ในหนังสือแจก “รู้ลึกรู้จริง จำนำข้าว” จัดพิมพ์โดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ได้อวดอ้างและคุยโวถึงการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอบโต้ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบ ความเสียหาย และภาระต้นทุนของการดำเนินนโยบายจำนำข้าวอย่างกว้างขวาง
แต่หลายประเด็นในหนังสือแจกเล่มนี้ กลับบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือปกปิดความจริงอย่างน่ากังขา
ขณะนั้น รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะมีปัญหาในการระบายข้าวซื้อแพง ขายถูก ขาดทุน รวมถึงระบายออกไม่ได้ ข้าวจะค้างสต๊อกเสื่อมค่า ต้องหาโกดังเพิ่ม เกิดภาระต้นทุนและความเสียหายมหาศาลแก่ประเทศชาติ
ตารางข้างต้น ถูกแสดงไว้ในหน้า 16 หนังสือ “รู้ลึกรู้จริง จำนำข้าว” อวดอ้างถึงการระบายข้าวว่าจะทำให้ได้รับเงินจากการขายข้าวกลับมาเป็นทุนหมุนเวียนดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวต่อไปอย่างไร จะลดการกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส. และลดภาระต้นทุนของการดำเนินโครงการอย่างไร
เรียกว่า ใช้อธิบายแก้ตัว แก้ต่าง
อ้างว่า ในปี 2555 จะสามารถขายข้าวส่งออกและขายในประเทศ รวมกันประมาณ 74,000 ล้านบาท
หากรวมที่จะขายข้าวในปี 2556 อีกกว่า 170,000 ล้านบาทก็จะได้เงินมาทั้งหมดประมาณ 240,000 ล้านบาท
พูดง่ายๆ ว่า ฝ่ายรัฐบาลเอาตัวเลขคาดการณ์การระบายข้าวมาข่มฝ่ายที่วิจารณ์ โดยพยายามบอกว่าจะมีรายได้กลับเข้ามาชดเชยส่วนขาดทุน ความเสียหายจึงไม่มากมายมหาศาลนักหรอก
ความมาแดงเมื่อถึงเวลาจริง... สิ้นปี 2555
เข้าสู่ปี 2556 ปรากฏว่า กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวไม่ได้ตามคำคุยโว!
กระทรวงการคลังถึงกับมีคำสั่งให้ ธ.ก.ส.ทำหนังสือทวงหนี้กระทรวงพาณิชย์ที่ค้างเงินจากการระบายข้าวตามมติคณะรัฐมนตรี พฤศจิกายน 2555 ที่กระทรวงพาณิชย์จะต้องจ่ายเงินให้ ธ.ก.ส. จำนวน 85,000 ล้านบาท แต่ถึงเวลาจริงจ่ายได้แค่ 58,000 ล้านบาท
จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีปัญญาขายข้าวเอาเงินใช้หนี้ให้ ธ.ก.ส.ได้ตามที่คุยโวเอาไว้
ตอกย้ำว่า โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นนโยบายล้างผลาญ เอาหน้าประชานิยม หาผลประโยชน์และคะแนนเสียงบนความหายนะของประเทศชาติอย่างแท้จริง
สุ่มเสี่ยงที่จะกระทบต่อฐานะทางการเงินของ ธ.ก.ส. และทำให้กระทรวงการคลังอาจต้องมีภาระค้ำประกันเงินกู้อีกหลายหมื่นล้านบาท เพื่อประคับประคองโครงการให้ไปต่อความต้องการของฝ่ายการเมือง ซึ่งถ้ากระทรวงการคลังค้ำให้เพิ่มเติมอีกก็จะกระทบการค้ำประกันเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจอื่นๆ
ไม่มีท่าทีแสดงความรับผิดชอบใดๆ จากกระทรวงพาณิชย์ เว้นแต่ออกมาคุยโม้ทับถมต่อไปอีกว่า ปี 2556 จะขายข้าวเกินเป้า และจะได้เงินกว่า 260,000 ล้านบาท!
ช่างกล้า...
