คนกรุงเทพฯ ที่อาศัยอยู่ในนครหลวงของประเทศไทย ซึ่งว่ากันว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การศึกษาและการปกครองนั้น ในสายตาของคนไทยด้วยกันและสายตาของชาวโลก ถือเป็นกลุ่มคนที่ฉลาดที่สุดของประเทศ โดยคนส่วนใหญ่ “มีสมอง” จึงคิดเป็น คิดได้ สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างซับซ้อน และตัดสินใจทำในสิ่งถูกและดีงามได้นั้น ในวันนี้ เกิดมีคนเชื่อขึ้นมาอย่างกะทันหัน “คนกรุงเทพฯ
ส่วนใหญ่ ไร้สมอง”
ผมคงจะไม่ปรับโฟกัสลงไปชัดๆ ว่าคนที่เห็นชาวกรุงเทพฯ ไร้สมองเป็นผู้ใด และทำไมเล่าฮูจึงมั่นใจในความเชื่อของตนเองเช่นนั้น
แต่ขอฉายสปอตไลท์ไปที่คำพูดของเล่าฮู ซึ่งเป็นการบ่งบอกกลายๆ ว่า “ชาวกรุงสมองกลวง”
เป็นหุ่นยนต์ที่เล่าฮูป้อนข้อมูลอะไรใส่สมองแล้ว ก็จะเชื่อไปตามที่ตนป้อน
คำบ่งบอกกลายๆ ของเล่าฮูคือ “ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังจะมาถึงนั้น แม้ทางพรรคจะส่งเสาไฟฟ้าลงไปแข่งขัน ก็ยังชนะขาด”
เห็นกันชัดๆ แล้วใช่ไหม คำพูดดังกล่าวบอกความนัย “ชาวกรุงเป็นมนุษย์ที่ไร้สมองด้วยประการ
ทั้งปวง”
ก็ดูเอาเถอะ ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เป้าหมายคือ “ให้มนุษย์เลือกตัวแทนที่เป็นมนุษย์เข้ามาบริหารกทม. แทนประชาชน” แต่เล่าฮูผู้อยู่แดนไกล เชื่ออย่างห้ามใจไม่อยู่ จนต้องระบายความเชื่อดังกล่าวให้คนไทยรู้กันทั้งประเทศว่า “คนกรุงที่เป็นมนุษย์นั้น เป็นพวกไร้สมองคิด” เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
“คนกรุงยินดีจะเลือกเสาไฟฟ้า” มาเป็นตัวแทนบริหารงานใน กทม. แทนพวกตนได้
วจีอันตรายจากชิวหาอุดมด้วยสารพิษประโยคนี้ ไม่เพียงแต่คนไทยอีก 76 จังหวัด เท่านั้น ที่เยาะเย้ยคนกรุงเทพฯ เป็นพวก “สมองกลวง” แม้แต่ผู้คนทั่วทั้งโลกก็พลอยจะอายแทนคนกรุงเทพฯ ว่าเป็นมนุษย์ที่อยู่ในนครหลวงของประเทศไทยแท้ๆ แต่เป็น “พวกไร้สมอง”
ดังนั้น ถ้าในอนาคตอันใกล้ คนกรุงเทพฯ ทั้งหลายจะทำอะไรไม่เป็นเลย อ่านหนังสือก็ไม่ออก พูดจาอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ใครชวนให้ไปฆ่าตัวตายเป็นหมู่ ก็เดินตามต้อยๆ เป็นพรวน ก็จงอย่าได้ประหลาดใจไปเลยว่า “เกิดอะไรขึ้นกับคนกรุงเทพฯ”
ก็คนกรุงเทพฯ ในสายตาเล่าฮู เป็น “คนไร้สมอง” จึงทำทุกอย่างได้แค่หุ่นยนต์
การวิเคราะห์ของเล่าฮู “ฉลาดลึกซึ้งมาก” ที่รู้ใจคนกรุงเทพฯ อย่างถึงกึ๋น
......กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม.......
