มาเลย์ เตือนพ่อแม่ระวัง ลูกชายสวมเสื้อคอวีมีแนวโน้มเป็นเกย์


สมาคมครูแห่งมาเลเซีย ได้เสนอแนวทางให้ผู้ปกครองสังเกตสัญญาณของการเป็นพวกนิยม
รักร่วมเพศของลูกชาย เช่น การสวมเสื้อยืด หรือ เสื้่อกันหนาวคอวี , เสื้อยืดแขนกุด และเสื้อผ้า
ที่ฟิตพอดีตัว ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า มีคนไม่มากนัก ที่รู้เกี่ยวกับ
"อาการ" รักร่วมเพศ

ก่อนหน้านี้ เสื้อยืดหรือเสื้อกันหนาวคอวี ถูกมองว่า เป็นแฟชั่นสำหรับชนชั้นสูง ซึ่งสวมใส่โดย
เฟรด เพอร์รี่ นักเทนนิสชาวอังกฤษ และแชมป์วิมเบิลดัน เมื่่อช่วงทศวรรษที่ 1930 รวมถึงเจ้า
ฟ้าชายชาร์ลส์ หรือ ปริ๊นซ์ ออฟ เวลส์

นับเป็นเวลากว่า 80 ปีแล้ว ที่เสื้อกันหนาวคอวี ถูกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก และยังคงได้รับ
ความนิยมทั้งในหมู่ผู้ชายและผู้หญิง แต่ในมาเลเซีย คนที่สวมเสื้อสไตล์นี้ อาจถูกมองว่าเป็น
เกย์ เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลมาเลเซีย ถึงกับให้คำแนะนำบรรดาผู้ปกครองอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ
การสังเกตความเป็นพวกนิยมรักร่วมเพศของลูกชาย ซึ่งนอกจากการสวมเสื้อกันหนาวคอวีแล้ว
พวกวัยรุ่นที่นิยมการสวมเสื้อยืดแขนกุด เสื้อผ้าแนบตัว หรือพอดีตัว เน้นสีอ่อน และชอบโพสต์
ท่าโชว์มัดกล้าม ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นเกย์เช่นกัน

การเสนอคำแนะนำไปยังบรรดาผู้ปกครองของสมาคมครูแห่งมาเลเซีย ได้รับการสนับสนุนโดย
รัฐบาล ซึ่งนายโมฮัด ปูอัด ซาร์คาชิน็อต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า มีคนไม่
มากนักในประเทศมุสลิมอย่างมาเลเซีย ที่เข้าใจหรือรู้ถึงระยะเริ่มต้นอาการของรักร่วมเพศ , พวก
นิยมสองเพศ และกะเทย ที่มีแนวโน้มจะช่วยป้องกันไม่ให้แพร่กระจายออกไป

ได้มีการจัดสัมมนาถึง 10 ครั้งในมาเลเซีย เกี่ยวกับการสังเกตแนวโน้มของการเป็นเกย์ ให้พ่อแม่
ได้นำไปใช้ มีประชาชนมากกว่า 1,500 คน ที่ให้ความสนใจในสิ่งที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
ศึกษาธิการ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การให้คำแนะนำดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อช่วยทำให้เด็ก ๆ ออก
ห่างจากกิจกรรมที่่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

พฤติกรรมรักร่วมเพศ ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในมาเลเซีย และถูกระบุว่า ฝืนคำสั่งของธรรมชาติ
เมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซีย ได้เซ็นเซอร์เพลง บอร์น ดีส เวย์ ของเลดี้ กาก้า โดยระบุ
ว่า มีเนื้อหาสนับสนุนให้ยอมรับเกย์และเลสเบียน องค์การนิรโทษกรรมสากล ได้วิพากษ์วิจารณ์
การจัดงานสัมมนาเรื่องนี้ว่า เหมือนกลับไปสู่ยุควิคตอเรียของอังกฤษ ทั้งที่เป็นยุคสมัยใหม่ของ
มาเลเซีย

ที่มา http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=666681
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่