เก็บตกจากปลายปีก่อน ที่ผมเขียนจดหมายไปร้องเรียนนาซ่า ว่า ดร. ก้องภพ ชอบมาเมืองไทยแล้วมาพูดให้คนเชื่อว่า พายุสุริยะ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ (เมื่อ 2 ปี) หรือภัยพิบัติ พายุพัด น้ำท่วม (ปีที่แล้ว) ได้
ซึ่งก็รู้กันดีว่าทฤษฎีของแกที่อ้างเปเปอร์รัสเซีย เปเปอร์อินเดีย นั้นมั่วมาก จับแพะชนแกะเอาพายุสุริยะมาโยงกับเรื่องต่างๆ
แถมจับผิดง่ายด้วยว่าแผ่นดินไหวมันเกิดทุกวัน เล่นทางอย่างนี้ ก็ต้องโดนเข้าซักที่แหล่ะ
คราวนี้ ก้องภพ (ไม่กลับอเมริกาซะทีเฮะ) เลยมามุขใหม่ บอกว่าพายุสุริยะทำฝนแล้งซะเลย
ก็แหงล่ะ ปีนี้มันปี el nino มันก็ต้องแล้งอยู่แล้ว แต่มันเกี่ยวกับกระแสน้ำอุ่นในทะเลมหาสมุทรแปซิฟิกมันกลับทิศ มันก็เลยนำความแห้งแล้งมาฟากนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับพายุสุริยะ
เฮ้อ.. เป็นเอามาก ระวังนะ "ดร.นาซ่า" จะกลายเป็น "ดร. ปลาบู่" ไป
ปล. ยังดีว่าไม่ค่อยเป็นข่าวเท่าไหร่ แสดงว่านักข่าวเองก็เริ่มไม่ค่อยให้น้ำหนักกับแกแล้ว
--------------------------------------
จาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1357629049&grpid=&catid=19&subcatid=1904
"วิศวกรนาซา" ชี้พายุสุริยะไม่ได้ทำให้โลกแตก-น้ำไม่ท่วม แต่แล้ง ร้อนขึ้น
วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 14:24:14 น.
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่อาคารอเนกประสงค์สำนักงานใหญ่การประปานครหลวง จัดการบรรยายเรื่องพายุสุริยะ โดยมีนายก้องภพ อยู่เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการออกแบบเครื่องตรวจจับคลื่นไมโครเวฟอินฟาเรด จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา(นาซา) เป็นวิทยากร
นายก้องภพ กล่าวว่า ในปีนี้เป็นช่วงที่พายุสุริยะจะเกิดถี่ในรอบ 11 ปี ซึ่งพายุสุริยะที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภัยพิบัติโลกแตก แต่จะส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของโลกมีความแปรปรวน โดยพายุสุริยะจะมีผลกระทบกับสภาพอากาศ และพลังงานความร้อนใต้พิภพของโลก เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว ที่อาจจะมีมากกว่าปกติเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่สำหรับประเทศไทยนั้น สภาพอากาศในปีนี้จะแล้ง ไม่มีน้ำท่วม เนื่องจากปริมาณรังสีคอสมิกซ์นอกโลก หรือพลังงานประจุไฟฟ้าจากนอกโลกจะน้อยลง ส่งผลให้น้ำในอากาศลดลง ทำให้เกิดความแห้งแล้งบนโลก นอกจากนี้อากาศจะร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนสามารถสัมผัสได้ว่ามีอุณหภูมิสูงขึ้น ทั้งนี้ การที่เกิดพายุสุริยะถี่ในรอบ 11 ปี จะเกิด 3 วันต่อ 1 ครั้ง และไม่รุนแรง ซึ่งเราสามารถสังเกตเห็นความแปรปรวนของสภาพอากาศที่เกิดจากพายุสุริยะได้ด้วยตาเปล่า โดยประเทศที่อยู่บริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรจะสามารถสังเกตเห็นได้จากเมฆที่มีลักษณะแปลกตา เป็นริ้วๆ หรือเป็นลอนคลื่น ซึ่งระยะเวลาในการเกิดจะเกิดนาน 24 ชั่วโมง ส่วนบริเวณขั้วโลกจะเกิดแสงเหนือแสงใต้
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องรุนแรงที่จะเป็นภัยพิบัติโลกแตก เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเฝ้าระวังมากกว่า เพื่อให้เราตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดกับโลกที่มีอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ และทำให้ประชาชนรู้เท่าทันภัยธรรมชาติ” นายก้องภพกล่าว
"ดร.ก้องภพ อยู่เย็น บรรยายพิเศษ “พายุสุริยะ” ที่ กปน."
** เพิ่มเติม **
ในที่สุด ก็ขึ้นกระทู้แนะนำแล้ว ... เห็นได้ชัดเลยว่าถ้าตั้งกระทู้โดยใส่ tag แค่อันเดียว มันจะไม่แพร่กระจายไปหลายห้องให้ได้รับเสียงโหวตเยอะๆ ... แต่ผมก็ไม่อยากทำอย่างนั้นนะ ไม่งั้นคงมีคนห้องอื่นมาบ่นบ้างแน่ๆ
ดร. นาซ่า เป๋ !! พายุสุริยะไม่ทำให้น้ำท่วม แต่ทำให้ฝนแล้ง !!
