soshi bond จริงๆแล้วมันเป็นยังไงกันแน่

กระทู้คำถาม
soshi bond จริงๆแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ หรือแค่สร้างภาพเท่านั้น ?
ไม่ได้แอนตี้นะครับ ติดตามศิลปินเกาหลีอยู่ แต่พอเจอวงนี้ เห็นขึ้นชื่อเรื่อง soshi bond
ที่บอกว่าเป็นวงสายสัมพันธ์ที่ดีมากวงนึง จริงหรือป่าวครับ มันขนาดไหนกันครับ เห็นเลื่องลื่อกันนัก
เป็นแค่เพื่อนร่วมวงที่จำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน หรือเป็นเพื่อนที่สามารถปรึกษาปัญหาส่วนตัวกันได้(??)
    ในหมู่สาวๆพวกนี้จะมีสังคมอยู่แต่กับสมาชิกในวงเท่านั้นเหรอครับ คงเป็นไปไม่ได้
ผมว่าบางทีก็แค่อาจจะเป็นแค่เป็นเพื่อนที่เล่นด้วยกันได้ ออกรายการก็กอดคอเล่นกันสนิทสนม ผมว่าวงอื่นก็เป็นแบบนี้นะครับ
สาวๆที่ว่าความสัมพันธ์ดีมาก แต่เมื่อแยกย้ายกลับบ้านไปก็คงจะสังคมใครสังคมมันแล้วละมั่งครับ
ผมเคยอ่านเจอกระทู้ประมาณว่าไม่ว่าจะมองทางไหนก็มีโมเม้นต์ทุกคู่ มนคือการที่เรียกว่า "จิ้น" ไปเองหรือป่าวครับ(???)
จริงหรือครับที่สมาชิกทั้ง 9 คนจะสนิทสนมกันหมด ผมว่าคงจะมีบางคนที่ไม่สนิทกันหรอกมั่งครับ จริงไหมครับ

ผมทราบว่า ถ้าเราไม่ได้เป็น1ในสมาชิกเหล่านั้นคงจะให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้
แต่ผมก็อยากได้ยินจากคำพูดของแฟนคลับที่ติดตามผลงานมาหน่ะครับ ในมุมมองของพวกคุณว่าเป็นยังไง   

**ผมไม่มีเจตนาร้ายอะไรครับ แค่อยากทราบว่าที่บอกว่าสนิทๆกัน ผมคิดๆดูแล้วบางทีก็คงจะสนิทกันเหมือนกับวงอื่นๆ ที่แค่ต้องทำงานร่วมกันไม่ได้สนิทสนมกันมากมาย ก็แค่ออกมาพูดว่าเราสนิทกันจริงๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
จขกท. อาจจะไม่ทราบ งั้นขอเล่าที่มาที่ไปของสายสัมพันธ์แต่ละคนนิดนึงละกันค่ะ

อ่อ...แต่ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนว่าวัฒนธรรมเกาหลีนี่จะค่อนข้างซีเรียสเรื่องความอาวุโสอยู่มาก
แปลว่าคนที่แก่กว่าแค่ปีเดียวก็ต้องให้ความเคารพว่าเป็นพี่แล้ว และเค้านับที่ "ปีเกิด" ด้วย
เช่น บางคนเกิด มกรา 1991 ยังเรียกคนเกิด ธันวา 1990 ว่าพี่เลยค่ะ
ด้วยเหตุนี้ทำให้จะสนิทเป็นเพื่อนกับคนเกิดปีเดียวกันได้ง่ายกว่า เพราะไม่ต้องเกรงใจมากเหมือนคนที่เกิดคนละปี

ทีนี้เรามาดูว่าโซชิแต่ละคนรู้จักกันยังไงตั้งแต่ตอนไหนนะคะ

หมายเหตุ - ข้อมูลต่อไปนี้อาจมีผิดพลาดเล็กน้อยบางประการได้ แต่เราเอาเท่าที่จำได้หรือเคยได้ยินมานะคะ


