จับโกหก ทักษิณ หลังศาลตัดสินยึดทรัพย์
ทำลายบ้านเมืองทำร้ายศาลสังเวยแรงอาฆาต
ทันทีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่ติดตามการเมืองคงจะจำกันได้ว่า ปฏิกริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เต็มไปด้วยความอาฆาต ผูกพยาบาท ต่อกระบวนการยุติธรรมไทย โดยกล่าวโทษไปที่อำมาตย์และยังมีการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควรอีกด้วย อันเป็นจุดเริ่มต้นความวุ่นวายในปี 2553 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจากการชุมนุมของมวลชน พัฒนาเป็นแก้วสามประการ คือ มีพรรคการเมือง มวลชน และกองกำลังติดอาวุธ ตามคำกล่าวของ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศชาตินับเนื่องจากวันที่ 10 เม.ย.-19 พ.ค.53
จากคำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลางดึกของคืนวันที่ 26 ก.พ.53 มีใจความที่สะท้อนถึงการโกหกของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้
1 อ้างว่าราคาหุ้นสูงขึ้นทั้งตลาดไม่ได้ใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ธุรกิจให้ตัวเอง ความจริงคือ ราคาหุ้นในช่วงที่ทักษิณเป็นนายกฯสูงขึ้นอย่างมนัยยะสำคัญและในกลุ่มธุรกิจสัมปทานผูกขาด และราคาหุ้นของบริษัทในเครือข่ายทักษิณสูงขึ้นสัมพันธ์กับการออกนโยบายเอื้อธุรกิจตัวเองได้ผลประโยชน์บนความเสียหายของรัฐ และไม่เคยพูดถึงความรับผิดชอบของตัวเองในขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรีรัฐบาลชวลิต ที่นำไทยไปเป็นทาสไอเอ็มเอฟ บริหารจนเศรษฐกิจไทยเกือบล่มสลาย
2 อ้างเศรษฐกิจในยุคตัวเองดีขึ้นทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แต่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศในยุคพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รัฐบาลหลังรัฐประหาร กลับสูงกว่ายุคทักษิณ อีกทั้งหนี้ในยุคปลายทักษิณเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนี้ครัวเรือนพุ่ง เงินออมติดลบ ดุลย์เงินสดมีปัญหา
3 อ้างรวยแล้วไม่คิดหาประโยชน์จากการเมือง แต่คำพูดของ คุณหญิงพจมาน ที่ยอมรับกับนายเสนาะ เทียนทอง ระบุชัดว่า เห็นการเมืองเป็นเรื่องธุรกิจที่ต้องแสวงหากำไรด้วยการอยู่ในอำนาจให้ได้อย่างน้อยสองสมัย
4 อ้างการเมืองดุและใจดำ ศาลลงมาเล่นการเมือง 100% เป็นการกล่าวโทษกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างความแตกแยก ทำร้ายบ้านเมืองด้วยแรงอาฆาตมิได้ให้ข้อเท็จจริงว่าศาลได้เปิดโอกาสให้ส่งทนายความสู้คดีอย่างเต็มที่แล้ว
5 เป็นเหยื่อการเมืองเพราะดุลอำนาจไปอยู่กับอำมาตย์ ทั้งที่กระบวนการตัดสินเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ แม้ว่า คตส.จะเกิดจาก คมช. แต่กฎหมายที่ใช้พิจารณาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ก่อนการรัฐประหาร อีกทั้งยังมีอัยการสูงสุดกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่งก่อนส่งขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาฯ และ ทักษิณ ยังใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาตามที่ รธน.ปี 50 เปิดโอกาสไว้ด้วย แต่ไร้ข้อมูลใหม่ศาลจึงยกฟ้อง
