สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
จีน กับ ญี่ปุ่น พร้อมช่วยเราเสมอ
จีน นี่ช่วยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เวลาถูกพม่าบุกที จีนส่งปืนใหญ่มาให้บาน บางทีก็ยกทัพมาตีภาคเหนือของพม่า เพื่อดึงทัพใหญ่กลับจากอยุธยา (คล้าย สงครามสั่งสอนเวียดนาม ที่ตีเพื่อดึงกองทัพเวียดนามตรงพรมแดนไทยกลับไป)
ตอนวิกฤติ ต้มยำกุ้ง รัฐบาลไทยเดินทางไปขอกู้เงินจากจีน (ไอเอ็มเอฟ กับ ฝรั่งจ้องจะให้เราล้มละลายท่าเดียว) จีนบอกได้เลย แต่การให้กู้เงิน ไม่ใช่ทางออกที่ดี จีนจะช่วยสั่งซื้อสินค้าจากไทยมากๆดีกว่า และจีนจะดันค่าเงินหยวนให้แข็ง เพื่อให้ไทยส่งออกได้มากๆ และจีนก็ทำเช่นนั้นจริงๆ
ส่วน ญี่ปุ่น ตอนไทยเกิดสงครามอินโดจีน กับฝรั่งเศส ญี่ปุ่นกระโดดเข้ามาช่วย ทำให้เราได้ดินแดน ลาว และกัมพูชา คืนมา และญี่ปุ่นสัญญาว่า ถ้าชนะสงครามโลก จะให้ดินแดนของไทยนับแต่สมัยกรุงธนบุรี กลับคืนมาให้ไทยทั้งหมด (ประเทศไทยจะใหญ่กว่าปัจจุบันประมาณสองเท่า)
รัชสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ญี่ปุ่น ส่งม้าศึกสายพันธ์ดี มาให้กรุงศรีฯจำนวนมาก จนเป็นที่เลื่องลือว่า กองทหารม้าของพระนเรศวร ไร้เทียมทาน และมีทหารญี่ปุ่น อาสาสมัครมารับใช้พระนเรศด้วย
ตอนสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นโหดร้ายกับชาติอื่นๆมาก แต่กับไทย กลับประนีประนอม ด้วยเห็นว่าไทยเป็นมหามิตร ทุกวันนี้เงินลงทุนของญี่ปุ่นในไทย มากที่สุดในโลก
ส่วนอเมริกา เคยช่วยอะไรเราบ้าง ก็มีตอนสงครามโลกจบ อเมริกาประกาศว่าไทยเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร ทำให้เราไม่ต้องตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก ตอนเวียดนามบุก ก็ไม่แยแส ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง ก็คอยซ้ำเติม
ยังไงเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีประชากรเชื้อสายจีนเทียบอัตราส่วนแล้วมากที่สุดในโลก มากกว่าสิงคโปร์ด้วย จีนนับไทยเป็นเสือเชื้อสายจีนตัวที่ห้า คือ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ แล้วก็ไทย
จีน นี่ช่วยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เวลาถูกพม่าบุกที จีนส่งปืนใหญ่มาให้บาน บางทีก็ยกทัพมาตีภาคเหนือของพม่า เพื่อดึงทัพใหญ่กลับจากอยุธยา (คล้าย สงครามสั่งสอนเวียดนาม ที่ตีเพื่อดึงกองทัพเวียดนามตรงพรมแดนไทยกลับไป)
ตอนวิกฤติ ต้มยำกุ้ง รัฐบาลไทยเดินทางไปขอกู้เงินจากจีน (ไอเอ็มเอฟ กับ ฝรั่งจ้องจะให้เราล้มละลายท่าเดียว) จีนบอกได้เลย แต่การให้กู้เงิน ไม่ใช่ทางออกที่ดี จีนจะช่วยสั่งซื้อสินค้าจากไทยมากๆดีกว่า และจีนจะดันค่าเงินหยวนให้แข็ง เพื่อให้ไทยส่งออกได้มากๆ และจีนก็ทำเช่นนั้นจริงๆ
