จากกรณีข่าวที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์ ในเรื่องที่แกนนำนปช.จะไปขอให้ศาลอธิบายคำพิพากษาให้ฟัง
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 191 เมื่อเกิดสงสัยในการบังคับตามคำพิพากษาหรือ คำสั่งถ้าบุคคลใดที่มีประโยชน์เกี่ยวข้องร้องต่อศาลซึ่งพิพากษา หรือสั่ง ให้ศาลนั้นอธิบายให้แจ่มแจ้ง
ซึ่งกระผมเห็นว่า ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ เคยใช้ทั้งพจนานุกรม รัฐธรรมนูญฉบับภาษาอังกฤษ ก็ควรจะใช้กฎหมายนี้เพื่ออธิบายคำพิพากษาได้นะครับ
และศาลนั้นโดยปกติเป็นที่พึ่งของประชาชนเพื่อที่จะอำนวยความยุติธรรม ไม่ควรมีคำพูดว่าคนที่มาขอพึ่งความยุติธรรมจากศาลว่าคนโง่หรือแกล้งโง่เลยนะครับ
ผมขอยกดำรัสของกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย ที่ผมยึดมั่นมาโดยตลอด เพื่อเตือนสติของท่านตุลาการศาลรัฐฐธรรมนูญ
"คนเราควรจะให้ แต่ไม่ควรขออะไรจากคนอื่น
ควรจะกินพอประมาณ ไม่ใช่กินมากเกินไปจนถึงกับท้องกาง
ควรจะช่วยเหลือ ไม่ใช่เหยียบย่ำ
ควรจะรับใช้ ไม่ควรคิดเป็นนายคน"
"ให้ถือเอาประโยชน์ส่วนตน เป็นที่สอง
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง
ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง
ถ้าท่านทรงธรรมแห่งอาชีพไว้ให้บริสทุธิ์"
ผมไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้เลย แต่ครั้งนี้อดไม่ได้จริงๆ
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 191 เมื่อเกิดสงสัยในการบังคับตามคำพิพากษาหรือ คำสั่งถ้าบุคคลใดที่มีประโยชน์เกี่ยวข้องร้องต่อศาลซึ่งพิพากษา หรือสั่ง ให้ศาลนั้นอธิบายให้แจ่มแจ้ง
ซึ่งกระผมเห็นว่า ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ เคยใช้ทั้งพจนานุกรม รัฐธรรมนูญฉบับภาษาอังกฤษ ก็ควรจะใช้กฎหมายนี้เพื่ออธิบายคำพิพากษาได้นะครับ
และศาลนั้นโดยปกติเป็นที่พึ่งของประชาชนเพื่อที่จะอำนวยความยุติธรรม ไม่ควรมีคำพูดว่าคนที่มาขอพึ่งความยุติธรรมจากศาลว่าคนโง่หรือแกล้งโง่เลยนะครับ
ผมขอยกดำรัสของกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย ที่ผมยึดมั่นมาโดยตลอด เพื่อเตือนสติของท่านตุลาการศาลรัฐฐธรรมนูญ
"คนเราควรจะให้ แต่ไม่ควรขออะไรจากคนอื่น
ควรจะกินพอประมาณ ไม่ใช่กินมากเกินไปจนถึงกับท้องกาง
ควรจะช่วยเหลือ ไม่ใช่เหยียบย่ำ
ควรจะรับใช้ ไม่ควรคิดเป็นนายคน"
"ให้ถือเอาประโยชน์ส่วนตน เป็นที่สอง
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง
ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง
ถ้าท่านทรงธรรมแห่งอาชีพไว้ให้บริสทุธิ์"