วันที่๒๔ ผมได้ไปเล่นใน KRYSTAL BAY GOLF CLUB เป็นสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย อยู่ที่บางพระ อำเภอศรีราชา สนามนี้มีขนาด๒๗หลุม ๓ สนาม ๑๐๘ พาร์ ระยะรวม ๙๖๓๑ หลา เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ๑๙๘๙ เป็นสนามที่ออกแบบไว้สวยงาม ภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นช่องเขาที่มีลมพัดแรง
คืนที่๒๓ เราไปนอนที่โรงแรมแปซิฟิคปาร์คใกล้กับห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เพื่อจะได้ตื่นเช้าไปออกรอบตามเวลาที่จองไว้ ก๊วนนี้มีคุณจรัญ หอมเทียนทอง คุณวินัย ชาติอนันต์ และคุณเสน่ห์ ดงยะโสภา
คุณจรัญจัดรถตู้อย่างดีมาคันหนึ่ง รับผมกับคุณวินัยขึ้นจากร้านกาแฟปากซอยชินเขต ดิ่งตรงไปศรีราชา แวะรับประทานอาหารทะเลกันที่เขาสามมุก และเช็คอินเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อเตรียมความพร้อมในตอนเช้า
รุ่งขึ้นเราตื่นตั้งแต่หกโมงลงมาทานอาหารประเภทข้าวต้ม ไข่ดาว ขนมปัง แฮม ชาและกาแฟในห้องอาหาร ผมไม่ค่อยนิยมอาหารเช้า จึงหยิบขนมปังสองแผ่นมานั่งเคี้ยวเล่น และตามด้วยน้ำส้มอีกแก้วหนึ่ง
คุณจรัญว่า ไม่หิวก็ควรกินตามสิทธิ์ที่เขาให้มา
ผมพยักหน้าครับ ๆ แต่ไม่ยอมลุกไปตักอะไร
แปดโมงตรง เรานั่งรถตู้จากโรงแรมไปถึงสนามคริสตัล เบย์
คลับเฮ้าส์ของสนามแห่งนี้หรูหรา ห้องอาบน้ำประดับกระเบื้องหินอ่อน มีห้องอบซาวน่าอยู่ติดกับห้องน้ำ บริเวณทางเข้าตรงกลางห้องโถงจัดโต๊ะอาหารไว้เต็มพื้นที่เพื่อต้อนรับนักกอล์ฟชาวต่างชาติ
ช่วงเช้าของวันเสาร์ เต็มไปด้วยนักกอล์ฟชาวญี่ปุ่น ที่ทยอยกันมาทีละก๊วนสองก๊วน พวกเขาเล่นแรง เดินเร็ว ก้าวฉับ ๆ แทบไม่หายใจหายคอ แคตดี้บอกว่า พวกเขาเล่นกันทั้งเช้าและบ่ายจนครบ ๒๗ หลุม พักเที่ยงทานข้าวไม่เกินชั่วโมง ก็ชวนลงสนามอีก นักกอล์ฟพวกนี้ส่วนใหญ่มาทำงานเป็นผู้บริหารอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมละแวกใกล้ ๆ เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุด แทบจะวิ่งเข้าสนามกอล์ฟ พวกเขาเล่นกันทั้งวัน ด้วยเหตุที่ว่าสนามกอล์ฟในเมืองไทยมีอัตราค่าบริการที่แสนถูกเมื่อเปรียบกับสนามในประเทศของเขา
แคตดี้ของผมอายุ ๑๕ ยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมปีที่สาม ตามแม่มาทำงานพิเศษในวันหยุด ผมถามว่ารู้เรื่องกอล์ฟบ้างไหม เธอส่ายหน้า บอกว่ารู้จักแค่ลูกกอล์ฟกับเหล็กเบอร์ต่าง ๆ ผมว่า งั้นช่วยดูให้ดีนะว่าผมตีลูกไปทางไหน เธอพยักหน้ารับ
วันนี้ผมตั้งใจเล่น และนิ่งมากเป็นพิเศษ บทเรียนเรื่องความขี้อวดขี้โอ่ได้รับการปรับปรุงแล้วบางส่วน ผมจะเล่นให้เนี๊ยบ เล่นให้มีความสุขขึ้น ไม่พวักพวงว่าใครจะเล่นได้เก่งหรือเล่นได้ดีกว่าแค่ไหน
