ใช้รถยนต์ประมาณกี่ปีหรือกี่กิโลถึงจะควรเช็คไดสตาร์ทและไดชาร์ทครับ

จากประสบการณ์รถคันเก่า

ใช้ตั้งแต่ป้ายแดง จนหลัง ๆ บิดกุญแจแล้วเงียบ ต้องเคาะถึงจะติด จนหลัง ๆ เคาะยังงัยก็ไม่ติด
ก็เลยถอดออกมาดู

สภาพไดสตาร์ทคือสกปรก กับแปรงถ่านสึก อายุการใช้งานประมาณ 230,000 กม กับ 14 ปี

ถ้าต้องการเซฟ ผมว่า ตรวจเช็ค และทำความสะอาดที่ 150,000 กม กำลังดี อะไรที่มันจะเสีย
ก็จะเห็นก่อน

ส่วนไดชาร์จ อาการเสีย คือชาร์จไฟไม่เข้าแบต อาการจะชัดโดยเฉพาะิวิ่งกลางคืน ไฟหน้าวูบ
แอร์ไม่เย็น ไฟรูปแบตโชว์ วัดไฟแล้วต่ำกว่า 12.0 โวลท์ ขณะติดเครื่องอยู่ที่รอบเดินเบา ในเมื่อ
ไดชาร์จไม่ชาร์จไฟเข้าแบตฯ กระแสไฟที่มีอยู่ในแบตฯ จึงถูกดึงออกไปใช้อยู่ตลอด จนกำลัง
ของกระแสไฟอ่อนลง สุดท้ายดับเครื่องเมื่อไหร่ สตาร์ทไม่ติด คิดว่าแบตฯ เสื่อม เลยเปลี่ยนใหม่
ไฟเต็ม สตาร์ท ชึ่งเดียวติด แต่ที่ไหนได้ วิ่งได้ไม่พ้นวัน สตาร์ทไม่ติดอีก

อะไหล่ไดชาร์จ ไดโอด เรกูเลเตอร์ (คัทเอ้าท์ไดชาร์จ) แปรงถ่าน บางรุ่นบางยี่ห้อ ไม่ได้ทำเป็น
อะไหล่มาขาย ต้องเบิกศูนย์ทั้งลูก ไม่งั้นก็ต้องหามือสองทดแทน

อายุการใช้งานประมาณ 300,000 โล กับ 17 ปี จึงไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ คงจะมีแต่แบตเตอรี่
ที่มีอายุการใช้งาน 1.5 - 2 ปี

แต่มีข้อเสนอแนะ ไดชาร์จไม่ชอบอากาศร้อน มีเทคนิคโดย อาจหาช่างทำแผงบังลม ดักอากาศ
จากภายนอกรถเข้ามาเป่าที่ไดชาร์จ เพื่อลดอุณหภูมิ จะทำให้ไดชาร์จผลิตกระแสไฟได้มากขึ้น
(ค่าโวลท์ที่ต่าง 0.0-0.8 โวลท์ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างอุณหภูมิที่ 24 องศา กับที่ 30 องศา)