- ซูยอง, เจสสิก้า, ฮโยยอน เข้ามาเป็นเด็กฝึกใน sm ตอนปี 2000 หรือคือเมื่อ 12-13 ปีที่แล้ว
ตอนนั้นทั้งสามคนน่าจะอยู่ประมาณ ป.5-6 ได้ เจสสิก้ากับฮโยเกิดปี 1989 เหมือนกัน
ส่วนซูยองถึงจะเกิดต้นปี 1990 แต่ก็เรียนในระดับชั้นเดียวกันกับอีกสองคน จึงถือว่าเป็นเพื่อนกัน
ซูยองกับฮโยก็คงเรียนโรงเรียนปกติ ส่วนเจสสิก้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ
แต่ที่เหมือนกันคือพอเข้ามาเป็นเด็กฝึกแล้วก็จะต้องเข้าไปฝึกที่บริษัทหลังเลิกเรียน
ตอนช่วงประถมเราเดาว่าคงไม่ได้เข้าไปฝึกถี่มาก แต่พอขึ้น ม.ต้น ก็น่าจะถี่ขึ้นตามลำดับค่ะ
และการฝึกของ sm มีทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่คงเป็นแบบกลุ่ม
ดังนั้นคนที่เข้าบริษัทในปีเดียวกันแถมยังอายุเท่ากัน ก็ย่อมเจอกันตอนฝึกบ่อยๆ อยู่แล้ว
ด้วยอายุที่เท่ากันก็ย่อมสนิทและเป็นเพื่อนกันไปโดยปริยาย มากกว่าเด็กฝึกคนอื่นที่เกิดก่อน
เพราะจะมีระยะห่างของความอาวุโสและเกรงใจกันอยู่ค่ะ

- ยูริชนะการประกวดหรือออดิชั่นนี่แหละค่ะ และเข้า sm ตอนปี 2001 ซึ่งก็คงยังอยู่ประมาณ ป.6 เช่นกัน
ยูริเกิดปี 1989 ดังนั้นจึงอายุเท่ากับแก๊งค์ข้างบนอีกแล้ว เพราะงั้นการเป็นเพื่อนกันจึงไม่ใช่เรื่องยาก
แม้ว่าตอนเข้าไปแรกๆ จะโดน 3 คนข้างบนแกล้งเก๊กทำตัวเป็นรุ่นพี่ให้ยูริต้องยำเกรงพูดสุภาพอยู่ด้วยเป็นปี
แต่หลังจากนั้นก็น่าจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันได้เพราะเกิดปีเดียวกันนั่นแหละค่ะ

- ยุนอาเข้า sm ตอนปี 2002 แต่อายุห่างจากพวกข้างบน 1 ปี แปลว่าก็คงเข้าไปตอนประมาณ ป. 5-6 เช่นกัน

- น้องซอเข้า sm ปี 2003 แต่อายุห่างจากพวกข้างบน 2 ปี ดังนั้นก็เข้าบริษัทตั้งแต่ประถมเช่นกัน

- แทยอนกับฟานี่เข้า sm ปี 2004 และเพราะไม่มีบ้านในโซลกันทั้งคู่จึงได้อยู่หอของ sm มาตั้งแต่ตอนนั้น
และก็เป็นรูมเมทกันมาตั้งแต่ตอนนั้นด้วย(แต่ห้องนึงน่าจะอยู่กันเยอะค่ะ น่าจะ 3-4 คนล่ะมั้ง?)
สองคนนี้เข้าบริษัทมาตอนจบ ม.ต้น (หรืออาจจะกำลังจะจบ?) แต่ที่น่าสังเกตคือสองคนนี้เกิดปี 1989 อีกแล้ว

นอกจากนี้พอขึ้น ม.ปลาย ฟานี่ยังเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่เดียวกับเจสสิก้าด้วย
ฟานี่กับเจสเลยได้ช่วยกันในหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องเรียนและเรื่องฝึก แม้ว่านิสัยจะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่
แต่อยู่ๆ ไปก็เข้ากันได้เอง สองคนนี้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าช่วยกันทำรายงานมั่งอะไรมั่งไปตามเรื่องค่ะ
แล้วคบๆ กันไปก็สนิทกันเพราะถึงตอนแรกจะคิดว่าต่างกันสุดขั้ว แต่พอสนิทแล้วก็มีรสนิยมหลายอย่างที่คล้ายกัน

- ซันนี่เป็นคนที่เข้า sm มาก่อนโซชิเดบิวต์แค่ประมาณ 9 เดือน เป็นคนที่รู้จักกับคนที่เหลือมาสั้นที่สุด
แต่บางทีมันอาจเป็นโชคชะตาที่ซันนี่ก็เกิดปี 1989 อีกแล้ว