คุณจรัญถามว่า จะลองติดปลายนวมสักนิดไหม เพื่อว่าจะได้ตั้งใจมากขึ้น ผมตอบว่าได้ แต่พี่ต้องต่อให้ผมนะ
คุณจรัญกับคุณเสน่ห์ตกลง
ส่วนคุณวินัยให้ตีไปตามสบาย ไม่ต้องมาร่วมลุ้น ถือว่าเป็นน้องใหม่ ฝึกฝนกับของจริงไปเรื่อย ๆ อีกสักระยะหนึ่งจะตีได้แม่น ตีได้ดี สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเองไปจนรู้ว่า ตัวเองเหมาะที่จะใช้วงสวิงแบบไหน
คุณเสน่ห์นั้นเล่นกอล์ฟมานาน ขึ้นแท่นทีออฟตีด้วยหัวไม้หนึ่งได้ระยะ และแม่นยำ นาน ๆ จึงจะสร้างปัญหาให้กับตัวเองเสียสักหนด้วยการหวดลูกหายเข้าไปในพุ่มหญ้าและต้องใช้เวลาหาอยู่พักใหญ่
แม้แดดจะแรง แต่ลมพัดจัดทำให้ไม่รู้สึกร้อนสักเท่าไรนัก ผมเดินตากแดด จนผิวเกรียม รอยแว่นปรากฏขึ้นชัดเจนอีกครั้ง เด็กหญิงอายุสิบห้าเดินกางร่มลากถุงกอล์ฟตามหลัง ถามว่า “กางร่มให้เอาไหม” ผมส่ายหน้า “ไม่เอา”ไม่อยากแย่งร่มจากมือเธอ เพราะถ้าผมกาง เธอก็จะเป็นฝ่ายต้องเดินตากแดดแทนผม
เพราะนิ่งมากป็นพิเศษ วันนี้ผมพัตต์โบกี้ได้เกือบทุกหลุม แถมช็อตไหนที่มีปัญหา ไม่รู้ว่าจะตัดสินอย่างไร ตีลูกด้วยเหล็กไหน ผมก็ขอความช่วยเหลือจากคุณจรัญให้มาช่วยสอนให้ และผมก็ทำตามคำแนะนำอย่างดี หลม๘พาร์5 ผมตีลูกไปหยุดที่ขอบทราย ซึ่งสร้างเป็นบังเกอร์ขึ้นมาสูงมาก ผมลงไปยืนไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าจะตีลูกไปข้างหน้าได้อย่างไร คุณจรัญแนะนำให้ผมเคาะลูกไปกลางแฟร์เวย์ และค่อยชิพขึ้นกรีน
เพราะประสบการณ์น้อย ผมคิดเรื่องนี้ไม่ออก แก้ปัญหาไม่ได้ ผมคิดแต่จะหวดลูกให้ขึ้นกลางกรีนอย่างเดียว ซึ่งโอกาสที่จะพลาดมีสูง
คุณจรัญบอกว่า ถ้าลูกตกทราย หรือหลุดไปอยู่หลังกรีน ผมก็ยิ่งเสียแต้มหนักขึ้นไปอีก แค่ผมเปลี่ยนมุมมองนิดเดียว ก็สามารถแก้ตัวได้จนช็อตสุดท้าย ผมทำตามคำแนะนำ และก็ประสบผลสำเร็จอย่างดี
ที่คอสA หลุม7พาร์4 ผมหวดลูกไปอยู่บริเวณโคนต้นไม้ ห่างจากกรีนสักยี่สิบหลา หากผมใช้เหล็ก9 หรือพิตชิ่ง ผมอาจจะหวดจนลูกหลุดออกนอกกรีน หรือไม่ก็ทำให้ลูกชนต้นไม้ คุณจรัญเดินเข้ามาแก้ไขสถานกาณ์ให้อีกครั้ง บอกว่าให้ ใช้แซน ตีแค่ครึ่งวง ช้อนลูกให้ลอยข้ามต้นไม้ และลูกก็จะไปตกอยู่บนกรีนใกล้ธงพอดี
เขาถามว่า ทำได้ไหม ผมพยักหน้า และยืนอย่างมั่นคง ทำสมาธิ และหวดเหล็กลงไป ลูกลอยขึ้นเหมือนปาฏิหาริย์ ข้ามยอดไม้ไปจริง ตกห่างจากธงในระยะพัตต์พอดิบพอดี
อีกช็อตที่น่าเสียใจมาก หลุม8 พาร์5 ก่อนที่จะออนขึ้นกรีน มีน้ำขวางอยู่ ระยะราว90 หลา ผมต้องวางลูกไว้หน้าน้ำและค่อยชิพขึ้นไปบนกรีนในระยะไม่ถึงร้อยสี่สิบหลา ผมตั้งใจมากเป็นพิเศษ ใช้พิตชิ่งช้อนลูกขึ้นเต็มวง ลูกไปตกหน้าน้ำพอดีเหมือนจับวาง แต่เสียดายที่มันค่อย ๆ กลิ้งหลุน ๆ ลงไปในน้ำหน้าตาเฉย
