จากที่ผมได้ติดตามดูผลงานของลิเวอรพูลในเวลาที่อัลเลนกับลูคัสได้งลสนามพร้อมกันนั้น รูปแบบการเล่นออกมา ยังไม่มีเกมไหนที่น่าพอใจเลยครับ เกมรุกก็รุกได้ไม่สุด บอลไปถึงกองหน้าน้อย ส่วนเกมรับก็มีปัญหาเรื่องการประกบตัวผู้เล่น ทีนี่ผมเลยไปขุดดูผลงานของทีมในฤดูกาลนี้ที่ทั้งคู่ลงสนามพร้อมกัน มาดูผลงานของพวกเขากันดีกว่าครับว่าเป็นยังไง
เกมที่ 1 : เวสต์บรอมวิช 3-0 ลิเวอร์พูล
เกมนี้เป็นเกมแรกในลีกของร็อดเจอร์สนะครับ ที่มาพร้อมกับระบบ Tiki taka โดยแดนกลาง 3 คนในวันนี้ ได้แก่ เจอร์ราร์ด อัลเลน ลูคัส ทำให้แฟนบอลทั้งหลายนึกถึงสามประสานกองกลางในยุคของราฟาที่ประกอบด้วย เจอร์ราร์ด อลอนโซ่ มาสเคราโน่ แต่ผลกลับตรงกันข้าม ลิเวอร์พูลโดนถล่มเละเทะสามลูก แต่ว่าเกมนี้เพิ่งเป็นแรกในลีกเท่านั้น การประสานงานอาจจะยังไม่ลงตัว รวมทั้งแอกเกอร์โดนไล่ออกตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
เกมที่ 2 : ลิเวอร์พูล 2-2 แมนซิตี้
ลูคัสเจ็บตั้งแต่นาทีที่ 5 ของเกม ซึ่งในขณะนั้นเกมยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 ซึ่งผมก็ไม่อาจรู้ได้ว่าถ้าทั้งคู่ได้เล่นด้วยกันจนจบเกม ผลจะออกมาเป็นยังไง
เกมที่ 3 : ลิเวอร์พูล 1-0 เซาแธมป์ตัน
หลังจากหายเจ็บไปนาน ก็ได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งสำหรับลูคัส เกมนี้ก็เป็นอีกเกมที่มีโอกาสครองบอลมากกว่าคู่ต่อสู้ค่อนข้างเยอะ โอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ก็ชนะไปได้แค่ลูกเดียวเท่านั้น
เกมที่ 4 : เวสต์แฮม 2-3 ลิเวอร์พูล
เกมนี้ลิเวอร์พูลขาดกองหน้าคนสำคัญอย่างซัวเรส ทำให้ต้องดันเชลวี่ย์มาเล่นตำแหน่งกองหน้า และก็เป็นอีกครั้งที่อัลเลนถูกเล่นงานด้วยลูกกลางอากาศ เวสต์แฮมสามารถคุมเกมในแดนกลางได้พอสมควร จนถึงในนาทีที่ 71 ขณะที่ตามเวสต์แฮมอยู่ 1-2 ร็อดเจอร์สตัดสินใจถอดลูคัสออกแล้วส่งเฮนเดอร์สันลงไป ผลออกมาก็คือเฮนโด้สามารถพลิกเกมจากที่ตามอยู่ 1-2 แซงชนะ 3-2 ไปได้ โดยที่เฮนโด้แอสซิสต์ให้กองหลังเวสต์แฮมทำเข้าประตูตัวเองเป็นประตูชัยตอนท้ายเกม
เกมที่ 5 : ลิเวอร์พูล 1-3 แอสตัน วิลล่า
เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่ช็อกชาวเดอะค็อปทั่วโลกมากที่สุุด เพราะว่าก่อนแข่งนั้นลิเวอร์พูลเหนือกว่าแทบจะทุกด้าน แต่ก็เป็นคู่หูนรก อัลเลน-ลูคัส จัดการกับเกมโต้กลับเร็วของวิลล่าไม่ได้เลย ถึงแม้จะครองบอลมากกว่าคู่แข่งอยู่เยอะก็ตาม และในนาทีที่ 60 ตอนนั้นสกอร์ตามอยู่ 0-3 เฮนโด้ถูกเปลี่ยนลงมาแทนลูคัสอีกครั้ง และหงส์แดงยิงคืนได้ 1 ประตูจากกัปตันเจิด แต่สุดท้ายก็ยังแพ้ไปแบบน่าอับอาย 1-3
