สวัสดีค่ะ อยากเล่าเรื่องนี้มานานแล้ว คิดว่า ถ้าได้เล่าคงจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ดีกว่าเก็บไว้คนเดียว
เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ดิฉันพาคุณพ่อไปโรงพยาบาลมา ท่านมีอาการอ้วกออกมาเป็นเลือด เยอะมาก เป็นถังๆเลย เกือบช็อคเลยแหละ แต่โชคยังดีที่รถพยาบาลมารับเร็ว ไปห้อง ICU ทัน (บ้านอยู่ต่างจังหวัดน่ะค่ะ เลยเร็ว อยู่ในเมือง)
พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ให้กรอกน้ำลงไป แล้วให้พ่ออ้วกออกมาให้หมด แล้วนอนพักอยู่ 2 วัน ไม่ให้กินข้าวเลย ให้แต่น้ำเกลือ แล้วก็มีการต่อสายยางดูดเลือดในกระเพราะอยู่ตลอดเวลา จนกระเพราะว่าง ถึงได้ไปส่องกล้อง
ผลจากการส่องกล้อง ก็คือ พ่อของดิฉัน มีแผลในกระเพราะอาหาร "หลายจุด" ที่เป็นเช่นนั้น เพราะกินยาจำพวก ยาแก้ปวด(ปวดข้อ ปวดเข่า) ยาพารา แก้ไข้ พวกนี้ มันไปกัดกระเพราะค่ะ
----
เชื่อว่า หลายๆคนคงเคยได้ยินหรือได้อ่านบทความว่า การทานยาจำพวก ยาพารา ยาแก้ปวดบ่อยๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก อาจทำให้ตับอักเสบเฉียบพลัน
ดิฉันก็เคยอ่านบทความพวกนี้เหมือนกัน ว่าการกินยาพารา ยาแก้ปวดมากๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก
แต่ในความเป็นจริง ตอนที่พ่อดิฉันนอนอยู่โรงพยาบาล ดิฉันได้ลองสอบถามคุณลุงเตียงข้างๆ และเตียงที่อยู่ตรงข้าม ไม่น่าเชื่อว่า ทั้งสองท่าน เป็นโรคเดียวกันคือ "กระเพราะรั่ว!!"
ของพ่อดิฉัน กระเพราะยังไม่รั่วนะคะ แค่มีแผลในกระเพราะอาหารหลายจุด พอกินพวกเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากลงไป ทำให้กระเพราะทำงานหนักมาก มันเลยเป็นแผล เพราะมันโดนกัดจากพวกยาพารา ยาแก้ปวดต่างๆ มาตั้งนานแล้ว
แต่คุณลุงเตียงข้างๆ และเตียงตรงข้าม ท่าน กระเพราะรั่ว ทั้งสองท่านเลย!
ดิฉันถามสาเหตุกับญาติๆของลุงๆเหล่านั้น ว่ากระเพราะรั่วได้อย่างไร ไปทำอะไรมา ???
คำตอบที่ได้รับกลับมา ไม่น่าเชื่อว่า เป็นคำตอบเดียวกันเลย นั่นคือ "กินยาแก้ปวดเยอะ!"
แสดงว่า พวกยาแก้ปวด ยาพารา เหล่านี้ มันไปทำให้ตับทำงานหนักก็จริง ตามที่เราได้อ่านบทความต่างๆในโลกอินเตอร์เน็ต แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก่อนที่มันจะไปทำร้ายตับจนพัง มันไปทำร้ายกระเพราะจนเป็นแผล จนรั่วเสียก่อน ก่อนจะไปทำร้ายตับ
อยากฝากเตือนเพื่อนๆ ที่มีญาติๆเป็นผู้สูงอายุอยู่ภายในบ้าน ผู้สูงอายุจะชอบมีอาการปวดเมื่อย ปวดเข่า ปวดขา ปวดหัว แล้วท่านจะชอบไปซื้อพวกยาแก้ปวดมากิน
บางคนกินทุกวัน วันละ 1-2 เม็ด แต่กินทุกวัน อยากจะเตือนว่า.. ทุกๆครั้งที่คุณกินเข้าไป 1 เม็ดเนี่ย ผนังกระเพราะของคุณ ก็กำลังโดนทำร้ายอยู่ตลอดเวลา
คุณลุงที่กระเพราะรั่ว ท่านกินยาพวกนี้ติดต่อกัน 2 ปี กินทุกวัน จนกระเพราะรั่ว (ญาติของลุงบอกว่า ท่านปวดข้อ ปวดเข่า แต่ไม่มีเงินไปโรงพยาบาล เลยไปซื้อยาแก้ปวดตามร้านขายปลีกมากินแทน ก็พวกยาพาราแก้ปวดที่มีขายทั่วๆไปนั่นแหละ)
ตอนนี้ พ่อดิฉันกินได้แต่ข้าวต้มกับเนื้อปลา กินพวกเนื้อสัตว์ไม่ได้เลย >< เพราะกลัวกระเพาะจะทำงานหนักแล้วจะกลับมาเป็นแผลอีก