ผมรู้สึกใจคอไม่ดี ต้องแก้ด้วยการตีลูกดรอปจากหน้าน้ำให้ขึ้นกรีน ผมหวดลมกะระยะอยู่สามสี่ครั้ง ตั้งใจให้ลูกลอยพ้นน้ำไปตกอยู่บนกรีนในระยะใกล้ธงที่สุด เมื่อหวดจริง เสียงดัง “ก๊อก” ปลายเหล็กตีถูกด้านบนของลูกกอล์ฟ ทำให้ลูกวิ่งเป็นทหารราบตกน้ำอีกหนหนึ่ง เป็นช็อตที่ทำให้
ผมเข่าอ่อนนั่งลงกับพื้นหญ้าเลยทีเดียว
เราเล่นกันจนครบสิบแปดหลุม เลิกเอาตอนบ่ายสองโมง ผมรู้สึกมีความสุขมากกับการละเมียดของตัวเอง ไม่ตีลูกบุ่มบ่ามสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่อไปแล้ว คุณจรัญก็ให้คำสอนที่เป็นประโยชน์แทบทุกหลุม ที่ผมจำได้แม่นก็คือ “ก่อนจะทำอะไรต้องวางแผนให้ดี คิดให้รอบคอบเสียก่อน”
คุณจรัญเขาเป็นมือโปรฯเป็นนักวางแผนชีวิต เขาเริ่มอาชีพจากการดูแลร้านหนังสือ คอยเก็บเงินให้เถ้าแก่ ตอนหนุ่มเข้าร่วมขบวนการนักศึกษาในยุคสิบสี่ตุลา ออกมาทำสำนักพิมพ์แสงดาวล้มลุกคลุกคลานมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่จะไปทำชิปปิ้ง จนกระทั่งมีผลกำไร ก็หวนกลับมาก็มาทำสำนักพิมพ์อีก ไม่นานความสำเร็จก็มาเยือน สำนักพิมพ์แสงดาวของเขาขยายตัวเติบโตอย่างเห็นได้ชัด เขาบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะแม่คนเดียว
เขาเล่าเรื่องแม่ให้ฟังว่า เป็นนักสู้ชีวิต เลี้ยงลูกชายสี่คนให้เติบโตขึ้นมาด้วยใจเด็ดเดี่ยว หลายครั้งหลายหนที่เขาประสบมรสุมชีวิต ก็มีมือแม่คอยมาฉุดดึงให้เขากลับมายืนได้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนเขามีวันนี้ขึ้นได้
คุณจรัญเป็นนักกอล์ฟที่มีความรู้เรื่องกอล์ฟมากคนหนึ่ง เล่นกอล์ฟมาเกือบยี่สิบปี เคยออกรอบแทบทุกวันวันไหนไม่ออกรอบก็ไปลงสระน้ำ ซ้อมไดร์ฟ ตลอดทั้งสัปดาห์โดยไม่หยุด อ่านหนังสือมากอยู่ในระดับหนอนหนังสือสำคัญคนหนึ่งของวงการ พิมพ์หนังสือดี ๆ มาเป็นร้อย ๆเล่ม เช่นดร.ชิวาโก ศึกสเปญ สามก๊ก สามเกลอ ตำนานเสรีไทย เป็นคนชอบช่วยเหลือเพื่อน อ่านใจคนขาด เป็นนักพูดในที่สาธารณะได้ดี จับใจผู้ฟัง
คุณจรัญเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาอยากให้เมืองไทยมีการอ่านหนังสืออย่างจริงจัง อยากให้การซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดโดยการตัดสินใจของบรรณารักษ์ ให้เขาได้เลือกหนังสือด้วยตนเอง