เกมที่ 6 : ลิเวอร์พูล 4-0 ฟูแล่ม
เกมนี้อัลเลนถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และก็เป็นลิเวอร์พูลที่บุกแหลก จนถึงนาทีที่ 74 ขณะที่สกอร์นำอยู่ 3-0 ร็อดเจอร์สอยากซ้อมเกมรับดูบ้าง แต่ฝ่ายทีมเยือนก็ทำอะไรไม่ได้ และลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูตอนช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 ลูก จากเอ็นริเก้
เกมที่ 7 : ควีนสปาร์ค 0:3 ลิเวอร์พูล
เกมนี้ลูคัสถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และก็เป็นลิเวอร์พูลที่ได้สองลูกเร็วตั้งแต่ต้นเกม ทำให้จบครึ่งแรกนำขาดอยู่ถึง 3-0 ในครึ่งหลังนาทีที่ 64 ร็อดเจอร์สเปลี่ยนตัวเพื่อไล่แฟนบอลชาวไทยไปนอน โดยการส่งลูคัสลงมาเพื่อแพ็กเกมในแดนกลางคู่กับอัลเลน จบเกมสกอร์ของลิเวอร์พูลจึงจบอยู่ที่ 3 ประตูเหมือนเดิม
เกมที่ 8 : ลิเวอร์พูล 3:0 ซันเดอร์แลนด์
เกมนี้อัลเลนถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และก็เป็นเจ้าบ้านที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ออกนำห่าง 2-0 ในครึ่งแรก และได้ประตูที่ 3 ในต้นครึ่งหลัง จนกระทั่งในนาทีที่ 57 ร็อดเจอร์สเปลี่ยนตัวแพ็คเกมในแดนกลางอีกครั้ง ด้วยการส่งอัลเลนลงมาแทนสเตอร์ลิ่ง จบเกมสกอร์ของลิเวอร์พูลจึงจบอยู่ที่ 3 ประตูเท่าเดิม
เกมที่ 9 : แมนสฟิลด์ 1:2 ลิเวอร์พูล
เกมนี้ไม่ขอวิจารณ์อะไรมากครับ เพราะตัวสำรองลงสนามเยอะ พื้นสนามห่วย ชนะแบบงงๆกลับมาได้ก็ถือว่าโชคดีมากๆแล้ว
อ้างอิงจาก :
http://www.football-lineups.com/season/Liverpool/2012-2013/
ถ้าให้นับประตูที่ทำได้ในยามที่ทั้งสองคนได้ลงสนามพร้อมกัน มีทั้งสิ้น 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งได้จากเซาแธมป์ตัน เวสต์แฮม ฟูแล่ม ทีมละ 1 ประตู และจากแมนสฟิลด์อีก 2 ประตู ( หรือใครอยากจะนับว่าได้แค่ 1 ประตู ก็ตามสบายนะครับ ) แต่ถ้าพิจารณาจากประตูที่เสียไป มีจำนวนมากถึง 9 ประตู จากเวสต์บรอมวิชกับวิลล่า ทีมละ 3 ลูก เวสต์แฮม 2 ลูก แมนสฟิลด์ 1 ลูก
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ทั้งคู่ควรจะได้ลงสนามพร้อมกัน นั่นก็คือในเวลาที่ทีมนำคู่แข่งหลายลูก และต้องการพักผู้เล่นในแนวรุกครับ ซึ่งมันไม่ใช่เกมวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้แน่นอนครับ อยากให้ร็อดเจอร์สตาสว่างซักที ระบบ Tiki-Taka ที่มีอัลเลนเป็นตัวเชื่อมเกมนั้นมันไปไม่รอดจริงๆ ถ้าหากว่าร็อดเจอร์สยังคงยึดมั่นในความคิดเดิมๆ ส่งทั้งคู่ลงสนามพร้อมกันตั้งแต่ต้นเกมอีกครั้ง ก็เท่ากับว่าปิดประตูชนะไปได้เลย
