มีคำถามเกี่ยวกับ พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) วัดปากน้ำ และวัดธรรมกาย

กระทู้คำถาม
พอดีได้อ่านหนังสือโลกทิพย์ ฉบับที่ 266 เดือนก.พ พ.ศ. 2537 เกี่ยวกับ พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ ที่ได้ค้นพบวิชชาธรรมกาย และมีการเกี่ยวโยงถึงลูกศิษย์ สายธรรมกาย และวัดธรรมกาย จ.ปทุมธานี ก็เลยเกิดความสงสัยว่า หลวงพ่อ สด และวัดธรรมกายมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่อย่างใด
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความกระจ่าง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3

หลวงพ่อธัมมชโย พระเทพญาณมหามุนี(วัดพระธรรมกาย) ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ได้เกิดความคิดในใจว่า “คนเราเกิดมาทำไม ตายแล้วจะไปไหน กรรมหรือบุญบาปมีจริงหรือไม่” ท่านจึงได้ศึกษาธรรมะจากหนังสือธรรมะต่างๆ มากมาย

และแล้ววันหนึ่งท่านได้พบหนังสือชื่อ “ธรรมกาย” ซึ่งเขียนตามแนวเทศนาของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีข้อความว่า “ถ้าจะเดินให้ถูกต้องร่องรอยของพระศาสนา ต้องปฏิบัติให้ได้ทั้งรู้ทั้งเห็น”

คำว่า “ธรรมกาย” อ่านแล้วสะดุดใจยิ่งนัก ในหนังสือเล่มนี้พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ท่านได้บอกไว้ว่า “ธรรมกาย” นั่นแหละ คือ “ตถาคต” พร้อมทั้งได้ยกคำบาลีที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกมายืนยันว่า “ธมฺมกาโย อหํ อิติปิ แปลว่า ตถาคตคือธรรมกาย” และตอนท้ายเรื่องมีคำยืนยันว่า “วัดปากน้ำนี้เรียนได้ ทั้งรู้ทั้งเห็น” ข้อความดังกล่าว ยิ่งทำให้ท่านเกิดความปีติยินดีอย่างมาก





และเมื่อท่านได้อ่านหนังสือ “วิปัสสนาบันเทิงสาร” กล่าวถึงความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติธรรมวิชชาธรรมกายของคุณแม่อาจารย์ลูกจันทร์ แม่ชีผู้เป็นศิษย์ของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก็ยิ่งทำให้ท่านมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะไปศึกษาธรรมปฏิบัติที่วัดปากน้ำ แล้วความคิดหนึ่งก็พลันบังเกิดขึ้นว่า “วัดปากน้ำอยู่ ณ แห่งหนใด”

จนกระทั่งในปี พ.ศ.2506  ท่านก็ตัดสินใจไปวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อตามหาคุณแม่อาจารย์ลูกจันทร์ (หรือคุณยายอาจารย์จันทร์ ขนนกยูง) และได้เรียนธรรมะตามหลักวิชชาธรรมกาย ของหลวงพ่อวัดปากน้ำกับคุณยายอาจารย์


6 ปีหลังจากนั้น,  เมื่อได้ศึกษาธรรมะจากคุณยายอาจารย์ที่วัดปากน้ำและศึกษาจบมหาวิทยาลัยแล้ว ท่านก็ไปขอโยมพ่อเพื่อออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โยมพ่อก็อนุญาตและอนุโมทนาด้วย ส่วนโยมแม่ก็อนุโมทนาด้วยความปลื้มปีติและเต็มใจ ในทันทีที่ลูกชายมาขออนุญาตลาบวช เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนาต่อไป

       วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 9 ท่านได้ก้าวเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์เป็นพระภิกษุสงฆ์สมดังความปรารถนา ที่พระอุโบสถวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในปัจจุบัน) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ธัมมชโย” แปลว่า “ผู้ชนะโดยธรรม”