“ผมฝันว่าให้เมืองไทยเป็นสังคมแห่งการอ่าน อยากให้คนไทยอ่านหนังสือกันให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่เป็นกิจกรรมชั่วครั้งชั่วคราว ผมอยากเสนอให้ภาครัฐว่าควรออกเทศบัญญัติว่า ในหนึ่งตึกสูงต้องมีหนึ่งห้องสมุด ในเมื่อเราสร้างตึกสูงบังคับให้มีห้องน้ำได้ มีบันไดหนีไฟได้ เราก็น่าจะบังคับให้มีห้องสมุดได้ ผมว่ามันง่าย เปลี่ยนเทศบัญญัติว่า ตึกที่สูงเกินสี่ชั้นต้องมีหนึ่งห้องสมุด”
ผมชอบที่ได้นั่งร่วมวงฟังคุณจรัญพูด เขาดูโผงผาง แต่จริงใจ เช่นเรื่องที่เขาพูดกับเพื่อนคนหนึ่งที่อยากจะออกไปทำธุรกิจเปิดเต็นท์ขายรถ คุณจรัญว่า วงการขายรถมือสองนั้นต้องกะล่อน รู้จักการปั้นดินให้เป็นดาว ต้องมีใจอมหิต รู้จักย้อมแมวเป็น ทำสีเป็น เขาบอกว่าคนที่ขายรถแล้วรวยนั้นมีไม่มาก “เราต้องไม่ลืมว่า คนล้มไม่มีเสียง ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เขียนโดยผู้ชนะเสมอ” เขาสรุปและพูดกับเพื่อนว่า “คุณไม่ใช่คนกะล่อน อย่าไปทำอาชีพนี้เลย”
เขาว่าอาชีพที่สามารถทำให้ร่ำรวยได้นั้นมีอยู่สามอย่างคือ
หนึ่ง ค้าที่ดิน
สอง เป็นนายหน้า
และสาม เล่นหุ้น
สำหรับคนมีเงินอายุห้าสิบขึ้นไป คุณจรัญว่า การเล่นหุ้นนั้นน่าสนใจที่สุด เขาแนะนำให้ไปที่ห้องค้าหลักทรัพย์ที่เดอะมอลงามวงศ์วาน ไปสมัครเป็นสมาชิกและสร้างพอร์ต ให้ซื้อหุ้นที่เรียกว่ายอดดอย คือเป็นหุ้นดีเช่นหุ้นของธนาคารต่าง ๆ หุ้นเหล่านี้มีกำไรน้อยแต่ชัวร์ การเล่นหุ้นนั้นถ้าเล่นเป็น ไม่โลภมาก ก็เปรียบเสมือนเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างหนึ่ง ส่วนหุ้นสิ่งพิมพ์นั้นไม่ควรซื้อ คนเล่นหุ้นต้องเป็นคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างเกาะติด เมื่อเล่นหุ้นเป็นประจำสมองจะได้ทำงาน แก่ขึ้นจะไม่หลง ๆ ลืม ๆ
ส่วนคนที่มีเงิน ถ้าอยากจะผลาญเงินตัวเองให้หมดภายในเวลาอันรวดเร็วก็ควรจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างคือ หนึ่ง เล่นการเมือง สอง ทำหนังสือพิมพ์ และสร้างหนังไทย
คุณจรัญมีเรื่องเล่ามากมายเหมือนไม่จบไม่สิ้น เขากว้างขวางอยู่ในวงการหนังสือ มีเพื่อนหลายอยู่ในแวดวงการเมือง มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับกลุ่มคนที่ทำการส่งออก ดังนั้นเรื่องเล่าของเขาจึงน่าสนใจ น่ารับฟังเสมอ
โดยเฉพาะเรื่องกอล์ฟนั้น เขาเชี่ยวชาญมากเป็นพิเศษ รู้ว่า สนามไหนมีข้อดีข้อเด่นอย่างไร รู้ว่าควรจะเล่นกอล์ฟให้มีความสุขได้แบบไหน เขามีเพื่อนร่วมก๊วนหลากหลายอาชีพ
ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม คุณจรัญมีความปรารถนาดี คอยแนะนำแก้ไขจุดบกพร่องให้ผมเป็นระยะ ผมรู้สึกได้ถึงความกรุณาที่เขามีให้แก่ผมซึ่งนักกอล์ฟหน้าใหม่