ผลงานของทีมลิเวอร์พูลในเกมที่ โจ อัลเลน กับ ลูคัส เลว่า ได้ลงสนามพร้อมกัน
เกมที่ 1 : เวสต์บรอมวิช 3-0 ลิเวอร์พูล
เกมนี้เป็นเกมแรกในลีกของร็อดเจอร์สนะครับ ที่มาพร้อมกับระบบ Tiki taka โดยแดนกลาง 3 คนในวันนี้ ได้แก่ เจอร์ราร์ด อัลเลน ลูคัส ทำให้แฟนบอลทั้งหลายนึกถึงสามประสานกองกลางในยุคของราฟาที่ประกอบด้วย เจอร์ราร์ด อลอนโซ่ มาสเคราโน่ แต่ผลกลับตรงกันข้าม ลิเวอร์พูลโดนถล่มเละเทะสามลูก แต่ว่าเกมนี้เพิ่งเป็นแรกในลีกเท่านั้น การประสานงานอาจจะยังไม่ลงตัว รวมทั้งแอกเกอร์โดนไล่ออกตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
เกมที่ 2 : ลิเวอร์พูล 2-2 แมนซิตี้
ลูคัสเจ็บตั้งแต่นาทีที่ 5 ของเกม ซึ่งในขณะนั้นเกมยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 ซึ่งผมก็ไม่อาจรู้ได้ว่าถ้าทั้งคู่ได้เล่นด้วยกันจนจบเกม ผลจะออกมาเป็นยังไง
เกมที่ 3 : ลิเวอร์พูล 1-0 เซาแธมป์ตัน
หลังจากหายเจ็บไปนาน ก็ได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งสำหรับลูคัส เกมนี้ก็เป็นอีกเกมที่มีโอกาสครองบอลมากกว่าคู่ต่อสู้ค่อนข้างเยอะ โอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ก็ชนะไปได้แค่ลูกเดียวเท่านั้น
เกมที่ 4 : เวสต์แฮม 2-3 ลิเวอร์พูล
เกมนี้ลิเวอร์พูลขาดกองหน้าคนสำคัญอย่างซัวเรส ทำให้ต้องดันเชลวี่ย์มาเล่นตำแหน่งกองหน้า และก็เป็นอีกครั้งที่อัลเลนถูกเล่นงานด้วยลูกกลางอากาศ เวสต์แฮมสามารถคุมเกมในแดนกลางได้พอสมควร จนถึงในนาทีที่ 71 ขณะที่ตามเวสต์แฮมอยู่ 1-2 ร็อดเจอร์สตัดสินใจถอดลูคัสออกแล้วส่งเฮนเดอร์สันลงไป ผลออกมาก็คือเฮนโด้สามารถพลิกเกมจากที่ตามอยู่ 1-2 แซงชนะ 3-2 ไปได้ โดยที่เฮนโด้แอสซิสต์ให้กองหลังเวสต์แฮมทำเข้าประตูตัวเองเป็นประตูชัยตอนท้ายเกม
เกมที่ 5 : ลิเวอร์พูล 1-3 แอสตัน วิลล่า
เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่ช็อกชาวเดอะค็อปทั่วโลกมากที่สุุด เพราะว่าก่อนแข่งนั้นลิเวอร์พูลเหนือกว่าแทบจะทุกด้าน แต่ก็เป็นคู่หูนรก อัลเลน-ลูคัส จัดการกับเกมโต้กลับเร็วของวิลล่าไม่ได้เลย ถึงแม้จะครองบอลมากกว่าคู่แข่งอยู่เยอะก็ตาม และในนาทีที่ 60 ตอนนั้นสกอร์ตามอยู่ 0-3 เฮนโด้ถูกเปลี่ยนลงมาแทนลูคัสอีกครั้ง และหงส์แดงยิงคืนได้ 1 ประตูจากกัปตันเจิด แต่สุดท้ายก็ยังแพ้ไปแบบน่าอับอาย 1-3
เกมที่ 6 : ลิเวอร์พูล 4-0 ฟูแล่ม