ขายข้าวไม่ได้ ก็ยังอุตส่าห์ “ขายผ้าเอาหน้ารอด”
ในแวดวงการค้าข้าว เขาคุยกันว่า เวลานี้ ข้าวไทยเสียตลาดส่งออกให้เวียดนามมโหฬาร ข้าวค้างสต๊อกมากมาย โกดังเก็บข้าวของรัฐบาลจะไม่พอรับข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2555/56
“ที่ผ่านมา มีการระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลให้กับบริษัทส่งออกข้าวที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมือง และผู้ส่งออกรายใหญ่บางราย ซึ่งเป็นการขายให้แบบลับๆ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด 20-30% โดยอ้างว่าเป็นข้าวคุณภาพต่ำ เพื่อให้ผู้ส่งออกกลุ่มดังกล่าวนำไปส่งมอบให้ลูกค้าต่างประเทศตามคำสั่งซื้อและบางรายก็นำกลับมาขายให้กลับโรงสี เพื่อใช้เวียนเทียนเข้าโครงการรับจำนำรัฐบาลอีก แต่การขายแบบลับๆ นี้ รัฐบาลได้แจ้งว่าเป็นการขายข้าวผ่านจีทูจีทั้งหมด และอ้างว่าเป็นการขายแบบหน้าคลังสินค้าเหมือนกับที่เคยทำมาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ตรวจสอบได้ยาก”
จริงเท็จประการใด ทำไมรัฐบาลไม่ยอมแถลงไขให้กระจ่าง?
ตั้งแต่ถูกแฉกลางสภา เรื่องขายข้าวจีทูจี (G to G) - จีทูเจี๊ยะ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โชว์เอกสารการเงินและตัวละคร บริษัทนอมินี เกี่ยวโยงสยามอินดิก้า มีชื่อ “เสี่ยเปี๋ยง”“ไอ้คิด” “ไอ้ปาล์ม” “ไอ้โจ” ฯลฯ เงียบกันหมด
แต่พอถึงเวลาจะใช้เงินรับจำนำข้าวอีกรอบ ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทู่ซี้ขอใช้เงินแผ่นดินต่อไป
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยอดขายพลาดเป้า แต่ยอดใช้เงินทะลุเป้า... ถ้าเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน รับรองว่าถูกไล่ออกแน่นอน
แต่ยุคนี้ คนในรัฐบาลเล่นบท “ปูกรรเชียง” ลูกเดียว!
ที่มา:
http://www.naewna.com/politic/columnist/5073
ปล.บริหารแบบนี้......มิน่าหล่ะถึงได้มีคนบอกว่าเอาเสาไฟมาบริหารดีกว่า...เอิ๊ก ๆ ๆ
ยอดขายพลาดเป้า ยอดใช้เงินทะลุเป้า ขายผ้าเอาหน้ารอด
แต่หลายประเด็นในหนังสือแจกเล่มนี้ กลับบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือปกปิดความจริงอย่างน่ากังขา
ขณะนั้น รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะมีปัญหาในการระบายข้าวซื้อแพง ขายถูก ขาดทุน รวมถึงระบายออกไม่ได้ ข้าวจะค้างสต๊อกเสื่อมค่า ต้องหาโกดังเพิ่ม เกิดภาระต้นทุนและความเสียหายมหาศาลแก่ประเทศชาติ
ตารางข้างต้น ถูกแสดงไว้ในหน้า 16 หนังสือ “รู้ลึกรู้จริง จำนำข้าว” อวดอ้างถึงการระบายข้าวว่าจะทำให้ได้รับเงินจากการขายข้าวกลับมาเป็นทุนหมุนเวียนดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวต่อไปอย่างไร จะลดการกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส. และลดภาระต้นทุนของการดำเนินโครงการอย่างไร
เรียกว่า ใช้อธิบายแก้ตัว แก้ต่าง
อ้างว่า ในปี 2555 จะสามารถขายข้าวส่งออกและขายในประเทศ รวมกันประมาณ 74,000 ล้านบาท
หากรวมที่จะขายข้าวในปี 2556 อีกกว่า 170,000 ล้านบาทก็จะได้เงินมาทั้งหมดประมาณ 240,000 ล้านบาท
พูดง่ายๆ ว่า ฝ่ายรัฐบาลเอาตัวเลขคาดการณ์การระบายข้าวมาข่มฝ่ายที่วิจารณ์ โดยพยายามบอกว่าจะมีรายได้กลับเข้ามาชดเชยส่วนขาดทุน ความเสียหายจึงไม่มากมายมหาศาลนักหรอก
ความมาแดงเมื่อถึงเวลาจริง... สิ้นปี 2555
เข้าสู่ปี 2556 ปรากฏว่า กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวไม่ได้ตามคำคุยโว!