นั่นเป็นข้อมูลพื้นฐานนะคะ ทีนี้ยังมีข้อมูลอีกอย่างก็คือ นับตั้งแต่สาวๆ เดบิวต์ตอนปี 2007 จนถึงช่วงพีคของเกิร์ลกรุ๊ปคือ 2009
แทบไม่มีสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวงอื่นที่เกิดปี 1989 เลยค่ะ นอกจากซอนเยกับเยอึน wonder girls
เราคิดว่าช่วงที่เดบิวต์ใหม่ๆ สองวงนี้น่าจะสนิทกันในระดับหนึ่ง แต่เพราะ WG ชิงดังมากไปก่อนจนงานยุ่ง
แถมต่อมายังหายไปอเมริกาซะนาน อาจทำให้ความสนิทสนมลดลงไปตามระยะทางน่ะค่ะ

ถ้าติดตามวงการไอดอลมาบ้างจะเห็นว่าชอบมี "ไลน์" กัน เช่น '94 ไลน์ หรือ '91 ไลน์ หรือก็คือกลุ่มเพื่อนไอดอลที่เกิดปีเดียวกัน
ทีนี้ลองนึกภาพนะคะว่า...ไอดอลหญิงที่เกิดปี 1989 เทมาอยู่วงโซชิซะ 6 คนเข้าไปแล้ว + ซูยองที่เนียนเป็นรุ่นเดียวกันเข้าไปอีกคนด้วย
เพราะงั้นภายในวงโซชิก็เหมือนสร้าง '89 ไลน์ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวแล้วล่ะค่ะ
นั่นคือเข้าวงการปุ๊บก็แทบไม่ต้องไปหาเพื่อนเกิดปีเดียวกันที่ไหน แค่ในวงตัวเองนี่ก็ได้เป็นแก๊งค์แล้ว

แน่นอนว่าเพื่อนหรือคนรู้จักนอกจากพวกเกิดปีเดียวกันก็ย่อมมีเพื่อนกลุ่มอื่นของใครของมันไปตามเรื่อง
แต่เพื่อนที่เกิดปีเดียวกันและเป็นไอดอลเหมือนกันก็เป็นอะไรบางอย่างที่หาคนมาทดแทนไม่ได้นะคะ
เพราะจะมีความเข้าใจกันและกันดีในวัยเดียวกัน ถึงได้เห็นรุ่นอื่นชอบสร้าง ไลน์ กัน
พวกที่เกิดปีเดียวกันจึงมักจะสนิทและไปจับกลุ่มกันอย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ


ขนาดวงอื่นๆ ที่เพิ่งจะมารู้จักกันตอนเดบิวต์แล้วไปจับกลุ่มเพื่อนเกิดปีเดียวกันเป็นแก๊งค์ยังสนิทกันมาก
คุณ จขกท. ก็ลองนึกภาพว่านอกจากในโซชิมันจะเกิดปีเดียวกันเป็นส่วนใหญ่จนได้ '89 ไลน์ส่วนตัวแล้ว
ขอให้ย้อนกลับไปอ่านข้อมูลพื้นฐานข้างบนอีกที ก็จะเห็นว่ากว่าครึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม
นับถึงตอนนี้ที่นานสุดก็ 13 ปีเข้าไปแล้ว ขนาดแทยอนกับฟานี่ที่เข้ามาทีหลังกลุ่มดั้งเดิมยังตั้ง 9 ปี
ส่วนยุนอากับน้องซอถึงจะเด็กกว่า แต่ก็รู้จักกับพี่ๆ และได้รับความเอ็นดูมาตั้งแต่ประถมจนตอนนี้ก็ปาเข้าไป 10-11 ปีแล้ว
ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่พี่ๆ ทั้ง 8 คนจะโคตรรักและเอ็นดูน้องซอยิ่งกว่าอะไรดีราวกับน้องสาวแท้ๆ
เพราะเป็นน้องสาวที่ฝึกมาด้วยกันและเดบิวต์ด้วยกันจนถึงตอนนี้ร่วม 10 ปี คนเราย่อมผูกพันกันเป็นธรรมดา
ยุนอาเองก็เหมือนกันค่ะ แต่พอดียุนมันนิสัยออกแนวเล่นซนกับพี่ๆ ได้ เพราะงั้นจึงคล้ายเพื่อนเล่น+น้องสาว
นั่นคือเวลาเล่นก็เล่นบ้าบอด้วยกันได้แบบไม่ต้องเกรงใจมาก แต่พี่ๆ ก็รักและเอ็นดูยุนมันมากเช่นกัน