เกมนี้อัลเลนถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และก็เป็นลิเวอร์พูลที่บุกแหลก จนถึงนาทีที่ 74 ขณะที่สกอร์นำอยู่ 3-0 ร็อดเจอร์สอยากซ้อมเกมรับดูบ้าง แต่ฝ่ายทีมเยือนก็ทำอะไรไม่ได้ และลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูตอนช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 ลูก จากเอ็นริเก้
เกมที่ 7 : ควีนสปาร์ค 0:3 ลิเวอร์พูล
เกมนี้ลูคัสถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และก็เป็นลิเวอร์พูลที่ได้สองลูกเร็วตั้งแต่ต้นเกม ทำให้จบครึ่งแรกนำขาดอยู่ถึง 3-0 ในครึ่งหลังนาทีที่ 64 ร็อดเจอร์สเปลี่ยนตัวเพื่อไล่แฟนบอลชาวไทยไปนอน โดยการส่งลูคัสลงมาเพื่อแพ็กเกมในแดนกลางคู่กับอัลเลน จบเกมสกอร์ของลิเวอร์พูลจึงจบอยู่ที่ 3 ประตูเหมือนเดิม
เกมที่ 8 : ลิเวอร์พูล 3:0 ซันเดอร์แลนด์
เกมนี้อัลเลนถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และก็เป็นเจ้าบ้านที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ออกนำห่าง 2-0 ในครึ่งแรก และได้ประตูที่ 3 ในต้นครึ่งหลัง จนกระทั่งในนาทีที่ 57 ร็อดเจอร์สเปลี่ยนตัวแพ็คเกมในแดนกลางอีกครั้ง ด้วยการส่งอัลเลนลงมาแทนสเตอร์ลิ่ง จบเกมสกอร์ของลิเวอร์พูลจึงจบอยู่ที่ 3 ประตูเท่าเดิม
เกมที่ 9 : แมนสฟิลด์ 1:2 ลิเวอร์พูล
เกมนี้ไม่ขอวิจารณ์อะไรมากครับ เพราะตัวสำรองลงสนามเยอะ พื้นสนามห่วย ชนะแบบงงๆกลับมาได้ก็ถือว่าโชคดีมากๆแล้ว
อ้างอิงจาก : http://www.football-lineups.com/season/Liverpool/2012-2013/
ถ้าให้นับประตูที่ทำได้ในยามที่ทั้งสองคนได้ลงสนามพร้อมกัน มีทั้งสิ้น 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งได้จากเซาแธมป์ตัน เวสต์แฮม ฟูแล่ม ทีมละ 1 ประตู และจากแมนสฟิลด์อีก 2 ประตู ( หรือใครอยากจะนับว่าได้แค่ 1 ประตู ก็ตามสบายนะครับ ) แต่ถ้าพิจารณาจากประตูที่เสียไป มีจำนวนมากถึง 9 ประตู จากเวสต์บรอมวิชกับวิลล่า ทีมละ 3 ลูก เวสต์แฮม 2 ลูก แมนสฟิลด์ 1 ลูก
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ทั้งคู่ควรจะได้ลงสนามพร้อมกัน นั่นก็คือในเวลาที่ทีมนำคู่แข่งหลายลูก และต้องการพักผู้เล่นในแนวรุกครับ ซึ่งมันไม่ใช่เกมวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้แน่นอนครับ อยากให้ร็อดเจอร์สตาสว่างซักที ระบบ Tiki-Taka ที่มีอัลเลนเป็นตัวเชื่อมเกมนั้นมันไปไม่รอดจริงๆ ถ้าหากว่าร็อดเจอร์สยังคงยึดมั่นในความคิดเดิมๆ ส่งทั้งคู่ลงสนามพร้อมกันตั้งแต่ต้นเกมอีกครั้ง ก็เท่ากับว่าปิดประตูชนะไปได้เลย