**ผมเคยตั้งกระทู้นี้ไว้
"ปัญหาปากท้องท่วมหัว จะรีบแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม"
http://pantip.com/topic/30003061
**จากนั้นคุณก็ตั้งกระทู้นี้
"สมองคิดแบบนี้ไงถึงเป็นได้แค่ผู้สมัครสส.ขนาดพรรคแมงสาปยังเมิน..ไม่รู้แม้แต่การทำงานของรัฐบาลและสภาของนายTFEX"
http://pantip.com/topic/30004923
**หวังว่าคุณคงได้ดูเอแบคโพลแล้วนะครับ ตามนี้
เอแบคโพลชี้แก้ "รัฐธรรมนูญ" ความขัดแย้งไม่จบ
วันนี้ (6 ม.ค.) สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องประชาชนเลือกอะไร ระหว่างแก้ไขนิสัยและพฤติกรรมของนักการเมืองกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและแนวทางลดความแตกแยก เพื่อรวมทุกคนในชาติเป็นหนึ่ง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัด จำนวน 2,289 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 2 – 5 ม.ค. ที่ผ่านมา พบว่าร้อยละ 81.6 ติดตามข่าวการเมืองเป็นประจำทุกสัปดาห์ เมื่อถามว่าถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วความวุ่นวาย ความขัดแย้งจะจบลงหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 85.4 เชื่อว่าไม่จบ ในขณะที่ร้อยละ 14.6 เชื่อว่าจะจบ
นอกจากนี้ ร้อยละ 87.8 เห็นว่าถ้าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นเรื่องผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศมากกว่าช่วยเหลือคนใดคนหนึ่งในขณะที่ร้อยละ 12.2 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 86.6 คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความขัดแย้ง แตกความสามัคคีกันในหมู่ประชาชน ร้อยละ 13.4 ไม่คิดว่าจะเกิด อย่างไรก็ตามร้อยละ 85.9 รัฐบาลควรเดินหน้าแก้ปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาปากท้องให้กับคนในชาติก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 84.2 รัฐบาลควรเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาของประเทศ แก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ปัญหาความรุนแรงในหมู่เด็กและเยาวชน ก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 89.6 ควรแก้นิสัยและพฤติกรรมที่ไม่ดีของนักการเมืองก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 10.4 ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนร้อยละ 73.1 ระบุยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะเพิ่มความขัดแย้งขึ้นในหมู่ประชาชน จะทำให้เกิดความแตกแยก แตกความสามัคคีกัน จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น ควรเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจก่อน เป็นต้น
ในขณะที่ร้อยละ 26.9 ช่วงเวลานี้เหมาะสมแล้วที่จะเริ่มเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะช่วยลดปัญหาขัดแย้งในหมู่ประชาชน เป็นหนทางหนึ่งสร้างความปรองดอง รัฐบาลจะทำตามที่หาเสียงไว้ รัฐบาลอยู่นานยิ่งทำให้คะแนนนิยมลด และปล่อยเนิ่นนานไป ปัญหาประเทศจะยิ่งมีมาก เสถียรภาพรัฐบาลจะสั่นคลอน จะแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งยากมากขึ้น เป็นต้น
สำหรับข้อเสนอแนะที่จะช่วยลดความแตกแยกในหมู่ประชาชนและ “รวมทุกคนในชาติเป็นหนึ่ง” สำหรับประเทศไทย พบว่าร้อยละ 41.9 ทุกคนช่วยกันแสดงออกซึ่งความรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รองลงมา ร้อยละ 23.7 แสดงความกตัญญูรู้คุณต่อผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตให้กับความสงบสุขและปกป้องประเทศ ร้อยละ 17.2 มีน้ำใจ เมตตา กรุณา รู้จักให้อภัยต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ร้อยละ 13.5 มีวินัย เคารพกฎหมาย ไม่ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ไม่ทำอะไรตามใจตามอารมณ์ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และร้อยละ 3.7 ให้ยินดีจ่ายภาษี ไม่หลีกเลี่ยง รักษาทรัพย์สินสาธารณะ และยินดีเสียสละเงินส่วนตัวหรือทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือชุมชน เป็นต้น
-------------------------------------------
และตั้งแต่กระทู้นี้ไป หวังว่าจะไม่เห็นใครอ้าง 15 ล้านเสียงอีกนะครับ เพราะคนไทยมีเยอะกว่านั้น
ธันวา ไกรฤกษ์
