ข่าวต่างประเทศ ประจำวัน


•    จีนประกาศตัวเลข GDP ออกมาสูงกว่าเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 7.9% เทียบกับเดือนก่อนที่ 7.4% ดัชนีค้าปลีกปรับตัวสูงขึ้นเป็น 15.2% เทียบกับเดือนก่อนที่ 14.9%
•    การประมูลพันธบัตรที่แข็งแกร่งในสเปน และแนวโน้มที่โปรตุเกสจะกลับมาระดมทุนในตลาดตราสารหนี้นั้นได้คลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ที่ดำเนินมา 3 ปีในยูโร
ดอลลาร์และยูโรปรับตัวขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเยนหลังดิ่งลง 2 วันติดต่อกัน โดยยูโรปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับทั้งเยนและฟรังก์สวิสด้วย ขณะที่ตลาดการเงินจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในวันศุกร์นี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง สกุลเงินที่มีความเสี่ยง อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลียจะทะยานขึ้น
•    กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยร่วงลง37,000 ราย สู่ 335,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2008 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านพุ่งขึ้น 12.1% สู่ 954,000 ยูนิตในเดือนธ.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี และการอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นสู่ 903,000 ยูนิตในเดือนธ.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2008
•    พม่าเปิดประมูลน้ำมันบนบกแหล่งใหม่มากถึง 18 บ่อ การเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มว่าจะเรียกความสนใจจากบริษัทโลกตะวันตกได้อย่างมาก
จะมีการเปิดประมูลมากสุด 18 บ่อ และจะมีการทำข้อตกลงที่บริษัทผู้ชนะการประมูล จะต้องเป็นหุ้นส่วนกับรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน รวมถึง เมียนมาร์ ออยล์ แอนด์ ก๊าซ เอนเตอร์ไพรซ์ (เอ็มโอจีอี) บริษัทน้ำมันของรัฐบาลพม่าที่ตกเป็นเป้าโต้เถียงกันอยู่ถึงการเป็นแหล่งเงินทุนให้กับกองทัพพม่าตามระเบียบที่ระบุไว้นั้น แต่ละบริษัทจะสามารถยื่นประมูลได้รายละไม่เกิน 3บ่อ
เอ็มโอจีอี ระบุทางเว็บไซต์ว่า บ่อน้ำมันที่จะเปิดประมูลเพื่อให้เข้าไปขุดสำรวจนี้ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของแหล่งน้ำมันบนบกของพม่าที่มีอยู่ราว 50 บ่อ ขณะที่กระทรวงพลังงานพม่า เผยในภายหลังว่า มีแผนที่จะเปิดประมูลแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งด้วย
นายฮะเต อ่อง โฆษกกระทรวงพลังงานพม่า เผยว่า รัฐบาลจะประกาศเปิดประมูลอย่างเปิดเผย ผ่านทางสื่อของรัฐบาล และเว็บไซต์ของกระทรวง ซึ่งขณะนี้เพิ่งจะเริ่มดำเนินการเท่านั้น
การประมูลแหล่งน้ำมันบนบกดังกล่าว จะเป็นการเปิดประมูลครั้งแรกนับแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งครั้งก่อนหน้านี้ผู้เข้าร่วมประมูลส่วนใหญ่มาจากประเทศในเอเชีย เพราะเกิดขึ้นในช่วงที่พม่ายังโดนคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ประกอบกับความวิตกในเรื่องบรรษัทภิบาลของเอ็มโอจีอี และความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐบาลทหารพม่า ทำให้ผู้เข้าร่วมประมูลจำกัดอยู่ในวงแคบๆ เท่านั้น
จนถึงขณะนี้ นักลงทุนต่างชาติล้วนต้องการที่จะเข้าลงทุนในพม่า ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์ บริษัทด้านการวิจัย ได้จัดให้พม่าติดอยู่ใน 1 ใน 5 ประเทศที่มีศักยภาพอันโดดเด่นที่สุดของโลก ในเรื่องการสำรวจและผลิต น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
นายราจีฟ บิสวาส นักเศรษฐศาสตร์ไอเอชเอส แสดงความเห็นว่า บริษัทน้ำมันจากชาติตะวันตก ล้วนแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมในการประมูลบ่อน้ำมันดังกล่าว โดยในปัจจุบัน พม่าประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติใหญ่สุดเป็นอันดับ 14 ของโลก ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่บริษัทน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ "ตื่นเต้น" อย่างมาก เพราะที่ผ่านมา การคว่ำบาตรได้จำกัดการเข้าลงทุนเพื่อสำรวจหาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติในประเทศนี้
•    พม่า เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโต และการเปิดตลาดของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เกือบจะต่ำที่สุดของโล
จากข้อมูลของปี 2554 มีประชากรเพียง 3% เท่านั้นที่มีโทรศัพท์มือถือใช้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจไม่น้อย เพราะบังคลาเทศ ประเทศที่มีระดับทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกัน กลับพบว่ามีประชาชนกว่า 56%ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ
ในปัจจุบันพม่ามีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียง 2 รายเท่านั้น ในขณะที่รัฐบาลพม่าพยายามปรับลดราคาของซิมการ์ด เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้ใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะโดยรวมแล้ว ทั้งราคาเครื่อง กับราคาหมายเลข ยังคงเป็นรายจ่ายที่ "เกินตัว" สำหรับชาวพม่า