เราออกจากสนามกอล์ฟแล้วดิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรม แล้วขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯในตอนค่ำ ระหว่างทางก็มีเรื่องพูดคุยกันอีกร้อยแปดเรื่อง ทั้งมีสาระและไร้สาระ เป็นที่สนุกสนานตลอดการเดินทางอันแสนสุข
ไปเล่นกอล์ฟที่ศรีราชา
คืนที่๒๓ เราไปนอนที่โรงแรมแปซิฟิคปาร์คใกล้กับห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เพื่อจะได้ตื่นเช้าไปออกรอบตามเวลาที่จองไว้ ก๊วนนี้มีคุณจรัญ หอมเทียนทอง คุณวินัย ชาติอนันต์ และคุณเสน่ห์ ดงยะโสภา
คุณจรัญจัดรถตู้อย่างดีมาคันหนึ่ง รับผมกับคุณวินัยขึ้นจากร้านกาแฟปากซอยชินเขต ดิ่งตรงไปศรีราชา แวะรับประทานอาหารทะเลกันที่เขาสามมุก และเช็คอินเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อเตรียมความพร้อมในตอนเช้า
รุ่งขึ้นเราตื่นตั้งแต่หกโมงลงมาทานอาหารประเภทข้าวต้ม ไข่ดาว ขนมปัง แฮม ชาและกาแฟในห้องอาหาร ผมไม่ค่อยนิยมอาหารเช้า จึงหยิบขนมปังสองแผ่นมานั่งเคี้ยวเล่น และตามด้วยน้ำส้มอีกแก้วหนึ่ง
คุณจรัญว่า ไม่หิวก็ควรกินตามสิทธิ์ที่เขาให้มา
ผมพยักหน้าครับ ๆ แต่ไม่ยอมลุกไปตักอะไร
แปดโมงตรง เรานั่งรถตู้จากโรงแรมไปถึงสนามคริสตัล เบย์
คลับเฮ้าส์ของสนามแห่งนี้หรูหรา ห้องอาบน้ำประดับกระเบื้องหินอ่อน มีห้องอบซาวน่าอยู่ติดกับห้องน้ำ บริเวณทางเข้าตรงกลางห้องโถงจัดโต๊ะอาหารไว้เต็มพื้นที่เพื่อต้อนรับนักกอล์ฟชาวต่างชาติ
ช่วงเช้าของวันเสาร์ เต็มไปด้วยนักกอล์ฟชาวญี่ปุ่น ที่ทยอยกันมาทีละก๊วนสองก๊วน พวกเขาเล่นแรง เดินเร็ว ก้าวฉับ ๆ แทบไม่หายใจหายคอ แคตดี้บอกว่า พวกเขาเล่นกันทั้งเช้าและบ่ายจนครบ ๒๗ หลุม พักเที่ยงทานข้าวไม่เกินชั่วโมง ก็ชวนลงสนามอีก นักกอล์ฟพวกนี้ส่วนใหญ่มาทำงานเป็นผู้บริหารอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมละแวกใกล้ ๆ เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุด แทบจะวิ่งเข้าสนามกอล์ฟ พวกเขาเล่นกันทั้งวัน ด้วยเหตุที่ว่าสนามกอล์ฟในเมืองไทยมีอัตราค่าบริการที่แสนถูกเมื่อเปรียบกับสนามในประเทศของเขา
แคตดี้ของผมอายุ ๑๕ ยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมปีที่สาม ตามแม่มาทำงานพิเศษในวันหยุด ผมถามว่ารู้เรื่องกอล์ฟบ้างไหม เธอส่ายหน้า บอกว่ารู้จักแค่ลูกกอล์ฟกับเหล็กเบอร์ต่าง ๆ ผมว่า งั้นช่วยดูให้ดีนะว่าผมตีลูกไปทางไหน เธอพยักหน้ารับ
วันนี้ผมตั้งใจเล่น และนิ่งมากเป็นพิเศษ บทเรียนเรื่องความขี้อวดขี้โอ่ได้รับการปรับปรุงแล้วบางส่วน ผมจะเล่นให้เนี๊ยบ เล่นให้มีความสุขขึ้น ไม่พวักพวงว่าใครจะเล่นได้เก่งหรือเล่นได้ดีกว่าแค่ไหน
คุณจรัญถามว่า จะลองติดปลายนวมสักนิดไหม เพื่อว่าจะได้ตั้งใจมากขึ้น ผมตอบว่าได้ แต่พี่ต้องต่อให้ผมนะ
