สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
จากสิ่งที่คุณเล่าเกี่ยวกับลูกสาวคุณ คือปิติในสามาธิ ถ้าคนที่สวดมนต์ด้วยใจตั้งมั่นในตอนแรกๆก็เจอได้แบบนี้เหมือนกัน ให้น้องเขาสวดต่อไปมั่นจะเกิดผลอย่างมหาศาลเมื่อเริ่มฝึกวิปัสนากรรมฐาน เวลาฝึกจิตจะตั้งมั่นเร็วมาก
จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองสวดมนต์ตั้งแต่อายุน้อยๆแบบน้องเขาเหมือนกัน เริ่มสวดสั้นแล้วค่อยๆเพิ่มบทยาวขึ้นมาเรื่อยๆจนทุกวันนี้ไม่ต้องดูหนังสือเลย ทำให้ความจำดีขึ้นและแม่นยำ จิตใจไม่ไหลไปตามสิ่งต่างๆได้โดยง่าย เช่น ไปตามเพื่อนหรือใครๆก็ตาม ไม่เคยดื่มแอลกอฮอ ไม่เคยเที่ยวสถานบันเทิงต่างๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเพื่อน มีเพื่อยเยอะ เข้าคนง่ายและทุกประเภทแต่จะไม่ค่อยเจอกลุ่มคนที่ชอบเที่ยว ส่วนมากจะเป็นกลุ่มที่ชอบปฎิบัติธรรมมากกว่า ถามว่าโดนบังคับไหมไม่เคยเลยพ่อแม่ไม่รู้ด้วยช้ำาว่าชอบสวดมนต์มารู้เมื่อไม่กี่ปีนี้เองเพราะแม่ชอบไปถามคนทรงเจ้าแล้วเขาทักมาว่าลูกสาวชอบสวดมนต์ไหว้พระไม่ต้องห่วงเขาหรอก แล้วแม่ก็มาถามว่าสวดมนต์หรือไม่ ผู้เขียนก็ตอบว่าสวด สวดมานานแล้วประมาณ 20 กว่าปี
ด้วยผลจากที่เราอาจจะสะสมผลบุญจากการสวดมนต์มาเรื่อยๆ วันหนึ่งป้าของผู้เขียนท่านเป็นคนที่ชอบ รักษาศีล ทำบุญ ทำทาน สร้างพระธาตุ และปฎิบัติธรรม ท่านบังคับเราให้ไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 10 วันไม่อย่างนั้นท่านจะไม่มารับกลับบ้าน ผู้เขียนไปเพราะป้าแต่ก็อยากลองดู พอเริ่มปฎิบัติเท่านั้นละสมาธิตั้งมั่นเลยสามารถนั่งได้ 1 ชั่วโมงในวันแรกของครั้งแรกในการนั่งสามาธิแล้วรู้สึกว่ามันมีสิ่งต่างๆมากมายที่ผู้เขียนไม่เคยรู้เคยเห็นมาก่อน มันมีอยู่จริง สรุปแล้วการปฎิบัติธรรมครั้งแรกอยู่วัดประมาณเกือบ 2 เดือนผู้เขียนขออยูต่อเอง และไม่เคยหยุดเลยมาจนถึงทุกวันนี้
ผู้เขียนไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู่มีความเชื่อเกี่ยวกับจิตที่ฝึกปฎิบัติแล้วขนาดไหน ด้วยความเชื่อส่วนตัวของผู้เขียนเองแล้วผลจากการสวดมนต์เล็กๆจนมาถึงการปฏิบัติมีผลอย่างมากกับผู้เขียนเพราะเราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองและก็ของผู้อื่นถ้าถามว่าผู้เขียนมีอายุมากไหมคงไม่มากเพราะยังไม่ถึงสามสิบเลยและยังฝึกได้ไม่นานแต่ผลมันเกิดเร็วจนทางครอบครัวขอให้หยุดการปฎิบัติไว้ก่อนเพราะอยากให้ทำหน้าที่ทางโลกให้ถึงพร้อมเสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน
จากที่เล่ามาผู้เขียนหวังว่าจะเป็นแนวทางขบคิดเกี่ยวกับว่าควรจะให้ลูกของคุณสวดมนต์ต่อหรือปล่อยให้เขาเล่นไปตามประสาเด็กๆทั่วไป ด้วยที่คุณอยู่ต่างประเทศสภาพแวดล้อมมันจะสามารถชักจูงเด็กที่มีจิตใจที่ไม่เข้มแข็งพอไปตามสิ่งที่เป็นอบายมุขได้ง่าย เพราะผู้เขียนเองเคยไปเรียนต่างประเทศมาพักหนึ่งรู้เลยว่าธรรมะช่วยป็นเกาะป้องกันอย่างดีเลย