หลังจากนั้น 1 ปี เริ่มสร้างวัดพระธรรมกาย

ชีวิตใหม่ในเพศบรรพชิต พระธัมมชโย (พระเทพญาณมหามุนี ในปัจจุบัน) เป็นพระภิกษุผู้เคร่งครัดในศีลาจารวัตร มุ่งศึกษาธรรมะทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ พร้อมกันนั้นท่านยังทำหน้าที่สอนธรรมปฏิบัติแก่สาธุชน ณ บ้านธรรมประสิทธิ์แทนคุณยายเป็นประจำ จนกระทั่งมีสาธุชนมาปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นมากมายจนเต็มพื้นที่บ้านธรรมประสิทธิ์ทั้งในบ้าน ชานบ้าน และล้นออกไปถึงสนามหญ้าหน้าบ้าน โดยเฉพาะในวันอาทิตย์นั้นต้องเปิดประตูรั้วทิ้งไว้เพราะมีคนส่วนหนึ่งต้องนั่งอยู่นอกรั้ว

      หมู่คณะทุกคน จึงเห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องสร้างวัด เพราะขณะนี้ท่านมีคณะทำงานที่เข้มแข็ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบัณฑิตหนุ่มสาวผู้มีความรู้ความสามารถ และผ่านการฝึกอบรมคุณธรรมต่าง ๆ จากท่านอย่างใกล้ชิด



       เมื่อทุกคนมีความพร้อมทั้งกายและใจ การสร้างวัดพระธรรมกายจึงได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช 2513 ซึ่ง ตรงกับวันมาฆบูชา

อ่านประวัติเพิ่มเติมที่ http://www.dmc.tv/pages/scoop/พระเทพญาณมหามุนี.html

พอจะตอบคร่าวๆ ก็คือ หลวงพ่อธัมมชโย ได้เริ่มศึกษาธรรมะที่วัดปากน้ำ และบวชที่วัดปากน้ำ จากนั้นจึงออกมาสร้างวัดพระธรรมกาย
วัดปากน้ำและวัดพระธรรมกาย จึงมีความเกี่ยวข้องกันตามที่ได้อธิบายมา
ความคิดเห็นที่ 8
เรื่องจริง จากบุคคลจริง ในยุคต้น



ความคิดเห็นที่ 2
เอาเท่าที่ทราบ
หลวงพ่อสดคิดค้นวิชาธรรมกายขึ้นเป็นที่เลื่องลือและได้มรณภาพลงไป
นายไชยบูลย์จบจากม.เกษตร อยากได้อภิญญา ไปหาหลวงพ่อฤาษีให้สอน แต่ท่านไม่สอนให้
นายไชยบูลย์เปิดอ่านในหนังสือ เจอนิยายเรื่องเล่าทำนองแม่ชีปัดระเบิดเลยเดินทางไปวัดปากน้ำเพื่อตามหาแม่ชีคนนี้
ไปเจอแม่ชีคนนึง เลยถามยายใช่แม่ชีจันทร์รึปล่าว ก็ตอบว่าใช่
เลยสนิทกันมาตั้งแต่นั้นจนไชยบูลย์บวช ผ่านไปมีน้องสาวของสมัครสุนทรเวชมีจิตกุศลจะบริจาคที่ดินและให้สร้างวัด
ตกลงกันว่าจะให้มีชื่อเจ้าของที่ดินบริจาคในชื่อวัดด้วย ทางเจ้าของที่ดินก็ยินดีปรีดา
แล้วเชิญหลวงพ่อฤาษีกับเจ้าอาวาสวัดปากน้ำมาด้วย พอพระไชยบูลย์กับทัตตชีโวเห็นว่าลพฤาษีมาด้วยก็กลัวจะไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส
ยื่นคำขาดกับเจ้าของที่ดิน ว่าต้องระบุว่าให้ตนเป็นเจ้าอาวาสและให้ทัตตชีโวเป็นรองเจ้าอาวาสเท่าน้ัน
เจ้าอาวาสวัดปากน้ำก็พูดไม่ออก ส่วนลพฤาษีก็เพียงหัวเราะหึ สมเพชความโลภคน
ท้ายสุดก็เป็นไปตามนั้น จากน้ันเจ้าของที่ก็ไม่ศรัทธานายไชยบูลย์อีก เลยไปบริจาคเงินให้วัดอื่นแทน
นายไชยบูลย์โกรธมากเลยตัดชื่อเจ้าของที่ดินออกจากชื่อวัด
จากนั้นไปรับแม่ชีจันทร์อะไรนี่มาอยู่ด้วย โดยให้เป็นมาสค็อตของวัด แล้วทำการโปรโมตอิทฤทธิ์ของวิชาธรรมกาย
ก็ได้สาวกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็เริมปรับ marketing policy เอาระบบขายตรงเข้ามาใช้
มีการโปรโมตระดับของทีมขายตามยอดบริจาค เท่าทีทราบ มีระบบ commission ตามยอดบริจาคที่หาได้ด้วยเช่นกัน
จากนั้นก็เริ่มออกสื่อ จนกระทั่งวัดใหญ่โต ก็มีเคสเรื่องนายไชยบูลย์โกงที่วัดใส่เป็นชื่อตน
แล้วก็มีเรื่องเอาเงินวัดมาปั่นหุ้นผ่านทางเสี่ยสอง จนโดนฟ้องให้คืนที่ดินวัดและพระสังฆราชสั่งให้ปราชิก
แต่ช่วงนั้นพระสังฆราชป่วยมาก เลยมีการอ้างว่าลายเซ็นปลอม และวิ่งเต้นบวกคืนที่ให้วัด จนอัยการสั่งไม่ฟ้อง คดีเลยหลุด
ทางมหาเถระสมาคมที่สนิทกับไชยบูลย์ด้วยสาเหตุอะไรน่าจะรู้ๆกันอยู่ เลยบอกว่าเมื่อคืนที่แล้วก็หยวนๆแล้วกัน
ก็อยู่รอดมาจนเดี๋ยวนี้เริ่มมีสื่อดาวเทียมของตัวเอง และเริ่มทำตลาดลูกค้าต่างประเทศโดยพยายามยึด mascottใหม่คือสตีฟจ็อบส์ครับ


