งงกับพันทิปโฉมใหม่ @-@ กว่าจะหาปุ่มตั้งกระทู้ได้
สวัสดีคุณพ่อ คุณแม่ ชานเรือนค่ะ
เป็นเรื่องของลูกค้านะคะไม่ใช่เรื่อง จขกท โดยตรง พอดีพี่เขามีปัญหาแล้วเราได้มีโอกาสรับฟังมา
จะเป็นที่ปรึกษาให้พี่เขา ไอ้เราก็ความรู้ความสามารถไม่มี แต่หัวอกคนเป็นแม่น่ะค่ะ อยากกินเผือกจริง ๆ
จึงอยากขอคำแนะนำจากแม่ ๆ ในนี้ เผื่อว่าท่านใดจะมีอะไรแนะนำ ช่วยให้แม่คนหนึ่งได้อยู่กับลูกตัวเองต่อไป
ปล.เราได้บอกเจ้าของเรื่องก่อนที่จะมาตั้งกระทู้แล้วค่ะ อยากหาทางออกช่วยพี่เขาจริง ๆ
................
ยาว และเล่าไม่เก่ง อาจจะวน ๆ ซ้ำ ๆ //ขอโทษล่วงหน้านะคะ ถ้างงตรงไหนบอกด้วยนะคะ
.................
อดีตสามี ก่อเรื่องให้พี่เขา และญาติพี่เขาเป็นหนี้เป็นสินด้วยการใช้ชื่อญาติ ๆ ฝ่ายหญิงไปทำกิจการต่าง ๆ ก่อนมีเมียใหม่ และได้เลิกรากันไป
ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ ฝ่ายหญิงเลี้ยงดูมาโดยตลอด ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ในสูติบัตรมีชื่อพ่อรับรองบุตร
บ้านฝ่ายชาย มีกิจการเป็นสำนักทนายความ แน่นอนว่าต้องรู้เรื่องกฏหมายอย่างดี ได้มีการส่งเสียลูกบ้าง (จขกท. ไม่รู้ว่าส่งเสียยังไงเพื่อให้ได้มีสิทธิ์ในความเป็นพ่อ) แต่คาดว่าเขาได้เตรียมการไว้แล้วก่อนที่จะฟ้องเรียกร้องสิทธิ์ในตัวลูก เพราะเคยทำเรื่องอื่นด้วยการวางแผนมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฝ่ายชาย ได้ให้ที่อยู่อีกแห่งของอดีตภรรยาในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาล ซึ่งไม่ใช่ที่อยู่ที่อดีตภรรยาอาศัยอยู่จริง และฝ่ายชายทราบดีเพราะได้มีการเจอกันบ้าง ก่อนวันขึ้นศาลก็ยังเจอกัน และมีการบอกฝ่ายหญิงด้วยว่า ต้องไปขึ้นศาลวันนั้น วันนี้ให้ได้นะ
ก่อนวันศาลนัดพิจารณาตัดสินคดี (เมื่อต้นเดือน มกราคม 56) พี่ผู้หญิงก็ทราบแล้วว่าตัวเองโดนอดีตสามีฟ้องเรียกร้องเอาสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก (ทราบได้อย่างไร ดิฉันลืมค่ะ //กราบ)
พี่เขาได้กลับไปที่อยู่ที่ปิดหมาย (คนละที่กับปัจจุบัน) จึงทราบว่ามีการฟ้องร้องมานานแล้ว โดยตลอดเวลาอดีตสามีก็ยังมาเจอลูก แต่ไม่เคยบอกเรื่องนี้
อดีตสามี เป็นคนชอบเอาชนะ เขาอยากได้ลูก เพราะต้องการเอาชนะพี่ผู้หญิง ไม่ได้มีความรักและอยากเลี้ยงลูกจริงเลย พี่ผู้หญิงบอกว่าถ้าอดีตสามีรักลูกจริง เขาก็ยอมให้ลูกอยู่ในการเลี้ยงดูของผู้ชายได้
อดีตสามี มีภรรยาใหม่ อายุ 10 กว่า ๆ เคยทำร้ายร่างกายลูกของพี่เขามาแล้ว มีพยานบุคคล แต่เป็นคนของฝ่ายชาย
พี่ผู้หญิง พอเจอหมายศาลก็รีบไปปรึกษาศาล ศาลแนะนำให้ใช้ทนายความเอกชนเพื่อความรับผิดชอบกับคดีมากกว่าทนายรัฐ ในวันพิจารณาคดีเมื่อต้นเดือน พี่เขาไม่ได้ไป ศาลเลื่อนไปเป็นเดือนมีนาคม คือไปไม่ไปก็ตัดสินเลย
(เราได้ให้คำแนะนำแบบงู ๆ ปลา ๆ เกี่ยวกับทนายที่ช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีเงินว่าจ้าง อ้อ จำได้แล้ว คดีอนาถา อะไรนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่ามีเกี่ยวกับคดีครอบครัวหรือไม่)
...................