คุณจรัญกับคุณเสน่ห์ตกลง
ส่วนคุณวินัยให้ตีไปตามสบาย ไม่ต้องมาร่วมลุ้น ถือว่าเป็นน้องใหม่ ฝึกฝนกับของจริงไปเรื่อย ๆ อีกสักระยะหนึ่งจะตีได้แม่น ตีได้ดี สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเองไปจนรู้ว่า ตัวเองเหมาะที่จะใช้วงสวิงแบบไหน
คุณเสน่ห์นั้นเล่นกอล์ฟมานาน ขึ้นแท่นทีออฟตีด้วยหัวไม้หนึ่งได้ระยะ และแม่นยำ นาน ๆ จึงจะสร้างปัญหาให้กับตัวเองเสียสักหนด้วยการหวดลูกหายเข้าไปในพุ่มหญ้าและต้องใช้เวลาหาอยู่พักใหญ่
แม้แดดจะแรง แต่ลมพัดจัดทำให้ไม่รู้สึกร้อนสักเท่าไรนัก ผมเดินตากแดด จนผิวเกรียม รอยแว่นปรากฏขึ้นชัดเจนอีกครั้ง เด็กหญิงอายุสิบห้าเดินกางร่มลากถุงกอล์ฟตามหลัง ถามว่า “กางร่มให้เอาไหม” ผมส่ายหน้า “ไม่เอา”ไม่อยากแย่งร่มจากมือเธอ เพราะถ้าผมกาง เธอก็จะเป็นฝ่ายต้องเดินตากแดดแทนผม
เพราะนิ่งมากป็นพิเศษ วันนี้ผมพัตต์โบกี้ได้เกือบทุกหลุม แถมช็อตไหนที่มีปัญหา ไม่รู้ว่าจะตัดสินอย่างไร ตีลูกด้วยเหล็กไหน ผมก็ขอความช่วยเหลือจากคุณจรัญให้มาช่วยสอนให้ และผมก็ทำตามคำแนะนำอย่างดี หลม๘พาร์5 ผมตีลูกไปหยุดที่ขอบทราย ซึ่งสร้างเป็นบังเกอร์ขึ้นมาสูงมาก ผมลงไปยืนไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าจะตีลูกไปข้างหน้าได้อย่างไร คุณจรัญแนะนำให้ผมเคาะลูกไปกลางแฟร์เวย์ และค่อยชิพขึ้นกรีน
เพราะประสบการณ์น้อย ผมคิดเรื่องนี้ไม่ออก แก้ปัญหาไม่ได้ ผมคิดแต่จะหวดลูกให้ขึ้นกลางกรีนอย่างเดียว ซึ่งโอกาสที่จะพลาดมีสูง
คุณจรัญบอกว่า ถ้าลูกตกทราย หรือหลุดไปอยู่หลังกรีน ผมก็ยิ่งเสียแต้มหนักขึ้นไปอีก แค่ผมเปลี่ยนมุมมองนิดเดียว ก็สามารถแก้ตัวได้จนช็อตสุดท้าย ผมทำตามคำแนะนำ และก็ประสบผลสำเร็จอย่างดี
ที่คอสA หลุม7พาร์4 ผมหวดลูกไปอยู่บริเวณโคนต้นไม้ ห่างจากกรีนสักยี่สิบหลา หากผมใช้เหล็ก9 หรือพิตชิ่ง ผมอาจจะหวดจนลูกหลุดออกนอกกรีน หรือไม่ก็ทำให้ลูกชนต้นไม้ คุณจรัญเดินเข้ามาแก้ไขสถานกาณ์ให้อีกครั้ง บอกว่าให้ ใช้แซน ตีแค่ครึ่งวง ช้อนลูกให้ลอยข้ามต้นไม้ และลูกก็จะไปตกอยู่บนกรีนใกล้ธงพอดี
เขาถามว่า ทำได้ไหม ผมพยักหน้า และยืนอย่างมั่นคง ทำสมาธิ และหวดเหล็กลงไป ลูกลอยขึ้นเหมือนปาฏิหาริย์ ข้ามยอดไม้ไปจริง ตกห่างจากธงในระยะพัตต์พอดิบพอดี
อีกช็อตที่น่าเสียใจมาก หลุม8 พาร์5 ก่อนที่จะออนขึ้นกรีน มีน้ำขวางอยู่ ระยะราว90 หลา ผมต้องวางลูกไว้หน้าน้ำและค่อยชิพขึ้นไปบนกรีนในระยะไม่ถึงร้อยสี่สิบหลา ผมตั้งใจมากเป็นพิเศษ ใช้พิตชิ่งช้อนลูกขึ้นเต็มวง ลูกไปตกหน้าน้ำพอดีเหมือนจับวาง แต่เสียดายที่มันค่อย ๆ กลิ้งหลุน ๆ ลงไปในน้ำหน้าตาเฉย
