จากกระทู้ของคุณอุราฮาร่าอันนี้ -->
http://pantip.com/topic/30094385
" ผมบอกได้เลยว่าใครมองการเลือกตั้งผู้ว่ากทม เป็นการถ่วงดุลรัฐบาล คุณคิดผิด
เพราะผู้ว่า กทม มันไม่มีอำนาจอะไรไปถ่วงดุลอะไรได้เลยตามรัฐธรรมนูญ
ไอ้ที่เขาเรียกว่าถ่วงดุลหรือคานอำนาจ มันคือ3อำนาจหลักของประเทศ ประกอบด้วย ตุลาการ,ฝ่ายบริหาร,ฝ่ายนิติบัญญัติ
แต่ผู้ว่ากทม เนี่ยไปถ่วงเชรี่ยส์ไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวนะครับ "
" แต่การเลือกตั้งมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ครับ ไม่ใช่เรื่องความรู้สึก
ดังนั้นใช้กล้ามเนื้อมือของคุณบังคับให้มันลงคะแนนให้กับผู้ที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่คุณได้สูงที่สุด คนที่เข้ามาแล้วสามารถทำงานได้ราบลื่นที่สุด จึงเป็นการเลือกเพื่อผลประโยชน์ตัวเองอย่างจริงแท้ครับ "
.....................................
การถ่วงดุลอำนาจในกรณีผู้ว่ากทม.มันเป็นคนละบริบทกันครับ จะยกตัวอย่างๆนี้ไม่ได้
ที่ผ่านมาคนกรุงเทพไม่เลือกคนฝั่งทักษิณมาเป็นผู้ว่า เพราะไม่อยากให้ทักษิณได้อำนาจปกครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
การแสดงออกโดยไม่เลือกดังกล่าว สำหรับประชาชนแล้วถือเป็นการถ่วงดุลอำนาจ เป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.นั่นเอง
หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆว่าเป็น "
การถ่วงดุลอำนาจโดยภาคประชาชน "
เข้าใจไหมครับ?
ส่วนที่คุณบอกว่า "การเลือกตั้งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องของความรู้สึก" ผมว่าคุณคิดผิดถนัด
เพราะความรู้สึกของประชาชนนั้นสำคัญมาก ยกตัวอย่างนะครับ รู้มั้ยว่าคนอเมริกันเค้าสนใจ ใส่ใจ หรือให้ความสำคัญกับอะไร?
คำตอบคือ " ความรู้สึกของประชาชน " หรือที่เค้าเรียกว่า " จิตวิญญาณของประชาชน " ไงครับ
ในประวัติศาสตร์อเมริกา ความรู้สึกของประชาชนเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศ ทั้งเรื่องการเหยียดผิว นโยบายทางการทหาร ฯลฯ
ดังนั้นคุณจะมองข้ามความรู้สึกของประชาชนไปไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าสำคัญกว่าเรื่อง "ผลประโยชน์"
ผมว่าคุณไม่เข้าใจคนกทม.เลยครับคุณอุราฮาร่า
หากคนกทม.อยากได้ หรือมองถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการเลือกตั้งผู้ว่า หรือแม้กระทั่งส.ส. เลือกตั้งครั้งก่อนๆพรรคเพื่อไทยคงชนะในเขตกทม.อย่างถล่มทลายไปแล้ว
แต่ที่เห็นคือเปล่าเลย คนกทม.เลือกที่จะยืนหยัดและแสดงออกซึ่งความรู้สึกของตัวเองว่าเป็นอย่างไร ผมพูดถูกไหมครับ
เรื่องมันซับซ้อนกว่าแค่จะแจกนั่นแจกนี่ แล้วจะได้ใจคนกทม.ไป ผมว่ายากครับ
คุณอุราฮาร่าครับ สำหรับคนกรุงเทพ "ความรู้สึก" สำคัญกว่า "ผลประโยชน์" ครับ
" ผมบอกได้เลยว่าใครมองการเลือกตั้งผู้ว่ากทม เป็นการถ่วงดุลรัฐบาล คุณคิดผิด
เพราะผู้ว่า กทม มันไม่มีอำนาจอะไรไปถ่วงดุลอะไรได้เลยตามรัฐธรรมนูญ
ไอ้ที่เขาเรียกว่าถ่วงดุลหรือคานอำนาจ มันคือ3อำนาจหลักของประเทศ ประกอบด้วย ตุลาการ,ฝ่ายบริหาร,ฝ่ายนิติบัญญัติ
แต่ผู้ว่ากทม เนี่ยไปถ่วงเชรี่ยส์ไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวนะครับ "
" แต่การเลือกตั้งมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ครับ ไม่ใช่เรื่องความรู้สึก
ดังนั้นใช้กล้ามเนื้อมือของคุณบังคับให้มันลงคะแนนให้กับผู้ที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่คุณได้สูงที่สุด คนที่เข้ามาแล้วสามารถทำงานได้ราบลื่นที่สุด จึงเป็นการเลือกเพื่อผลประโยชน์ตัวเองอย่างจริงแท้ครับ "
.....................................
การถ่วงดุลอำนาจในกรณีผู้ว่ากทม.มันเป็นคนละบริบทกันครับ จะยกตัวอย่างๆนี้ไม่ได้
ที่ผ่านมาคนกรุงเทพไม่เลือกคนฝั่งทักษิณมาเป็นผู้ว่า เพราะไม่อยากให้ทักษิณได้อำนาจปกครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
การแสดงออกโดยไม่เลือกดังกล่าว สำหรับประชาชนแล้วถือเป็นการถ่วงดุลอำนาจ เป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.นั่นเอง
หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆว่าเป็น " การถ่วงดุลอำนาจโดยภาคประชาชน "
เข้าใจไหมครับ?
ส่วนที่คุณบอกว่า "การเลือกตั้งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องของความรู้สึก" ผมว่าคุณคิดผิดถนัด
เพราะความรู้สึกของประชาชนนั้นสำคัญมาก ยกตัวอย่างนะครับ รู้มั้ยว่าคนอเมริกันเค้าสนใจ ใส่ใจ หรือให้ความสำคัญกับอะไร?
คำตอบคือ " ความรู้สึกของประชาชน " หรือที่เค้าเรียกว่า " จิตวิญญาณของประชาชน " ไงครับ
ในประวัติศาสตร์อเมริกา ความรู้สึกของประชาชนเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศ ทั้งเรื่องการเหยียดผิว นโยบายทางการทหาร ฯลฯ
ดังนั้นคุณจะมองข้ามความรู้สึกของประชาชนไปไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าสำคัญกว่าเรื่อง "ผลประโยชน์"
ผมว่าคุณไม่เข้าใจคนกทม.เลยครับคุณอุราฮาร่า
หากคนกทม.อยากได้ หรือมองถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการเลือกตั้งผู้ว่า หรือแม้กระทั่งส.ส. เลือกตั้งครั้งก่อนๆพรรคเพื่อไทยคงชนะในเขตกทม.อย่างถล่มทลายไปแล้ว
แต่ที่เห็นคือเปล่าเลย คนกทม.เลือกที่จะยืนหยัดและแสดงออกซึ่งความรู้สึกของตัวเองว่าเป็นอย่างไร ผมพูดถูกไหมครับ
เรื่องมันซับซ้อนกว่าแค่จะแจกนั่นแจกนี่ แล้วจะได้ใจคนกทม.ไป ผมว่ายากครับ