ถ้าจะมีคนที่น่ากังวลที่สุดเรื่องที่อาจจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้คือซันนี่ค่ะ เพราะเข้ามาหลังสุด
คิดดูว่าคนอื่นเค้าเป็นเพื่อนกันมาตั้ง 6-7 ก่อนเดบิวต์ แต่ซันนี่เพิ่งจะมารู้จักคนอื่นแค่ไม่กี่เดือน
แต่ก็อย่างที่เราบอกว่ามันเป็นเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตมาที่ทำให้ซันนี่อายุเท่ากับสมาชิกส่วนใหญ่ในวงเป๊ะ
ดังนั้นความเป็น "เพื่อน" จึงสร้างขึ้นง่ายค่ะ เราลองนึกเล่นๆ ดูว่าสมมติซันนี่ไม่ได้เกิด 1989 แต่ดันไปเกิด 1987-1988 ไรงี้
บางทีอาจทำให้ไม่สนิทกันขนาดนี้และมีช่องว่างระหว่างกันก็ได้
เพราะคนที่เข้ามาทีหลังมันยากที่จะกลมกลืนไปกับความสัมพันธ์อันยาวนานของคนอื่นๆ นะคะ
แต่เพราะอายุเท่ากัน ทำให้ความเกรงใจระหว่างกันลดลงไปได้ตั้งแต่แรกเจอ
ประกอบกับนิสัยของซันนี่เองที่เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่เรื่องมาก (จนเพื่อนๆ บอกว่าบางทีก็ง่ายๆ เกินไปนะ...) ร่าเริงสดใสเป็นกันเอง
การเป็นคนแบบนี้ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสนิทกับคนอื่นค่ะ และคนอื่นก็คงรู้สึกว่าคบด้วยง่าย
ขนาดที่ซูยองเคยพูดว่าบางทีก็ลืมตัวนึกว่าเป็นเพื่อนกันซันนี่มา 10 ปีแล้วซะอีก


คำว่า Bond หรือ สายสัมพันธ์ มันคือความผูกพันที่ใช่ว่าจะสร้างได้ในชั่วข้ามคืนนะคะ
ไม่ใช่แค่จับเด็กวัยรุ่น 9 คนมาเดบิวต์ด้วยกันแล้วจะทำให้เกิดสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขนาดนี้ขึ้นมาได้
แต่ที่เรากล้าพูดว่ามันเป็น "สายสัมพันธ์อันลึกซึ้งและยาวนาน" ก็เพราะว่ามันยาวนานจริงๆ


คุณ จขกท. ถามตัวเองดูก็ได้ว่ามีเพื่อนกี่คนที่คบมาเกิน 10 ปีและปัจจุบันยังสนิทอยู่
ตัวเราเองมีเพื่อนสมัยมัธยมที่คบมา 20 ปีอยู่ค่ะ และเป็นกลุ่มเพื่อนที่รักและเข้าใจเรามากที่สุดเลย
ถึงช่วงเข้ามหาลัยและเรียนโทเราจะไปมีเพื่อนกลุ่มอื่นๆ ด้วย แต่ก็ไม่มีใครเหมือนเพื่อนกลุ่มนี้จริงๆ
พอเราโตมาแล้วถึงคิดได้ว่าน่าจะเป็นเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ ม.1 นี่แหละค่ะ
เพราะคนเราตอนที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กเราจะคบกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ใสซื่อ เป็นตัวตนที่แท้จริง
เห็นธาตุแท้กันมาตั้งแต่อายุ 11-12 จนบัดนี้เวลาจับกลุ่มคุยกันรู้สึกเหมือนย้อนวัยไปสมัยมัธยมไม่มีผิด ทั้งที่บางคนมีลูกมีเต้าแล้วด้วยซ้ำ
และเราเห็นความแตกต่างกับเพื่อนกลุ่มอื่นๆ ที่เราคบตอนโตแล้วมากเลยค่ะ
เพราะเพื่อนกลุ่มอื่นเริ่มคบตอนที่เราเริ่มมีการ "วางตัว" ในระดับหนึ่ง จะเรียกว่ามี "อัตตา" ก็ได้
นั่นคือถึงจะจริงใจต่อกันแต่ก็ยังมีฟอร์ม ยังมีมาด ยังสร้างกำแพงบางๆ ที่มองไม่เห็นมาปกคลุมกันและกัน
เพราะคนเราพอโตขึ้นมันจะคิดเยอะขึ้น และทำให้สร้างนั่นสร้างนี่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

พออายุเท่านี้เราถึงเข้าใจว่าเพื่อนที่รู้จักตัวตนและเข้าใจเราจริงๆ มีแค่เพื่อนกลุ่มนี้แหละ
เพราะกับเพื่อนกลุ่มอื่นพอเริ่มห่างๆ กันไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ความสนิทก็เริ่มเลือนรางลงไปด้วย
แต่กับเพื่อนกลุ่มนี้ต่อให้ปีนึงเจอกัน 2 หน แต่ทุกครั้งที่เจอก็กลับไปเป็นเด็กมัธยมเฮฮากันได้ทุกครั้งเลยค่ะ


