ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะครับ ว่าข้อความทั้งหมด เป็นเรื่องจริง ทั้งสิ้น และสามารถส่งเมลล์มาที่ผม เพื่อขอดูเอกสารหลักฐานทั้งหมดได้ครับผม
ผมมีแฟน และแฟนผมเค้าก็ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่จังหวัดตาก เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฏหมายครับ ซึ่งการซื้อขายของร้านผม จะมีอยู่ 2 แบบ ก็คือ
1. เงินสด คือลูกค้านำรถมาขนเอง ไม่ว่าจะเป็นรถใหญ่ หรือรถเล็ก ขนของขึ้นรถ จ่ายเงินสด ถือว่าจบการซื้อขายครับ
2. มัดจำ คือการที่ลูกค้ามาดูของโดยไม่ได้ตั้งใจไว้แต่ต้น อาจจะมารถเก๋ง หรือติดรถมากับเพื่อน ซึ่งกรณีนี้ เราจะมีบริการส่งทั่วประเทศ และบวกค่าส่งอีกนิดหน่อย โดยที่ไม่ว่าลูกค้าซื้อไปจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ตาม จะต้องมัดจำเอาไว้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด ก่อนที่เราจะไปส่ง และหลังจากที่เราไปส่งแล้ว ลูกค้าก็จะจ่ายส่วนที่เหลือหลังจากของส่งถึงที่ ... ซึ่งตั้งแต่ทำมาค้าขายมา ก็ไม่เคยเกิดเหตุอะไรขึ้นครับ ราบรื่นดีทุกอย่างครับผม
เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีลูกค้าคนนึง เป็นคนใต้ เดินมาพร้อมกับภรรยา และเข้ามาดูเฟอร์นิเจอร์ เพื่อซื้อและนำไปขายต่อ โดยที่ลูกค้าอ้างว่าเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่จังหวัดชุมพร ... โดยยอดวันนั้น ลูกค้าซื้อของรวมทั้งหมด 213,100 บาท ... (สองแสนหนึ่งหมื่นสามพันหนึ่งร้อยบาทถ้วน) โดยในตอนแรกลูกค้าให้ไปส่ง โดยที่ไม่วางเงินมัดจำ อ้างว่าไม่มีเงินติดตัวเลยซักบาทเดียว ... และทางแฟนผมก็ไม่ไปส่งให้ครับ เพราะไม่มีอะไรรับประกันเลย ทางลูกค้าเลยไปกดเงินมาวางมัดจำให้ เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ... ซึ่งโอเคครับ เข้ากรณีที่ 2 ของการซื้อขายของทางร้านเราปกติ โดยที่เมื่อสินค้าไปถึงมือที่ชุมพร จะต้องจ่ายเงิน 163,100 บาท กลับมายังคนขับรถ เป็นอันจบกระบวนการซื้อขายครับ
แต่ !!! ... เมื่อสินค้าไปถึงมือ ลูกค้าบอกว่า เดี๋ยวจะโอนมาให้ เพราะตอนนี้ไม่มีเงินสด ... ทางเราไม่ยอมครับ เราก็ยังรอเงินต่อไป แต่ลูกค้าก็ยังยืนยันว่า รอไปก็ไม่ได้เงิน และคนขับรถก็ยังใหม่กับประสบการณ์ จึงได้วางสินค้าทั้งหมดไว้ที่ชุมไร ร้านลูกค้า แล้วก็กลับออกมา โดยที่ไม่ได้นำเงินทั้งหมดกลับมาด้วย ...