ความคิดเห็นที่ 1
หลวงพ่อสดท่านบวชที่สุพรรณ  และมาเล่าเรียนคันถธุระที่วัดพระเชตุพนธ์ ได้รับการแต่งตั้งให้มาพัฒนาวัดปากน้ำในสมัยนั้น
และปฏิบัติสมาธิวิชชาธรรมกาย รวมถึงถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ฆราวาส ทั้งอุบาสก อุบาสิกา แม่ชีหลายท่าน
รวมถึงแม่ชีจันทร์ที่มาจากต่างจังหวัด มาเรียนรู้ปฏิบัติกับ แม่ชีทองสุก ที่วัดปากน้ำหลายปี และได้รวมกลุ่มคนที่สนใจ
เรียกบ้านหลังนั้นว่า บ้านธรรมประสิทธิ

ในช่วงนั้น หลวงพ่อสดมรณะภาพไปใน วันที่ 3 เดือน กุมพาพันธ์ ปี 2502 แต่ได้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่คณะศิษย์ มีหลวงพ่อเล็ก พระภาวนาโกศลเถระ(ธีระ)รับช่วงต่อเป็นเจ้าอาวาส หลังจาก สมเด็จป๋า วัดโพธิ์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปุ่น) วัดพระเชตุพน จะได้รับการโปรดเกล้าเป็นสมเด็จพระสังฆราช นายไชยบูลย์ ขณะนั้นกำลังเรียนที่สวนกุหลาบ สนใจมาปฏิบัติธรรมที่วัดปากน้ำ

และได้มีโอกาสรู้จักกับแม่ชีจันทร์ รวมถึง บุคคลยุคต้นวิชาอีกท่าน คือ พระภาวนาโกศลเถระ(วีระ) ปัจจุบันคือ พระราชพรหมเถระ แต่ภายหลังมาปฏิบัติกับแม่ชีจันทร์ ที่บ้านธรรมประสิทธิอย่างเดียว และสอบเข้าเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต่อมาเรียนจบก็บวชที่วัดปากน้ำ  โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสปัจจุบันเป็นพระอุปัชฌาย์

แล้วได้รับการบริจาคที่ดิน วัดนี้ได้ประกาศเป็นวัดโดยกระทรวงศึกษาธิการตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 ในชื่อ "ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม" และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดวรณีธรรมกายาราม" ซึ่งมาจากชื่อของ วรณี สุนทรเวช ซึ่งเป็น บุตรสาวของ คุณหญิงแพทยพงษาวิสุทธาธิบดี (ประหยัด สุนทรเวช) ผู้บริจาคสถานที่ และต่อมาได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "วัดพระธรรมกาย" จนถึงปัจจุบัน


อาจารย์วรณี สุนทรเวช ยังได้บริจาคปัจจัย สร้างหอปฏิบัติธรรม หอขาว ที่วัดปากน้ำอีกด้วยครับ
ตรงนี้เป็นประวัติคร่าวๆ สามารถหาอ่านค้นคว้าประวัติโดยละเอียดที่วัดปากน้ำครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่