ส่วน ญี่ปุ่น ตอนไทยเกิดสงครามอินโดจีน กับฝรั่งเศส ญี่ปุ่นกระโดดเข้ามาช่วย ทำให้เราได้ดินแดน ลาว และกัมพูชา คืนมา และญี่ปุ่นสัญญาว่า ถ้าชนะสงครามโลก จะให้ดินแดนของไทยนับแต่สมัยกรุงธนบุรี กลับคืนมาให้ไทยทั้งหมด (ประเทศไทยจะใหญ่กว่าปัจจุบันประมาณสองเท่า)
รัชสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ญี่ปุ่น ส่งม้าศึกสายพันธ์ดี มาให้กรุงศรีฯจำนวนมาก จนเป็นที่เลื่องลือว่า กองทหารม้าของพระนเรศวร ไร้เทียมทาน และมีทหารญี่ปุ่น อาสาสมัครมารับใช้พระนเรศด้วย
ตอนสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นโหดร้ายกับชาติอื่นๆมาก แต่กับไทย กลับประนีประนอม ด้วยเห็นว่าไทยเป็นมหามิตร ทุกวันนี้เงินลงทุนของญี่ปุ่นในไทย มากที่สุดในโลก
ส่วนอเมริกา เคยช่วยอะไรเราบ้าง ก็มีตอนสงครามโลกจบ อเมริกาประกาศว่าไทยเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร ทำให้เราไม่ต้องตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก ตอนเวียดนามบุก ก็ไม่แยแส ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง ก็คอยซ้ำเติม
ยังไงเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีประชากรเชื้อสายจีนเทียบอัตราส่วนแล้วมากที่สุดในโลก มากกว่าสิงคโปร์ด้วย จีนนับไทยเป็นเสือเชื้อสายจีนตัวที่ห้า คือ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ แล้วก็ไทย
ความคิดเห็นที่ 7
อ่านๆไปบางความเห็นก็แปลกๆนะ
วิกฤติ ต้มยำกุ้ง ไปหาจีนแต่จีนๆจะช่วยแต่ไม่ให้กู้ (เพราะรู้ชัวร์ว่าเดี๋ยวล้มแล้วไม่ได้คืนแน่ๆ555) IMF จะให้เราล้มละลายแต่ให้กู้มาพยุงเศรษฐกิจจนรอดมาได้และกลับมาแข็งแกร่งในระดับนึงวันนี้ยังใช้หนี้กันไม่หมดเลย 55 จีนจะช่วยซื้อสินค้าทั้งที่เราส่งสินค้าไปจีนน้อยมาก แหมช่างจริงใจจริงๆ
สงครามอินโดจีนญี่ปุ่นกระโดดเข้ามาช่วย แหมช่วยยังไงเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่1ญี่ปุ่นยังไปช่วยฝรั่งเศษอัดเยอรมันอยู่เลย 55 ตอนสงครามโลกครั้งที่สองญี่ปุ่นก็โหดแต่กับจีนนั่นแหละ กับประเทศอื่นๆเขาก็ไม่โหดหรอกที่สำคัญประเทศเหล่านั้นเขาฉลาดเขาวางตัวเป็นกลางยอมแพ้สงครามแต่ไม่ยอมส่งทหารไปร่วมรบโดยสมัครใจเหมือนเรา สุดท้ายเขาก็ไม่ต้องดิ้นรนเพราะต้องตกเป็นผู้แพ้สงครามไปด้วยก็สบายไป
ส่วนอเมริกาก็ไม่ช่วยเราเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่ากองทัพอันดับ 19 ของโลก อาวุธครึ่งนึงที่ใช้อยู่จนทุกวันนี้โครงการช่วยเหลือจากอเมริกาทั้งนั้น ยิ่งถ้าศึกษาให้ดี ได้รู้จัก USOM-USAID จะรู้อะไรอีกมาก โรงพยาบาลในไทยมีครบทุกจังหวัดก็เพราะ USOM นี่แหละ ถ้าใครเคยเห็นโรงพักครึ่งไม้ครึ่งปูนเก่าๆนี่ก็เงิน USOM ทั้งนั้น ก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่หรอก ก็ว่ากันไป
.....................................................................................................................................................................................