กระทรวงการคลังถึงกับมีคำสั่งให้ ธ.ก.ส.ทำหนังสือทวงหนี้กระทรวงพาณิชย์ที่ค้างเงินจากการระบายข้าวตามมติคณะรัฐมนตรี พฤศจิกายน 2555 ที่กระทรวงพาณิชย์จะต้องจ่ายเงินให้ ธ.ก.ส. จำนวน 85,000 ล้านบาท แต่ถึงเวลาจริงจ่ายได้แค่ 58,000 ล้านบาท
จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีปัญญาขายข้าวเอาเงินใช้หนี้ให้ ธ.ก.ส.ได้ตามที่คุยโวเอาไว้
ตอกย้ำว่า โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นนโยบายล้างผลาญ เอาหน้าประชานิยม หาผลประโยชน์และคะแนนเสียงบนความหายนะของประเทศชาติอย่างแท้จริง
สุ่มเสี่ยงที่จะกระทบต่อฐานะทางการเงินของ ธ.ก.ส. และทำให้กระทรวงการคลังอาจต้องมีภาระค้ำประกันเงินกู้อีกหลายหมื่นล้านบาท เพื่อประคับประคองโครงการให้ไปต่อความต้องการของฝ่ายการเมือง ซึ่งถ้ากระทรวงการคลังค้ำให้เพิ่มเติมอีกก็จะกระทบการค้ำประกันเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจอื่นๆ
ไม่มีท่าทีแสดงความรับผิดชอบใดๆ จากกระทรวงพาณิชย์ เว้นแต่ออกมาคุยโม้ทับถมต่อไปอีกว่า ปี 2556 จะขายข้าวเกินเป้า และจะได้เงินกว่า 260,000 ล้านบาท!
ช่างกล้า...
ขายข้าวไม่ได้ ก็ยังอุตส่าห์ “ขายผ้าเอาหน้ารอด”
ในแวดวงการค้าข้าว เขาคุยกันว่า เวลานี้ ข้าวไทยเสียตลาดส่งออกให้เวียดนามมโหฬาร ข้าวค้างสต๊อกมากมาย โกดังเก็บข้าวของรัฐบาลจะไม่พอรับข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2555/56
“ที่ผ่านมา มีการระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลให้กับบริษัทส่งออกข้าวที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมือง และผู้ส่งออกรายใหญ่บางราย ซึ่งเป็นการขายให้แบบลับๆ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด 20-30% โดยอ้างว่าเป็นข้าวคุณภาพต่ำ เพื่อให้ผู้ส่งออกกลุ่มดังกล่าวนำไปส่งมอบให้ลูกค้าต่างประเทศตามคำสั่งซื้อและบางรายก็นำกลับมาขายให้กลับโรงสี เพื่อใช้เวียนเทียนเข้าโครงการรับจำนำรัฐบาลอีก แต่การขายแบบลับๆ นี้ รัฐบาลได้แจ้งว่าเป็นการขายข้าวผ่านจีทูจีทั้งหมด และอ้างว่าเป็นการขายแบบหน้าคลังสินค้าเหมือนกับที่เคยทำมาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ตรวจสอบได้ยาก”
จริงเท็จประการใด ทำไมรัฐบาลไม่ยอมแถลงไขให้กระจ่าง?
ตั้งแต่ถูกแฉกลางสภา เรื่องขายข้าวจีทูจี (G to G) - จีทูเจี๊ยะ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โชว์เอกสารการเงินและตัวละคร บริษัทนอมินี เกี่ยวโยงสยามอินดิก้า มีชื่อ “เสี่ยเปี๋ยง”“ไอ้คิด” “ไอ้ปาล์ม” “ไอ้โจ” ฯลฯ เงียบกันหมด
แต่พอถึงเวลาจะใช้เงินรับจำนำข้าวอีกรอบ ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทู่ซี้ขอใช้เงินแผ่นดินต่อไป
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยอดขายพลาดเป้า แต่ยอดใช้เงินทะลุเป้า... ถ้าเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน รับรองว่าถูกไล่ออกแน่นอน
แต่ยุคนี้ คนในรัฐบาลเล่นบท “ปูกรรเชียง” ลูกเดียว!
ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/5073
ปล.บริหารแบบนี้......มิน่าหล่ะถึงได้มีคนบอกว่าเอาเสาไฟมาบริหารดีกว่า...เอิ๊ก ๆ ๆ