และสำหรับโซชินี่เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ช่วงเดบิวต์แรกๆ ต้องฝ่าฟันมรสุมแอนตี้อะไรมากมายก่ายกอง
แบบที่ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอคงท้อใจจนล้มเลิกความฝันกันไปแล้ว
แต่เราคิดว่าที่ผ่านจุดนั้นมาได้ก็เพราะทั้ง 9 คนมี "กันและกัน" นี่ล่ะค่ะ
เพราะมีความ "ผูกพัน" กันมากพอเป็นทุนเดิมที่จะจับมือเดินทางผ่านอุปสรรคขวากหนามด้วยกันต่อไปได้
คนเราเนี่ยถ้าไม่มี "สายสัมพันธ์" ที่แน้นแฟ้นพอ ก็คงจะตัดใจปล่อยมือและเดินทางใครทางมันไปตั้งนานแล้ว


เราเข้าใจว่าคนที่ไม่รู้ประวัติและความเป็นมาดีพอก็คงข้องใจในโซชิบอนด์ไม่มากก็น้อย
เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าผู้หญิง 9 คนจะรักกันเหนียวแน่นได้แบบบริสุทธิ์ใจและจริงใจ
แต่ถ้ารู้ประวัติความเป็นมาและดูระยะเวลาความสัมพันธ์ของแต่ละคนแล้ว
ก็จะเข้าใจได้ค่ะว่าที่สาวๆ โซชิชอบใช้คำว่าเป็น "ครอบครัว" เดียวกัน ก็เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
นี่ไม่ใช่วงเกิร์ลกรุ๊ป 9 คนธรรมดาค่ะ แต่เป็น "พี่สาวน้องสาว 9 คนที่อยู่กันมาเป็น 10 ปี" ต่างหาก


พิมพ์มายืดยาวขนาดนี้ จริงๆ เราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนหรือญาติสนิทของใครในวง เพราะงั้นเราก็ไม่รู้ความจริงหรอกค่ะว่าเป็นไง
แต่ถ้าให้เราใช้ตรรกะและเหตุผลมาประกอบกับข้อเท็จจริงทั้งหลายด้านบนโน้นแล้ว
เราคิดว่าที่เราวิเคราะห์ไว้ก็น่าจะใกล้เคียงความจริงอยู่นะ เพราะอย่างน้อยๆ คนเราถ้าไม่สนิทกันจริงๆ
คงไม่สามารถรับส่งมุกกันได้คล่องปรื๊อจนน่าไปเปิดคณะตลกได้สบายๆ อย่างสาวๆ พวกนี้หรอกค่ะ
เออ...จริงๆ จะเรียกพวกนี้ว่า "คณะตลกที่ฟอร์มวงกันมากว่า 10 ปี" ก็พอจะได้นะเนี่ย 555+
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ... ว่ากันว่า คนที่ผ่านการ “ร่วมทุกข์” ด้วยกันมา จะมีความรัก ความผูกพันกันเป็นพิเศษ ไม่แน่ใจว่า จขกท. ติดตามวงการเพลงเกาหลีมานานหรือยัง ทันช่วงที่ได้รับรู้ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของสาวๆ หรือไม่ จริงๆ ผมก็ไม่ทันนะ เพราะเพิ่งมาติดตามเมื่อปี 2009 เพียงแต่ระยะเวลามันเพิ่งผ่านช่วงทุกข์ยากในปี 2008 มาไม่นาน จึงได้มีโอกาสได้เห็นข่าวข้อมูลต่างๆ ในช่วงนั้นพอสมควร