เอ้าลืมตอบกระทู้ มันบอกยากครับว่าใครจริงใจที่สุด แต่ผมสงสัยทำไมเราต้องดูเหมือนเด็กงอมืองอเท้า ขาดความอบอุ่น ที่ต้องเที่ยวถามคนนู้นคนนี้ว่ารักเราหรือเปล่ากลัวเขาไม่รักอะไรประมาณนี้ ไม่เข้าใจ
วิกฤติ ต้มยำกุ้ง ไปหาจีนแต่จีนๆจะช่วยแต่ไม่ให้กู้ (เพราะรู้ชัวร์ว่าเดี๋ยวล้มแล้วไม่ได้คืนแน่ๆ555) IMF จะให้เราล้มละลายแต่ให้กู้มาพยุงเศรษฐกิจจนรอดมาได้และกลับมาแข็งแกร่งในระดับนึงวันนี้ยังใช้หนี้กันไม่หมดเลย 55 จีนจะช่วยซื้อสินค้าทั้งที่เราส่งสินค้าไปจีนน้อยมาก แหมช่างจริงใจจริงๆ
สงครามอินโดจีนญี่ปุ่นกระโดดเข้ามาช่วย แหมช่วยยังไงเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่1ญี่ปุ่นยังไปช่วยฝรั่งเศษอัดเยอรมันอยู่เลย 55 ตอนสงครามโลกครั้งที่สองญี่ปุ่นก็โหดแต่กับจีนนั่นแหละ กับประเทศอื่นๆเขาก็ไม่โหดหรอกที่สำคัญประเทศเหล่านั้นเขาฉลาดเขาวางตัวเป็นกลางยอมแพ้สงครามแต่ไม่ยอมส่งทหารไปร่วมรบโดยสมัครใจเหมือนเรา สุดท้ายเขาก็ไม่ต้องดิ้นรนเพราะต้องตกเป็นผู้แพ้สงครามไปด้วยก็สบายไป
ส่วนอเมริกาก็ไม่ช่วยเราเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่ากองทัพอันดับ 19 ของโลก อาวุธครึ่งนึงที่ใช้อยู่จนทุกวันนี้โครงการช่วยเหลือจากอเมริกาทั้งนั้น ยิ่งถ้าศึกษาให้ดี ได้รู้จัก USOM-USAID จะรู้อะไรอีกมาก โรงพยาบาลในไทยมีครบทุกจังหวัดก็เพราะ USOM นี่แหละ ถ้าใครเคยเห็นโรงพักครึ่งไม้ครึ่งปูนเก่าๆนี่ก็เงิน USOM ทั้งนั้น ก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่หรอก ก็ว่ากันไป
.....................................................................................................................................................................................
เอ้าลืมตอบกระทู้ มันบอกยากครับว่าใครจริงใจที่สุด แต่ผมสงสัยทำไมเราต้องดูเหมือนเด็กงอมืองอเท้า ขาดความอบอุ่น ที่ต้องเที่ยวถามคนนู้นคนนี้ว่ารักเราหรือเปล่ากลัวเขาไม่รักอะไรประมาณนี้ ไม่เข้าใจ
ความคิดเห็นที่ 13
ท่าทีระหว่างประเทศย่อมมีผลประโยชน์ของประเทศตนเป็นพื้นฐาน คงนำมาวัดความเป็นมิตรได้ลำบาก ...
โดยรวมๆ แล้ว จีนมองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางโลก ความเป็นมิตรที่มีจึงไม่ใช่มิตรอย่างเท่าเทียมกัน เป็นมิตรแบบที่ต้องการให้ยอมรับอำนาจที่เหนือกว่า แต่ในขณะที่ทำตัวเป็นลูกพี่นั้น กลับมีน้อยครั้งเหลือเกินที่แสดงความโอบอ้อมอารีโดยไม่มีผลประโยชน์เคลือบแฝง และความจริงแล้ว โอกาสที่จะช่วยผู้อื่นก็คงมีน้อยด้วย เพราะหลังสิ้นราชวงศ์ถังลงมา จีนก็มีช่วงเวลาไม่มากนักที่จะหาความสงบสุขได้อย่างยั่งยืน