นั่นล่ะครับประเด็น การตามเงินที่เหลือกลับมา ยากเย็นเหลือเกิน โทรไป ก็บอกว่าจะโอนให้วันนั้น วันนี้ แต่ก็ยังเงียบอยู่ .. จริงๆแล้วร้านในจังหวัดระแวกใกล้เคียงก็เคยเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกันครับ แต่ลูกค้าก็หลากหลาย บางคนเลือกที่จะเงียบ เพราะตามทวงก็เท่านั้น แต่สำหรับผม ผมไม่อยากจะยอม เพราะว่าคนพวกนี้หากินบนความยากลำบากของคนอื่น เปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ก็จริงนะครับ แต่เงินมันเป็นเงินหมุนครับ เงินต้องหมุนเสมอ นี่ก็หายไปเกือบสองแสน รู้สึกรับไม่ได้ เลยอยากมาระบายให้เพื่อนๆได้ฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์กันครับผม
ปล. ผมใช้เบอร์อื่นโทรไป รับนะครับ แต่พอรู้ว่าเป็นผม ไม่รับอีกเลย ...
ผู้ชายอ้างตัวว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน ... ใช้ชื่อ "ผู้ใหญ่น้อย" เบอร์โทรศัพท์ 084-6304909
และคนที่อ้างตัวว่าเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ เป็นภรรยาของผู้ใหญ่น้อยครับ ชื่อ "แตน" เบอร์โทรศัพท์ 083-5506463
ผมยืนยันว่าทั้งหมดเป็นความจริงครับ ผมควรจะต้องทำยังไง อยากจะไปที่ๆตรงนั้นด้วยตัวเอง
แต่ก็กลัวอิทธิพล ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ควรทำตัวแบบนี้เลย ผมอยากประสานงานกับท้องที่ ผมทำได้รึเปล่าครับ
หรือเพื่อนๆคนไหนที่อยู่จังหวัดชุมพร พอจะรู้จักชื่อ หรือร้านเฟอร์นิเจอร์ ที่มีชื่อผู้ชาย ผู้หญิง สองคนนี้บ้างมั้ยครับ
..... เล่าจากประสบการณ์จริงครับ ขอบคุณที่เพื่อนๆมาอ่าน ..... เดี๋ยวจะอัพรูปเอกสารต่างๆให้ดูครับ
เปิดร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่จังหวัดตาก โดนโกงค่าส่วนต่างหลังจากมัดจำ เอามาเล่าให้ฟังครับ ไม่อยากให้ใครโดนเหมือนผมครับ
ผมมีแฟน และแฟนผมเค้าก็ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่จังหวัดตาก เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฏหมายครับ ซึ่งการซื้อขายของร้านผม จะมีอยู่ 2 แบบ ก็คือ
1. เงินสด คือลูกค้านำรถมาขนเอง ไม่ว่าจะเป็นรถใหญ่ หรือรถเล็ก ขนของขึ้นรถ จ่ายเงินสด ถือว่าจบการซื้อขายครับ
2. มัดจำ คือการที่ลูกค้ามาดูของโดยไม่ได้ตั้งใจไว้แต่ต้น อาจจะมารถเก๋ง หรือติดรถมากับเพื่อน ซึ่งกรณีนี้ เราจะมีบริการส่งทั่วประเทศ และบวกค่าส่งอีกนิดหน่อย โดยที่ไม่ว่าลูกค้าซื้อไปจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ตาม จะต้องมัดจำเอาไว้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด ก่อนที่เราจะไปส่ง และหลังจากที่เราไปส่งแล้ว ลูกค้าก็จะจ่ายส่วนที่เหลือหลังจากของส่งถึงที่ ... ซึ่งตั้งแต่ทำมาค้าขายมา ก็ไม่เคยเกิดเหตุอะไรขึ้นครับ ราบรื่นดีทุกอย่างครับผม
เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีลูกค้าคนนึง เป็นคนใต้ เดินมาพร้อมกับภรรยา และเข้ามาดูเฟอร์นิเจอร์ เพื่อซื้อและนำไปขายต่อ โดยที่ลูกค้าอ้างว่าเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่จังหวัดชุมพร ... โดยยอดวันนั้น ลูกค้าซื้อของรวมทั้งหมด 213,100 บาท ... (สองแสนหนึ่งหมื่นสามพันหนึ่งร้อยบาทถ้วน) โดยในตอนแรกลูกค้าให้ไปส่ง โดยที่ไม่วางเงินมัดจำ อ้างว่าไม่มีเงินติดตัวเลยซักบาทเดียว ... และทางแฟนผมก็ไม่ไปส่งให้ครับ เพราะไม่มีอะไรรับประกันเลย ทางลูกค้าเลยไปกดเงินมาวางมัดจำให้ เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ... ซึ่งโอเคครับ เข้ากรณีที่ 2 ของการซื้อขายของทางร้านเราปกติ โดยที่เมื่อสินค้าไปถึงมือที่ชุมพร จะต้องจ่ายเงิน 163,100 บาท กลับมายังคนขับรถ เป็นอันจบกระบวนการซื้อขายครับ
แต่ !!! ... เมื่อสินค้าไปถึงมือ ลูกค้าบอกว่า เดี๋ยวจะโอนมาให้ เพราะตอนนี้ไม่มีเงินสด ... ทางเราไม่ยอมครับ เราก็ยังรอเงินต่อไป แต่ลูกค้าก็ยังยืนยันว่า รอไปก็ไม่ได้เงิน และคนขับรถก็ยังใหม่กับประสบการณ์ จึงได้วางสินค้าทั้งหมดไว้ที่ชุมไร ร้านลูกค้า แล้วก็กลับออกมา โดยที่ไม่ได้นำเงินทั้งหมดกลับมาด้วย ...
นั่นล่ะครับประเด็น การตามเงินที่เหลือกลับมา ยากเย็นเหลือเกิน โทรไป ก็บอกว่าจะโอนให้วันนั้น วันนี้ แต่ก็ยังเงียบอยู่ .. จริงๆแล้วร้านในจังหวัดระแวกใกล้เคียงก็เคยเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกันครับ แต่ลูกค้าก็หลากหลาย บางคนเลือกที่จะเงียบ เพราะตามทวงก็เท่านั้น แต่สำหรับผม ผมไม่อยากจะยอม เพราะว่าคนพวกนี้หากินบนความยากลำบากของคนอื่น เปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ก็จริงนะครับ แต่เงินมันเป็นเงินหมุนครับ เงินต้องหมุนเสมอ นี่ก็หายไปเกือบสองแสน รู้สึกรับไม่ได้ เลยอยากมาระบายให้เพื่อนๆได้ฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์กันครับผม
ปล. ผมใช้เบอร์อื่นโทรไป รับนะครับ แต่พอรู้ว่าเป็นผม ไม่รับอีกเลย ...
ผู้ชายอ้างตัวว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน ... ใช้ชื่อ "ผู้ใหญ่น้อย" เบอร์โทรศัพท์ 084-6304909
และคนที่อ้างตัวว่าเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ เป็นภรรยาของผู้ใหญ่น้อยครับ ชื่อ "แตน" เบอร์โทรศัพท์ 083-5506463
ผมยืนยันว่าทั้งหมดเป็นความจริงครับ ผมควรจะต้องทำยังไง อยากจะไปที่ๆตรงนั้นด้วยตัวเอง
แต่ก็กลัวอิทธิพล ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ควรทำตัวแบบนี้เลย ผมอยากประสานงานกับท้องที่ ผมทำได้รึเปล่าครับ
หรือเพื่อนๆคนไหนที่อยู่จังหวัดชุมพร พอจะรู้จักชื่อ หรือร้านเฟอร์นิเจอร์ ที่มีชื่อผู้ชาย ผู้หญิง สองคนนี้บ้างมั้ยครับ
..... เล่าจากประสบการณ์จริงครับ ขอบคุณที่เพื่อนๆมาอ่าน ..... เดี๋ยวจะอัพรูปเอกสารต่างๆให้ดูครับ