6 บอกว่าไม่อยากเล่นการเมืองอ้างเคยกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะไม่รับตำแหน่งนายกฯตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 ถ้าจำกันได้ ทักษิณ เคยประกาศเว้นวรรคการเมืองทำจดหมายลาพักให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯในขณะนั้นรักษาการแทน แต่ไม่นานก็เปลี่ยนใจกลับมาเป็นนายกฯอีก และยังพูดจากลับไปกลับมาหลายครั้งว่า พร้อมกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี จึงสวนทางกับสิ่งที่อ้างว่าจะถอนตัวจากการเมือง
7 อำมาตย์คนเดียวทำลายกฎหมายทำให้ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างรุนแรง ความจริงคือ กฎหมาย ป.ป.ช.ที่ทักษิณถูกพิพากษาว่ามีความผิดทั้งกรณีที่ดินรัชดาและการยึดทรัพย์นั้น ล้วนเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งเคยมีนักการเมืองถูกเล่นงานจากกฎหมายนี้มาก่อนแล้ว อาทิ นายรักเกียรติ สุขธนะ และนายวัฒนา อัศวเหม โดยบุคคลทั้งสองไม่เคยมีโอกาสยื่นอุทธรณ์เหมือน ทักษิณ ด้วยซ้ำ เพราะ รธน.ปี 40 ให้จบในศาลเดียวโดยไม่เปิดช่องให้ยื่นอุทธรณ์แตกต่างจากปี 50 จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นที่กล่าวหาว่าอำมาตย์ทำลายกฎหมาย เพราะเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้มานานแล้ว และในช่วงที่ ทักษิณ มีอำนาจก็ไม่เคยเดือดร้อนจนกระทั่งตัวเองถูกตัดสินว่าผิดจึงโยนบาปอำมาตย์ กล่าวโทษกระบวนการยุติธรรม
8 อ้างว่าถูกลอบฆ่าหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับการลอบสังหาร ทักษิณ ล้วนมีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเรื่องเท็จ หรือจงใจกุเรื่องขึ้นมาเพื่อสร้างข่าวเท่านั้น ทั้งกรณีระเบิดเครื่องบินการบินไทย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเป็นความผิดพลาดด้านเทคนิคของตัวเครื่องมิได้เกิดจากการลอบวางระเบิด รวมถึงกรณีคาร์บ๊อง และล่าสุดการจับอาวุธสงครามบริเวณชายแดนพม่าก็ได้รับคำยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่เกี่ยวกับการลอบสังหาร ทักษิณ แต่อย่างใด
9 ยุบพรรคพลังประชาชนเพื่อจัดการ สมัคร สุนทรเวช โดยไม่บอกความจริงว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจนศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้ใบแดงตามคำร้องของ กกต. ซึ่งตาม รธน.มาตรา 237 ระบุชัดว่าหากกรรมการบริหารพรรคเข้าไปมีส่วนร่วมกับการทุจริตเลือกตั้งจะต้องถูกยุบพรรคการเมือง คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นไปตามกฎหมายมิได้มีส่วนใดที่เป็นการกลั่นแกล้งตามที่มีการกล่าวอ้าง
10 การจัดตั้งรัฐบาลแทนรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มีการเปลี่ยนขั้วหันมาสนับสนุน ปชป.เป็นแกนนำรัฐบาลนั้นเป็นไปตามกระบวนการตามระบบรัฐสภา โดย ทักษิณ ยอมที่จะไม่ให้คนในพรรคของตัวเองเป็นนายกฯแต่ยกตำแหน่งนี้ให้หัวหน้าพรรคเล็กอย่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นแทน และส่งชื่อแข่งกับอภิสิทธิ์ แต่แพ้ในสภา จึงไม่มีส่วนใดเป็นการตั้งรัฐบาลนอกเกมตามความต้องการของอำมาตย์ตามที่มีการกล่าวอ้าง ล่าสุด ศาลอาญายังตัดสินจำคุกอริสมันต์ 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญาจากกรณีหมิ่นประมาท อภิสิทธิ์ เรื่องการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร โดยย้ำกระบวนการทางกฎหมายว่าเป็นการตั้งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยไม่แตกต่างจากยุคของนายสมัครและนายสมชาย
ก้าวข้าม “ทักษิณ” พาชาติพ้นกับดับทำลายบ้านเมือง
