ออสการ์ปีนี้อาจจะให้สปิลเบิร์กได้ผู้กำกับยอดเยี่ยม แล้วให้หนังเรื่องนี้ได้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็เป็นได้
ส่วนตัวหนังผมมองว่าผู้กำกับฉลาดมากที่ไม่เผยภาพเหตุึการณ์ 9/11 (มีแต่เสียง) รวมถึงหน้าตาของผู้แสดงเป็นบิลลาเดนตรงๆ (คงเพราะสวัสดิภาพของนักแสดงด้วย) แต่เน้นไปที่ปฏิบัติการไล่ล่าอดีตศัตรูหมายเลขหนึ่งของมหาอำนาจตำรวจโลก แม้ผู้กำกับจะเป็นอเมริกันก็จริงแต่หนังก็ไม่ได้โปรชาติตัวเองเป็นฮีโร่แต่อย่างใด ออกจะมองปฏิบัติการด้วยสายตาเรียบเฉยแกมเสียดสีด้วยซ้ำ ส่วนเจสซิกา แซสเทน ก็สวมบทบาทดอกไม้เหล็กท่ามกลางเหล่าชายชาตรีได้อย่างสมศักดิ์ศรี กล้าถกกล้าถามกล้าเถียงจนอีกฝ่ายหงอไปเลยก็มี ส่วนช่วงปฏิบัติการสุดท้ายนั้น หนังเก็บรายละเอียดได้สมจริง ไม่มีเสียงดนตรีประโคมโหมใดๆ มีแต่เสียงลมหายใจของหน่วยซีลที่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป้าหมายอยู่ในตึกสูงตรงหน้ารึเปล่า หรือต้องเจออะไรบ้าง น้ำตาหยดสุดท้ายของมายาในหนังอาจไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว เช่นเดียวกับความตายของบินลาเดน ก็ไม่ได้หมายความว่าการก่อการร้ายจะหมดไปเช่นกัน
เพิ่งได้ดู Zero Dark Thirty เมื่อวาน สังหรณ์ใจว่า... (สปอย)
ส่วนตัวหนังผมมองว่าผู้กำกับฉลาดมากที่ไม่เผยภาพเหตุึการณ์ 9/11 (มีแต่เสียง) รวมถึงหน้าตาของผู้แสดงเป็นบิลลาเดนตรงๆ (คงเพราะสวัสดิภาพของนักแสดงด้วย) แต่เน้นไปที่ปฏิบัติการไล่ล่าอดีตศัตรูหมายเลขหนึ่งของมหาอำนาจตำรวจโลก แม้ผู้กำกับจะเป็นอเมริกันก็จริงแต่หนังก็ไม่ได้โปรชาติตัวเองเป็นฮีโร่แต่อย่างใด ออกจะมองปฏิบัติการด้วยสายตาเรียบเฉยแกมเสียดสีด้วยซ้ำ ส่วนเจสซิกา แซสเทน ก็สวมบทบาทดอกไม้เหล็กท่ามกลางเหล่าชายชาตรีได้อย่างสมศักดิ์ศรี กล้าถกกล้าถามกล้าเถียงจนอีกฝ่ายหงอไปเลยก็มี ส่วนช่วงปฏิบัติการสุดท้ายนั้น หนังเก็บรายละเอียดได้สมจริง ไม่มีเสียงดนตรีประโคมโหมใดๆ มีแต่เสียงลมหายใจของหน่วยซีลที่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป้าหมายอยู่ในตึกสูงตรงหน้ารึเปล่า หรือต้องเจออะไรบ้าง น้ำตาหยดสุดท้ายของมายาในหนังอาจไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว เช่นเดียวกับความตายของบินลาเดน ก็ไม่ได้หมายความว่าการก่อการร้ายจะหมดไปเช่นกัน