ญี่ปุ่น อยู่ห่างจีนออกไปอีกหน่อย การติดต่อระหว่างกันอย่างต่อเนื่องในระดับประเทศจึงมีเมื่อญี่ปุ่นพยายามขยายอำนาจของตน แน่นอนว่าในการคบหากัน เรื่องผลประโยชน์ต้องมาก่อน แต่ก็เป็นการหาประโยชน์แบบเท่าเทียมกัน คือ ถ้าไม่นับช่วงแรกๆ ที่ญี่ปุ่นยกพลเข้ามาในประเทศไทยแล้ว (ซึ่งไม่ได้กระทบกระทั่งกันมากมาย) จากนั้นท่าทีระหว่ากันก็เป็นไปตามเกม ถ้าโง่เองก็ช่วยไม่ได้ ที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นทำให้ญี่ปุ่นมีโอกาสช่วยเหลือไทยหลายครั้ง ซึ่งก็อย่างที่บอก โดยร่วมนั้นเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของญี่ปุ่นเองเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าแฟร์ดี
สหรัฐอเมริกา ขอแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงก่อนมีนโยบายทำตัวเป็นตำรวจโลก ถือว่าเป็นมหามิตรได้ แต่หลังจากนั้นมองไทยเป็นลูกน้องที่ต้องคอยรับคำสั่งตลอด ความช่วยเหลือต่างๆ ล้วนเล็งผลเพื่อประโยชน์ของตัวเองหมด ถ้าอยากได้อะไรก็บีบบังคับเอาตรงๆ จะมีท่าทีเป็นมิตรมากขึ้นอย่างปัจจุบันก็เมื่ออำนาจในภูมิภาคของอเมริกาลดลงไปมากแล้ว ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่าถ้ามีอำนาจกลับมาแล้วจะไม่กลับไปทำตัวเหมือนเดิม
สรุป มหามิตรคงไม่มี แต่ถ้าจะเรียงลำดับความน่าคบหา ผมเลือก “ญี่ปุ่น” เป็นอันดับแรก
ส่วนระหว่างจีนกับอเมริกานั้น ในระดับประเทศแล้วไม่น่าคบพอกัน แต่ถ้ามองดูความร่วมมือในระดับเอกชนแล้ว ผมว่า การคบหากับทางอเมริกานั้นอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลที่ดีกว่า คือมีเหตุผลที่ยอมรับได้สำหรับท่าทีที่เขามี ... กับจีนนั้นเต็มไปด้วยเรื่องพรรคพวกผลประโยชน์ คือสำหรับคนเชื้อสายจีนที่มีสายสัมพันธ์กับคนจีนอยู่แล้วเป็นมิตรที่ดีอย่างยิ่ง แต่ถ้าเป็นคนไทยทั่วๆ ไปแล้วคบกันยาก
ดังนี้ ในฐานะที่ผมไม่มีสายสัมพันธ์กับคนจีน ผมขอเลือก “อเมริกา” เป็นอันดับสอง และ “จีน” เป็นอันดับหลังสุด
“ญี่ปุ่น” > “อเมริกา” > “จีน” ครับ
โดยรวมๆ แล้ว จีนมองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางโลก ความเป็นมิตรที่มีจึงไม่ใช่มิตรอย่างเท่าเทียมกัน เป็นมิตรแบบที่ต้องการให้ยอมรับอำนาจที่เหนือกว่า แต่ในขณะที่ทำตัวเป็นลูกพี่นั้น กลับมีน้อยครั้งเหลือเกินที่แสดงความโอบอ้อมอารีโดยไม่มีผลประโยชน์เคลือบแฝง และความจริงแล้ว โอกาสที่จะช่วยผู้อื่นก็คงมีน้อยด้วย เพราะหลังสิ้นราชวงศ์ถังลงมา จีนก็มีช่วงเวลาไม่มากนักที่จะหาความสงบสุขได้อย่างยั่งยืน
ญี่ปุ่น อยู่ห่างจีนออกไปอีกหน่อย การติดต่อระหว่างกันอย่างต่อเนื่องในระดับประเทศจึงมีเมื่อญี่ปุ่นพยายามขยายอำนาจของตน แน่นอนว่าในการคบหากัน เรื่องผลประโยชน์ต้องมาก่อน แต่ก็เป็นการหาประโยชน์แบบเท่าเทียมกัน คือ ถ้าไม่นับช่วงแรกๆ ที่ญี่ปุ่นยกพลเข้ามาในประเทศไทยแล้ว (ซึ่งไม่ได้กระทบกระทั่งกันมากมาย) จากนั้นท่าทีระหว่ากันก็เป็นไปตามเกม ถ้าโง่เองก็ช่วยไม่ได้ ที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นทำให้ญี่ปุ่นมีโอกาสช่วยเหลือไทยหลายครั้ง ซึ่งก็อย่างที่บอก โดยร่วมนั้นเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของญี่ปุ่นเองเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าแฟร์ดี