มีเด็กคนหนึ่งที่ผู้เขียนรู้จักและแนะนำให้แม่เขานำสวดมนต์เพราะเขาก็มีความสนใจเหมือนกับลูกคุณ ตอนนี้น้องเขาอายุ 5 ขวบ สามารถสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อิติปิโสบทยาวได้ทุกวันและหลังจากนั้นก็นั่งสมาธิอีก 30 นาที เรียนหนังสือเก่งมาก พูดเหมือนผู้ใหญ่เลย และตอนนี้มีพระรูปหนึ่งท่านแนะนำให้เดินจงกรมเพิ่ม
ท้ายนี้ขออนุโมทนากับลูกคุณด้วยค่ะ
จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองสวดมนต์ตั้งแต่อายุน้อยๆแบบน้องเขาเหมือนกัน เริ่มสวดสั้นแล้วค่อยๆเพิ่มบทยาวขึ้นมาเรื่อยๆจนทุกวันนี้ไม่ต้องดูหนังสือเลย ทำให้ความจำดีขึ้นและแม่นยำ จิตใจไม่ไหลไปตามสิ่งต่างๆได้โดยง่าย เช่น ไปตามเพื่อนหรือใครๆก็ตาม ไม่เคยดื่มแอลกอฮอ ไม่เคยเที่ยวสถานบันเทิงต่างๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเพื่อน มีเพื่อยเยอะ เข้าคนง่ายและทุกประเภทแต่จะไม่ค่อยเจอกลุ่มคนที่ชอบเที่ยว ส่วนมากจะเป็นกลุ่มที่ชอบปฎิบัติธรรมมากกว่า ถามว่าโดนบังคับไหมไม่เคยเลยพ่อแม่ไม่รู้ด้วยช้ำาว่าชอบสวดมนต์มารู้เมื่อไม่กี่ปีนี้เองเพราะแม่ชอบไปถามคนทรงเจ้าแล้วเขาทักมาว่าลูกสาวชอบสวดมนต์ไหว้พระไม่ต้องห่วงเขาหรอก แล้วแม่ก็มาถามว่าสวดมนต์หรือไม่ ผู้เขียนก็ตอบว่าสวด สวดมานานแล้วประมาณ 20 กว่าปี
ด้วยผลจากที่เราอาจจะสะสมผลบุญจากการสวดมนต์มาเรื่อยๆ วันหนึ่งป้าของผู้เขียนท่านเป็นคนที่ชอบ รักษาศีล ทำบุญ ทำทาน สร้างพระธาตุ และปฎิบัติธรรม ท่านบังคับเราให้ไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 10 วันไม่อย่างนั้นท่านจะไม่มารับกลับบ้าน ผู้เขียนไปเพราะป้าแต่ก็อยากลองดู พอเริ่มปฎิบัติเท่านั้นละสมาธิตั้งมั่นเลยสามารถนั่งได้ 1 ชั่วโมงในวันแรกของครั้งแรกในการนั่งสามาธิแล้วรู้สึกว่ามันมีสิ่งต่างๆมากมายที่ผู้เขียนไม่เคยรู้เคยเห็นมาก่อน มันมีอยู่จริง สรุปแล้วการปฎิบัติธรรมครั้งแรกอยู่วัดประมาณเกือบ 2 เดือนผู้เขียนขออยูต่อเอง และไม่เคยหยุดเลยมาจนถึงทุกวันนี้
ผู้เขียนไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู่มีความเชื่อเกี่ยวกับจิตที่ฝึกปฎิบัติแล้วขนาดไหน ด้วยความเชื่อส่วนตัวของผู้เขียนเองแล้วผลจากการสวดมนต์เล็กๆจนมาถึงการปฏิบัติมีผลอย่างมากกับผู้เขียนเพราะเราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองและก็ของผู้อื่นถ้าถามว่าผู้เขียนมีอายุมากไหมคงไม่มากเพราะยังไม่ถึงสามสิบเลยและยังฝึกได้ไม่นานแต่ผลมันเกิดเร็วจนทางครอบครัวขอให้หยุดการปฎิบัติไว้ก่อนเพราะอยากให้ทำหน้าที่ทางโลกให้ถึงพร้อมเสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน
จากที่เล่ามาผู้เขียนหวังว่าจะเป็นแนวทางขบคิดเกี่ยวกับว่าควรจะให้ลูกของคุณสวดมนต์ต่อหรือปล่อยให้เขาเล่นไปตามประสาเด็กๆทั่วไป ด้วยที่คุณอยู่ต่างประเทศสภาพแวดล้อมมันจะสามารถชักจูงเด็กที่มีจิตใจที่ไม่เข้มแข็งพอไปตามสิ่งที่เป็นอบายมุขได้ง่าย เพราะผู้เขียนเองเคยไปเรียนต่างประเทศมาพักหนึ่งรู้เลยว่าธรรมะช่วยป็นเกาะป้องกันอย่างดีเลย