ผมรู้สึกใจคอไม่ดี ต้องแก้ด้วยการตีลูกดรอปจากหน้าน้ำให้ขึ้นกรีน ผมหวดลมกะระยะอยู่สามสี่ครั้ง ตั้งใจให้ลูกลอยพ้นน้ำไปตกอยู่บนกรีนในระยะใกล้ธงที่สุด เมื่อหวดจริง เสียงดัง “ก๊อก” ปลายเหล็กตีถูกด้านบนของลูกกอล์ฟ ทำให้ลูกวิ่งเป็นทหารราบตกน้ำอีกหนหนึ่ง เป็นช็อตที่ทำให้
ผมเข่าอ่อนนั่งลงกับพื้นหญ้าเลยทีเดียว
เราเล่นกันจนครบสิบแปดหลุม เลิกเอาตอนบ่ายสองโมง ผมรู้สึกมีความสุขมากกับการละเมียดของตัวเอง ไม่ตีลูกบุ่มบ่ามสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่อไปแล้ว คุณจรัญก็ให้คำสอนที่เป็นประโยชน์แทบทุกหลุม ที่ผมจำได้แม่นก็คือ “ก่อนจะทำอะไรต้องวางแผนให้ดี คิดให้รอบคอบเสียก่อน”
คุณจรัญเขาเป็นมือโปรฯเป็นนักวางแผนชีวิต เขาเริ่มอาชีพจากการดูแลร้านหนังสือ คอยเก็บเงินให้เถ้าแก่ ตอนหนุ่มเข้าร่วมขบวนการนักศึกษาในยุคสิบสี่ตุลา ออกมาทำสำนักพิมพ์แสงดาวล้มลุกคลุกคลานมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่จะไปทำชิปปิ้ง จนกระทั่งมีผลกำไร ก็หวนกลับมาก็มาทำสำนักพิมพ์อีก ไม่นานความสำเร็จก็มาเยือน สำนักพิมพ์แสงดาวของเขาขยายตัวเติบโตอย่างเห็นได้ชัด เขาบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะแม่คนเดียว
เขาเล่าเรื่องแม่ให้ฟังว่า เป็นนักสู้ชีวิต เลี้ยงลูกชายสี่คนให้เติบโตขึ้นมาด้วยใจเด็ดเดี่ยว หลายครั้งหลายหนที่เขาประสบมรสุมชีวิต ก็มีมือแม่คอยมาฉุดดึงให้เขากลับมายืนได้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนเขามีวันนี้ขึ้นได้
คุณจรัญเป็นนักกอล์ฟที่มีความรู้เรื่องกอล์ฟมากคนหนึ่ง เล่นกอล์ฟมาเกือบยี่สิบปี เคยออกรอบแทบทุกวันวันไหนไม่ออกรอบก็ไปลงสระน้ำ ซ้อมไดร์ฟ ตลอดทั้งสัปดาห์โดยไม่หยุด อ่านหนังสือมากอยู่ในระดับหนอนหนังสือสำคัญคนหนึ่งของวงการ พิมพ์หนังสือดี ๆ มาเป็นร้อย ๆเล่ม เช่นดร.ชิวาโก ศึกสเปญ สามก๊ก สามเกลอ ตำนานเสรีไทย เป็นคนชอบช่วยเหลือเพื่อน อ่านใจคนขาด เป็นนักพูดในที่สาธารณะได้ดี จับใจผู้ฟัง
คุณจรัญเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาอยากให้เมืองไทยมีการอ่านหนังสืออย่างจริงจัง อยากให้การซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดโดยการตัดสินใจของบรรณารักษ์ ให้เขาได้เลือกหนังสือด้วยตนเอง
“ผมฝันว่าให้เมืองไทยเป็นสังคมแห่งการอ่าน อยากให้คนไทยอ่านหนังสือกันให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่เป็นกิจกรรมชั่วครั้งชั่วคราว ผมอยากเสนอให้ภาครัฐว่าควรออกเทศบัญญัติว่า ในหนึ่งตึกสูงต้องมีหนึ่งห้องสมุด ในเมื่อเราสร้างตึกสูงบังคับให้มีห้องน้ำได้ มีบันไดหนีไฟได้ เราก็น่าจะบังคับให้มีห้องสมุดได้ ผมว่ามันง่าย เปลี่ยนเทศบัญญัติว่า ตึกที่สูงเกินสี่ชั้นต้องมีหนึ่งห้องสมุด”