จับโกหก ทักษิณ หลังศาลตัดสินยึดทรัพย์
ทำลายบ้านเมืองทำร้ายศาลสังเวยแรงอาฆาต
ทันทีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่ติดตามการเมืองคงจะจำกันได้ว่า ปฏิกริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เต็มไปด้วยความอาฆาต ผูกพยาบาท ต่อกระบวนการยุติธรรมไทย โดยกล่าวโทษไปที่อำมาตย์และยังมีการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควรอีกด้วย อันเป็นจุดเริ่มต้นความวุ่นวายในปี 2553 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจากการชุมนุมของมวลชน พัฒนาเป็นแก้วสามประการ คือ มีพรรคการเมือง มวลชน และกองกำลังติดอาวุธ ตามคำกล่าวของ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศชาตินับเนื่องจากวันที่ 10 เม.ย.-19 พ.ค.53
จากคำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลางดึกของคืนวันที่ 26 ก.พ.53 มีใจความที่สะท้อนถึงการโกหกของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้
1 อ้างว่าราคาหุ้นสูงขึ้นทั้งตลาดไม่ได้ใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ธุรกิจให้ตัวเอง ความจริงคือ ราคาหุ้นในช่วงที่ทักษิณเป็นนายกฯสูงขึ้นอย่างมนัยยะสำคัญและในกลุ่มธุรกิจสัมปทานผูกขาด และราคาหุ้นของบริษัทในเครือข่ายทักษิณสูงขึ้นสัมพันธ์กับการออกนโยบายเอื้อธุรกิจตัวเองได้ผลประโยชน์บนความเสียหายของรัฐ และไม่เคยพูดถึงความรับผิดชอบของตัวเองในขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรีรัฐบาลชวลิต ที่นำไทยไปเป็นทาสไอเอ็มเอฟ บริหารจนเศรษฐกิจไทยเกือบล่มสลาย
2 อ้างเศรษฐกิจในยุคตัวเองดีขึ้นทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แต่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศในยุคพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รัฐบาลหลังรัฐประหาร กลับสูงกว่ายุคทักษิณ อีกทั้งหนี้ในยุคปลายทักษิณเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนี้ครัวเรือนพุ่ง เงินออมติดลบ ดุลย์เงินสดมีปัญหา
3 อ้างรวยแล้วไม่คิดหาประโยชน์จากการเมือง แต่คำพูดของ คุณหญิงพจมาน ที่ยอมรับกับนายเสนาะ เทียนทอง ระบุชัดว่า เห็นการเมืองเป็นเรื่องธุรกิจที่ต้องแสวงหากำไรด้วยการอยู่ในอำนาจให้ได้อย่างน้อยสองสมัย
4 อ้างการเมืองดุและใจดำ ศาลลงมาเล่นการเมือง 100% เป็นการกล่าวโทษกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างความแตกแยก ทำร้ายบ้านเมืองด้วยแรงอาฆาตมิได้ให้ข้อเท็จจริงว่าศาลได้เปิดโอกาสให้ส่งทนายความสู้คดีอย่างเต็มที่แล้ว
5 เป็นเหยื่อการเมืองเพราะดุลอำนาจไปอยู่กับอำมาตย์ ทั้งที่กระบวนการตัดสินเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ แม้ว่า คตส.จะเกิดจาก คมช. แต่กฎหมายที่ใช้พิจารณาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ก่อนการรัฐประหาร อีกทั้งยังมีอัยการสูงสุดกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่งก่อนส่งขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาฯ และ ทักษิณ ยังใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาตามที่ รธน.ปี 50 เปิดโอกาสไว้ด้วย แต่ไร้ข้อมูลใหม่ศาลจึงยกฟ้อง
