นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (เอ็มพีเอ)ว่า เอ็มพีเอได้ขอให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มรายละเอียดในการควบคุมอุปกรณ์ที่ใช้ในการแอบถ่ายภาพยนตร์ เช่น โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวิดีโอ เป็นต้น ห้ามให้นำอุปกรณ์เหล่านี้เข้าไปในโรงภาพยนตร์อย่างเด็ดขาด เพราะห่วงว่าจะเป็นช่องโหว่ในการลักลอบแอบถ่ายภาพยนตร์และละเมิดลิขสิทธิ์ได้ เนื่องจากปัจจุบันนี้เทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามาก สามารถแอบถ่ายและส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมขึ้นไปบันทึกและดาวน์โหลดได้ทันที
“กลุ่มผู้สร้างหนังสหรัฐ ขอให้ไทยระบุเรื่องนี้ ให้ชัดเจนในการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ เกี่ยวกับการป้องกันแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ แต่ไทยได้แจ้งทางผู้แทนเอ็มพีเอว่า ขณะนี้กฎหมายฉบับนี้กำลังอยู่ระหว่างเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.สัญจร ที่อุตรดิตถ์ วันที่ 21-22 ม.ค.นี้ ดังนั้นคงไปแก้อะไรไม่ได้ แต่ได้ให้เอ็มพีเอทำหนังสือแสดงข้อกังวลเข้ามา ซึ่งเมื่อกฎหมายผ่าน ครม. และเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ก็สามารถนำข้อเสนอนี้ไปพูดไปคุยเพิ่มเติมได้ หากเห็นว่าเป็นประโยชน์”
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ ได้มีมติให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (ศปช.) โดยมีตน ตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน มีหน้าที่เพื่อป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วม ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามผู้ผลิตรายใหญ่ สถานที่เก็บ แหล่งกระจาย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และคาดว่าจะมีการดำเนินการจับกุมในเร็ว ๆ นี้
“ปีนี้รัฐบาลจะกำหนดให้เป็นปีจัดหนัก จัดเต็ม เกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับไหน ก็จะดำเนินคดีทุกตัวบทกฎหมาย ทั้งลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า กฎหมายองค์การอาหารและยา (อย.) สำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะดำเนินคดีทั้งหมด และจะตรวจสอบเส้นทางการเงิน การเสียภาษี หรือมีการฟอกเงินหรือไม่”
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบการเตรียมการแก้ไขการจัดอันดับประเทศไทยจากประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับเบิลยูแอล) ตามกฎหมายการค้าสหรัฐ มาตรา 301 โดยจะเร่งชี้แจงสหรัฐ ถึงการแก้ไขกฎหมาย และการดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย เช่น การแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อคุ้มครองงานบนอินเทอร์เน็ต การป้องกันการแอบถ่าย การแก้ไขกฎหมายศุลกากรเพื่อให้ยึดสินค้าได้ การแก้ไขกฎหมายเอาผิดเจ้าของสถานที่ เพื่อให้สหรัฐได้พิจารณาก่อนประกาศผลการประเมินสถานะของไทยในเดือน เม.ย.นี้
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา นัดหารือกับค่ายเพลง ครูเพลง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ที่มีปัญหาการจัดเก็บซ้ำซ้อน มีบริษัทจัดเก็บหลายบริษัท และมีปัญหาเรื่องกลุ่มรีดไถ โดยให้มีคณะทำงานขึ้นมาศึกษาว่าถ้าจะมีองค์กรกลางในการจัดเก็บจะเป็นไปได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไร โดยในระหว่างนี้ ได้ขอให้ตำรวจที่รับแจ้งเหตุเพื่อไปตรวจจับ ขอให้เป็นตำรวจพื้นที่เท่านั้น เพื่อป้องกันการตั้งแก๊งนักบิน นำตำรวจจากที่อื่นเข้าไปจับกุม.
http://www.dailynews.co.th/businesss/179063
ค้นตัว เข้าเครื่องสแกนก่อนดูหนัง
ห้ามนำ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง เข้าโรงหนัง ส.ผู้สร้างหนังสหรัฐฯ ขอไทยควบุคม
“กลุ่มผู้สร้างหนังสหรัฐ ขอให้ไทยระบุเรื่องนี้ ให้ชัดเจนในการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ เกี่ยวกับการป้องกันแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ แต่ไทยได้แจ้งทางผู้แทนเอ็มพีเอว่า ขณะนี้กฎหมายฉบับนี้กำลังอยู่ระหว่างเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.สัญจร ที่อุตรดิตถ์ วันที่ 21-22 ม.ค.นี้ ดังนั้นคงไปแก้อะไรไม่ได้ แต่ได้ให้เอ็มพีเอทำหนังสือแสดงข้อกังวลเข้ามา ซึ่งเมื่อกฎหมายผ่าน ครม. และเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ก็สามารถนำข้อเสนอนี้ไปพูดไปคุยเพิ่มเติมได้ หากเห็นว่าเป็นประโยชน์”
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ ได้มีมติให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (ศปช.) โดยมีตน ตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน มีหน้าที่เพื่อป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วม ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามผู้ผลิตรายใหญ่ สถานที่เก็บ แหล่งกระจาย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และคาดว่าจะมีการดำเนินการจับกุมในเร็ว ๆ นี้
“ปีนี้รัฐบาลจะกำหนดให้เป็นปีจัดหนัก จัดเต็ม เกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับไหน ก็จะดำเนินคดีทุกตัวบทกฎหมาย ทั้งลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า กฎหมายองค์การอาหารและยา (อย.) สำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะดำเนินคดีทั้งหมด และจะตรวจสอบเส้นทางการเงิน การเสียภาษี หรือมีการฟอกเงินหรือไม่”
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบการเตรียมการแก้ไขการจัดอันดับประเทศไทยจากประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับเบิลยูแอล) ตามกฎหมายการค้าสหรัฐ มาตรา 301 โดยจะเร่งชี้แจงสหรัฐ ถึงการแก้ไขกฎหมาย และการดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย เช่น การแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพื่อคุ้มครองงานบนอินเทอร์เน็ต การป้องกันการแอบถ่าย การแก้ไขกฎหมายศุลกากรเพื่อให้ยึดสินค้าได้ การแก้ไขกฎหมายเอาผิดเจ้าของสถานที่ เพื่อให้สหรัฐได้พิจารณาก่อนประกาศผลการประเมินสถานะของไทยในเดือน เม.ย.นี้
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา นัดหารือกับค่ายเพลง ครูเพลง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ที่มีปัญหาการจัดเก็บซ้ำซ้อน มีบริษัทจัดเก็บหลายบริษัท และมีปัญหาเรื่องกลุ่มรีดไถ โดยให้มีคณะทำงานขึ้นมาศึกษาว่าถ้าจะมีองค์กรกลางในการจัดเก็บจะเป็นไปได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไร โดยในระหว่างนี้ ได้ขอให้ตำรวจที่รับแจ้งเหตุเพื่อไปตรวจจับ ขอให้เป็นตำรวจพื้นที่เท่านั้น เพื่อป้องกันการตั้งแก๊งนักบิน นำตำรวจจากที่อื่นเข้าไปจับกุม.
http://www.dailynews.co.th/businesss/179063
ค้นตัว เข้าเครื่องสแกนก่อนดูหนัง