พี่ผู้หญิงเขากลัวว่าจะแพ้คดีและลูกต้องไปอยู่ในความดูแลของฝ่ายชาย เพราะตอนนี้ จากเรื่องที่อดีตสามีเขาก่อไว้ พี่เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้วทั้งทรัพย์สินและญาติพี่น้อง
จะมีก็เหลือเพียงลูกคนเดียว เหมือนโดนกลั่นแกล้งจากอีกฝ่าย คดีก็ดำเนินมาเรื่อย ๆ โดยที่พี่เขาไม่รู้เรื่องเลย
แม่ ๆ มองว่าผลจะออกมาอย่างไรคะ ถ้าหากจะสู้ ต้องทำอย่างไรบ้าง ศาลนัดตัดสินแล้ว ถ้าสมมติเรื่องออกมาร้ายกับพี่เขา จะทำอย่างไรต่อได้บ้าง
อีกอย่างที่อยากขอคำแนะนำ จะจ้างทนายที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก พอจะปรึกษาทางไหนได้บ้างคะ มูลนิธิครอบครัวต่าง ๆ พอจะช่วยเหลือได้บ้างรึเปล่า พี่เขาอยู่ต่างจังหวัด
พี่เขาค่อนข้างคิดมากค่ะ คิดเลวร้ายกว่าที่เราพิมพ์มาก
ขอบคุณทุกคำแนะนำล่วงหน้านะคะ
รบกวนขอคำแนะนำเกี่ยวกับการฟ้องร้องสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรค่ะ
สวัสดีคุณพ่อ คุณแม่ ชานเรือนค่ะ
เป็นเรื่องของลูกค้านะคะไม่ใช่เรื่อง จขกท โดยตรง พอดีพี่เขามีปัญหาแล้วเราได้มีโอกาสรับฟังมา
จะเป็นที่ปรึกษาให้พี่เขา ไอ้เราก็ความรู้ความสามารถไม่มี แต่หัวอกคนเป็นแม่น่ะค่ะ อยากกินเผือกจริง ๆ
จึงอยากขอคำแนะนำจากแม่ ๆ ในนี้ เผื่อว่าท่านใดจะมีอะไรแนะนำ ช่วยให้แม่คนหนึ่งได้อยู่กับลูกตัวเองต่อไป
ปล.เราได้บอกเจ้าของเรื่องก่อนที่จะมาตั้งกระทู้แล้วค่ะ อยากหาทางออกช่วยพี่เขาจริง ๆ
................
ยาว และเล่าไม่เก่ง อาจจะวน ๆ ซ้ำ ๆ //ขอโทษล่วงหน้านะคะ ถ้างงตรงไหนบอกด้วยนะคะ
.................