ที่มา:
http://www.naewna.com/politic/columnist/4917
ปล.ผมโชคดี ผมไม่ใช่คน กทม. เลยไม่ไร้สมอง...เอิ๊ก ๆ ๆ
คนกรุงเทพฯ ไร้สมอง
ส่วนใหญ่ ไร้สมอง”
ผมคงจะไม่ปรับโฟกัสลงไปชัดๆ ว่าคนที่เห็นชาวกรุงเทพฯ ไร้สมองเป็นผู้ใด และทำไมเล่าฮูจึงมั่นใจในความเชื่อของตนเองเช่นนั้น
แต่ขอฉายสปอตไลท์ไปที่คำพูดของเล่าฮู ซึ่งเป็นการบ่งบอกกลายๆ ว่า “ชาวกรุงสมองกลวง”
เป็นหุ่นยนต์ที่เล่าฮูป้อนข้อมูลอะไรใส่สมองแล้ว ก็จะเชื่อไปตามที่ตนป้อน
คำบ่งบอกกลายๆ ของเล่าฮูคือ “ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังจะมาถึงนั้น แม้ทางพรรคจะส่งเสาไฟฟ้าลงไปแข่งขัน ก็ยังชนะขาด”
เห็นกันชัดๆ แล้วใช่ไหม คำพูดดังกล่าวบอกความนัย “ชาวกรุงเป็นมนุษย์ที่ไร้สมองด้วยประการ
ทั้งปวง”
ก็ดูเอาเถอะ ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เป้าหมายคือ “ให้มนุษย์เลือกตัวแทนที่เป็นมนุษย์เข้ามาบริหารกทม. แทนประชาชน” แต่เล่าฮูผู้อยู่แดนไกล เชื่ออย่างห้ามใจไม่อยู่ จนต้องระบายความเชื่อดังกล่าวให้คนไทยรู้กันทั้งประเทศว่า “คนกรุงที่เป็นมนุษย์นั้น เป็นพวกไร้สมองคิด” เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
“คนกรุงยินดีจะเลือกเสาไฟฟ้า” มาเป็นตัวแทนบริหารงานใน กทม. แทนพวกตนได้
วจีอันตรายจากชิวหาอุดมด้วยสารพิษประโยคนี้ ไม่เพียงแต่คนไทยอีก 76 จังหวัด เท่านั้น ที่เยาะเย้ยคนกรุงเทพฯ เป็นพวก “สมองกลวง” แม้แต่ผู้คนทั่วทั้งโลกก็พลอยจะอายแทนคนกรุงเทพฯ ว่าเป็นมนุษย์ที่อยู่ในนครหลวงของประเทศไทยแท้ๆ แต่เป็น “พวกไร้สมอง”
ดังนั้น ถ้าในอนาคตอันใกล้ คนกรุงเทพฯ ทั้งหลายจะทำอะไรไม่เป็นเลย อ่านหนังสือก็ไม่ออก พูดจาอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ใครชวนให้ไปฆ่าตัวตายเป็นหมู่ ก็เดินตามต้อยๆ เป็นพรวน ก็จงอย่าได้ประหลาดใจไปเลยว่า “เกิดอะไรขึ้นกับคนกรุงเทพฯ”
ก็คนกรุงเทพฯ ในสายตาเล่าฮู เป็น “คนไร้สมอง” จึงทำทุกอย่างได้แค่หุ่นยนต์
การวิเคราะห์ของเล่าฮู “ฉลาดลึกซึ้งมาก” ที่รู้ใจคนกรุงเทพฯ อย่างถึงกึ๋น
......กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม.......
ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/4917
ปล.ผมโชคดี ผมไม่ใช่คน กทม. เลยไม่ไร้สมอง...เอิ๊ก ๆ ๆ