สหรัฐอเมริกา ขอแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงก่อนมีนโยบายทำตัวเป็นตำรวจโลก ถือว่าเป็นมหามิตรได้ แต่หลังจากนั้นมองไทยเป็นลูกน้องที่ต้องคอยรับคำสั่งตลอด ความช่วยเหลือต่างๆ ล้วนเล็งผลเพื่อประโยชน์ของตัวเองหมด ถ้าอยากได้อะไรก็บีบบังคับเอาตรงๆ จะมีท่าทีเป็นมิตรมากขึ้นอย่างปัจจุบันก็เมื่ออำนาจในภูมิภาคของอเมริกาลดลงไปมากแล้ว ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่าถ้ามีอำนาจกลับมาแล้วจะไม่กลับไปทำตัวเหมือนเดิม
สรุป มหามิตรคงไม่มี แต่ถ้าจะเรียงลำดับความน่าคบหา ผมเลือก “ญี่ปุ่น” เป็นอันดับแรก
ส่วนระหว่างจีนกับอเมริกานั้น ในระดับประเทศแล้วไม่น่าคบพอกัน แต่ถ้ามองดูความร่วมมือในระดับเอกชนแล้ว ผมว่า การคบหากับทางอเมริกานั้นอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลที่ดีกว่า คือมีเหตุผลที่ยอมรับได้สำหรับท่าทีที่เขามี ... กับจีนนั้นเต็มไปด้วยเรื่องพรรคพวกผลประโยชน์ คือสำหรับคนเชื้อสายจีนที่มีสายสัมพันธ์กับคนจีนอยู่แล้วเป็นมิตรที่ดีอย่างยิ่ง แต่ถ้าเป็นคนไทยทั่วๆ ไปแล้วคบกันยาก
ดังนี้ ในฐานะที่ผมไม่มีสายสัมพันธ์กับคนจีน ผมขอเลือก “อเมริกา” เป็นอันดับสอง และ “จีน” เป็นอันดับหลังสุด
“ญี่ปุ่น” > “อเมริกา” > “จีน” ครับ
ความคิดเห็นที่ 22
ยิ่งทุกวันนี้นะ ไทยคือ อวัยวะซีกซ้ายของญี่ปุ่น ซีกซ้ายโดนทำลาย เน่า มีแผลเลือดไหล มีหรือ เกิดไรขึ้นพวกเขาจะไม่มาปกป้องร่วมหัวจมท้ายกับเรา พวกเขาก็เดือดร้อนไปด้วย เงินกู้มิยาซาว่า กู้ฟื้นฟูน้ำท่วม กู้เมกะโปรเจ็คต่างๆ มันเยอะมหึมามาก
..ในทางกลับกัน หากเกิดไรขึ้นกับญี่ปุ่น มีหรือที่ไทยจะไม่เดือดร้อน เพราะนั่นก็แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเราเหมือนกัน 2 ร่างนี้ใช้เครื่องช่วยหายใจตัวเดียวกัน ...ประวัติศาสตร์และอดีตที่ผ่านมาผ่านการทดลองจิตใจกันแล้ว ผมให้ญี่ปุ่นครับ มาอันดับหนึ่งครับ
...ญี่ปุ่นแตกต่างจากจีนคือ ญี่ปุ่นไม่เคยดูถูกชาติไทยครับ เป็นชนชาติคบมิตรกับใครจะจริงใจ อ่อนน้อมถ่อมตน ไว้ใจได้ และวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทยแท้เรามาก
...ในทางสภาพจิตใจ ความทะเยอทะยาน ความเอาจิง มุ่งมั่น ผมชอบทัศนคติการทำงานของญี่ปุ่นมากครับ ให้ความยุติธรรม คุณขยัน มีผลงานทำตามกฏก็ตอบแทนด้วยรางวัล มีความก้าวหน้า ไม่หวงวิชา