ถ้าย้อนเวลากลับไปในปี 2008 ถ้า ณ วันนั้น ถ้าใครพูดว่า โซนยอชิแด นี่แหละ ต่อไปจะเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุด กวาดรางวัลมากมายจากหลายสถาบัน คนพูดคงโดนหัวเราะว่า ไม่บ้าก็เมา คงไม่มีเกิร์ลกรุ๊ปวงไหนที่เคยโดนปิดแท่งไฟทั้งสนามจากบรรดาแอนตี้ทั้งหลาย ลองนึกภาพเด็กสาวอายุเพียง 17-19 ณ ตอนนั้น ต้องร้องเพลง และเต้น โดยที่น้ำตาท่วมไปทั้งหน้า ที่เมืองจีน เคยโดนเอาแท่งไฟมาทำกากบาท ทั้งสนามที่เมืองจีน ถึงขั้นขึ้นข้อความด่า บนสกอร์บอร์ด ทำได้ถึงขั้นนั้นคงไม่ธรรมดา พอมาปลายปี 2008 เตรียมจะออกเพลงใหม่ “Dancing Queen” อัดเสียงเสร็จแล้ว ถ่าย MV ไปแล้ว แต่ถูกยกเลิก ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่คนทั่วไปเพิ่งจะมารับรู้ไม่นานนี้เอง  ถ้านึกถึงสภาพจิตใจของพวกเธอในเวลานั้น เด็กสาวที่อายุไม่ถึง 20 ที่ต้องเผชิญความบอบช้ำทางจิตใจอย่างแสนสาหัส ณ วันนั้น คงต้องบอกว่า นอกจากแฟนคลับที่เป็นคนนอก มีเพียงพวกเธอทั้ง 9 เท่านั้น ที่จะต้องพยายามต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อสร้างการยอมรับให้ได้ ไม่อยากจะนึกว่า พวกเธอจะร้องไห้ด้วยกันทุกคืนหรือเปล่า

แต่ตรงนี้ต้องขอบอกไว้นิดนึงว่า การแอนตี้เหล่านั้นเนี่ย มันมาจากเหล่าแฟนคลับ K-POP ด้วยกันเอง แต่ไม่ได้มีผลต่อสาธารณชนมากนัก คนทั่วไปจะมองเรื่องแอนตี้เป็นเหมือนเรื่องของเด็กวัยรุ่น ดังนั้นหากวันใดที่พวกเธอสามารถครองใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ แอนตี้ก็จะอ่อนแรงไปเอง และวันนั้นก็มาถึงด้วยเพลง Gee ที่เป็นจุดเริ่มต้น ในการพลิกชีวิตให้พวกเธอ ก้าวขึ้นมาเป็นเกิร์ลกรุ๊ปอันดับ 1 เหมือนอย่างทุกวันนี้ การที่เราได้เห็นภาพเด็กพวกนี้กอดกันกลม ร้องไห้ ตอนได้รางวัลต่างๆ จึงไม่ใช่เพียงแค่การแสดงออกของความดีใจธรรมดา แต่เชื่อได้ว่า ภาพในหัวของพวกเธอตอนนั้น ต้องนึกถึงความยากลำบากที่ผ่านมา พอประสบความสำเร็จ ความรู้สึกมันจึงพรั่งพรูออกมา

โซนยอชิแดเป็นเกิร์ลกรุ๊ปไม่กี่วง ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงสมาชิกนับตั้งแต่เดบิวท์ ส่วนหนึ่งผมเชื่อว่า เป็นเพราะพวกเธอได้ร่วมทุกข์มาด้วยกัน จึงมีความรักความผูกพันกันเป็นพิเศษ ถามว่าวงอื่นจะมีความผูกพันแบบนี้มั้ย ผมก็ไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่ได้ตามใกล้ชิดจริงๆ เพียงแต่สำหรับโซชิ เรามีความรู้สึกรับรู้ได้ถึงออร่าแห่งความรักจากเด็กพวกนี้

ความคิดเห็นที่ 4
เราคิดว่า คำว่า "จริงๆแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ หรือแค่สร้างภาพเท่านั้น ?" นี่ใช้ได้กับหลายอย่างค่ะ
ในทำนองเดียวกับว่า เพื่อนในกลุ่มของคุณรักคุณจริงรึเปล่า หรือคบกันเพราะผลประโยชน์? ลูกน้องคุณจริงใจกับคุณหรือว่ามาดีด้วยเพราะคุณเป็นหัวหน้า?
เวลามีคนเอาของขวัญปีใหม่มาให้ เค้ารักเราจริงๆ หรือแค่สร้างภาพหรือทำเพื่อผลประโยชน์?
เวลามีคนช่วยเหลือคนอื่น เค้าต้องการช่วยจริงๆ หรือว่าแค่สร้างภาพว่าเป็นคนดี?
แม้แต่คนที่เป็นแฟนกัน เวลาพูดว่า รักคุณคนเดียว ยังไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังแอบไปมีคนอื่นหรือเปล่า แต่แค่พูดเพื่อสร้างภาพว่ารักคุณคนเดียวและไม่เคยนอกใจ


