ตัวอย่างการแก้'หนี้ครู'

แนวคิดหนึ่งในการดำเนินนโยบายของประเทศ เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขของคนในประเทศ จากกรอบความคิด สร้างรายได้ ลดรายจ่าย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสิทธิต่างๆ ในสังคม และท้ายสุดคือการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของสังคม เรื่องท้าทายเรื่องหนึ่งคือ การแก้ไขปัญหาหนี้สิน ลงไปในรายละเอียดอีกนิด ในระดับกลุ่มที่มีประเด็นก็คือ กลุ่มคุณครู เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ครูส่วนใหญ่มีรายได้ไม่มาก มีค่าใช้จ่ายไม่น้อย
                           ปี 2555 ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถึงยอดหนี้ของครูทั้งระบบว่ามีสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท จากจำนวนครูทั้งหมดประมาณ 1.4 ล้านคน ตัวเลขดังกล่าวมาจากยอดรวมจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ ของครู ซึ่งการมีแหล่งกู้เงินดอกเบี้ยต่ำให้แก่ครู โดยแท้จริงและเป้าหมายเดิมนั้น มุ่งให้ถือเป็นสวัสดิการช่วยเหลือตามความจำเป็น หากแต่ปัจจุบันเงินกู้เหล่านั้นได้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ และเริ่มมีการตั้งคำถามว่า แหล่งเงินนี้เป็นช่องโหว่ของการกู้เงินไปใช้ในทางฟุ่มเฟือยหรือไม่
                           ขณะที่เครื่องมือของการแก้ไขปัญหาหนี้สินของครู คือการลดดอกเบี้ยเงินกู้ และจัดหาแหล่งเงินใหม่มาใช้หนี้เก่า หรือการหากองทุน หรือหาเงินงบประมาณสนับสนุนให้ครูมีรายได้เสริม วิธีการนี้อาจไม่ต่างจากการเอาปลามาให้คนที่หิว แต่คนหิวเมื่อรับประทานปลาไปแล้ว การหิวครั้งต่อไปจะมีปลาตัวใหม่มาหรือไม่ ทำอย่างไรจะมีกินทุกมื้อ โดยไม่ต้องรอน่าจะเป็นคำตอบที่ยั่งยืนมากกว่า เหตุเพราะว่าต้นตอของปัญหาในที่สุดแล้วก็คือการขาดความรู้ การขาดการวางแผนทางการเงินที่ดี การคิดจะก่อหนี้ จึงมุ่งไปสู่กระบวนการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในที่สุด
                           ผมได้อ่านเรื่องที่เอกชนภาคการเงิน กับภาคสถาบันพัฒนาความรู้ประชาชน และสถาบันการศึกษาได้ริเริ่มโครงการครูไทย พอเพียง โดยนำศักยภาพของสถาบันการเงินและเครือข่ายเข้าไปให้ความรู้ด้านการเงินกับครู โดยโครงการนำร่องมีกลุ่มเป้าหมายเป็นครู 2 กลุ่ม คือ ครูสอนคณิตศาสตร์ สังคมศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดการทางการเงิน และอีกกลุ่มคือครูสอนวิชาอื่นที่อายุงานไม่เกิน 5 ปี ซึ่งมีรายได้น้อย โดยอบรมให้ความรู้เรื่องของการทำบัญชีบุคคล การทำบัญชีครัวเรือน การออมรูปแบบต่างๆ การลงทุนหรือเงินต่อเงิน การจัดการหนี้ รวมถึงแนะนำให้คุณครูนำความคิดที่ได้ไปขยายผลต่อเพื่อนครูและไปสอนให้แก่นักเรียนด้วย
                           จุดประสงค์หลักของโครงการคือ การมุ่งไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการใช้เงินของคุณครูให้ถูกที่ถูกทาง เพื่อที่ท้ายสุดคุณครูเหล่านั้นจะได้มีเงินออมและใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข มีการตั้งเป้าหมายแบบการทำงานเอกชนแบบที่วัดได้จริง มีผลเป็นรูปธรรมกล่าวคือ
                           1.ตั้งเป้าว่าครูอย่างน้อย 40 คน จะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และ 2.จำนวนคุณครู 50% นำ 8% ของรายได้ไปจ่ายเพื่อลดหนี้
                           ผลก็คือว่าหลังการอบรม 6 เดือนครูทุกคนมีการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ โดย 92% ได้วางแผน งบประมาณรายเดือน และ 73% นำเงินกว่า 8% ของรายได้ไปชำระหนี้
                           ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ท่านหนึ่งเล่าว่า ปัจจุบันมีภาระจากการกู้เงินไปซื้อรถ ตั้งเป้าว่าหลังจากผ่อนรถหมดแล้วจะนำเงินไปลงทุนในกองทุนต่างๆ และได้สอดแทรกความคิด การบริหารเงินด้วยการให้นักเรียนทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ผ่านตารางของไมโครซอฟท์ เอกซ์เซล วิธีการตรงแบบสอนให้คนหิวจับปลาเป็น จับปลามาทำอาหารแล้วสอนต่อ บอกต่อได้


---------------------
(สวัสดีเศรษฐกิจ : ตัวอย่างการแก้ 'หนี้ครู' : โดย...สุรพล โอภาสเสถียร)

คมชักลึก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่