ธรรม ตอนนี้รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งคำว่าแรงงานผิดกฎหมายมี 3 ชาติเท่านั้น คือ กัมพูชา พม่า และลาว เมื่อกลุ่มนี้มาทำงานในไทยรัฐบาลจะให้มีการพิสูจน์สัญชาติตอนนี้รัฐบาลให้ต่อเวลาอีก 6 เดือนในการพิสูจน์สัญชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ชาวโรฮิงญา ไม่รู้จะพิสูจน์สัญชาติอย่างไร จะจับไปพิสูจน์สัญชาติที่พม่า รัฐบาลพม่าก็บอกไม่ใช่ประชากรพม่า เป็นปัญหาที่น่าสงสารและเห็นใจ เขาอยู่รัฐยะไข่ของพม่า เมื่อจะพิสูจน์สัญชาติรัฐบาลพม่าต้องยืนยันมา แต่ปรากฏว่ารัฐบาลพม่าจะยืนยันเฉพาะชนกลุ่มน้อยในพม่า ยกเว้นชาวโรฮิงญา คนกลุ่มนี้จึงเป็นปัญหา
ไม่ตั้งศูนย์พักพิง 'โรฮิงญา' ในไทย หวั่นกระทบความมั่นคง
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
การกวาดจับแรงงานมุสลิมโรฮิงญา กว่า 700 คน ในพื้นที่อ.สะเดา จ.สงขลา ช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนของรัฐบาลที่ต้องร่วมมือกับองค์กรนานาชาติแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อให้ "คนไร้รัฐ" กลุ่มนี้ดำรงชีพอยู่ได้ในแหล่งพำนักที่เหมาะสม ขณะที่ทางการไทย ยืนยันจะป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวโดยไม่เปิดศูนย์พักพิงให้ แต่จะเป็นการหาทางออกร่วมกันกับองค์การช่วยเหลือระดับนานาชาติ
ปัญหาและทางออกเกี่ยวกับชาวโรฮิงญา รัฐบาลไทยจะเป็นไปในทิศทางใดบ้าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ชี้แจงว่า
ชาวโรฮิงญา ที่เข้ามาในสถานะ ผู้หลบหนีเข้าเมือง ถ้าปล่อยให้เนิ่นนาน แล้วไม่แก้ปัญหาจะขยายผลไปสู่ความมั่นคงภายในแน่นอน การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล หลังจากที่เขาเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง รัฐบาลต้องนำกลับไปยังประเทศต้นทาง แต่ขณะเดียวกันปัญหาระยะยาวเรามองตรงกันหมดว่า ต้องเกิดจากความร่วม มือของประเทศต้นทาง ปลายทาง ประเทศอื่นๆ และองค์กรระหว่างประเทศ ปัญหาคือ การแก้ไขปัญหาที่ประเทศต้นทางคือ พม่า มีความคิดร่วมกันในภูมิภาคเห็นว่า ต้องเกิดการพัฒนาในรัฐยะไข่ ที่ชาวโรฮิงญาอาศัย อยู่ เมื่อมีการพัฒนาเขาก็จะไม่ออกมา เป็นการแก้ระยะยาว ซึ่งเป็นความร่วมมือในมิติของอาเซียน เพราะถ้าไม่พูดคุย และร่วมมือกันแก้ไขจะลามไปทุกที่
เดิมมาเลเซียก็รับชาวโรฮิงญาไปเป็นแรงงาน แต่พอมีระบบแรงงานที่ถูกต้องมาจากอินเดีย และบังกลาเทศ มาเลเซียก็เริ่มปฏิเสธคนกลุ่มนี้เพราะกลัวว่าจะเป็นมุสลิมหัวรุนแรง ขณะที่เดิมเมื่อมีปัญหาชาวโรฮิงญาจะไปที่ บังกลาเทศ เพราะหน้าตาเป็นบังกลาเทศอยู่แล้ว เมื่อเริ่มไปร่วมสังฆกรรมกับขบวนการหัวรุนแรง รัฐบาลบังกลาเทศเริ่มกังวล และปฏิเสธอีก จึงกลายเป็นกลุ่มที่ถูกรังเกียจ ไม่รู้จะไปอย่างไร จะอยู่ที่เดิมก็ถูกพม่าเข้มงวด ทำมาหากินไม่ได้ เพื่อเอาตัวรอดก็ออกมา ในการแก้ไขปัญหาจึงต้องมีความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ และประเทศในภูมิภาคเอเชีย ขณะนี้องค์การระหว่างประเทศที่เข้ามาหาทางช่วยเหลือ อาทิ UNITED NATIONS HIGH COMMISSIONER FOR REFUGEES : UNHCR (สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ) จึงเชื่อมั่นว่าจะแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่จะยืดเยื้อถูกหยิบยกมาเป็นประเทศการเมืองในอนาคต
การที่ UNHCR เขามาดูแล้วไทยจะดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหายืดเยื้อ เช่น หากเป็นศูนย์พักพิงเหมือนในอดีต จะเกิดปัญหาเหมือนกรณี ชนกลุ่มน้อย ที่จ.แม่ฮ่องสอน และจ.ตาก ที่เข้ามาอยู่นานเป็น 10 ปี จึงยืนยันว่าจะไม่มีศูนย์พักพิงให้กลุ่มโรฮิงญาแน่นอน แต่จะใช้แนวทางอื่นในการแก้ปัญหา
แรงงานโรฮิงญา ที่เข้ามารับจ้างทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ยังมีไม่มาก โดยกลุ่มที่ถูกปลูกฝังอุดม การณ์ในเชิงรุนแรงมีไม่มาก อยู่ในเกณฑ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถดำเนินการได้ แต่ถ่าปล่อยให้มีไหลเข้ามาสมทบกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหลุดเข้าไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วเข้าร่วมกับขบวนการกลุ่มหัวรุนแรงในภาคใต้ รัฐบาลจึงต้องดูแลอย่างเข้มข้น ส่วนชาวโรฮิง ญาในกรุงเทพฯ มีบางสวนไม่ถึงกับเยอะมาก เช่น พ่อค้าขายโรตี จะเป็นชาวโรฮิงญาผสมกับปากีสถาน เป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ปัญหาโรฮิงญา เป็นปัญหาที่น่าสนใจในเชิงมนุษย ธรรม ตอนนี้รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งคำว่าแรงงานผิดกฎหมายมี 3 ชาติเท่านั้น คือ กัมพูชา พม่า และลาว เมื่อกลุ่มนี้มาทำงานในไทยรัฐบาลจะให้มีการพิสูจน์สัญชาติตอนนี้รัฐบาลให้ต่อเวลาอีก 6 เดือนในการพิสูจน์สัญชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ชาวโรฮิงญา ไม่รู้จะพิสูจน์สัญชาติอย่างไร จะจับไปพิสูจน์สัญชาติที่พม่า รัฐบาลพม่าก็บอกไม่ใช่ประชากรพม่า เป็นปัญหาที่น่าสงสารและเห็นใจ เขาอยู่รัฐยะไข่ของพม่า เมื่อจะพิสูจน์สัญชาติรัฐบาลพม่าต้องยืนยันมา แต่ปรากฏว่ารัฐบาลพม่าจะยืนยันเฉพาะชนกลุ่มน้อยในพม่า ยกเว้นชาวโรฮิงญา คนกลุ่มนี้จึงเป็นปัญหา