เพราะว่า การแสดงออกภายนอกมันคล้ายกัน คือทำสิ่งที่ดีๆ เหมือนกัน
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการทำสิ่งที่ดีๆ ก็ดีแล้ว ส่วน "จริงๆแล้วเป็นยังไง" เรามองว่า ถ้าคิดระแวงเรื่องนี้มากไปน่าจะเสียสุขภาพจิต(จากตัวอย่างที่บอกไปข้างบนเป็นต้น)
แต่ถ้าแค่สงสัยนิดหน่อย หรือถ้าหากว่าเห็นสิ่งที่ดีแล้วเชื่อแบบฟังหูไว้หู เราว่า ก็เป็นสิ่งที่มีข้อดีเหมือนกัน ^^
และแนะนำให้สังเกตจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ดูด้วยตัวเอง ว่าคุณดูแล้วรู้สึกได้มั้ยว่า เด็กพวกนี้รักผูกพันกันมากจริงๆ
เพราะว่า นักร้องทุกวงคงไม่อยากมาทะเลาะกันให้ใครเห็น และในการร่วมทีมทำงานด้วยกัน ก็ควรจะสามัคคีกันรักกันอยู่แล้วทุกวง
เราคงไม่อาจจะบอกว่า ต้องโซนยอชิแดเท่านั้นที่รักกันมากกว่าวงอื่นๆ หรือผูกพันกันยิ่งกว่าใคร เพราะเราคิดว่าวงอื่นเค้าก็รักกันมากเหมือนกันนะคะ
คงไม่ได้มีวงนี้วงเดียวที่รักกันมากๆ ขนาดนี้

เพียงแค่ เราเป็นแฟนวงนี้ และเราชอบสิ่งที่รู้สึกได้เมื่อได้ดู คือเรารู้สึกถึงความรัก(ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับวงอื่น)
ส่วนวงอื่นรักกันเหมือนกัน เราไม่ค่อยรู้รายละเอียดอะเพราะไม่ได้ติดตามเท่าไร แต่คิดว่าทุกคนก็คงจะชอบใจในความสนิทสนมของวงที่ตัวเองชอบค่ะ

--------------

เรื่องสนิทกันทุกคนรึเปล่า คงมีบางคนที่ไม่สนิท?? อันนี้เราแนะนำให้ลองอ่านกระทู้นี้ไปจนจบดูก่อนนะคะ ↓
http://topicstock.pantip.com/chalermkrung/topicstock/2011/08/C10885355/C10885355.html
พิมพ์ผิดเยอะไปหน่อยขออภัย

--------------

แล้วโซชิรักผูกพันกันมากจริงมั้ย??? หรือแค่เล่นกันได้แบบผิวเผิน
โซชิบอนด์เป็นยังไง เดี๋ยวไว้มาตอบใหม่นะคะถ้ามีโอกาส ตอนนี้หิวข้าว 55555
ความคิดเห็นที่ 5
เห็นด้วยกับคุณว๊อบแว๊บจริงๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี เราได้ยินคนอื่นพูด คนอื่นเล่า แต่ไม่ได้เห็นด้วยตา ไม่ได้รู้สึกด้วยตัวเอง การฟังหูไว้หูก็เป็นสิ่งที่ดี
และเราก็เห็นด้วยต่อไปอีกว่า หาก จขกท. อยากจะรู้จริงๆ การฟังพวกเราตอบ คงไม่ได้ทำให้เชื่อ แต่อยากให้ลองใช้เวลา สังเกตและพิจารณาดูเองค่ะ


ส่วนตัว สำหรับเรา โซชิบอนด์ มันเป็นมากกว่าการทำงาน แต่มันเป็นสิ่งที่เรารู้สึก เวลาเราเฝ้ามองเด็กๆ ฝ่าฟันอะไรๆมาด้วยกัน จริงอยู่ที่มันอาจจะเริ่มขึ้นจากความจำเป็น เริ่มจากการถูกจับมารวมเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่เวลาดู เวลาสังเกต เรารู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าทีมเวิร์คของเพื่อนร่วมงาน อันนี้เราไม่จิ้นคู่หรืออะไรนะคะ แต่มันเป็นความเป็นเพื่อน ความเป็นพี่น้อง ซึ่งส่วนนึงอาจจะมาจากการร่วมเดินทางฝ่าฟันอุปสรรค์มาด้วยกัน  

