ชัชชาติ สั่ง ขบ.นำเทคโนโลยีมาใช้ควบคุมดูแลการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ชี้ประเทศไทยมีรถถึง 32 ล้านคัน สูญเสียทางถนนมากสุดในอาเซียน เสียชีวิตจากอุบติเหตุบนถนนชั่วโมงละ 2 คน เร่งติดตั้ง GPS รถโดยสารสาธารณะคุมความเร็ว นำร่องรถบขส.ครบทุกคันในปีนี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการกำกับดูแลการขนส่งทางถนนว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาให้บริการกับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นบนท้องถนน เช่น การจราจรหนาแน่น อุบัติเหตุ และการก่ออาชญากรรม เป็นต้น ขณะเดียวกันเห็นว่าการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง สินค้า และบริการได้ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยใช้การขนส่งทางถนนเป็นหลักประมาณ 85% มีการใช้พลังงานถึงประมาณ 7 แสนล้านบาทต่อปี และมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนประมาณ 1.2 หมื่นคนต่อปี หรือชั่วโมงละ 2 คน สูงที่สุดในอาเซียน เชื่อว่า การใช้เทคโนโลยีเข้ามากำกับดูแลการใช้รถใช้ถนนจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้
ทั้งนี้ เห็นว่า เทคโนโลยีของระบบ GPS ผ่านดาวเทียมจะช่วยติดตามตำแหน่งของรถได้แล้ว กรมการขนส่งทางบกควรจะหาเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับรถที่ไม่จ่ายภาษี รวมถึงเทคโนโลยีการตรวจสอบรถที่วิ่งผ่านได้ทันทีว่าเป็นรถมาจากที่ไหน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ด้านนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า สิ้นสุดปี 2555 มีรถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกรวมทั่วประเทศทั้งหมด 32 ล้านคัน โดยในปี 2554 ประเทศไทยติดอันดับ 1ในอาเซียนที่มีการสูญเสียทางถนนมากที่สุด สาเหตุหลักมาจากขับรถเร็วกว่ากำหนด รองลงมาเป็นการขับตัดหน้ากระชั้นชิด มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 3% ของ GDP
ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้พยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อลดการสูญเสียและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การติดตั้งระบบ RFID ตรวจจับความเร็วของรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งทำให้รถตู้โดยสารไม่ขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการใช้ Laser ตรวจจับเคลื่อนที่ ตรวจจับความเร็วรถที่ขับเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างจัดซื้อเพิ่มเพื่อนำไปใช้ใน 75 จังหวัดทั่วประเทศด้วย
สำหรับการติดตั้งระบบ GPS ได้เริ่มนำมาติดตั้งที่รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แล้ว และจะติดตั้งครบทั้งหมดก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556 นี้ หลังจากนั้นกรมการขนส่งทางบก จะเชื่อมโยงระบบเพื่อตรวจสอบการให้บริการรถโดยสารทุกคันของ บขส.ได้ ส่วนรถโดยสารอื่นๆ เช่น รถตู้ จะติดตั้งให้ครบทั้งหมดภายในปีนี้เช่นกัน ส่วนรถหมวด 3 ซึ่งเป็นรถโดยสารที่วิ่งระหว่างจังหวัด จะติดตั้งให้ครบทั้งหมดภายใน 2 ปี
ข่าว
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000004271
ภาพ
http://www.voicetv.co.th/cache/images/82fbe64aa279565a298a21b06e20d255.jpg 
คนไทยนักซิ่ง แชมป์เกิดอุบัติเหตุอันดับ1 ในอาเซียน มีรถถึง 32 ล้านคัน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการกำกับดูแลการขนส่งทางถนนว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาให้บริการกับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นบนท้องถนน เช่น การจราจรหนาแน่น อุบัติเหตุ และการก่ออาชญากรรม เป็นต้น ขณะเดียวกันเห็นว่าการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง สินค้า และบริการได้ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยใช้การขนส่งทางถนนเป็นหลักประมาณ 85% มีการใช้พลังงานถึงประมาณ 7 แสนล้านบาทต่อปี และมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนประมาณ 1.2 หมื่นคนต่อปี หรือชั่วโมงละ 2 คน สูงที่สุดในอาเซียน เชื่อว่า การใช้เทคโนโลยีเข้ามากำกับดูแลการใช้รถใช้ถนนจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้
ทั้งนี้ เห็นว่า เทคโนโลยีของระบบ GPS ผ่านดาวเทียมจะช่วยติดตามตำแหน่งของรถได้แล้ว กรมการขนส่งทางบกควรจะหาเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับรถที่ไม่จ่ายภาษี รวมถึงเทคโนโลยีการตรวจสอบรถที่วิ่งผ่านได้ทันทีว่าเป็นรถมาจากที่ไหน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ด้านนายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า สิ้นสุดปี 2555 มีรถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกรวมทั่วประเทศทั้งหมด 32 ล้านคัน โดยในปี 2554 ประเทศไทยติดอันดับ 1ในอาเซียนที่มีการสูญเสียทางถนนมากที่สุด สาเหตุหลักมาจากขับรถเร็วกว่ากำหนด รองลงมาเป็นการขับตัดหน้ากระชั้นชิด มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 3% ของ GDP
ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้พยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อลดการสูญเสียและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การติดตั้งระบบ RFID ตรวจจับความเร็วของรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งทำให้รถตู้โดยสารไม่ขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการใช้ Laser ตรวจจับเคลื่อนที่ ตรวจจับความเร็วรถที่ขับเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างจัดซื้อเพิ่มเพื่อนำไปใช้ใน 75 จังหวัดทั่วประเทศด้วย
สำหรับการติดตั้งระบบ GPS ได้เริ่มนำมาติดตั้งที่รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แล้ว และจะติดตั้งครบทั้งหมดก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556 นี้ หลังจากนั้นกรมการขนส่งทางบก จะเชื่อมโยงระบบเพื่อตรวจสอบการให้บริการรถโดยสารทุกคันของ บขส.ได้ ส่วนรถโดยสารอื่นๆ เช่น รถตู้ จะติดตั้งให้ครบทั้งหมดภายในปีนี้เช่นกัน ส่วนรถหมวด 3 ซึ่งเป็นรถโดยสารที่วิ่งระหว่างจังหวัด จะติดตั้งให้ครบทั้งหมดภายใน 2 ปี
ข่าว http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000004271
ภาพ http://www.voicetv.co.th/cache/images/82fbe64aa279565a298a21b06e20d255.jpg