คุณยะเนิบ(คนเสื้อแดง) "คุณเป็นเสียงส่วนน้อย" ขอให้ตระหนักไว้ตั้งแต่กระทู้นี้ครับ
"ปัญหาปากท้องท่วมหัว จะรีบแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม"
http://pantip.com/topic/30003061
**จากนั้นคุณก็ตั้งกระทู้นี้
"สมองคิดแบบนี้ไงถึงเป็นได้แค่ผู้สมัครสส.ขนาดพรรคแมงสาปยังเมิน..ไม่รู้แม้แต่การทำงานของรัฐบาลและสภาของนายTFEX"
http://pantip.com/topic/30004923
**หวังว่าคุณคงได้ดูเอแบคโพลแล้วนะครับ ตามนี้
เอแบคโพลชี้แก้ "รัฐธรรมนูญ" ความขัดแย้งไม่จบ
วันนี้ (6 ม.ค.) สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องประชาชนเลือกอะไร ระหว่างแก้ไขนิสัยและพฤติกรรมของนักการเมืองกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและแนวทางลดความแตกแยก เพื่อรวมทุกคนในชาติเป็นหนึ่ง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัด จำนวน 2,289 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 2 – 5 ม.ค. ที่ผ่านมา พบว่าร้อยละ 81.6 ติดตามข่าวการเมืองเป็นประจำทุกสัปดาห์ เมื่อถามว่าถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วความวุ่นวาย ความขัดแย้งจะจบลงหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 85.4 เชื่อว่าไม่จบ ในขณะที่ร้อยละ 14.6 เชื่อว่าจะจบ
นอกจากนี้ ร้อยละ 87.8 เห็นว่าถ้าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นเรื่องผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศมากกว่าช่วยเหลือคนใดคนหนึ่งในขณะที่ร้อยละ 12.2 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 86.6 คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความขัดแย้ง แตกความสามัคคีกันในหมู่ประชาชน ร้อยละ 13.4 ไม่คิดว่าจะเกิด อย่างไรก็ตามร้อยละ 85.9 รัฐบาลควรเดินหน้าแก้ปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาปากท้องให้กับคนในชาติก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 84.2 รัฐบาลควรเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาของประเทศ แก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ปัญหาความรุนแรงในหมู่เด็กและเยาวชน ก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 89.6 ควรแก้นิสัยและพฤติกรรมที่ไม่ดีของนักการเมืองก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 10.4 ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนร้อยละ 73.1 ระบุยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะเพิ่มความขัดแย้งขึ้นในหมู่ประชาชน จะทำให้เกิดความแตกแยก แตกความสามัคคีกัน จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น ควรเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจก่อน เป็นต้น
ในขณะที่ร้อยละ 26.9 ช่วงเวลานี้เหมาะสมแล้วที่จะเริ่มเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะช่วยลดปัญหาขัดแย้งในหมู่ประชาชน เป็นหนทางหนึ่งสร้างความปรองดอง รัฐบาลจะทำตามที่หาเสียงไว้ รัฐบาลอยู่นานยิ่งทำให้คะแนนนิยมลด และปล่อยเนิ่นนานไป ปัญหาประเทศจะยิ่งมีมาก เสถียรภาพรัฐบาลจะสั่นคลอน จะแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งยากมากขึ้น เป็นต้น
สำหรับข้อเสนอแนะที่จะช่วยลดความแตกแยกในหมู่ประชาชนและ “รวมทุกคนในชาติเป็นหนึ่ง” สำหรับประเทศไทย พบว่าร้อยละ 41.9 ทุกคนช่วยกันแสดงออกซึ่งความรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รองลงมา ร้อยละ 23.7 แสดงความกตัญญูรู้คุณต่อผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตให้กับความสงบสุขและปกป้องประเทศ ร้อยละ 17.2 มีน้ำใจ เมตตา กรุณา รู้จักให้อภัยต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ร้อยละ 13.5 มีวินัย เคารพกฎหมาย ไม่ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ไม่ทำอะไรตามใจตามอารมณ์ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และร้อยละ 3.7 ให้ยินดีจ่ายภาษี ไม่หลีกเลี่ยง รักษาทรัพย์สินสาธารณะ และยินดีเสียสละเงินส่วนตัวหรือทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือชุมชน เป็นต้น
-------------------------------------------
และตั้งแต่กระทู้นี้ไป หวังว่าจะไม่เห็นใครอ้าง 15 ล้านเสียงอีกนะครับ เพราะคนไทยมีเยอะกว่านั้น
ธันวา ไกรฤกษ์