เอามาเล่าให้ฟังแค่นี้แหละค่ะ ^^ คิดว่าเผื่อจะมีประโยชน์บ้าง
ยาพารา ยาแก้ปวด เป็นยาอันตราย หากกินติดต่อกันเป็นเวลานาน
เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ดิฉันพาคุณพ่อไปโรงพยาบาลมา ท่านมีอาการอ้วกออกมาเป็นเลือด เยอะมาก เป็นถังๆเลย เกือบช็อคเลยแหละ แต่โชคยังดีที่รถพยาบาลมารับเร็ว ไปห้อง ICU ทัน (บ้านอยู่ต่างจังหวัดน่ะค่ะ เลยเร็ว อยู่ในเมือง)
พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ให้กรอกน้ำลงไป แล้วให้พ่ออ้วกออกมาให้หมด แล้วนอนพักอยู่ 2 วัน ไม่ให้กินข้าวเลย ให้แต่น้ำเกลือ แล้วก็มีการต่อสายยางดูดเลือดในกระเพราะอยู่ตลอดเวลา จนกระเพราะว่าง ถึงได้ไปส่องกล้อง
ผลจากการส่องกล้อง ก็คือ พ่อของดิฉัน มีแผลในกระเพราะอาหาร "หลายจุด" ที่เป็นเช่นนั้น เพราะกินยาจำพวก ยาแก้ปวด(ปวดข้อ ปวดเข่า) ยาพารา แก้ไข้ พวกนี้ มันไปกัดกระเพราะค่ะ
----
เชื่อว่า หลายๆคนคงเคยได้ยินหรือได้อ่านบทความว่า การทานยาจำพวก ยาพารา ยาแก้ปวดบ่อยๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก อาจทำให้ตับอักเสบเฉียบพลัน
ดิฉันก็เคยอ่านบทความพวกนี้เหมือนกัน ว่าการกินยาพารา ยาแก้ปวดมากๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก
แต่ในความเป็นจริง ตอนที่พ่อดิฉันนอนอยู่โรงพยาบาล ดิฉันได้ลองสอบถามคุณลุงเตียงข้างๆ และเตียงที่อยู่ตรงข้าม ไม่น่าเชื่อว่า ทั้งสองท่าน เป็นโรคเดียวกันคือ "กระเพราะรั่ว!!"
ของพ่อดิฉัน กระเพราะยังไม่รั่วนะคะ แค่มีแผลในกระเพราะอาหารหลายจุด พอกินพวกเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากลงไป ทำให้กระเพราะทำงานหนักมาก มันเลยเป็นแผล เพราะมันโดนกัดจากพวกยาพารา ยาแก้ปวดต่างๆ มาตั้งนานแล้ว
แต่คุณลุงเตียงข้างๆ และเตียงตรงข้าม ท่าน กระเพราะรั่ว ทั้งสองท่านเลย!
ดิฉันถามสาเหตุกับญาติๆของลุงๆเหล่านั้น ว่ากระเพราะรั่วได้อย่างไร ไปทำอะไรมา ???
คำตอบที่ได้รับกลับมา ไม่น่าเชื่อว่า เป็นคำตอบเดียวกันเลย นั่นคือ "กินยาแก้ปวดเยอะ!"
แสดงว่า พวกยาแก้ปวด ยาพารา เหล่านี้ มันไปทำให้ตับทำงานหนักก็จริง ตามที่เราได้อ่านบทความต่างๆในโลกอินเตอร์เน็ต แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก่อนที่มันจะไปทำร้ายตับจนพัง มันไปทำร้ายกระเพราะจนเป็นแผล จนรั่วเสียก่อน ก่อนจะไปทำร้ายตับ
อยากฝากเตือนเพื่อนๆ ที่มีญาติๆเป็นผู้สูงอายุอยู่ภายในบ้าน ผู้สูงอายุจะชอบมีอาการปวดเมื่อย ปวดเข่า ปวดขา ปวดหัว แล้วท่านจะชอบไปซื้อพวกยาแก้ปวดมากิน
บางคนกินทุกวัน วันละ 1-2 เม็ด แต่กินทุกวัน อยากจะเตือนว่า.. ทุกๆครั้งที่คุณกินเข้าไป 1 เม็ดเนี่ย ผนังกระเพราะของคุณ ก็กำลังโดนทำร้ายอยู่ตลอดเวลา
คุณลุงที่กระเพราะรั่ว ท่านกินยาพวกนี้ติดต่อกัน 2 ปี กินทุกวัน จนกระเพราะรั่ว (ญาติของลุงบอกว่า ท่านปวดข้อ ปวดเข่า แต่ไม่มีเงินไปโรงพยาบาล เลยไปซื้อยาแก้ปวดตามร้านขายปลีกมากินแทน ก็พวกยาพาราแก้ปวดที่มีขายทั่วๆไปนั่นแหละ)
ตอนนี้ พ่อดิฉันกินได้แต่ข้าวต้มกับเนื้อปลา กินพวกเนื้อสัตว์ไม่ได้เลย >< เพราะกลัวกระเพาะจะทำงานหนักแล้วจะกลับมาเป็นแผลอีก
เอามาเล่าให้ฟังแค่นี้แหละค่ะ ^^ คิดว่าเผื่อจะมีประโยชน์บ้าง