อดีตสามี ก่อเรื่องให้พี่เขา และญาติพี่เขาเป็นหนี้เป็นสินด้วยการใช้ชื่อญาติ ๆ ฝ่ายหญิงไปทำกิจการต่าง ๆ ก่อนมีเมียใหม่ และได้เลิกรากันไป
ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ ฝ่ายหญิงเลี้ยงดูมาโดยตลอด ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ในสูติบัตรมีชื่อพ่อรับรองบุตร
บ้านฝ่ายชาย มีกิจการเป็นสำนักทนายความ แน่นอนว่าต้องรู้เรื่องกฏหมายอย่างดี ได้มีการส่งเสียลูกบ้าง (จขกท. ไม่รู้ว่าส่งเสียยังไงเพื่อให้ได้มีสิทธิ์ในความเป็นพ่อ) แต่คาดว่าเขาได้เตรียมการไว้แล้วก่อนที่จะฟ้องเรียกร้องสิทธิ์ในตัวลูก เพราะเคยทำเรื่องอื่นด้วยการวางแผนมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฝ่ายชาย ได้ให้ที่อยู่อีกแห่งของอดีตภรรยาในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาล ซึ่งไม่ใช่ที่อยู่ที่อดีตภรรยาอาศัยอยู่จริง และฝ่ายชายทราบดีเพราะได้มีการเจอกันบ้าง ก่อนวันขึ้นศาลก็ยังเจอกัน และมีการบอกฝ่ายหญิงด้วยว่า ต้องไปขึ้นศาลวันนั้น วันนี้ให้ได้นะ
ก่อนวันศาลนัดพิจารณาตัดสินคดี (เมื่อต้นเดือน มกราคม 56) พี่ผู้หญิงก็ทราบแล้วว่าตัวเองโดนอดีตสามีฟ้องเรียกร้องเอาสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก (ทราบได้อย่างไร ดิฉันลืมค่ะ //กราบ)
พี่เขาได้กลับไปที่อยู่ที่ปิดหมาย (คนละที่กับปัจจุบัน) จึงทราบว่ามีการฟ้องร้องมานานแล้ว โดยตลอดเวลาอดีตสามีก็ยังมาเจอลูก แต่ไม่เคยบอกเรื่องนี้
อดีตสามี เป็นคนชอบเอาชนะ เขาอยากได้ลูก เพราะต้องการเอาชนะพี่ผู้หญิง ไม่ได้มีความรักและอยากเลี้ยงลูกจริงเลย พี่ผู้หญิงบอกว่าถ้าอดีตสามีรักลูกจริง เขาก็ยอมให้ลูกอยู่ในการเลี้ยงดูของผู้ชายได้
อดีตสามี มีภรรยาใหม่ อายุ 10 กว่า ๆ เคยทำร้ายร่างกายลูกของพี่เขามาแล้ว มีพยานบุคคล แต่เป็นคนของฝ่ายชาย
พี่ผู้หญิง พอเจอหมายศาลก็รีบไปปรึกษาศาล ศาลแนะนำให้ใช้ทนายความเอกชนเพื่อความรับผิดชอบกับคดีมากกว่าทนายรัฐ ในวันพิจารณาคดีเมื่อต้นเดือน พี่เขาไม่ได้ไป ศาลเลื่อนไปเป็นเดือนมีนาคม คือไปไม่ไปก็ตัดสินเลย
(เราได้ให้คำแนะนำแบบงู ๆ ปลา ๆ เกี่ยวกับทนายที่ช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีเงินว่าจ้าง อ้อ จำได้แล้ว คดีอนาถา อะไรนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่ามีเกี่ยวกับคดีครอบครัวหรือไม่)
...................
พี่ผู้หญิงเขากลัวว่าจะแพ้คดีและลูกต้องไปอยู่ในความดูแลของฝ่ายชาย เพราะตอนนี้ จากเรื่องที่อดีตสามีเขาก่อไว้ พี่เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้วทั้งทรัพย์สินและญาติพี่น้อง
จะมีก็เหลือเพียงลูกคนเดียว เหมือนโดนกลั่นแกล้งจากอีกฝ่าย คดีก็ดำเนินมาเรื่อย ๆ โดยที่พี่เขาไม่รู้เรื่องเลย
แม่ ๆ มองว่าผลจะออกมาอย่างไรคะ ถ้าหากจะสู้ ต้องทำอย่างไรบ้าง ศาลนัดตัดสินแล้ว ถ้าสมมติเรื่องออกมาร้ายกับพี่เขา จะทำอย่างไรต่อได้บ้าง
อีกอย่างที่อยากขอคำแนะนำ จะจ้างทนายที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก พอจะปรึกษาทางไหนได้บ้างคะ มูลนิธิครอบครัวต่าง ๆ พอจะช่วยเหลือได้บ้างรึเปล่า พี่เขาอยู่ต่างจังหวัด
พี่เขาค่อนข้างคิดมากค่ะ คิดเลวร้ายกว่าที่เราพิมพ์มาก
ขอบคุณทุกคำแนะนำล่วงหน้านะคะ