6 บอกว่าไม่อยากเล่นการเมืองอ้างเคยกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะไม่รับตำแหน่งนายกฯตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 ถ้าจำกันได้ ทักษิณ เคยประกาศเว้นวรรคการเมืองทำจดหมายลาพักให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯในขณะนั้นรักษาการแทน แต่ไม่นานก็เปลี่ยนใจกลับมาเป็นนายกฯอีก และยังพูดจากลับไปกลับมาหลายครั้งว่า พร้อมกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี จึงสวนทางกับสิ่งที่อ้างว่าจะถอนตัวจากการเมือง
7 อำมาตย์คนเดียวทำลายกฎหมายทำให้ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างรุนแรง ความจริงคือ กฎหมาย ป.ป.ช.ที่ทักษิณถูกพิพากษาว่ามีความผิดทั้งกรณีที่ดินรัชดาและการยึดทรัพย์นั้น ล้วนเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งเคยมีนักการเมืองถูกเล่นงานจากกฎหมายนี้มาก่อนแล้ว อาทิ นายรักเกียรติ สุขธนะ และนายวัฒนา อัศวเหม โดยบุคคลทั้งสองไม่เคยมีโอกาสยื่นอุทธรณ์เหมือน ทักษิณ ด้วยซ้ำ เพราะ รธน.ปี 40 ให้จบในศาลเดียวโดยไม่เปิดช่องให้ยื่นอุทธรณ์แตกต่างจากปี 50 จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นที่กล่าวหาว่าอำมาตย์ทำลายกฎหมาย เพราะเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้มานานแล้ว และในช่วงที่ ทักษิณ มีอำนาจก็ไม่เคยเดือดร้อนจนกระทั่งตัวเองถูกตัดสินว่าผิดจึงโยนบาปอำมาตย์ กล่าวโทษกระบวนการยุติธรรม
8 อ้างว่าถูกลอบฆ่าหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับการลอบสังหาร ทักษิณ ล้วนมีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเรื่องเท็จ หรือจงใจกุเรื่องขึ้นมาเพื่อสร้างข่าวเท่านั้น ทั้งกรณีระเบิดเครื่องบินการบินไทย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเป็นความผิดพลาดด้านเทคนิคของตัวเครื่องมิได้เกิดจากการลอบวางระเบิด รวมถึงกรณีคาร์บ๊อง และล่าสุดการจับอาวุธสงครามบริเวณชายแดนพม่าก็ได้รับคำยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่เกี่ยวกับการลอบสังหาร ทักษิณ แต่อย่างใด
9 ยุบพรรคพลังประชาชนเพื่อจัดการ สมัคร สุนทรเวช โดยไม่บอกความจริงว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจนศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้ใบแดงตามคำร้องของ กกต. ซึ่งตาม รธน.มาตรา 237 ระบุชัดว่าหากกรรมการบริหารพรรคเข้าไปมีส่วนร่วมกับการทุจริตเลือกตั้งจะต้องถูกยุบพรรคการเมือง คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นไปตามกฎหมายมิได้มีส่วนใดที่เป็นการกลั่นแกล้งตามที่มีการกล่าวอ้าง
10 การจัดตั้งรัฐบาลแทนรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มีการเปลี่ยนขั้วหันมาสนับสนุน ปชป.เป็นแกนนำรัฐบาลนั้นเป็นไปตามกระบวนการตามระบบรัฐสภา โดย ทักษิณ ยอมที่จะไม่ให้คนในพรรคของตัวเองเป็นนายกฯแต่ยกตำแหน่งนี้ให้หัวหน้าพรรคเล็กอย่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นแทน และส่งชื่อแข่งกับอภิสิทธิ์ แต่แพ้ในสภา จึงไม่มีส่วนใดเป็นการตั้งรัฐบาลนอกเกมตามความต้องการของอำมาตย์ตามที่มีการกล่าวอ้าง ล่าสุด ศาลอาญายังตัดสินจำคุกอริสมันต์ 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญาจากกรณีหมิ่นประมาท อภิสิทธิ์ เรื่องการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร โดยย้ำกระบวนการทางกฎหมายว่าเป็นการตั้งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยไม่แตกต่างจากยุคของนายสมัครและนายสมชาย
ก้าวข้าม “ทักษิณ” พาชาติพ้นกับดับทำลายบ้านเมือง