ซึ่งก็รู้กันดีว่าทฤษฎีของแกที่อ้างเปเปอร์รัสเซีย เปเปอร์อินเดีย นั้นมั่วมาก จับแพะชนแกะเอาพายุสุริยะมาโยงกับเรื่องต่างๆ
แถมจับผิดง่ายด้วยว่าแผ่นดินไหวมันเกิดทุกวัน เล่นทางอย่างนี้ ก็ต้องโดนเข้าซักที่แหล่ะ
คราวนี้ ก้องภพ (ไม่กลับอเมริกาซะทีเฮะ) เลยมามุขใหม่ บอกว่าพายุสุริยะทำฝนแล้งซะเลย
ก็แหงล่ะ ปีนี้มันปี el nino มันก็ต้องแล้งอยู่แล้ว แต่มันเกี่ยวกับกระแสน้ำอุ่นในทะเลมหาสมุทรแปซิฟิกมันกลับทิศ มันก็เลยนำความแห้งแล้งมาฟากนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับพายุสุริยะ
เฮ้อ.. เป็นเอามาก ระวังนะ "ดร.นาซ่า" จะกลายเป็น "ดร. ปลาบู่" ไป
ปล. ยังดีว่าไม่ค่อยเป็นข่าวเท่าไหร่ แสดงว่านักข่าวเองก็เริ่มไม่ค่อยให้น้ำหนักกับแกแล้ว
--------------------------------------
จาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1357629049&grpid=&catid=19&subcatid=1904
"วิศวกรนาซา" ชี้พายุสุริยะไม่ได้ทำให้โลกแตก-น้ำไม่ท่วม แต่แล้ง ร้อนขึ้น
วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 14:24:14 น.
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่อาคารอเนกประสงค์สำนักงานใหญ่การประปานครหลวง จัดการบรรยายเรื่องพายุสุริยะ โดยมีนายก้องภพ อยู่เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการออกแบบเครื่องตรวจจับคลื่นไมโครเวฟอินฟาเรด จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา(นาซา) เป็นวิทยากร
นายก้องภพ กล่าวว่า ในปีนี้เป็นช่วงที่พายุสุริยะจะเกิดถี่ในรอบ 11 ปี ซึ่งพายุสุริยะที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภัยพิบัติโลกแตก แต่จะส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของโลกมีความแปรปรวน โดยพายุสุริยะจะมีผลกระทบกับสภาพอากาศ และพลังงานความร้อนใต้พิภพของโลก เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว ที่อาจจะมีมากกว่าปกติเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่สำหรับประเทศไทยนั้น สภาพอากาศในปีนี้จะแล้ง ไม่มีน้ำท่วม เนื่องจากปริมาณรังสีคอสมิกซ์นอกโลก หรือพลังงานประจุไฟฟ้าจากนอกโลกจะน้อยลง ส่งผลให้น้ำในอากาศลดลง ทำให้เกิดความแห้งแล้งบนโลก นอกจากนี้อากาศจะร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนสามารถสัมผัสได้ว่ามีอุณหภูมิสูงขึ้น ทั้งนี้ การที่เกิดพายุสุริยะถี่ในรอบ 11 ปี จะเกิด 3 วันต่อ 1 ครั้ง และไม่รุนแรง ซึ่งเราสามารถสังเกตเห็นความแปรปรวนของสภาพอากาศที่เกิดจากพายุสุริยะได้ด้วยตาเปล่า โดยประเทศที่อยู่บริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรจะสามารถสังเกตเห็นได้จากเมฆที่มีลักษณะแปลกตา เป็นริ้วๆ หรือเป็นลอนคลื่น ซึ่งระยะเวลาในการเกิดจะเกิดนาน 24 ชั่วโมง ส่วนบริเวณขั้วโลกจะเกิดแสงเหนือแสงใต้
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องรุนแรงที่จะเป็นภัยพิบัติโลกแตก เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเฝ้าระวังมากกว่า เพื่อให้เราตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดกับโลกที่มีอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ และทำให้ประชาชนรู้เท่าทันภัยธรรมชาติ” นายก้องภพกล่าว
"ดร.ก้องภพ อยู่เย็น บรรยายพิเศษ “พายุสุริยะ” ที่ กปน."
** เพิ่มเติม **
ในที่สุด ก็ขึ้นกระทู้แนะนำแล้ว ... เห็นได้ชัดเลยว่าถ้าตั้งกระทู้โดยใส่ tag แค่อันเดียว มันจะไม่แพร่กระจายไปหลายห้องให้ได้รับเสียงโหวตเยอะๆ ... แต่ผมก็ไม่อยากทำอย่างนั้นนะ ไม่งั้นคงมีคนห้องอื่นมาบ่นบ้างแน่ๆ