ปี 2555 ที่ผ่านมา "บาร์แคมป์ ย่างกุ้ง" เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะปฏิวัติเทคโนโลยีในอนาคตของพม่า ด้วยการจัดประชุม ที่นำภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งภาคการศึกษา มารวมตัวกัน เพื่อทำงานร่วมกันในการพัฒนาตั้งแต่โครงข่าย อุปกรณ์ เทคโนโลยีอย่างเช่นตัวหนังสือบนแป้นพิมพ์ และการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับโครงข่ายอินเทอร์เนต โครงข่ายไร้สาย จนกระทั่งมาถึงการใช้งานสมาร์ทโฟน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางรายบอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับสมาร์ทโฟนที่จะแจ้งเกิดได้ทันใจในพม่า โดยนายโซเอ นิว หนา ผู้อำนวยการของบริษัทเคเอ็มดี ซึ่งเป็นตัวแทนกระจายสินค้าของเอชทีซีในพม่า ระบุว่า หากประสบความล้มเหลวในเรื่องของการติดตั้งภาษาพม่าในโทรศัพท์ เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการเติบโตของเอชทีซี รวมทั้งค่ายมือถือรายอื่นๆ ในตลาดพม่าด้วย
ก่อนหน้านั้น ซัมซุง คู่แข่งรายสำคัญของเอชทีซีในตลาดมือถือระบบแอนดรอยด์ ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดพม่าก่อนเอชทีซีไม่นานนัก โดยซัมซุงมีผู้แทนจำหน่ายที่มากกว่า และมีผู้กระจายสินค้าให้ถึง 2 ราย และป้ายโฆษณาต่างๆ ของซัมซุงก็มีให้พบเห็นทั่วไปจนชินตาในย่างกุ้ง
นอกจากนั้นยังมีแบรนด์จากประเทศจีน อย่าง หัวเหว่ย ที่เจาะตลาดในกลุ่มโทรศัพท์มือถือพื้นฐาน ที่ไม่มีรูปแบบการใช้งานที่ซับซ้อนนักโดยรวมแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนในพม่า ผู้บริโภคยังมีความเข้าใจระบบ และการทำงานของเครื่องอยู่น้อยมาก เพราะลำพังโทรศัพท์ไร้สายธรรมดาๆ ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าใดนัก
นายโซเอ กล่าวว่า เคเอ็มดี จะช่วยเอชทีซีในการปั้นยอดขายให้กับสาขาแรกซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้า การซ่อม และการให้บริการแก่ผู้ใช้และลูกค้า ซึ่งเขายังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้มีเพียงเครื่องของเอชทีซีเท่านั้นที่มีการติดตั้งภาษาพม่าอย่างเป็นทางการ
•    สภายุโรปลงคะแนนเสียงเพิ่มมาตรการความโปร่งใสสำหรับบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจถูกตำหนิว่ามีส่วนทำให้วิกฤติหนี้ยูโรโซนเลวร้ายลง
สภายุโรปลงคะแนนเสียง 579ต่อ 58 เสียง ให้เพิ่มความโปร่งใสสำหรับบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หลังจากสมาชิกสภายุโรปและคณะกรรมาธิการยุโรปเจรจากันเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ให้มีการเข้มงวดกฎระเบียบ ซึ่งแม้กฎที่ผ่านความเห็นชอบจะมีการแก้ไขให้เบาบางลงแล้ว แต่ก็ยังมีบทลงโทษอยู่
กฎระเบียบใหม่ระบุให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ มูดีส์ และฟิตช์ จะต้องเปิดกว้างมากขึ้นและอาจเผชิญข้อกฎหมายหากพบว่ามีความผิดพลาดในการทำงาน
นายมิเชล บาร์นิเยร์ กรรมาธิการด้านตลาดภายในของสหภาพยุโรป (อียู) แถลงว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะปรับปรุงคุณภาพของการจัดอันดับขึ้นได้มาก เพราะบริษัทจัดอันดับจะต้องมีความโปร่งใสมากขึ้นในการจัดอันดับประเทศต่างๆ และจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น อันจะทำให้บริษัทเหล่านี้มีความผิดหากละเลยหรือจงใจ
นอกจากนั้น กฎระเบียบใหม่ยังน่าจะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้นในอุตสาหกรรมดังกล่าว ซึ่งมีบริษัทรายใหญ่เพียง 3 แห่งครอบงำอยู่ รวมถึงลดอิทธิพลของบริษัทเหล่านี้, ขจัดผลประโยชน์อันทับซ้อน และทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องรับผิดชอบในทางกฎหมาย
การปรับเปลี่ยนกฎให้เข้มงวด มีขึ้นหลังจากยุโรปแสดงความไม่พอใจที่ถูกลดอันดับหลายครั้ง ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของวิกฤติยูโรโซน อันยิ่งทำให้ประเทศต่างๆ ประสบปัญหามากขึ้นในการพยายามสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เพราะการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งถูกลดอันดับ ทำให้ต้นทุนกู้ยืมสูงขึ้น อันเป็นการเพิ่มภาระในช่วงที่ตลาดการเงินลังเลที่จะปล่อยกู้ให้ประเทศที่อ่อนแอในยูโรโซน
ด้านบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือกล่าวปกป้องตัวเองว่ามีบทบาทสำคัญ และช่วยนักลงทุนในการประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม มีผู้วิจารณ์ว่าบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือเหล่านี้อาศัยจังหวะในช่วงที่เกิดความปั่นป่วน สร้างความผันผวนด้วยการปรับเปลี่ยนการประเมินอันดับในจังหวะเวลาสำคัญช่วงที่รัฐบาลของยูโรโซนกำลังเผชิญวิกฤติหนี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่