มีเด็กคนหนึ่งที่ผู้เขียนรู้จักและแนะนำให้แม่เขานำสวดมนต์เพราะเขาก็มีความสนใจเหมือนกับลูกคุณ ตอนนี้น้องเขาอายุ 5 ขวบ สามารถสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อิติปิโสบทยาวได้ทุกวันและหลังจากนั้นก็นั่งสมาธิอีก 30 นาที เรียนหนังสือเก่งมาก พูดเหมือนผู้ใหญ่เลย และตอนนี้มีพระรูปหนึ่งท่านแนะนำให้เดินจงกรมเพิ่ม
ท้ายนี้ขออนุโมทนากับลูกคุณด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
นั่งสวดมนต์แล้วจะร้องไห้ เกิดจากสาเหตุอะไรและควรปฎิบัตอย่างไรคะ
ขอเพิ่มข้อมูลนิดหนึ่งนะคะว่า เราอยู่ ตปท และลูกสาวเป็นลูกครึ่ง เราสอนลูกสวดมนต์ด้วยตัวเองตั้งแต่ลูกอายุ 3 ขวบกว่าๆ เริ่มจากบท อะระหังฯ และ นะโม สามจบก่อน
และสังเกตว่าลูกสาวเองก็สนใจที่จะสวดมนต์ (เราไม่เคยบังคับ แต่จะถามว่า อยากสวดมนต์กับคุณแม่ไหม)
ตอนกลับเมืองไทย พอไปวัดทำบุญก็เห็นว่าลูกชอบและสนใจกับการทำบุญไหว้พระ และลูกสาวเห็นหนังสือทศชาติ ที่ขายอยู่ที่ 7-11 ก็อยากได้ เราก็คิดว่า ลูกคงอยากได้เพราะมีรูปสวยๆ
แต่พอกลับมาลูกก็ยังคงสนใจและให้เราอ่านให้ฟังบ่อยๆ ลูกสาวบอกว่าชอบเรื่อง สุวรรณสาม มาก (ทุกวันนี้เราก็ยังอ่านให้ลูกฟัง)
ตอนลูกอายุ 5 ขวบก็เริ่มชวนลูกสวดบทที่ยาวขึ้น (คือบท อิติปิโส ต่อด้วยพุทธคุณ) แต่ไม่ได้สวดทุกวันนะคะ จนลูกสามารถสวดเองได้บางบท
เราเคยบอกลูกสาวเสมอว่า " ทุกครั้งที่คุณแม่ได้ยินเสียงสวดมนต์ของหนู คุณแม่มีความสุขมาก และที่คุณแม่สวดมนต์เพราะอยากให้คุณตาคุณยายมีความสุขเหมือนกัน "
และทุกครั้งก่อนจะสวดมนต์เราจะบอกให้ลูกตั้งจิต นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (เราอธิบายความหมายให้ลูกด้วย) และให้รวมความคิดกับความตั้งใจเป็นเรื่องเดียวกัน
เมื่อคืนก่อนจะสวดมนต์ก็บอกลูกตามแบบข้างบน พอสวดก็เห็นลูกตาแดงๆ และพยายามกลั้นน้ำตา หลังจากสวดมนต์เสร็จ เราก็ถามลูกว่า "หนูเป็นอะไรไปจ๊ะ" (ตอนแรกคิดว่า ลูกไม่อยากสวดมนต์)
ลูกสาวก็บอกว่า " เค้เร่อยากสวดมนต์ค่ะ แต่เค้เร่สวดไม่ได้ ไม่รู้เป็นอะไร น้ำตาคอยจะไหลออกมาตอนที่เค้เร่จะสวด และเค้เร่ไม่อยากร้องไห้ "
แล้วลูกก็ทำท่าเอามือลูบจากช่วงอกขึ้นมาถึงคางและบอกว่า " มันออกมาจากข้างในแล้วขึ้นมาข้างบน "
เราถามลูกว่า " หนูตั้งใจที่จะสวดมนต์มากเลยใช่ไหมคะ " ลูกพยักหน้า " มันอาจเกิดจากความตั้งใจมากของลูก ก็เลยทำให้ลูกเกิดปิติ คือความปลื้มใจ ก็เลยน้ำตาไหล "
และปลอบลูกว่า " มันเป็นการแสดงออกในทางที่ดี แต่ถ้าเกิดขึ้นอีกต่อไปให้หนูสูดลมหายใจยาวๆ มันจะหายไปเอง แล้วเราก็จะสวดต่อไปได้ "
เราอยากจะถามท่านผู้รู้ว่า การที่เรานั่งสวดมนต์แล้วจะร้องไห้ เกิดจากสาเหตุอะไรและควรปฎิบัตอย่างไรคะ
และเราเข้าใจถูกไหมคะ ว่าเป็นอาการปิติ และเราอธิบายให้ลูกฟังพอจะถูกต้องไหมคะ ถ้าไม่ถูก รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบไว้ล่วงหน้านะคะ