บางทีเราอาจจะเห็นอะไรแบบนี้มาจนชิน จนคิดไปว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา มันอาจจะแค่เป็นภาพที่เห็นในทีวี แต่ลองคิดดู หากไม่มีโซชิสิ่งที่เรียกว่าโซชิบอนด์ เวลาเราดู เราติดตาม มันคงไม่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ หรือถ้าจะบอกว่า ทุกวงก็แบบนี้แหละ อันนี้เราคิดว่าต้องลองติดตามดูวงอื่น และคิดถึงสิ่งที่เค้าผ่านมาด้วย (เราไม่คิดว่าโซชิบอนด์ เป็นสิ่งที่โซชิเท่านั้นที่มีนะคะ วงอื่นก็อาจจะมี แต่ก็คงไม่ทุกวงนะ ในความเห็นส่วนตัวเรา)

อย่างที่เราทราบกันอยู่ ว่าโซชิเคยเจอกับปัญหาแอนตี้หนักๆ ซึ่งก็หนักหนามากอยู่ สิ่งที่เรามองเห็นคือ ในเวลาที่ทุกข์ ทุกคนแชร์ความทุกข์ และพยายามช่วยเหลือกัน หากมันเป็นแค่การเฟค หรือความสัมพันธ์แบบผู้ร่วมงาน ดูแล้วเราอาจจะรู้สึก ว่าแต่ละคนคิดถึงตัวเองก่อน อาจจะรู้สึกถึงความความรู้สึกที่ว่า ชั้นไม่อยากอยู่วงนี้ ไม่อยากอยู่ร่วมวงกับคนนี้แล้ว ทำไมเราต้องมาอยู่ในวงที่มีคนไม่ชอบตั้งแต่เดบิวแบบนี้ด้วย  แต่เราไม่เคยรู้สึกนะ เรารู้สึกว่าเด็กๆพวกนี้ ช่วยกันพาทุกคนผ่านอุปสรรค์ไปด้วยกันจริงๆ ไม่คิดจะทิ้งหรือโทษใคร แบบนี้ละมั๊ง ที่ทำให้เรารักโซชิในแบบที่โซชิเป็น

เราเองไม่รู้โซชิเป็นการส่วนตัว ไม่เคยเห็นเค้าในมุมส่วนตัว คงไม่กล้าฟันธงว่าสิ่งที่เราเห็นมันเป็น Fact แต่เราเชื่อแบบนั้น เพราะสิ่งที่เราเห็น แม้จะแค่ผ่านจอ แม้จะเห็นด้วยตาแค่บนเวที แต่มันก็ทำให้เรารู้สึก ลองพิจารณาดูเองค่ะ ว่า จขกท. ดูแล้วรู้สึกอะไร
ความคิดเห็นที่ 12
เพิ่มเติม..

หนึ่งในคลิปวิดีโอที่ผมเจ็บปวดสุดๆ ร้องไห้ 5 มิถุนายน 2011 Japan Arena Tour ที่ไซตามะ

คหสต. จริงๆ แล้วซันนี่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะออกมาตอนท้ายคอนส์ฯ แต่เธอก็ออกมา ถ้าไม่ใช่ Soshi Bond จะมีเหตุผลใดอื่นอีก
ความคิดเห็นที่ 7
ความเห็นส่วนตัว -- สำหรับเรา การที่แค่มาอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน มันก็ไม่เท่าไหร่หรอก
เหมือนเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เืพื่อนที่ทำงาน มันก็เท่านั้นเอง

แต่การที่คนที่มีความฝันเดียวกัน มาอยู่ด้วยกัน ฝ่าฟันช่วงเวลาที่แย่สุดๆ ช่วงเวลาที่แม้แต่นึกถึงก็ยังเจ็บปวด ต่างหาก
ถึงจะทำให้คำว่า"บอนด์"มันเกิดขึ้นมาจริงๆ เพราะเราจะมองเห็นตัวเราเองในคนอื่น เห็นว่าไม่ได้มีแค่เราคนเดียว แต่มี"เรา"อีก 8 คน

“When there are hurtful times and sad times, I’ve come to find that there is no one else but these nine people here. Even really close oppas or manager oppas..if they’re not in SNSD, no one really knows and understands. There were so many times like that and I wish that there will be no more times of hurt and sadness that brings us to tears… I love you, our SNSD.” - Kim Taeyeon (Taeyeon’s Chin Chin Radio, 13th January 2009).




There are things that can only understood by SNSD members. No matter how many times we tell everyone that we’re no jealous of each other; and we don’t really fight, we get over it quickly the next day; they don’t believe us.

Whenever they ask that kind of question to us, I would like to tell them, “Why would you ask that question, if you’re not going to believe it anyway?”

Unless you’re SNSD, you’ll never know..
-Choi Sooyoung
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่