ผู้นำ ธรรมกาย ปัจจุบันยังอยู่ในสมณะสงฆ์ หรือไม่?

"นายถวิล" ผอ.พศ. ยืนยันคดีอธิกรณ์"หลวงพ่อธัมมชโย"ยุติจบทั้งทางโลก ทั้งทางธรรมแล้ว




"นายถวิล"ผอ.พศ.คดีอธิกรณ์"หลวงพ่อธัมมชโย"ยุติจบทั้งทางโลก ทั้งทางธรรมแล้ว

สำนักข่าวพระสงฆ์ไทยรายงานว่าจากกรณีที่ศาลสั่งจำหน่ายคำคดีหลวงพ่อพระธัมมชโย ออกจากสารระบบความของศาลอาญา มีผลให้คดีทุกคดียุติสิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 ที่ศาลอาญา รัชดา กรุงเทพฯ โดยมีเรืออากาศโทวิญญู วิญญกุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาล ซึ่งหลังอัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว มีความเห็นให้ถอนฟ้อง ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 78 และ 128 โดยเมื่อยุติการสั่งคดีก็ต้องถือว่าคดีนี้สิ้นสุดลงตามกระบวนการทางกฎหมายทันที นั้น


ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม สื่อมวลชนไทยทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ที่เคยกลั่นแกล้งหลวงพ่อพระธัมมชโยในสมัยตกเป็นข่าวปี2543 สื่อมวลไทยได้รับเงินต่างชาติ เสนอข่าวโจมตี ทำลายพุทธศาสนาและทำลายหลวงพ่อพระธัมมชโย มาโดยตลอดนั้น ยังไม่พอใจในคำพิพากษาของศาล ได้พากันวิ่งสัมภาษณ์พระมหาเถระผู้ใหญ่ ไม่มีพระมหาเถระรูปใดให้สัมภาษณ์เพราะทราบดีว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการกลั่นแกล้งกัน เพราะเรื่องมันจบสมัยพระพรหมโมลี อดีตเจ้าคณะภาค 1 ยุติเรื่องเพราะคุณสมบัติผู้ร้องกล่าวหา ขาดคุณสมบัติไป ทำให้เรื่องอธิกรณ์ยุติจบลงตามพระธรรมวินัย
นอกจากสื่อมวลชนวิ่งสัมภาษณ์พระมหาเถระผู้ใหญ่แล้ว

ล่าสุดวิ่งไปสัมภาษณ์นายถวิล สมัครรัฐกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งนายถวิล สมัครรัฐกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้กล่าวถึงว่า การตั้งคณะกรรมการสอบวินัยสงฆ์ธัมมชโยนั้น เดิมมีพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เป็นประธานสอบ แต่ปัจจุบันได้มรณภาพไปแล้ว อีกทั้งเมื่ออัยการได้ยื่นถอนฟ้องคดีนี้ คงจะไม่มีตั้งคณะกรรมการสอบวินัยทางสงฆ์อีก เพราะถือว่าเรื่องจบแล้ว จึงขอร้องให้สื่อมวลชนอย่านำเรื่องดังกล่าวเสนอข่าวอีก เพราะเรื่องอธิกรณ์พระธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ยุติลงไปตามศาลพิพากษาสั่งจำหน่ายคดี ทำให้คดีทุกคดีสิ้นสุดลงและเรื่องพระวินัย ก็ต้องยุติไปด้วยตามกฎหมายและตามพระธรรมวินัย นายถวิลกล่าว



ที่มา สำนักข่าวพระสงฆ์ไทย


ปล. ล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนก่อนปลายปี ๒๕๔๙ ทางคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ได้ส่งผู้แทนเดินทางมายังวัดพระธรรมกาย เพื่อถวายตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คืนแด่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ท่ามกลางสักขีพยานทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อบาสิกา ญาติโยม ที่มาอนุโมทนาบุญนับพันท่าน รวมถึงคณะพระเถระเจ้าคณะพระสังฆาธการจากวัดอื่นๆมาร่วมเป็นสักขีพยานอีกจำนวนมาก

ดังนั้นจึงสรุปข้อมุลในแง่กฏหมายไทยได้ว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ยังคงมีความเป็นพระสงฆ์ไทยที่ถูกต้องโดย พระธรรมวินัย กฏหมายไทย กฏมหาเถรสมาคม อีกทั้งยังดำรงสมณศักดิ์ในพระราชาคณะที่ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ และยังคงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายต่อไปอีกด้วย