ผมชอบที่ได้นั่งร่วมวงฟังคุณจรัญพูด เขาดูโผงผาง แต่จริงใจ เช่นเรื่องที่เขาพูดกับเพื่อนคนหนึ่งที่อยากจะออกไปทำธุรกิจเปิดเต็นท์ขายรถ คุณจรัญว่า วงการขายรถมือสองนั้นต้องกะล่อน รู้จักการปั้นดินให้เป็นดาว ต้องมีใจอมหิต รู้จักย้อมแมวเป็น ทำสีเป็น เขาบอกว่าคนที่ขายรถแล้วรวยนั้นมีไม่มาก “เราต้องไม่ลืมว่า คนล้มไม่มีเสียง ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เขียนโดยผู้ชนะเสมอ” เขาสรุปและพูดกับเพื่อนว่า “คุณไม่ใช่คนกะล่อน อย่าไปทำอาชีพนี้เลย”
เขาว่าอาชีพที่สามารถทำให้ร่ำรวยได้นั้นมีอยู่สามอย่างคือ
หนึ่ง ค้าที่ดิน
สอง เป็นนายหน้า
และสาม เล่นหุ้น
สำหรับคนมีเงินอายุห้าสิบขึ้นไป คุณจรัญว่า การเล่นหุ้นนั้นน่าสนใจที่สุด เขาแนะนำให้ไปที่ห้องค้าหลักทรัพย์ที่เดอะมอลงามวงศ์วาน ไปสมัครเป็นสมาชิกและสร้างพอร์ต ให้ซื้อหุ้นที่เรียกว่ายอดดอย คือเป็นหุ้นดีเช่นหุ้นของธนาคารต่าง ๆ หุ้นเหล่านี้มีกำไรน้อยแต่ชัวร์ การเล่นหุ้นนั้นถ้าเล่นเป็น ไม่โลภมาก ก็เปรียบเสมือนเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างหนึ่ง ส่วนหุ้นสิ่งพิมพ์นั้นไม่ควรซื้อ คนเล่นหุ้นต้องเป็นคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างเกาะติด เมื่อเล่นหุ้นเป็นประจำสมองจะได้ทำงาน แก่ขึ้นจะไม่หลง ๆ ลืม ๆ
ส่วนคนที่มีเงิน ถ้าอยากจะผลาญเงินตัวเองให้หมดภายในเวลาอันรวดเร็วก็ควรจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างคือ หนึ่ง เล่นการเมือง สอง ทำหนังสือพิมพ์ และสร้างหนังไทย
คุณจรัญมีเรื่องเล่ามากมายเหมือนไม่จบไม่สิ้น เขากว้างขวางอยู่ในวงการหนังสือ มีเพื่อนหลายอยู่ในแวดวงการเมือง มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับกลุ่มคนที่ทำการส่งออก ดังนั้นเรื่องเล่าของเขาจึงน่าสนใจ น่ารับฟังเสมอ
โดยเฉพาะเรื่องกอล์ฟนั้น เขาเชี่ยวชาญมากเป็นพิเศษ รู้ว่า สนามไหนมีข้อดีข้อเด่นอย่างไร รู้ว่าควรจะเล่นกอล์ฟให้มีความสุขได้แบบไหน เขามีเพื่อนร่วมก๊วนหลากหลายอาชีพ
ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม คุณจรัญมีความปรารถนาดี คอยแนะนำแก้ไขจุดบกพร่องให้ผมเป็นระยะ ผมรู้สึกได้ถึงความกรุณาที่เขามีให้แก่ผมซึ่งนักกอล์ฟหน้าใหม่
เราออกจากสนามกอล์ฟแล้วดิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรม แล้วขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯในตอนค่ำ ระหว่างทางก็มีเรื่องพูดคุยกันอีกร้อยแปดเรื่อง ทั้งมีสาระและไร้สาระ เป็นที่สนุกสนานตลอดการเดินทางอันแสนสุข