มีเรื่องอยากรบกวนเืพื่อนๆที่มีความรู้ด้านนี้หน่อยครับ
เรื่องเป็นแบบนี้ครับ
ถ้าเราเป็น กรรมการผู้จัดการบริษัท แห่งหนึ่ง ตอนนี้ทั้งบริษัท เหลือพนักงานคนเดียว ซึ่งก็คือเรา และบริษัทได้ดำเนินการ จะยื่นปิดบริษัท เพราะช่วงหลังบริษัทขาดทุนมาตลอด โดยส่งงบเปล่าไปแล้วประมาณ 6 เดือน แต่ยังไม่สามารถปิดได้ เนื่องจากมี สต๊อกคงเหลือ และ บัญชี O.D ธนาคารที่ยังติดตัวแดงอยู่
แล้วเราได้พยายามตั้งตัวใหม่ โดยทำธุรกิจแบบ ซื้อมา - ขายไป ไม่มีหน้าร้าน (ส่วนใหญ่จะซื้อขายกับผู้บริโภคโดยตรง ทาง internet ) โดยใช้ชื่อร้านใหม่ ยังไม่มีการจดทะเบียนการค้าใดๆทั้งสิ้น เพราะเพิ่งเริ่มทำ
ทีนี้ ธุรกิจใหม่ มีความจำเป็นจะต้องออกใบกำกับให้กับลูกค้า เพราะดันเสนอราคาโครงการแล้วผ่าน มีการ approve เรียบร้อย ( ใจจริงที่เสนอเป็นชื่อธุรกิจใหม่ เพราะอยากสร้างเครดิตด้วยครับ อยากค้าขายกันนานๆ ) แต่ว่า ธุรกิจนี้ อาจจะไม่มีการขายได้ทุกๆวัน คือประมาณว่า รายได้ยังไม่แน่นอน นั่นเองครับ เพราะเพิ่งเริ่ม ถึง ธุรกิจแบบนี้ มันมีต้นทุนไม่มาก เพราะเรายังไม่ซื้อสินค้าเข้า จนกว่าจะขายให้กับลูกค้าก่อน (ก็คือเสนอราคาโดยที่เรายังไม่มีของนั่นเองครับ และไม่มีลูกน้องด้วย ) แต่ก็ไม่อยากจ่ายค่าใช้จ่าย ที่ไม่ควรเสีย เพราะสเกลธุรกิจมันเล็กมาก เช่นพวกค่าสอบบัญชี เหมือนตอนจ่ายให้ บริษัทเก่า
มาถึงปัญหาครับ ในกรณีนี้ เราควรจะทำอย่างไร ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในการจดทะเบียนการค้าครับ
1. ยกเลิกการปิดบริษัทเก่า และใช้บริษัทเก่า ทำธุรกิจใหม่ ควบคู่ไปด้วย โดยใช้ชื่อเดิม ( แต่ค่าใช้จ่ายเกียวกับ บริษัท มันสูงมากจริงๆ ค่านู่น ค่านั่น เยอะมาก กลัวไม่รอดอีกรอบ ) หมายเหตุ สินค้าในธุรกิจใหม่ สามารถขายได้เลย โดยไม่ต้องไปจดวัตถุประสงค์ใหม่ครับ เพราะของเก่าครอบคลุมอยู่แล้ว
2. จดทะเบียนการค้าในนามบุคคลธรรมดาใหม่ และจดเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ( เพื่อออกใบกำกับ VAT )
3. วิธีือื่นๆ ( แต่คงไม่จดทะเบียน นิติบุคคล ใหม่อีก )
คือผมมีความรู้ในด้านนี้น้อยมากครับ ไม่รู้ระบบตรวจสอบของสรรพากร มันผูกพันชื่อผู้ทำกิจการในแบบไหน การคำนวณภาษีเงินได้ ยังไง การจดทะเบียนการค้า ใหม่ เก่า จะมีผลอะไรกับเราหรือไม่
ถ้าใครพอมีความรู้ รบกวนช่วยเหลือหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจยังไง ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ
รบกวนผู้ที่มีความรู้ เกี่ยวกับ ธุรกิจ การจดทะเบียน การเสียภาษี ช่วยหน่อยครัีบ
เรื่องเป็นแบบนี้ครับ
ถ้าเราเป็น กรรมการผู้จัดการบริษัท แห่งหนึ่ง ตอนนี้ทั้งบริษัท เหลือพนักงานคนเดียว ซึ่งก็คือเรา และบริษัทได้ดำเนินการ จะยื่นปิดบริษัท เพราะช่วงหลังบริษัทขาดทุนมาตลอด โดยส่งงบเปล่าไปแล้วประมาณ 6 เดือน แต่ยังไม่สามารถปิดได้ เนื่องจากมี สต๊อกคงเหลือ และ บัญชี O.D ธนาคารที่ยังติดตัวแดงอยู่
แล้วเราได้พยายามตั้งตัวใหม่ โดยทำธุรกิจแบบ ซื้อมา - ขายไป ไม่มีหน้าร้าน (ส่วนใหญ่จะซื้อขายกับผู้บริโภคโดยตรง ทาง internet ) โดยใช้ชื่อร้านใหม่ ยังไม่มีการจดทะเบียนการค้าใดๆทั้งสิ้น เพราะเพิ่งเริ่มทำ
ทีนี้ ธุรกิจใหม่ มีความจำเป็นจะต้องออกใบกำกับให้กับลูกค้า เพราะดันเสนอราคาโครงการแล้วผ่าน มีการ approve เรียบร้อย ( ใจจริงที่เสนอเป็นชื่อธุรกิจใหม่ เพราะอยากสร้างเครดิตด้วยครับ อยากค้าขายกันนานๆ ) แต่ว่า ธุรกิจนี้ อาจจะไม่มีการขายได้ทุกๆวัน คือประมาณว่า รายได้ยังไม่แน่นอน นั่นเองครับ เพราะเพิ่งเริ่ม ถึง ธุรกิจแบบนี้ มันมีต้นทุนไม่มาก เพราะเรายังไม่ซื้อสินค้าเข้า จนกว่าจะขายให้กับลูกค้าก่อน (ก็คือเสนอราคาโดยที่เรายังไม่มีของนั่นเองครับ และไม่มีลูกน้องด้วย ) แต่ก็ไม่อยากจ่ายค่าใช้จ่าย ที่ไม่ควรเสีย เพราะสเกลธุรกิจมันเล็กมาก เช่นพวกค่าสอบบัญชี เหมือนตอนจ่ายให้ บริษัทเก่า
มาถึงปัญหาครับ ในกรณีนี้ เราควรจะทำอย่างไร ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในการจดทะเบียนการค้าครับ
1. ยกเลิกการปิดบริษัทเก่า และใช้บริษัทเก่า ทำธุรกิจใหม่ ควบคู่ไปด้วย โดยใช้ชื่อเดิม ( แต่ค่าใช้จ่ายเกียวกับ บริษัท มันสูงมากจริงๆ ค่านู่น ค่านั่น เยอะมาก กลัวไม่รอดอีกรอบ ) หมายเหตุ สินค้าในธุรกิจใหม่ สามารถขายได้เลย โดยไม่ต้องไปจดวัตถุประสงค์ใหม่ครับ เพราะของเก่าครอบคลุมอยู่แล้ว
2. จดทะเบียนการค้าในนามบุคคลธรรมดาใหม่ และจดเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ( เพื่อออกใบกำกับ VAT )
3. วิธีือื่นๆ ( แต่คงไม่จดทะเบียน นิติบุคคล ใหม่อีก )
คือผมมีความรู้ในด้านนี้น้อยมากครับ ไม่รู้ระบบตรวจสอบของสรรพากร มันผูกพันชื่อผู้ทำกิจการในแบบไหน การคำนวณภาษีเงินได้ ยังไง การจดทะเบียนการค้า ใหม่ เก่า จะมีผลอะไรกับเราหรือไม่
ถ้าใครพอมีความรู้ รบกวนช่วยเหลือหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจยังไง ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