..ในทางกลับกัน หากเกิดไรขึ้นกับญี่ปุ่น มีหรือที่ไทยจะไม่เดือดร้อน เพราะนั่นก็แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเราเหมือนกัน 2 ร่างนี้ใช้เครื่องช่วยหายใจตัวเดียวกัน ...ประวัติศาสตร์และอดีตที่ผ่านมาผ่านการทดลองจิตใจกันแล้ว ผมให้ญี่ปุ่นครับ มาอันดับหนึ่งครับ
...ญี่ปุ่นแตกต่างจากจีนคือ ญี่ปุ่นไม่เคยดูถูกชาติไทยครับ เป็นชนชาติคบมิตรกับใครจะจริงใจ อ่อนน้อมถ่อมตน ไว้ใจได้ และวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทยแท้เรามาก
...ในทางสภาพจิตใจ ความทะเยอทะยาน ความเอาจิง มุ่งมั่น ผมชอบทัศนคติการทำงานของญี่ปุ่นมากครับ ให้ความยุติธรรม คุณขยัน มีผลงานทำตามกฏก็ตอบแทนด้วยรางวัล มีความก้าวหน้า ไม่หวงวิชา
ความคิดเห็นที่ 20
ตอนวิกฤติต้มยำกุ้งนอกจากเงินมิยาซาว่าแล้ว
ญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้ไทยกู้โดยไม่ต้องขายชาติครับแบบไร้เงื่อนไขเลยทีเดียวแต่ดอกเบี้ยแพงกว่า IMF เล็กน้อย
ถ้าเทียบกับธุระกิจในไทยจะเจ็งแล้วถือว่าเล็กน้อยมาก แต่มันน่าจะเจ็บใจที่คนไทยด้วยกันเอง
ดันเอาหนี้ที่ดี(ลูกหนี้ที่มีปัญญาจ่ายดอกเบี้ย)กับหนี้ที่เลว(NPL)มารวมกันแล้วทำการขายทรัพย์สิน
โดยที่ห้ามเจ้าของกิจการซื้อกิจการคืนด้วยพอฝรั่งได้ไปมันก็ขายแยกทรัพย์สิน
มูลค่าการประมูลแค่ 30 เปอร์เซนของมูลค่าทรัพย์สินจริงๆแม้แต่คนจัดประมูลยังมาประมูลทรัพย์สินแข่งเลย
นี่แหละเป็นที่มาของคำว่าขายชาติตัวจริง สมคบต่างชาติกระทืบคนไทยก่อนที่ ปชป.จะเอาไปด่าทักกี้แทนตอนขายหุ้นดาวเทียม
ญี่ปุ่นไม่อยากให้ไทยล้มแต่คนไทยด้วยกันนี่แหละกระทืบกันเองให้ประเทศล้ม
-----------
ที่โพสไม่ใช่อะไรอีกไม่ถึง 150 วันคดีนี้จะหมดอายุความพวกที่ขายชาติมันก็จะมาชูคอเป็นคนดีมีจริยธรรมต่อไป
ญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้ไทยกู้โดยไม่ต้องขายชาติครับแบบไร้เงื่อนไขเลยทีเดียวแต่ดอกเบี้ยแพงกว่า IMF เล็กน้อย
ถ้าเทียบกับธุระกิจในไทยจะเจ็งแล้วถือว่าเล็กน้อยมาก แต่มันน่าจะเจ็บใจที่คนไทยด้วยกันเอง
ดันเอาหนี้ที่ดี(ลูกหนี้ที่มีปัญญาจ่ายดอกเบี้ย)กับหนี้ที่เลว(NPL)มารวมกันแล้วทำการขายทรัพย์สิน
โดยที่ห้ามเจ้าของกิจการซื้อกิจการคืนด้วยพอฝรั่งได้ไปมันก็ขายแยกทรัพย์สิน
มูลค่าการประมูลแค่ 30 เปอร์เซนของมูลค่าทรัพย์สินจริงๆแม้แต่คนจัดประมูลยังมาประมูลทรัพย์สินแข่งเลย
นี่แหละเป็นที่มาของคำว่าขายชาติตัวจริง สมคบต่างชาติกระทืบคนไทยก่อนที่ ปชป.จะเอาไปด่าทักกี้แทนตอนขายหุ้นดาวเทียม
ญี่ปุ่นไม่อยากให้ไทยล้มแต่คนไทยด้วยกันนี่แหละกระทืบกันเองให้ประเทศล้ม
-----------
ที่โพสไม่ใช่อะไรอีกไม่ถึง 150 วันคดีนี้จะหมดอายุความพวกที่ขายชาติมันก็จะมาชูคอเป็นคนดีมีจริยธรรมต่อไป
แสดงความคิดเห็น
ระหว่าง จีน กับ ญี่ปุ่น ประเทศไหนเป็นมหามิตรที่ดีที่สุดของไทย
แล้ว จีน กับ อเมริกา ?